บทที่ 336 น้องสาวของพี่ฝู
บทที่ 336 น้องสาวของพี่ฝู
ใบหน้าของพี่ฝูกระตุก นางกลอกตาไปมา เมื่อมองไปที่กู้ซินเถาก็พบว่านางกำลังมองตนเองอยู่
แม้แต่หางตาก็เต็มไปด้วยความพอใจในตนเอง
เมื่อกู้เสี่ยวหวานได้ยินเรื่องนี้ นางก็ตกตะลึง นายน้อยเจียงผู้นี้ปกป้องกู้ซินเถาถึงขนาดนี้เชียวหรือ
“แล้วนายน้อยเจียงคือผู้ใด?”
“ถ้าการคาดเดาของข้าถูกต้อง เขาคงจะเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลเจียง ตระกูลเจียงเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลิวเจียแห่งนี้ นอกจากนี้ยังได้ยินมาว่าตระกูลเจียงมีญาติห่าง ๆ ซึ่งเป็นขุนนางในเมืองหลวง!” พี่ฝูลดเสียงลงและกล่าวอย่างลึกลับ
เป็นเช่นนี้นี่เอง ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะหยิ่งผยองถึงเพียงนี้!
กู้เสี่ยวหวานไม่เคยคิดว่ากู้ซินเถาที่โตกว่านางสองปีจะโตเต็มที่แล้ว
ปีนี้นางเพิ่งอายุเพียงสิบเอ็ดขวบ!
แต่จิตใจของกู้ซินเถานั้นไปไกลเกินกว่าที่กู้เสี่ยวหวานคาดคิด
“น่าแปลกนักที่ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสามารถยั่วยวนผู้คนเช่นนี้ได้ แล้วนายน้อยเจียงผู้นั้นก็ถูกยั่วยวนจนไร้วิญญาณไปเสียแล้ว!” แม้ว่าการพูดจาดูหมิ่นผู้อื่นลับหลังจะไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่พี่ฝูยังคงกล่าวออกมาและรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย “อายุน้อยเช่นนี้ แต่ตามผู้ชายออกมาอวดหน้าอวดตา และแสดงความรักกันต่อหน้าผู้คน ถ้าอนาคตกลายเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ถ้าไม่เป็นสามีภรรยากันล่ะก็…เช่นนั้นคงจะถูกนินทาไปตลอดชีวิตเป็นแน่!”
สิ่งที่พี่ฝูกล่าวนั้นไม่ผิด ในยุคนี้ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
หากยังไม่แต่งงาน แต่กลับตัวติดอยู่กับผู้ชายทั้งวัน ถ้าข่าวนี้กระจายออกไป ผู้คนจะพูดอะไรได้อีก
เมื่อกู้เสี่ยวหวานคิดถึงสิ่งที่กู้ซินเถาทำ และทันใดนั้นก็ตระหนักขึ้นมาได้
กู้ซินเถาเป็นคนหน้าตาดีและยังไม่ได้ออกเรือน ด้วยรูปลักษณ์เช่นนี้นางจึงเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ดูดีที่สุดในหมู่บ้านหรือในเมือง ผู้ใดที่มาทานอาหารที่ร้านซุ่นซินแล้วรู้ดีว่าคนทำบัญชีกู้มีลูกสาวคนสวย
นางหน้าตาสะสวย มีวิสัยทัศน์กว้างไกล และสิ่งที่นางสวมใส่ก็เป็นสิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถซื้อได้
ในเวลานี้นางกลับยึดมั่นในนายน้อยเจียง หรือเป็นเพราะว่านางต้องการแต่งงานกับครอบครัวที่ร่ำรวยเพื่อเป็นฮูหยิน
เมื่อกู้เสี่ยวหวานคิดเรื่องนี้จึงพยักหน้าเงียบ ๆ เป็นไปได้มาก!
เมื่อกู้เสี่ยวหวานครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่กล่าวสิ่งใดออกมา การที่เด็กหญิงอายุเพียงสิบเอ็ดขวบผู้นี้คิดเรื่องยั่วยวนผู้ชายเพราะอยากจะแต่งงาน ช่างหน้าไม่อายเสียจริง
แม้ว่าคนในสมัยโบราณจะแก่กว่าวัย แต่ตอนนี้กู้ซินเถาอายุเพียงสิบเอ็ดขวบ ในวัยนี้ยังคงอยู่ในชั้นประถม และไม่แน่ใจว่านางเข้าใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างชายและหญิงหรือไม่? แก่แดดขนาดนั้นเลยหรือ?
เมื่อกู้เสี่ยวหวานนึกถึงตนเองที่อายุใกล้เลขสามแล้ว แต่กลับไม่เคยมีจูบแรกเลยด้วยซ้ำ ช่างน่าอึดอัดใจเสียจริง
กู้เสี่ยวหวานมีสีหน้าอึดอัดเล็กน้อย แล้วนางก็เอ่ยถามว่า “แล้วทำไมในวันนี้นายน้อยเจียงไม่มากับนางล่ะ?”
กู้ซินเถาคงรู้ว่าคนมีเงินมีลักษณะเช่นไร จึงทำให้ตัวนางที่อายุน้อยเช่นนี้ตามติดเขาไปอย่างไร้ยางอาย
พี่ฝูส่ายศีรษะเป็นการแสดงว่านางไม่แน่ใจ “ตั้งแต่ครั้งนั้นก็ไม่เคยกลับมาอีกเลย ข้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมวันนี้เขาถึงไม่ได้มากับพวกนาง”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานเห็นหน้าบอกบุญไม่รับของกู้ซินเถา หรือว่านายน้อยเจียงผู้นั้นจะทิ้งนางเสียแล้ว?
ในใจของกู้เสี่ยวหวานอยากจะหัวเราะออกมา แม้ว่ามันจะไม่ยุติธรรม แต่ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ใครใช้ให้กู้ซินเถามาทำร้ายนางก่อนล่ะ เมื่อเห็นกู้ซินเถามีท่าทางที่เหี่ยวเฉาเช่นนี้ ในใจของกู้เสี่ยวหวานก็มีความสุขมาก
พี่ฝูดูเหมือนว่าคิดอะไรบางอย่างออกและเอ่ยถามกู้เสี่ยวหวาน “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ตุ๊กตาที่ทำในครั้งที่แล้วยังทำอยู่หรือไม่?”
“แน่นอนว่ายังทำอยู่เจ้าค่ะ” กู้เสี่ยวหวานกล่าว แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ครอบครัวกำลังยุ่งกับการเก็บเสบียง จึงทำให้เกิดความล่าช้า และนางก็ต้องการให้น้องสาวของนางพักผ่อนด้วย ดังนั้นนางจึงยังไม่ทำต่อ
“เช่นนั้นก็ดีแล้ว หลายวันมานี้มีคนบอกข้าว่าพวกเขาต้องการซื้อจำนวนหนึ่งและย้ายไปที่ร้านของพวกเขา”
“ใครกัน?” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถามอย่างสงสัย
“เถ้าแก่เนี้ยของร้านหรูอี้!” พี่ฝูกล่าวด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นกู้เสี่ยวหวานมีสีหน้าประหลาดใจ นางจึงอธิบายว่า “เจ้ายังไม่รู้ใช่หรือไม่? น้องสาวของข้าเปิดร้านหรูอี้”
“น้องสาวแท้ ๆ หรือเจ้าคะ?”
“ใช่แล้ว! เราสองคนเรียนงานปักเช่นเดียวกัน หลังจากแต่งงาน ครอบครัวของนางรวยกว่าข้า นางจึงเปิดร้านหรูอี้ที่ใหญ่กว่าเพื่อขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปชั้นดี เสื้อผ้าในนั้นราคาเริ่มต้นคือสามสิบสองตำลึงเงิน!” พี่ฝูชูสามนิ้ว
แพงอะไรเช่นนี้ กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจ
“พวกท่านขายเสื้อผ้าเหมือนกัน จะไม่เป็นคู่แข่งกันหรือ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร ตำแหน่งของข้าต่างจากนาง นางเชี่ยวชาญในการทำเสื้อผ้าให้คนรวยและมีอำนาจ ข้าอยู่ที่นี่ ตำแหน่งต่ำกว่านางเล็กน้อย ทำเสื้อผ้าให้คนธรรมดา เจ้าก็เห็นอยู่ว่าราคาไม่แพง ถึงแม้จะได้กำไรไม่มาก แต่มีคนซื้อมากกว่านาง ยิ่งกว่านั้น ตุ๊กตาของเจ้าก็ทำให้ร้านของข้าเป็นที่นิยมและกิจการดีมาก!” พี่ฝูกล่าวอย่างมีความสุข
ในช่วงเวลานี้ กำไรก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เศรษฐีบางคนมาที่นี่และเห็นว่าที่นี่มีของดีก็พากันซื้อกลับไป
“แล้วการที่ร้านหรูอี้ต้องการเอาตุ๊กตาไปขายล่ะ?” กู้เสี่ยวหวานเอ่ยถาม “มันจะไม่เป็นการขโมยกิจการของท่านไปหรือ? ”
พี่ฝูโบกมือแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ระหว่างพี่น้องจะมาคิดเล็กคิดน้อยได้อย่างไร ถ้าใครมีชีวิตที่ดีก็ช่วยกัน แล้วน้องสาวของข้าก็ดีกับข้ามาก!”
เมื่อกู้เสี่ยวหวานฟังก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ดูเหมือนว่าพี่น้องฝูจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
“ตกลงพี่ฝู ข้าจะซื้อวัสดุไปเล็กน้อยและกลับไปทำตุ๊กตา เมื่อเสร็จแล้ว ข้าจะนำมาส่งให้ท่าน” กู้เสี่ยวหวานตอบ
“ได้เลย แต่สาวน้อยเสี่ยวหวาน ข้าบอกน้องสาวไปแล้วว่าตุ๊กตาของเจ้าที่ขายในร้านของข้ามีราคาสิบตำลึงเงิน ถ้าเกิดว่าไปขายที่ร้านของนางก็จะเพิ่มเป็นสิบสองตำลึงเงิน”
นี่ไม่เป็นการเพิ่มราคาเกินไปหน่อยหรือ? กู้เสี่ยวหวานกล่าวอะไรไม่ออก และในใจก็รู้สึกขอบคุณพี่ฝูเป็นอย่างมาก
“ร้านของนางเต็มไปด้วยผู้คนที่มีมีอำนาจและทรงอิทธิพล แค่เพิ่มขึ้นนิดหน่อยจะกลัวอะไร! ถ้าสนใจเงินแค่นั้นก็มาซื้อที่ร้านของข้าก็ได้” พี่ฝูกล่าวอย่างเฉยเมย “คนเหล่านี้เป็นคนรวย จึงไม่มาสนใจเงินสองตำลึงเงินหรอก เช่นนี้เจ้าก็จะได้เพิ่มอีกสองตำลึงเงิน ข้าคุยกับน้องสาวแล้ว เงินที่ขายได้ก็เป็นเช่นที่ตกลงไว้กับข้า ทั้งหมดให้เจ้า!”
“แล้วนางตกลงหรือไม่?”
“แน่นอนว่านางตกลง” พี่ฝูกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หากข้ากล่าวอะไรไป นางจะต้องเห็นด้วยเท่านั้น! แล้วถ้าไม่เป็นเช่นนี้ ข้าจะเอาของไปให้นางทำไม? วางไว้ที่ร้านข้าเช่นเดิมไม่ดีกว่าหรือและยังราคาถูกกว่านางอีก จะนำกิจการไปเพิ่มให้นางทำไม”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เสี่ยวหวานของเราจะมีช่องทางหาเงินเพิ่มอีกแล้วนะคะ
ไหหม่า (海馬)