บทที่ 874 กู้ฉวนลู่โดนตำหนิ
บทที่ 874 กู้ฉวนลู่โดนตำหนิ
“นั่นน่ะสิ ครอบครัวของพวกเขาทำเรื่องบางอย่างกับแม่นางกู้ และพวกเขาก็ไม่ได้รับผิดชอบ เด็กผู้หญิงที่ใจกว้างเช่นนี้ช่างน่าประทับใจจริง ๆ” หนึ่งในนั้นถอนหายใจและมองไปที่กู้เสี่ยวหวาน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมอย่างยิ่ง
ผู้คนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดและรู้สึกว่ามีเรื่องราวบางอย่างแอบแฝงในคำพูด เขาจึงเอ่ยถามต่อหน้ากู้ฉวนลู่ว่า “เรื่องอะไรหรือ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยิน”
“เรื่องใหญ่แบบนี้ เจ้าไม่เคยได้ยินได้อย่างไร” ชายคนนั้นถอนหายใจ มองคนที่ถามออกมาอย่างเหยียดหยาม “เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภรรยาของคุณชายกู้คนนี้ปลอมแปลงเอกสารของทางการ เพียงเพราะต้องการแย่งที่ดินของแม่นางกู้ไป”
“ทำไมช่างไร้ยางอายนัก เป็นบัณฑิตโดยเปล่าประโยชน์เสียจริง” ทั้งผู้รู้และผู้ไม่รู้ต่างก็กระซิบกระซาบกันสนุกปาก
ในขณะนี้ กู้ฉวนลู่รู้สึกเพียงว่าใบหน้าของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์ เขาตวัดสายตาจ้องมองกู้เสี่ยวหวานอย่างโกรธเคือง จากนั้นเปลี่ยนสีหน้าและพูดด้วยความอ่อนโยน “อร่อย อร่อยมาก ความปรารถนาดีของเสี่ยวหวาน ข้าจะบอกป้าและพี่น้องของพวกเจ้าให้นะ หากมีเวลา พวกเขาจะมาที่นี่แน่นอน”
“เช่นนั้นก็ดี” กู้เสี่ยวหวานกล่าวเคล้ารอยยิ้ม จากนั้นพูดด้วยความเสียใจเล็กน้อย “น่าเสียดายที่มันเทศในร้านซุ่นซินทั้งหมดถูกขายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะทำสิ่งเหล่านี้ได้”
“เหอะ ๆ เสี่ยวหวาน เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร คนอื่นจะทำสิ่งที่ร้านจิ่นฝูทำได้อย่างไร” กู้ฉวนลู่หัวเราะ การพูดต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้ จะไม่เป็นการตัดเส้นทางทำกินของเขาหรือ?
อย่าได้พูดเช่นนั้นเชียว คนอื่นจะพูดได้ว่าร้านซุ่นซินลอกเลียนแบบความพยายามของร้านจิ่นฝู
กล่าวคือ พวกเขาไม่สามารถทำอวี้เจิ่นนี้ได้
อย่างไรก็ตาม ทุกคนต่างยืดคอรอคำตอบของเขา
กู้ฉวนลู่รู้มานานแล้วว่า ตราบใดที่มีอาหารจานใหม่ในร้านจิ่นฝู ร้านซุ่นซินจะส่งสหายหรือคนที่ไว้ใจได้ไปที่ร้านจิ่นฝูเพื่อชิมรสชาติของอาหารจานนั้น แล้วกลับมาปรุงตามรูปลักษณ์และรสชาติของพวกเขา ร้านซุ่นซินกระทำเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว
ร้านจิ่นฝูกลายเป็นที่นิยมและทำเงินได้มากมาย และร้านซุ่นซินของเขาก็สามารถตามลมได้เล็กน้อย และหลอกคนนอกหรือคนที่มาจากครอบครัวธรรมดาว่าสามารถมากินได้เช่นกัน
แม้เถ้าแก่หวังและกู้ฉวนลู่รู้อยู่แล้วว่า ชื่อเสียงของพวกเขาในเมืองหลิวเจียนั้นค่อนข้างแย่ แต่เรื่องนี้จะโทษใครได้เล่า
ร้านซุ่นซินไม่ได้ลอกเลียนแบบเพียงร้านเดียวนี่? ยังมีร้านอาหารอื่น ๆ ที่ทำอย่างนี้ด้วยเช่นกัน
ใต้หล้านี้ไม่ได้มีเพียงร้านจิ่นฝูที่เป็นร้านอาหารเพียงร้านเดียว
“ลุงใหญ่ ข้าต้องการจะบอกท่านถึงบางสิ่งว่า ร้านอาหารของท่านทำไม่ได้จริง ๆ” กู้เสี่ยวหวานกล่าวอย่างหนักแน่น
ใบหน้าขอกู้ฉวนลู่กระตุก หากแต่ยังคงแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ “เสี่ยวหวาน เจ้าหมายถึงอะไร”
“มันเทศนี้เป็นสิ่งของนอกอาณาจักร ถ้าข้าไม่ได้ต้นกล้ามาแต่เนิ่น ๆ เกรงว่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสิ่งนี้อยู่ เมื่อครู่ลูกค้าท่านนั้นก็พูดแล้วว่าเขาถามเพื่อนทุกคนที่เขารู้จัก ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในเมืองหลิวเจียหรือในเมืองรุ่ยเสียนก็ล้วนแล้วแต่ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน เมื่อลองคิดดูแล้ว สิ่งนี้ค่อนข้างจะหายาก แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อครู่ลูกค้าท่านนั้นพูดว่าไม่มีใครรู้จักพืชชนิดนี้ นั่นก็หมายความว่าลุงใหญ่คงไม่เคยเห็นพืชชนิดนี้มาก่อน แล้วอย่างนี้ ร้านอาหารของลุงใหญ่จะมีมันเทศมากมายเช่นนั้นได้อย่างไร” กู้เสี่ยวหวานยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า แต่คำพูดของนางช่างกรีดแทงหัวใจ
กู้ฉวนลู่ไม่เข้าใจชั่วขณะหนึ่ง และถามกลับอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าหมายถึงอะไร”
“ลุงใหญ่ ข้าไม่ได้หมายถึงอะไร น่าเสียดายที่ของดี ๆ แบบนั้นถูกพวกท่านขายไปหมดแล้ว เหอะ ๆ น่าเสียดายจริง ๆ” หลังจากกู้เสี่ยวหวานพูดจบ ใบหน้าของนางก็แสดงความเสียใจออกมา
ราวกับว่านางสงสารกู้ฉวนลู่อย่างสุดซึ้ง
สำหรับประโยคเมื่อครู่ กู้ฉวนลู่เพิ่งจะเข้าใจความหมายมันก็ตอนนี้ “กู้เสี่ยวหวาน เจ้าหมายความว่าข้าขโมยของของเจ้าหรือ?”
“ข้าไม่ได้พูดแบบนั้น ร้านอาหารซุ่นซินจะทำแบบนั้นได้อย่างไร”
“ข้าซื้อมันเทศจากพ่อค้าเร่ที่เดินทางไปทั่ว เจ้าไม่รู้ว่ามีสิ่งนี้อยู่ที่ไหน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะไม่รู้เกี่ยวกับมัน” กู้ฉวนลู่พูดอย่างดุดัน
“นั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ” กู้เสี่ยวหวานเห็นความโกรธในดวงตาของกู้ฉวนลู่ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้จริง ๆ ว่ามันเทศเป็นของนาง กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจ และใบหน้าของนางนิ่งสงบ
“หึ” กู้ฉวนลู่สะบัดแขนเสื้อด้วยความโกรธและก้าวไปข้างหน้า กู้เสี่ยวหวานยืนอยู่ด้านข้างเพื่อหลีกทางให้กู้ฉวนลู่ ก่อนจากไป นางยังไม่ลืมที่จะทักทาย “ลุงใหญ่ หากมีเวลาว่างก็มาที่นี่บ่อย ๆ ได้”
มาบ่อย ๆ
หากเป็นเช่นนั้น เถ้าแก่หวังคงจะฆ่าเขาแน่
กู้ฉวนลู่รู้สึกรำคาญ จึงเดินออกไปด้วยความรีบร้อนและทำให้สะดุดกับธรณีประตูโดยไม่ได้ตั้งใจขณะ ทำให้ร่างกายซวนเซ และท่าทางตลกนั้นทำให้คนในร้านอาหารหัวเราะออกมา
ผู้ที่มีฐานะและกำลังทรัพย์มักจะไปทานอาหารเย็นที่ร้านร้านจิ่นฝู เว้นแต่ว่าไม่มีที่ว่างในร้านจิ่นฝู พวกเขาก็จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดรองลงมา และนั้นคือร้านซุ่นซิน
เดิมทีกู้ฉวนลู่ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในเมืองหลิวเจีย
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ภรรยาของกู้ฉวนลู่ถูกจำคุกสองครั้ง สายตาที่คนรอบข้างมองกู้ฉวนลู่ก็เปลี่ยนไป
ซุนซื่อติดคุกเพราะอะไร
นั่นคือสิ่งที่ทุกคนในเมืองหลิวเจียรู้ดี
ครั้งแรกเป็นเพราะนางต้องการครอบครองที่ดินของกู้เสี่ยวหวาน และครั้งที่สองเป็นเพราะนางขโมยสิ่งของของฮูหยินเจียง
สิ่งที่นางทำทั้งสองครั้งช่างไร้ยางอาย และข่าวได้แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลิวเจียแล้ว
ใครจะยังเคารพเขาอยู่อีก
กู้ฉวนลู่เดินเซออกไปนอกประตูและกลับไปที่ร้านซุ่นซิน เมื่อเขาไปถึงห้องรับรองของเถ้าแก่หวัง เขาเห็นว่าเถ้าแก่หวังกำลังชี้ต้นหม่อนด่าต้นฮว๋าย*[1]
เมื่อกู้ฉวนลู่เข้าไป ลูกจ้างในร้านก็ดูเหมือนจะเห็นคนช่วยชีวิต
“ออกไป!” เมื่อเห็นกู้ฉวนลู่กลับมา เถ้าแก่หวังก็ตะโกนดังลั่น ลูกจ้างคนนั้นพยักหน้าและวิ่งออกไปทันที
“กู้ฉวนลู่ เจ้าบอกข้ามาว่าเจ้ากำลังทำสิ่งใดกันแน่ หลานสาวของเจ้าเก่งและฉลาดถึงเพียงนี้ ทำไมเจ้าไม่พานางมาที่ร้านของเรา แล้วยังปล่อยให้นางไปที่ร้านจิ่นฝู นั่นไม่ได้เป็นการทำเรื่องไม่ดีกับร้านของเราหรอกหรือ? ปลูกมันเทศมากมายขนาดนั้น ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าที่เป็นลุงจะทำงานในร้านอาหารด้วย”
เถ้าแก่หวังชี้หน้าของกู้ฉวนลู่และสาปแช่งเสียงดัง
*[1] พูดจาเหน็บแนม หรือตำหนิอีกคนเพื่อให้กระทบถึงคนที่ตนโกรธ แต่ทำอะไรโดยตรงไม่ได้