บทที่ 478 กู้ซินเถากลับบ้าน
บทที่ 478 กู้ซินเถากลับบ้าน
“เจ้าไปก่อนเถอะ” กู้เสี่ยวหวานกล่าว
“ตกลง” ฉินเย่จือไม่กล้าแกล้งแมวตัวน้อยอีก เกรงว่าถ้าเขาไปหยอกนางอีก ปากแหลม ๆ ของนางจะเริ่มตะโกนใส่เขาอีก เขาเคยเห็นกังฟูของกู้เสี่ยวหวานมาแล้ว
ฉินเย่จือจับมุมเสื้อผ้าพลางเหวี่ยงมันและเข้าไปในห้อง การเคลื่อนไหวเสร็จสิ้นในครั้งเดียว และท่าทางก็ดูมีเกียรติมาก
ก่อนที่กู้เสี่ยวหวานจะทันได้สงสัยอะไร นางก็ได้ยินกู้หนิงผิงเรียกตัวเองขึ้นมา “ท่านพี่ มาเร็วเข้า”
“อ่า ไปแล้ว ๆ” กู้เสี่ยวหวานรีบข้ามธรณีประตู และก้าวมายังโต๊ะเพียงสามก้าว
ทุกคนนั่งด้วยกันอีกครั้ง และหลังจากจะจัดการมื้ออาหารเสร็จแล้ว กู้เสี่ยวหวานวางแผนที่จะเข้าไปในเมือง
พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของกู้หนิงอัน ดังนั้นเขาจะไปที่ร้านจิ่นฝูในตอนบ่ายเพื่อคำนวณบัญชี แล้วกลับบ้านด้วยกันหลังจากกู้หนิงอันออกจากหอหนังสืออวี้
ฉินเย่จือเองย่อมอยากตามไปด้วย กู้เสี่ยวอี้ยังปักของบางอย่างอยู่และต้องการเอาไปให้พี่ฝูดู ดังนั้นนางจึงต้องตามไปด้วย กู้หนิงผิงพบว่าตนเองต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียวและรู้สึกเบื่อขึ้นมา ดังนั้นเขาเลยขอติดตามไปด้วยเช่นกัน
หลังจากจัดเกวียนวัวเสร็จแล้ว ทุกคนก็มุ่งหน้าไปยังเมืองหลิวเจีย
เมื่อพวกเขามาถึงเมือง เป็นเรื่องปกติที่กู้หนิงผิงกับกู้เสี่ยวอี้จะไปที่ร้านขายผ้าจี๋เสียง และกู้เสี่ยวหวานไปที่ร้านจิ่นฝู เดิมทีนางวางแผนจะขอให้ฉินเย่จือตามเข้าไปและหาสถานที่พักผ่อน แต่ฉินเย่จือไม่เห็นด้วย เขาขับเกวียนวัวไปฝั่งตรงข้ามของร้านจิ่นฝู และหยุดเพื่อพักผ่อนบนเกวียนวัว
ในช่วงเวลาพักผ่อนนี้ ฉินเย่จือก็ได้เจอกับกู้ซินเถาอีกครั้ง
ไม่ ควรจะกล่าวว่ากู้ซินเถาเจอฉินเย่จือเสียมากกว่า
ในตอนเช้า กู้ซินเถากลับบ้านมาอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง นางเห็นว่าซุนซื่อกำลังวางแผนที่จะออกไปรับตนเองที่หมู่บ้านอู๋ซี
ทันทีที่พูด กู้ซินเถาก็ตระหนักว่าเป็นกู้ฉวนลู่รู้ว่านางไปเมืองอู๋ซีเพื่อพักผ่อน ในวันแรก ใบหน้าของเขาสบายดี แต่ในวันที่สองและสาม ใบหน้าของเขากลับมืดลงและมืดลง
เช้านี้เขายังขว้างปาข้าวของจานชาม ดุด่าซุนซื่อว่าไม่รู้ว่านางเลี้ยงดูลูกอย่างไร
กู้ซินเถาไปที่เมืองอู๋ซีเพียงลำพัง หากเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นมาจะทำอย่างไร! ต่อมาเมื่อเขาได้ยินว่าซุนซื่อต้องการให้เฉาซื่อดูแลกู้ซินเถา เขาก็ยิ่งโกรธและตบซุนซื่อทันที “เจ้านังผู้หญิงผมยาวและความรู้สั้น*[1] เฉาซื่อเป็นคนอย่างไร เจ้าไม่รู้รึ? เจ้ายังกล้าฝากซินเถาไว้กับนางอีก เจ้าบ้าหรือโง่กันแน่!”
ในขณะนั้น ซุนซื่อโกรธเกินกว่าจะพูดอะไรได้ ตั้งแต่ออกจากคุก มันยากที่จะจำได้ว่ากู้ฉวนลู่ทุบตีนางกี่ครั้ง เพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่าเมล็ดงา เขาก็โกรธและทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่
หัวใจของซุนซื่อก็เต็มไปด้วยความกังวล ลูกสาวคนเดียวของนางไปที่หหมู่บ้านอู๋ซีเพียงลำพัง เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซุนซื่อก็รู้สึกราวกับว่าศีรษะถูกลาเตะ และเห็นด้วยกับคำพูดของกู้ฉวนลู่
ซุนซื่อกลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น กู้ฉวนลู่จึงต้องค้นหาด้วยตัวเองอย่างสิ้นหวัง ดังนั้นเขาจึงรีบไปหาเกวียนวัวและกำลังจะออกไป
เมื่อซุนซื่อเห็นว่ามีรถม้าจอดอยู่หน้าบ้าน นางก็พบว่ากู้ซินเถากำลังจะลงจากรถม้า และเมื่อนางเห็นว่ากู้ซินเถาที่ออกไปหลายวันยังคงมีสภาพเหมือนเดิมกับตอนที่นางถูกส่งออกไป ซุนซื่อจึงรู้สึกโล่งใจและลากกู้ซินเถากลับบ้าน
ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องโถง ซุนซื่ออดไม่ได้ที่จะถามว่า “ซินเถา วันนี้เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
กู้ซินเถารู้สึกขุ่นเคือง นางอยากจะบอกว่ามันไม่ดี แต่เพื่อไม่ให้ซุนซื่อสงสัย จึงทำได้เพียงตอบอย่างเป็นธรรมชาติ “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องห่วง!”
“แล้วเจ้ายังเสียใจเพราะเรื่องของนายน้อยเจียงอยู่หรือเปล่า?”
ดวงตาของกู้ซินเถาเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้งเมื่อนางได้ยิน เมื่อซุนซื่อเห็นแบบนั้นนางก็บ่นกับตัวเอง หม้อไหนไม่ควรเปิด หม้อไหนควรยกจริง ๆ*[2]
กู้ซินเถาและเจียงหย่วนอยู่ด้วยกันมานาน ด้วยเวลาเพียงแค่สองหรือสามวันจะสามารถลดถอนความโศกเศร้าลงได้อย่างไร
เมื่อเห็นกู้ซินเถาสะอื้นไห้ ซุนซื่อก็รู้สึกเศร้าใจอย่างมาก นางรีบเข้าไปกอดกู้ซินเถาพลางปลอบโยน “อย่ากังวลไปเลยซินเถา นายน้อยเจียงต้องกลับมาแน่นอน ในช่วงเวลานี้ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องทำอะไร เจ้าแค่ต้องเติมพลังให้เต็มที่ แต่งกายให้ดูดี เมื่อนายน้อยเจียงเจอเจ้าอีกครา เขาจะตกหลุมรักเจ้า เจ้าเข้าใจไหม?”
กู้ซินเถาฟังคำพูดของซุนซื่อด้วยใบหน้าขวยเขิน และพยักหน้าเบา ๆ “ท่านแม่ ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะใช้ชีวิตให้ดี!”
“ซินเถา ลูกสาวที่แสนดีของข้า! เจ้าเกิดมาสวยมาก ในโลกนี้มีแต่เด็กร่ำรวยอย่างเจียงหย่วนเท่านั้นที่จะคู่ควรกับเจ้าได้ เขาจะมอบเสื้อผ้า ผ้าไหม อาหาร และหยกให้เจ้า! ในอนาคตลูกสาวของข้าจะได้เป็นฮูหยิน! อย่าได้ลงเอยแบบแม่ของเจ้า!” คำพูดของซุนซื่อเป็นคำเตือนและเป็นการเตือนสติมากกว่า
นางมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ในใจ นางรู้สึกว่ากู้ฉวนลู่ดูเหมือนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ และนางมักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ซ่อนตัวจากนาง แต่ซุนซื่อไม่กล้าคิดเรื่องนี้ และไม่กล้าสร้างปัญหากับกู้ฉวนลู่
ความผิดปกติล่าสุดของกู้ฉวนลู่ ทำให้ภรรยาอย่างนางรู้สึกถึงวิกฤตที่อธิบายไม่ได้
ซุนซื่อไม่กล้าบอกกู้ซินเถาเกี่ยวกับเรื่องนี้ นางกลัวว่ากู้ซินเถาจะรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากเหตุการณ์ของเจียงหย่วน หัวใจของกู้ซินเถาจึงแตกสลาย
บรรดาพี่น้องแสนดีที่มักติดตามกู้ซินเถา เมื่อได้ยินว่ากู้ซินเถากลับมาแล้ว พวกนางทั้งหมดก็ไปที่บ้านของกู้ซินเถาทีละคน และชวนกู้ซินเถาให้ไปซื้อของกันในตอนบ่าย
วันนี้กู้ซินเถารู้สึกเบื่อมากและต้องการออกไปข้างนอกเพื่อพักผ่อน ดังนั้นนางจึงตอบตกลง
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันและพักผ่อนแล้ว กู้ซินเถาก็แต่งตัวและออกไปกับพี่น้องสองสามคน
พี่น้องหญิงเหล่านี้ยังคงเป็นกลุ่มเด็กสาวตัวน้อยที่นางรู้จักเมื่อตอนที่นางอาศัยอยู่ที่ร้านซุ่นซิน
กู้ซินเถาได้พบกับหญิงสาวที่มีชื่อเสียงเรื่องร้องเพลงหลังจากย้ายบ้านมาอยู่ในเมือง ทุกคนตัดขาดการติดต่อกับกู้ซินเถา เมื่อรู้ว่าเจียงหย่วนจะไม่ติดต่อกับนางและตระกูลซุนก็ถูกขังอยู่ในคุก พวกเขาทั้งหมดจึงตัดการติดต่อกู้ซินเถา
มีเพียงอดีตน้องสาวคนเล็กเท่านั้นที่ไม่สนใจถึงชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านี้ นางยังคงติดตามกู้ซินเถาเช่นเคย ซึ่งกู้ซินเถารู้สึกประทับใจมาก
ทุกคนเดินไปที่ร้านขายเครื่องประดับอย่างตะกุกตะกัก เมื่อพวกนางออกมาจากร้าน จู่ ๆ น้องสาวตาแหลมก็ชี้ไปที่มุมหนึ่งข้างหน้าและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “ดูสิ! ผู้ชายนั่น เขา….ดู….”
ลิ้นของสาวน้อยคนนั้นพลันผูกเป็นปมเล็กน้อย นางลังเลอยู่นานและพูดไม่ออก เมื่อทุกคนเห็นหญิงสาวเป็นแบบนั้น ทุกคนก็เดินตามทิศทางที่นิ้วชี้ไป และเมื่อเห็นชายหนุ่ม ดวงตาของพวกนางก็พลันตกตะลึง
*[1] ผมยาวและความรู้สั้น หมายความว่า ผู้หญิงมีความรู้น้อย ไม่ใช่เพราะผมยาวส่งผลต่อพลังสมอง
*[2] หม้อไหนไม่ควรเปิด หม้อไหนควรยก หมายความว่า ไม่ควรพูดถึงข้อบกพร่องด้านความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น และสิ่งที่ไม่ควรพูดก็ไม่ควรพูด