บทที่ 450 คืนผ้าเช็ดหน้ามาให้ข้า
บทที่ 450 คืนผ้าเช็ดหน้ามาให้ข้า
กู้ซินเถายืนอย่างโง่เขลาโดยไม่รู้เลยว่าฉินเย่จือได้เดินจากไปไกลแล้ว
เมื่อนางกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง นางก็แน่ใจว่าชายผู้นี้น่ากลัวมาก น่ากลัวมากจริง ๆ!
โดยเฉพาะดวงตาของเขา ความหนาวเย็นในดวงตาทำให้นางอยากตายทันที
กู้ซินเถาสูดหายใจเข้าลึก ตบหน้าอก อ้าปากกว้างสูดเอาอากาศเข้าไปอย่างรุนแรง เมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่านางจะขาดอากาศหายใจ เพราะความรู้สึกนั้นบีบคั้นประสาทของนาง
หัวใจของกู้ซินเถาเต้นแรง และมองย้อนกลับไปยังทางที่ฉินเย่จือกำลังเดินไป
ในขณะนี้ ร่างของเขาอยู่ที่ไหน ร่างของเขาได้หายลับไปกับสายหมอกในยามเช้าตรู่แล้ว
เฉาซินเหลียนเยาะเย้ยการกระทำของกู้ซินเถาในขณะนี้ เมื่อมองดูท่าทางกังวลใจและหวาดกลัว นางแอบสาปแช่งในใจ!
จากนั้นจึงแอบเดินจากไป
ในขณะนี้กู้ซินเถารู้สึกมึนงง ไม่รู้ว่านางเดินด้วยขาหรือเพียงแค่อาศัยความรู้สึกของนางในการหาทางกลับบ้าน
ลมฤดูใบไม้ผลิพัดมา จิตใจของนางจึงเริ่มแจ่มใส กู้ซินเถาลูบไปบริเวณที่รู้สึกใจเต้นและถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ไม่รู้ว่าทำไม หรืออาจะเป็นเพราะเคยเห็นสายตาเช่นนั้นของฉินเย่จือมาก่อน กู้ซินเถาจึงไม่ได้รู้สึกกลัวความเย็นชาของฉินเย่จือ แค่จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในใจ ชายผู้นี้นางต้องได้มา
วันนี้ปฏิบัติกับนางเช่นนี้ วันหนึ่งจะให้เขาได้ลิ้มรสที่นางปฏิบัติเช่นนี้ใส่เขาบ้าง
กู้ซินเถาตัดสินใจว่าไม่ว่าจะใช้วิธีใด นางจะต้องได้ชายผู้นี้มา
นางเดินกลับมายังที่ที่ทั้งสองได้พบกันเมื่อครู่นี้ กู้ซินเถากำลังจะหยิบผ้าเช็ดหน้าก็พบเข้ากับคนผู้หนึ่ง
ลูกสาวคนที่สองของตระกูลกุ้ย กุ้ยตงเหมย
กุ้ยตงเหมยกำลังถืออะไรบางอย่างอยู่ในมืออย่างตื่นเต้น นางมองไปมาอย่างตื่นเต้นมาก
กุ้ยตงเหมยไม่เคยเห็นผ้าประเภทนี้มาก่อน แต่เมื่อได้สัมผัสก็รู้สึกได้ว่ามันดีกว่าชุดที่เถ้าแก่หลี่แห่งร้านจิ่นฝูมอบให้พี่สาวของนางเสียอีก
ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้มีขนาดเล็กและทำจากวัสดุคุณภาพสูง ไม่มีขายในร้านขายผ้าธรรมดา หากต้องการซื้อต้องไปที่ร้านหรูอี้เท่านั้น
ร้านหรูอี้เป็นร้านค้าที่ดีที่สุดและใหญ่ที่สุดในเมืองหลิวเจีย เพราะมีสินค้าที่มีคุณภาพดีที่สุด และทักษะการตัดเย็บที่ดีที่สุด กล้วยไม้เล็ก ๆ บนนั้นทำจากผ้าไหมชั้นดีและทักษะการปักที่ประณีต นั่นเป็นวิธีที่ปักผ้าเช็ดหน้าผืนนี้
ผ้าเช็ดหน้าชนิดนี้ในร้านหรูอี้ขายในราคาสองตำลึงเงินต่อผืน
กุ้ยตงเหมยมองซ้ายมองขวาอย่างตื่นเต้น แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าใครเหยียบผ้าเช็ดหน้าสีขาวนี้ แต่กุ้ยตงเหมยไม่สนใจมากนัก แค่นำกลับไปซักให้สะอาดก็ยังใช้ได้ ผ้าเช็ดหน้านี้ยังใหม่เอี่ยม เกรงว่าเจ้าของผ้าเช็ดหน้าจะไม่ค่อยได้ใช้
กุ้ยตงเหมยมีความสุขมากที่เก็บผ้าเช็ดหน้าได้และกำลังจะกลับไป ทันใดนั้น เสียงอันเย็นชาดังมาจากด้านหลัง “กุ้ยตงเหมย เอาผ้าเช็ดหน้าคืนข้ามา!”
กุ้ยตงเหมยหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมา แล้วกลอกตา ใครกัน? นางรีบซ่อนมันเอาไว้ในเสื้อ เมื่อมองย้อนกลับไปก็พบว่าคือกู้ซินเถา
“อ๋อ ซินเถานี่เอง ทำไมเจ้าถึงกลับมาล่ะ?” เมื่อเห็นว่าเป็นกู้ซินเถา กุ้ยตงเหมยก็รู้สึกบางอย่างในใจ แย่แล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้เป็นของนาง หากเป็นของนางจริงก็ไม่สามารถเอาไปได้ แต่ในใจนางก็ชอบผ้าเช็ดหน้านี้มาก ไม่ว่าอย่างไรก็คงต้องลองดู
ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ราคาหลายตำลึงเงิน แต่นางเป็นคนเก็บได้ ใครจะไปรู้ว่าผ้าเช็ดหน้านี้จะเป็นของกู้ซินเถาจริงหรือไม่
“เอาผ้าเช็ดหน้าคืนมา!” กู้ซินเถาเพิกเฉยต่อการสนทนาของกุ้ยตงเหมย รุดขึ้นหน้า เอื้อมมือออกไปอย่างไร้ความรู้สึกและเหยียดออกต่อหน้ากุ้ยตงเหมยพลางพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “คืนผ้าเช็ดหน้ามาให้ข้า!”
กุ้ยตงเหมยใส่ผ้าเช็ดหน้าไว้ในเสื้อของนาง ผ้าเช็ดหน้าอยู่ในเสื้อของนางแล้ว มันจะถูกกู้ซินเถาแย่งกลับไปได้อย่างไร ดังนั้นนางจึงกล่าวว่า “อะไร? ผ้าเช็ดหน้าอะไรกัน?”
เมื่อเห็นกุ้ยตงเหมยปฏิเสธ ใบหน้าของกู้ซินเถาก็มืดมนลงและพูดอย่างไม่พอใจว่า “มันเป็นผ้าเช็ดหน้าที่เจ้าเพิ่งหยิบขึ้นมาเมื่อครู่”
อันที่จริงกู้ซินเถาไม่เห็นว่ากุ้ยตงเหมยหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเลย กุ้ยตงเหมยยืนหันหลังให้กับตนเองในตอนนี้ และที่ที่นางยืนอยู่คือที่ที่ตนทำผ้าเช็ดหน้าทำตก ในขณะนี้ ไม่มีผ้าเช็ดหน้าอยู่บนพื้น จึงคิดว่าเป็นกุ้ยตงเหมยที่หยิบผ้าเช็ดหน้าของตนขึ้นมา
กุ้ยตงเหมยกลอกตาและพูดอย่างเจ็บปวด “ซินเถา ข้าเพิ่งมาที่นี่และไม่เห็นผ้าเช็ดหน้าของเจ้าเลย!”
“เจ้าพูดไร้สาระอะไร ข้าเห็นชัดเจนว่าเมื่อครู่เจ้ากำลังถือผ้าเช็ดหน้าของข้า” กู้ซินเถาพูดอย่างข่มขู่
“ซินเถา เจ้ามีหลักฐานหรือไม่ว่าเคยเห็นข้าหยิบผ้าเช็ดหน้าของเจ้าไป?” กุ้ยตงเหมยโกรธและพูดอย่างไม่พอใจ
“เจ้าไม่ได้หยิบผ้าเช็ดหน้าของข้าไปหรือ? แล้วเจ้ามายืนทำอะไรในที่ที่ข้าทำผ้าเช็ดหน้าหล่น!” กู้ซินเถาพูด เมื่อเห็นว่ากุ้ยตงเหมยไม่ยอมรับว่าเป็นคนเอาผ้าเช็ดหน้าไป กู้ซินเถาก็รู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ใช่กุ้ยตงเหมยที่เอาไป แล้วใครเป็นคนเอาไปกันล่ะ?
กุ้ยตงเหมยก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าตนเองหยิบผ้าเช็ดหน้าของกู้ซินเถาไป แต่ต้องปากแข็ง โดยแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นผ้าเช็ดหน้า
เมื่อได้ยินความหมายของกู้ซินเถา นางบอกว่าตนยืนอยู่ในตำแหน่งที่นางทำผ้าเช็ดหน้าหล่น นางสงบลงและถอนหายใจด้วยความโล่งอก หยุดโต้เถียงกับกู้ซินเถา และพูดอย่างใจเย็นว่า “ซินเถา เจ้าทำผ้าเช็ดหน้าหล่นตรงนี้อย่างนั้นหรือ? ข้าไม่เห็นเลย! ดูสิ วันนี้ลมแรงมาก บางทีผ้าเช็ดหน้าของเจ้าคงจะปลิวไปตามลม”
เมื่อได้ยินสิ่งที่กุ้ยตงเหมยพูด กู้ซินเถาก็กัดริมฝีปากพลางมองไปที่สถานที่ตรงหน้า นางไม่พูดอะไรและคิดกับตนเองว่า คำพูดของกุ้ยตงเหมยอาจมีความเป็นไปได้เช่นกัน
“อีกอย่าง ลองคิดดู มีคนเดินบนถนนสายนี้ทุกวัน เจ้าทำผ้าเช็ดหน้าหล่นที่นี่ ใครจะไปรู้ว่าใครจะหยิบมันขึ้นมา บางทีมันอาจจะถูกเก็บไปแล้ว และข้าบังเอิญเพิ่งผ่านมา และกลายเป็นผู้ต้องสงสัย!” เมื่อเห็นว่ากู้ซินเถาปักใจเชื่อไปแล้ว กุ้ยตงเหมยก็ยังคงเกลี้ยกล่อมต่อไป “ซินเถา ข้าไม่มีอะไรทำพอดี ไปหาผ้าเช็ดหน้าของเจ้ากันเถอะ! ไม่แน่มันอาจไม่มีใครเก็บมันไป และอาจถูกลมพัดปลิวไปทางด้านหน้า!”
กู้ซินเถาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เมื่อเห็นว่ากุ้ยตงเหมยดีถึงเช่นนี้ ออกความคิดที่จะพาตนเองไปหาผ้าเช็ดหน้า และกุ้ยตงเหมยก็ไม่สนใจเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเท็จเมื่อครู่ กู้ซินเถาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยและกล่าวอย่างเกรงใจ “ตงเหมย ข้าขอโทษ เมื่อครู่ข้าคงเข้าใจเจ้าผิดไป!”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
โถ่ ๆ กู้ซินเถาโดนกุ้ยตงเหมยหลอกเอาเสียแล้ว เชื่อคนง่ายจริง ๆ นะคะ
ไหหม่า (海馬)