บทที่ 276 บอกความจริง
เมื่อเห็นว่าป้าจางกล่าวอย่างเด็ดขาด นางจึงรู้ดีว่าป้าจางเชื่อตนเอง
กู้เสี่ยวหวานจึงกล่าวขอบคุณ “ท่านป้าจาง ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะเชื่อข้าหรือไม่ ตราบใดที่ท่านเชื่อข้าก็พอแล้ว”
“แต่…” ป้าจางยังคงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “นี่เป็นเรื่องของชื่อเสียงของเจ้านะ!”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและบอกว่านางรู้ “ท่านป้าจาง แล้วอย่างไรเล่า? คนพวกนี้เติมเชื้อไฟให้กับข่าวลือ พวกเขาแค่ต้องการดูเรื่องน่าขันของข้า และต้องการไม่ให้ข้าเงยหน้าขึ้นมาได้ ข้าจึงไม่ทำ”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนเหล่านี้เล่ามันช่างน่าอาย พวกเขาไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ แต่ก็พูดไปอย่างนั้น พวกเขาพูดได้เพียงว่ากู้เสี่ยวหวานมีนัดส่วนตัวกับคนรัก แล้วจะทำอย่างไรได้อีก?
กู้เสี่ยวหวานไม่กลัว! ชื่อเสียงอะไร? ถ้านางเสียชื่อเสียงไปแล้วนางก็ไม่ควรมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ?
“สาวน้อยเสี่ยวหวาน คำพูดของผู้คนช่างน่ากลัว!” ป้าจางแทบหลั่งน้ำตาและมองกู้เสี่ยวหวานอย่าปวดใจ เด็กผู้นี้ เหตุใดชีวิตของนางช่างน่าสังเวชนัก นี่ชีวิตนางเพิ่งจะดีขึ้นเล็กน้อย ทำไมสิ่งเลวร้ายเหล่านี้จึงเข้ามาอีก
กู้เสี่ยวหวานยิ้มให้ป้าจาง “ท่านป้าจาง ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของกู้เสี่ยวหวาน ป้าจางก็ไม่รู้สึกเสียใจกับเรื่องนี้เลย และหวังว่ากู้เสี่ยวหวานจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้โดยเร็วที่สุด “สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าผู้เดียวจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร? ถ้าต้องการป้ากับลุงเมื่อใดก็บอกมาได้เลย พวกเราพร้อมช่วยเจ้า!” ป้าจางตัดสินใจแน่วแน่ จากนั้นจึงกัดฟันกรอด “กุ้ยซื่อผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษในสักวันหนึ่ง”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า นางยังคงเชื่อในวัฏจักรของเหตุและผล ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเท่านั้น
กู้เสี่ยวหวานมีนิสัยตรงไปตรงมาและซื่อตรง ข่าวลือที่ไม่จริงเหล่านี้ นางไม่เก็บเอามาใส่ใจ
ไม่ใช่ว่ากู้เสี่ยวหวานไม่ได้รีบร้อน แต่นางรู้ว่าการรีบร้อนไปนั้นไร้ประโยชน์
ไม่ใช่ว่านางไม่รู้ว่าข่าวลือนี้จะส่งผลต่อชื่อเสียงของนางมากน้อยเพียงใด แต่ถ้ารู้แล้วจะทำอย่างไรได้
ตอนนี้หัวใจของกู้เสี่ยวหวานเย็นชา แต่นางไม่สามารถปล่อยให้ป้าจางและคนอื่น ๆ กังวลได้ แม้แต่ป้าจางก็รู้เรื่องนี้แล้ว แน่นอนว่าตอนนี้คงต้องมีข่าวลือไปทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ออกไปข้างนอก เกรงว่าคนพวกนี้คงมารุมประชาทัณฑ์
กู้เสี่ยวหวานไม่กลัว แต่กลัวว่าคนเหล่านี้จะมาทำร้ายกู้หนิงผิงและกู้เสี่ยวอี้
เมื่อครั้งที่หลี่ฝานและเสี่ยวเซิ่งจื่อมาที่บ้าน พวกกู้เสี่ยวหวานทั้งสามคน เถ้าแก่หลี่ และเสี่ยวเซิ่งจื่อต่างก็อยู่ในห้อง แต่กุ้ยซื่อผู้นี้กระตือรือร้นที่จะจัดการกู้เสี่ยวหวาน จึงพูดเพียงว่ามีกู้เสี่ยวหวาน เถ้าแก่หลี่ และเสี่ยวเซิ่งจื่อ อยู่ในห้องที่ปิดไว้เพียงสามคนและไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน
และเมื่อออกมา นางก็พูดคุยและหัวเราะต่อกระซิกกับเสี่ยวเซิงจื่อและแสดงความรักต่อกัน
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินป้าจางเล่าเรื่องเหล่านี้ สายตาของนางก็เย็นชา เดิมทีกุ้ยซื่อผู้นี้ชอบการนินทา มันจะไม่เป็นไรเลยถ้านางแค่สร้างข่าวลือไร้สาระ แต่คราวนี้นางถึงกับทำเรื่องที่น่าอับอายให้กับกู้เสี่ยวหวาน
กุ้ยซื่อไม่รู้หรืออย่างไรว่า ถ้าทำให้ผู้หญิง้สื่อมเสียชื่อเสียง ก็มีโอกาสที่จะฆ่าตัวตายสูง?
ถ้ากู้เสี่ยวหวานในปัจจุบันนี้เป็นกู้เสี่ยวหวานเมื่อพันปีก่อน เกรงว่านางคงจะกระโดดลงไปในแม่น้ำเพราะข่าวลือที่เลวร้ายของกุ้ยซื่อ คงไม่ใช่เพราะกุ้ยซื่อนี้ทนดูเด็กครอบครัวกู้ได้ดีไม่ได้? นั่นเป็นเหตุผลที่นางใช้วิธีที่ไม่เลือกปฏิบัติเหล่านี้เพื่อทำร้ายพวกเขา
“ท่านป้าจาง วันนี้เย็นมากแล้ว ข้าเกรงว่าพรุ่งนี้จะมีบางอย่างเปลี่ยนไป ข้าอยากให้ท่านพาหนิงผิงและเสี่ยวอี้ไปหลบที่บ้านของท่านสักพัก” กู้เสี่ยวหวานกล่าว
“ได้!” ป้าจางรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว “แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าไม่มากับพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าไม่ไปเจ้าค่ะ!” กู้เสี่ยวหวานตอบอย่างเย็นชา ดวงตาสีเข้มของนางเป็นประกายวาบ “ข้าจะอยู่ที่บ้านรอคนเหล่านั้น!”
คนพวกนี้ใส่ร้ายป้ายสีว่านางอยู่กับชู้รักไม่ใช่หรือ?
เหอะ เกรงว่าพรุ่งนี้หัวหน้าหมู่บ้านคงจะมาที่นี่เพื่อตำหนินางเป็นแน่
ถ้านางไม่อยู่ที่นี่ คนพวกนี้จะเอาเรื่องนี้มาใส่ร้ายนางอีกอย่างแน่นอน
แต่นางจะไม่ยอมให้คนพวกนี้ทำเช่นนั้น
“ท่านป้าจาง ข้าขอรบกวนท่านอีกสักเรื่องเจ้าค่ะ” จากนั้นกู้เสี่ยวหวานจึงกระซิบที่ข้างหูป้าจางสองสามประโยค จากนั้นป้าจางจึงอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
กู้เสี่ยวหวานบอกป้าจางว่า ถ้ามีคนมาหานาง ให้บอกว่าคนที่มาหานางเมื่อวานนั้นมาที่นี่เพื่อรับซื้อกล่องไม้ไผ่ ในเวลานั้นให้ป้าจางพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองรุ่ยเสียน อย่างไรก็ตามพวกฉือโถวก็รู้เรื่องนี้ คนในหมู่บ้านคงไม่ไปเมืองรุ่ยเสียนเพื่อหาคนพวกนั้นหรอก ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่กุ้ยซื่อก็มองไม่เห็นว่าคนพวกนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วคนอื่น ๆ จะรู้ได้อย่างไรว่าใครมาที่นี่
“สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าพูดความจริงกับข้าสิว่า คนที่มานั้นเป็นผู้ใดกันแน่?” แม้ว่าป้าจางจะเชื่อกู้เสี่ยวหวาน แต่นางก็อยากรู้ว่าเป็นผู้ใดกันแน่ที่มา
“ท่านป้าจาง ความจริงแล้ว คนที่มาเมื่อวานคือเถ้าแก่ร้านจิ่นฝูและลูกจ้างคนหนึ่ง” กู้เสี่ยวหวานตอบ
“พวกเขามาทำอะไรที่บ้านของเจ้า?” ป้าจางเคยได้ยินเกี่ยวกับร้านจิ่นฝู เพราะครั้งล่าสุดพวกเขาส่งหน่อไม้ฤดูใบไม้ผลิไปที่นั่น กู้เสี่ยวหวานมีการติดต่อกับร้านจิ่นฝู และป้าจางรู้เรื่องนี้ดี แค่อยากรู้ว่าเจ้าของร้านจะมาที่หมู่บ้านอู๋ซีเพื่อตามหากู้เสี่ยวหวานด้วยตนเองได้อย่างไร
“ท่านป้าจาง…” กู้เสี่ยวหวานพูดไม่ออก “เถ้าแก่หลี่มาหาข้าและขอให้ข้าไปเป็นคนทำบัญชีที่ร้านจิ่นฝู!”
“ว่าอย่างไรนะ?!” ป้าจางอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเช่นนั้น และไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่นางเพิ่งได้ยินไป “ให้เจ้าไปเป็นคนทำบัญชีที่ร้านอาหาร… เจ้าคำนวณบัญชีเป็นอย่างนั้นหรือ?”
“อืม ข้าเรียนรู้ด้วยตนเอง” กู้เสี่ยวหวานไม่อยากจะพูดให้มากความ จึงกล่าวอย่างง่าย ๆ “วันนี้ข้าไปทำงานที่ร้านจิ่นฝูวันแรก”
“โอ้สวรรค์!” เมื่อป้าจางฟังจบก็ตกใจจนอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งนางก็ยิ้มอย่างสดใส “สาวน้อยเสี่ยวหวาน นี่เป็นเรื่องที่ดี”
การจะเป็นคนทำบัญชีต้องอ่านหนังสือมาก่อนถึงจะสามารถเป็นได้ คนทำบัญชีหลายคนเรียนมาแล้วหลายปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับคัดเลือกให้เป็นซิ่วไฉ หรือถ้าพวกเขาถูกรับเข้าเป็นซิ่วไฉ ก็ไม่เต็มใจที่จะเป็นอาจารย์
คนเหล่านี้ในท้องล้วนเต็มไปด้วยหมึก
เมื่อป้าจางได้ยินว่าเถ้าแก่ร้านจิ่นฝูมาที่นี่เพื่อเชิญกู้เสี่ยวหวานไปเป็นคนทำบัญชีด้วยตนเอง ป้าจางรู้สึกว่าเอวของนางตั้งตรง แม้ว่าคนทำบัญชีหญิงอาจฟังดูเหลือเชื่อไปหน่อย แต่นี่เป็นเรื่องที่ดี!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ป้าจางก็นึกถึงข่าวลือของกุ้ยซื่ออีกครั้ง และนางก็โกรธ “สารเลวกุ้ยซื่อผู้นั้น มาดูกันว่าข้าจะได้ฉีกปากเน่า ๆ ของนางในวันไหน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
กุ้ยซื่อนี่มันน่าโดนตบปากเสียจริง ๆ เล๊ย!
ไหหม่า (海馬)