บทที่ 599 ใครคือกู้เสี่ยวหวาน
บทที่ 599 ใครคือกู้เสี่ยวหวาน
“ข้าทำตรงไหนกันเล่า!”
“ตรงไหนก็ใช่ทั้งนั้นเแหละ! ข้าถูกเจ้าทำร้ายจนเนื้อตัวแตกยับไปทั่ว!” ฉินเย่จือแสร้งทำเป็นเจ็บปวด เขากุมหน้าอกแน่นพลางเอ่ยตัดพ้ออย่างเสียใจ
“เกินจริงไปหรือเปล่า?”
กู้เสี่ยวหวานจ้องมองบุคคลตรงหน้า เห็นอยู่ทนโท่ว่ากำลังแสดงอยู่
“เกินจริงตรงไหนเล่า”
“….”
“กริชนี้อยากเก็บไว้ก็เก็บ ไม่อยากเก็บก็ต้องเก็บ”
ดีจริง ๆ! ต่อไม่ให้อยากรับก็จะยัดเยียดให้รับจนได้
ครั้นกู้เสี่ยวหวานได้ยินประโยคนี้ก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก
นางไม่เคยเห็นใครมอบของขวัญที่เผด็จการขนาดนี้มาก่อน ผู้อื่นไม่อยากได้ก็ยังจะยัดเยียดให้อยู่ดี!
“เจ้าจะทำเกินไปแล้วนะ!” กู้เสี่ยวหวานกลอกตามองบน พลางเหลือบมองฉินเย่จือที่แสดงท่าทางเสียใหญ่โต
“แน่นอนอยู่แล้ว! ข้า… ฉินเย่จือไม่เคยมอบของขวัญให้ผู้ใดมาก่อน!” เขาเริ่มโอ้อวด!
อาโม่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลพ่นลมเย้ยหยัน
นายท่าน ใครบ้างจะไม่รู้ว่าท่านเป็นบุคคลตระหนี่ถี่เหนียวที่สุดในเมืองหลวง!
มอบของขวัญให้ผู้อื่นหรือ?
ศีรษะหรือไม่ก็ร่างไร้วิญญาณ?
สองสิ่งนี้ ท่านส่งไปไม่น้อยเลยทีเดียว!
ของขวัญหรือ?
อาโม่ติดตามอยู่ข้างกายท่านมานานหลายปี ดูเหมือนว่ายังไม่เคยเห็นท่านมอบแม้แต่เส้นด้ายสักเส้น หรือเข็มสักเล่มให้แก่ผู้ใด ความตระหนี่ถี่เหนียวของท่านดำเนินมาถึงขีดสุดแล้ว
แม้ว่าจะย่างก้าวผ่านธรณีประตูจวนมา ผู้คนยังต้องอยมถอยทัพเก้าสิบลี้*[1] และเอ่ยสรรเสริญ เกรงกลัวว่าจะเหยียบกระเบื้องของท่านแตกร้าว และไม่มีเงินแม้แต่จะซ่อม!
ดังนั้น ทั่วทั้งเมืองเมืองหลวงมิมีผู้ใดไม่รู้ ความตระหนี่ถี่เหนียวของท่านดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งเมืองหลวง!
หากมีผู้ใดในเมืองหลวงได้รับของขวัญจากท่าน เกรงว่าพวกเขาคงจะตื่นเต้นนอนไม่หลับสามวันสามคืนเเลยกระมัง?
หลังจากนั้นจะเกิดงานเฉลิมฉลอง คึกครื้นอยู่สามวัน?
“เจ้าเคยให้ของผู้อื่นมามากมายใช่หรือไม่?” โอ้อวดเสียขนาดนั้น!
“นั่นย่อมแน่นอน…” ฉินเย่จือโพล่งออกมา ครั้นเห็นว่าสีหน้าของกู้เสี่ยวหวานเปลี่ยนไป พลันรีบเปลี่ยนคำพูดในบันดล “ไม่ใช่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามอบของขวัญให้ใครสักคน หากมันไม่ดี เจ้าก็ให้อภัยข้าเถอะ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ให้กำลังใจข้าบ้างเถอะ!”
ฉินเย่จือกล่าวด้วยความรู้สึกน้อยใจ ดวงตาที่เรียวยาวเต็มไปด้วยความน่าสงสาร! มองกู้เสี่ยวหวานด้วยแววตาอ้อนวอน
กู้เสี่ยวหวานรู้สึกขบขันกับจิตวิญญาณอันไร้ยางอายของเขา หากนางไม่ยอมรับมันในตอนนี้ เขาคงไม่สามารถออกไปได้จริง ๆ!
ช่างเถอะ ไม่สำคัญว่าเขาจะมอบสิ่งใดให้ตนเอง หากแต่สนใจว่าเป็นของผู้ใด!
กู้เสี่ยวหวานยังไม่ได้เก็บมันกลับมา หลังจากครุ่นคิดดูแล้ว นางก็เอียงศีรษะและพูดว่า “ข้าจะรับมันไว้ก็ได้ แต่ในอนาคตไม่ได้รับอนุญาตให้นำมันกลับไป!”
มันก็เหมือนกับตัวคน ข้าคุ้นเคยกับมันแล้ว เจ้าไม่สามารถหนีไปไหนได้อีกแล้ว
ฉินเย่จือลอบดีใจภายในใจ น่าขันยิ่งนัก สิ่งของที่ข้าให้ไปไม่มีเหตุผลที่จะเอามันกลับคืนมา
ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด!
ฉินเย่จือพยักหน้าอย่างรวดเร็วและเห็นด้วย เขาจึงวางกริชเล่มนั้นไว้ในมือของกู้เสี่ยวหวานอย่างทะนุถนอม
ดูเหมือนจะทำให้นางสบายใจ
กู้เสี่ยวหวานหยิบกริชขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง วางไว้ในฝ่ามือ กริชนี้น้ำหนักเบา และไม่มีปัญหาในการพกพาไปไหนมาไหน
นอกจากนี้ยังมีความแหลมคม และตัดเหล็กได้ราวกับตัดโคลน จึงย่อมไม่ใช่ปัญหา
หากเกิดสถานการณ์ใด ๆ ขึ้นในอนาคต จะใช้กริชนี้เพื่อป้องกันตนเองจากอันตรายย่อมไม่มีปัญหา
กู้เสี่ยวหวานรับมันมา ช้อนตามองฉินเย่จื่ออย่างซาบซึ้ง “พี่ใหญ่ฉิน ข้าขอบคุณเจ้ามากนะ!”
นี่คืออาวุธป้องกันตัวที่เขาใช้ปกป้องตนเองเสมอ แต่เขากลับมอบให้นางอย่างใจกว้าง
นี่ไม่ใช่ของขวัญธรรมดา ๆ แต่มันคือความเป็นห่วง!
หวานเอ๋อร์ ระหว่างเราไม่จำเป็นต้องกล่าวขอบคุณ!
ฉินเย่จือเห็นท่าทางเคร่งขรึมของกู้เสี่ยวหวาน พลันลอบบ่นพึมพำในใจ
ฉินเย่จือในวันนี้ไม่ขอสิ่งใด แต่ขอเพียงให้กู้เสี่ยวหวานเติบโตอย่างปลอดภัย มีความสุข และมีสุขภาพแข็งแรง
พริบตาเดียว เดือนห้าก็เดินทางมาถึง
ขนาดของมันเทศโตขึ้นจนเกือบเท่าแขน!
ครั้นเห็นจำนวนของมันเทศเติบโตมากขึ้น ใบสีเขียวชอุ่ม กู้เสี่ยวหวานรู้สึกตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหว
ทุกวัน นางจะขึ้นเขาไปกับฉินเย่จือ
“ข้าล่ะสงสัยจริง ๆ ว่าการที่เจ้าปฏิบัติกับพวกมันราวกับของล่ำค่านี่หมายความว่าอย่างไร?” ฉินเย่จือพูดด้วยความงุนงงเมื่อเห็นท่าทางของกู้เสี่ยวหวาน
“สิ่งเหล่านี้มีค่ามากกว่าสมบัติ!” กู้เสี่ยวหวานโพล่งออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง “มันเทศนี้ให้ผลผลิตสูง เจ้าอย่าได้ประมาทไปเชียว แต่ถ้ามันเติบโตขึ้น ผลผลิตอย่างน้อยจะมีมากถึงหนึ่งร้อยชั่ง!”
“ว่าอย่างไรนะ!” ฉินเย่จืออุทาน “มากขนาดนั้นเชียวหรือ?”
ที่นี่มีต้นกล้ามันเทศเพียงไม่กี่สิบต้น จะสามารถเก็บมันเทศได้หลายร้อยชั่งจริงหรือ?
คิดแล้วมันช่างน่าเหลือเชื่อ
หลังจากได้ยินสิ่งนี้กู้เสี่ยวหวานก็ยิ่งตื่นเต้น “ใช่แล้ว มันเทศให้ผลผลิตสูงมาก และมันก็มีประโยชน์มากเช่นกัน! พี่ใหญ่ฉิน ข้ามีความคิดหนึ่งอยู่ในใจ ข้าอยากจะพึงพามันเทศหัวน้อย ๆ เหล่านี้ ปลูกมันในพื้นที่กว้างขว้าง เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสร้างอาณาจักรมันเทศ!”
วิธีการกินมันเทศมีหลากหลายรูปแบบ และอาหารมากกว่าสิบชนิดสามารถทำให้ดวงตาผู้คนเปล่งประกายด้วยความตื่นตาตื่นใจ
ไม่ต้องพูดถึงผลผลิตจำนวนมากของของสิ่งนี้ยามประสบกับช่วงขาดแคลน!
“อาณาจักรมันเทศ?” ฉินเย่จือเอ่ยเสียงแผ่ว ใบหน้าปรากกฏรอยยิ้มสงสัย
เมื่อมองไปที่หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีความทะเยอทะยานตรงหน้า ฟังดูแล้วน่าสนใจยิ่งนัก
ถ้าผลผลิตของมันเทศสูงขนาดนั้นจริง ๆ เกรงว่าผู้คนในอนาคตจะไม่ต้องอดอยากอีกต่อไป!
หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ กู้เสี่ยวหวานก็จะมีรายได้เพิ่มากขึ้นและมีกินมีใช้ตลอดทั้งปี
เมื่อฉินเย่จือมองไปยังกู้เสี่ยวหวานที่มีใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น ฉินเย่จือพลันเกิดความกังวลบางอย่าง
กู้เสี่ยวหวานมีแผนการที่ชัดเจนสำหรับอาณาจักรมันเทศอยู่ในใจแล้ว!
เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล แต่อย่างไรเสียก็มีต้นกล้ามันเทศเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แน่นอนว่านางจะไม่ท้อแท้ ทุกอย่างย่อมต้องดีขึ้นทุกปีอย่างแน่นอน
กู้เสี่ยวหวานคิดไว้เรียบร้อยแล้วว่าขั้นตอนต่อไปคืออะไร!
เสียงพูดคุยเจือเสียงหัวเราะดังไปตลอดทางกลับบ้าน แต่เมื่อมาถึงประตูบ้านก็พบคนของทางการสองสามคนในชุดเครื่องแบบของศาลาว่าการกำลังยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก
หน้าประตูบ้านเต็มไปด้วยชาวบ้านที่เฝ้าดูและกระซิบกระซาบด้วยความสนุกสนาน
กู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือมองหน้ากัน และก็เห็นความกังวลในดวงตากันและกัน
กู้เสี่ยวหวานยังไม่ทันจะก้าวไปข้างหน้า คนหนึ่งในนั้นก็สาปแช่งอย่างดุดัน “เจ้าคือกู้เสี่ยวหวานใช่หรือไม่!”
*[1] การยอมถอย หลีกเลี่ยง ยินยอมไม่สู้รบปรบมือด้วย