ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 788 หลิวชิงซานผู้มีแผนการ

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 788 หลิวชิงซานผู้มีแผนการ

บทที่ 788 หลิวชิงซานผู้มีแผนการ

ป้าจางก้าวไปข้างหน้า มองไปที่หญิงสาวผู้ตัวสั่นเทา แล้วถามด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้าคือ… ฟางสี่จริง ๆ หรือ”

“พี่สะใภ้จาง…” กู้ฟางสี่ไม่ตอบ แต่หลังจากเห็นป้าจาง นางก็ร้องเรียกทันทีด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

กู้ฟางสี่หันศีรษะของนางมองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่ดูประหลาดใจ ยามนี้เด็กคนนี้โตขึ้นมากจนโตเป็นสาวแล้ว

กู้ฟางสี่มองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความรักและพูดอย่างเป็นทุกข์ “เสี่ยวหวานโตขึ้นมาก นางโตเป็นสาวแล้ว!”

“ฟางสี่ เป็นเจ้าจริง ๆ เจ้า… เจ้ากลายเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร คนดี ๆ กลับกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร” ป้าจางมองไปที่ร่างผอมบางของกู้ฟางสี่ ก่อนสะอื้นไห้และพูดไม่ออกเล็กน้อย

ในอดีต ก่อนแต่งงาน กู้ฟางสี่ยังคงงดงามราวกับดอกไม้หยก แต่ยามนี้นางกลับดูเหมือนขอทาน!

กู้ฟางสี่สะอื้นและน้ำตาไหลออกมา

ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังดึงนางกลับมาทันทีและพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “ครอบครัวเคยดีอยู่ ฟางสี่เองสามารถกินดีอยู่ดี แต่ต่อมาข้าสูญเสียทุกอย่างยามเริ่มทำกิจการ ยามนี้ไม่มีที่อยู่และมีสภาพอย่างที่เห็น”

ขณะที่กู้เสี่ยวหวานฟัง ทางชายคนนั้นว่าต่ออย่างหงุดหงิด “ฟางสี่อยู่กับข้า นางไม่มีอาหารให้กินอิ่มท้องและไม่มีเสื้ออุ่น ๆ สวมใส่ นางต้องลำบากยิ่ง หากมิใช่ว่าพวกเราไปต่อไม่ได้แล้ว เหตุใดพวกเราจึงต้องถ่อมารบกวนสาวนน้อยเสี่ยวหวานกัน!”

กู้เสี่ยวหวานไม่เคยเจอคนที่เรียกว่าอาเขยคนนี้มาก่อน!

เมื่อเห็นหลิวชิงซานพูดถ้อยคำดังกล่าว กู้เสี่ยวหวานก็ไม่รู้ว่า เหตุใดจึงรู้สึกว่าสิ่งที่ชายคนนี้พูดไม่เป็นความจริง

ไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือว่าอะไร!

“ท่านอา…” หลังจากยืนยันว่าเป็นกู้ฟางสี่แล้ว กู้เสี่ยวหวานก็เรียกออกมาอย่างเป็นธรรมชาติและน่ารัก

ก่อนที่กู้ฟางสี่จะแต่งงาน นางเป็นคนที่ใกล้ชิดกับบิดามารดาของนางมากที่สุด และคอยดูแลกู้เสี่ยวหวานเป็นอย่างดี หากบิดามารดาของนางต้องออกไปข้างนอก กู้ฟางสี่จะคอยดูแลพวกเขา ดังนั้นในความทรงจำของกู้เสี่ยวหวาน ในบรรดาสมาชิกทั้งหมดของครอบครัวกู้ มีเพียงอาคนนี้เท่านั้นที่มีความสัมพันธ์ดีที่สุด

เพียงแต่เพราะไม่ได้เจอกันหลายปีแล้ว ทั้งนางเองก็เดินทางมาจากอีกโลกหนึ่ง นางจึงห่างเหินไปไม่มากก็น้อย

ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความเฉยเมยของกู้เสี่ยวหวาน กู้ฟางสี่รู้สึกเศร้าเล็กน้อยและก้มหน้าลงด้วยความเจ็บปวด

“ฮ่า ๆ ข้าเป็นอาเขยของเจ้า!” ชายที่อยู่ด้านข้างพูดขึ้น

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า จากนั้นก็หันศีรษะและเดินเข้าไปข้างใน

หลิวชิงซานคิดว่ากู้เสี่ยวหวานจะเรียกเขาว่าอา แต่ใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่สนใจเขาเลย

หลิวชิงซานดูไม่พอใจและจ้องเขม็งไปที่กู้เสี่ยวหวาน จากนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันที แล้วตามหลังกู้เสี่ยวหวานเข้าไปในสวนกู้ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

หลังจากเข้าไปในลานบ้าน ดวงตาของหลิวชิงซานก็มองไปรอบ ๆ เมื่อเห็นว่าบ้านหรูหราแค่ไหนในดวงตาของเขาก็เผยความโลภออกมาอย่างไม่ปิดบัง

แต่เมื่อคนอื่นมองมา หลิวชิงซานก็ซ่อนมันทันที และแสดงท่าทีที่ซื่อสัตย์

ป้าจางพยุงกู้ฟางสี่ หัวใจของนางเจ็บปวด

หลังจากนั้น ป้าจางก็ถามกู้ฟางสี่ว่านางเป็นอย่างไรบ้างในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ดวงตาของกู้ฟางสี่สั่นไหว และนางบอกว่ามันดีมาก แต่ความจริงคือกิจการของนางเพิ่งเจ๊งไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และครอบครัวของนางก็ตกต่ำลง

แต่ป้าจางไม่เชื่อ

กู้ฟางสี่จะกลายเป็นแบบนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ กว่าหนึ่งเดือนได้อย่างไร หนังด้าน ๆ บนมือของนางหนามากจนนางรู้สึกได้เวลาจับ ซึ่งมันต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะเป็นเช่นนี้ได้

มันจะเป็นอย่างที่หลิวชิงซานพูดได้อย่างไร ที่ว่ากู้ฟางสี่เคยเป็นภรรยาเฝ้าเรือน

ถ้าเมื่อก่อนนางเป็นนายหญิงจริง ๆ หนังบนมือนางคงไม่หนาเหมือนตอนนี้!

เห็นได้ชัดว่ามันเกิดจากการทำงานหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา!

ทว่ากู้ฟางสี่ไม่ได้พูดอะไร และป้าจางก็มิอาจเปิดโปงนาง นางจึงได้แต่พยุงกู้ฟางสี่เดินเข้าไปข้างใน

ในใจของกู้ฟางสี่มีความรู้สึกซับซ้อน

ในโถง หลิวชิงซานลบความโลภบนใบหน้าทิ้งทันทีและมองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความรักใคร่

เมื่อเห็นดวงตาของเขา ในใจของกู้เสี่ยวหวานก็รู้สึกอึดอัดอย่างมาก แต่เนื่องจากเขาเป็นอาเขยของนาง กู้เสี่ยวหวานจึงสามารถทนความรังเกียจในใจของนางได้

“อาโม่ เจ้าไปต้มน้ำให้ท่านอาและคนอื่น ๆ อาบก่อนเถอะ!” กู้เสี่ยวหวานกล่าว

โชคดีที่น้ำในหม้อเดือดอยู่เสมอ หลังจากนั้นไม่นาน อาโม่ก็เตรียมน้ำร้อนถังใหญ่ไว้ในห้องน้ำ และป้าจางก็พากู้ฟางสี่ไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สดชื่น

เนื่องจากห้องน้ำอีกห้องมีไว้สำหรับกู้เสี่ยวหวานและกู้เสี่ยวอี้ใช้เท่านั้น อาโม่จึงพาหลิวชิงซานไปยังห้องน้ำที่พวกเขาใช้แทน

ป้าจางต้องการเข้าไปช่วยกู้ฟางสี่ล้างตัว แต่กู้ฟางสี่ไม่เห็นด้วย โดยบอกว่านางไม่คุ้นเคยกับการถูกจับตามองขณะอาบน้ำ ป้าจางเห็นว่านางยืนกรานจึงยอมแพ้ และไปหาชุดทำความสะอาดเสื้อผ้าแล้วจากไป

หลิวชิงซานล้างตัวอย่างรวดเร็ว หลังจากล้างตัวแล้วเขาก็สวมเสื้อผ้าของลุงจาง

เมื่อล้างตัวแล้ว ในที่สุด กู้เสี่ยวหวานก็ได้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของหลิวชิงซานอย่างชัดเจน

คนผู้นี้อายุประมาณสี่สิบปี นางได้ยินมาว่า เมื่อกู้ฟางสี่แต่งงานกับหลิวชิงซาน หลิวชิงซานก็อายุสามสิบแล้ว อีกฝ่ายมีเพียงลักษณะปากแหลมแก้มลิง ทั้งมีดวงตาที่เล็กมาก เมื่อยิ้มเล็กน้อยมันก็หยีเป็นขีดเดียว อาจกล่าวได้ว่าบุคคลนี้น่าเกลียดมาก

กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว แต่ยังคงเรียกเขาอย่างสุภาพว่าท่านอา

เมื่อหลิวชิงซานได้ยินกู้เสี่ยวหวานเรียกเขาว่าอา รอยย่นที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาสามารถฆ่ายุงได้ในขณะที่หัวเราะ ดวงตาของเขาแคบลงเป็นรอยกรีด แต่เขายังคงมองเห็นประกายลุกวาวในดวงตาของคนผู้นี้ผ่านขีดเล็ก ๆ!

หลิวชิงซานตอบด้วยรอยยิ้ม ถูมือของเขา และพูดด้วยรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ “สาวน้อยเสี่ยวหวาน ข้าไม่ได้คาดหวังว่าในตอนนี้เจ้าจะมีชีวิตที่ดีและอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ หากบิดามารดาของเจ้ารู้ ข้าเกรงว่าพวกเขาต้องมีความสุขแน่ แต่น่าเสียดายนัก พวกเขาดันตายไปเร็วนัก โชคร้ายยิ่ง!”

หลิวชิงซานเช็ดดวงตาด้วยแขนเสื้อขณะคร่ำครวญว่ากู้ฉวนฟู่และภรรยาของเขาช่างโชคไม่ดี

ฉินเย่จือกลับมาจากร้านจิ่นฝู ซึ่งเมื่อเขาเข้าไปในประตู เขาก็เห็นชายอายุเกือบสี่สิบปีนั่งอยู่ที่นั่นในโถง พูดคุยกับหวานเอ๋อร์ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

ฉินเย่จือไม่เคยเห็นคนผู้นี้มาก่อน ทั้งคนผู้นี้ยังสวมเสื้อผ้าของลุงจาง ฉินเย่จือจึงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท