ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 875 ไปหาหูปา

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 875 ไปหาหูปา

บทที่ 875 ไปหาหูปา

กู้ฉวนลู่ก้มหน้างุด และตั้งใจฟัง

“ผู้หญิงคนนั้นมีความคิดเป็นของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยสนิทสนมกับญาติอย่างพวกเรา และทำตัวสนิทสนมกับคนอื่นมากกว่าพวกเรา” กู้ฉวนลู่กัดฟันพูด

เถ้าแก่หวังจ้องมองที่กู้ฉวนลู่ราวกับว่า เจ้าได้รับการตอบแทนสำหรับความชั่วร้ายของเจ้า “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร ถ้ารู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก หากเจ้าสามารถปฏิบัติต่อครอบครัวของหลานสาวเจ้าให้ดีกว่านี้ นางคงจะสนใจเจ้ามากกว่านี้”

ปรากฏว่าเถ้าแก่หวังรู้ว่ากู้ฉวนลู่ปฏิบัติต่อกู้เสี่ยวหวานอย่างไร

“…” กู้ฉวนลู่ก้มศีรษะลงและไม่พูดอะไร

แต่หัวใจก็รู้สึกเหมือนที่เถ้าแก่หวังพูด และรู้สึกเสียใจอย่างมาก

หากกู้เสี่ยวหวานมอบมันเทศทั้งหมดให้กับร้านซุ่นซินและปรุงมันด้วยวิธีต่าง ๆ มากมาย ในเวลานี้ร้านซุ่นซินคงจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คน และจะเกิดเรื่องเช่นนี้กับร้านจิ่นฝูได้อย่างไร

“คุณชายกู้” น้ำเสียงของเถ้าแก่หวังเปลี่ยนไปในทันทใด และพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “สิ่งที่อยู่ในมือของเด็กหญิงคนนี้ไม่ใช่เงินเพียงเล็กน้อย! คิดดูสิ แค่พวกเราทำมันเทศนึ่งก็ได้เงินมาตั้งเท่าไรแล้ว ด้วยเงินจำนวนนี้ เจ้าลองคำนวณดู ถ้าเราสามารถขายอาหารที่หลากหลาย ร้านซุ่นซินของเราจะร่ำรวยขนาดไหน ไม่ต้องกังวล คุณชายกู้ เจ้าทำงานในร้านซุ่นซินมาเป็นนานแล้ว เจ้าสมควรได้รับชื่อเสียงนี้ และข้าจะไม่มีวันลืมเจ้า”

เถ้าแก่หลังพยายามเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย “ถึงเวลานั้น เมื่อตัดต้นทุนออก เงินที่หามาได้จะแบ่งให้เจ้าสามส่วน ข้าเจ็ดส่วนเป็นอย่างไร?”

แม้ว่าจะได้เพียงสามส่วน แต่นั่นก็เป็นเงินจำนวนมาก

กู้ฉวนลู่ได้รับเงินเดือนจากร้านซุ่นซิน และเฉพาะช่วงขั้นปีใหม่ หากเถ้าแก่หวังอารมณ์ดีเขาก็จะจ่ายเงินมากขึ้น แต่จ่ายอย่างไรก็ไม่มากเท่ากับเงินส่วนแบ่ง

กู้ฉวนลู่มองไปที่เถ้าแก่หวังด้วยความไม่เชื่อ ราวกับว่าเขากลัวว่าเถ้าแก่หวังจะล้อเล่นกับเขาอีกครั้ง “เถ้าแก่…”

“คุณชายกู้ ไม่ต้องกังวลไป ข้าจะรักษาคำพูด” เถ้าแก่หวังตบหน้าอกของเขา และสัญญาว่า “ตราบใดที่เจ้าทำสิ่งนี้สำเร็จและทำให้ร้านซุ่นซินมีกำไรเพิ่มขึ้น ข้าจะแบ่งเงินให้เจ้าอย่างแน่นอน”

กู้ฉวนลู่กลืนน้ำลายเมื่อเห็นเถ้าแก่หวังตบหน้าอกและยืนยันให้วางใจ

เขารู้ว่าในเวลานั้นเงินที่ได้จากการขายทองนึ่งได้นั้นเท่าไร

ในเวลานั้น เถ้าแก่หวังนอกจากจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองเพิ่มขึ้นสองถึงสามตำลึงเงิน หากแต่เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีอันใด กู้ฉวนลู่จึงไม่พอใจมาก

เขาเป็นคนที่พบมันเทศ ถ้าพูดตามเหตุผลแล้ว เขาเองก็ควรได้รับชื่อเสียงจากมันด้วย

ครั้งนี้เถ้าแก่หวังสัญญากับเขาว่าจะให้ชื่อเสียงและเงินทองแก่เขา การที่กู้ฉวนลู่หวั่นไหวกับชื่อเสียงและเงินทองนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก

กู้ฉวนลู่พยักหน้าอย่างหนักโดยไม่ได้คิด “เถ้าแก่ไม่ต้องกังวล ข้าจะนำของมาที่นี่แน่นอน”

คนที่ชื่อหูปาขายมันเทศให้ตัวเองในครั้งที่แล้ว ตราบใดที่หาหูปาเจอก็จะรู้ว่ามันเทศมาจากไหน

กู้ฉวนลู่มาถึงสถานที่ที่ทั้งสองนัดพบกันในครั้งที่แล้ว มันเป็นโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ และมีราคาถูก หลังจากก้าวเข้าไปด้านใน ผู้ชายคนหนึ่งเห็นว่ากู้ฉวนลู่มา และจำได้ว่าเขาเป็นคนที่พูดคุยกับหูปาในครั้งที่แล้วจึงคิดว่าทั้งสองคนมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกัน ดังนั้นเขาจึงก้าวไปข้างหน้าและคว้าตัวกู้ฉวนลู่ไว้ “คุณชายมาที่นี่เพื่อหาใครหรือ?”

กู้ฉวนลู่มองไปรอบ ๆ ชั้นล่าง หากแต่ไม่พบคนที่กำลังมองหา ดังนั้นจึงต้องการขึ้นไปด้านบน แต่ถูกผู้ชายคนหนึ่งหยุดเอาไว้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายถามเช่นนั้นจึงตอบทันที “ถูกต้อง ข้ามาหาหูปา เขายังอยู่ในโรงเตี๊ยมของเจ้าหรือไม่”

กู้ฉวนลู่ถามอย่างกระตือรือร้น

ชายคนนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมรีบตอบ “ไม่อยู่ คนผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่สัมภาระของเขายังอยู่ตรงนั้น”

“หมายความว่าอย่างไร”

“เราไม่ได้เจอเขามาหลายวันแล้ว แต่สัมภาระของเขาถูกบรรจุไว้อย่างดี และดูเหมือนว่าเขากำลังวางแผนที่จะออกจากโรงเตี๊ยม”

“แล้วเขาอยู่ที่ไหน”

“เขาหายตัวไปแล้ว” ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย

เมื่อบุคคลนี้หายไป มันก็ราวกับโลกแตกสลาย และไม่รู้ว่าเขาตายหรือยังมีชีวิตอยู่

แต่สิ่งของของเขายังอยู่ในโรงเตี๊ยม ไม่รู้ว่าเขาจะกลับมาเอาหรือไม่?

เขาไม่ได้จ่ายค่าเช่ามาหลายวันแล้ว

ชายคนนั้นกำลังจะร้องไห้ออกมา “ข้าไม่รู้จักเขา และฟังจากสำเนียงของเขาก็ดูไม่เหมือนคนจากเมืองหลิวเจีย หลังจากรอมาหลายวัน เขาก็ยังไม่กลับมา และข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเขาที่ไหน โชคดีที่ข้าเจอท่านวันนี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน เขาไม่ได้จ่ายค่าห้องมาหลายวันแล้ว ถ้าข้าเก็บค่าเช่าไม่ได้ เถ้าแก่ต้องการให้ข้าจ่ายค่าห้องแทน ข้ามีเงินที่ไหนกัน”

ทันทีที่กู้ฉวนลู่ได้ยินว่าคนที่กำลังตามหาอยู่นั้นหายตัวไปแล้ว พลันเกิดความรู้สึกสงสัยทันที “ถ้าบุคคลนั้นหายไป เจ้าก็ควรตรวจสอบสัมภาระของเขา และจะสามารถบอกได้ว่าเขามาจากไหนและอาศัยอยู่ที่ไหน”

“ข้าตรวจสอบหมดแล้ว แต่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเสื้อผ้าสองชุด” ชายคนนั้นทำท่าราวกับจะร้องไห้ และรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา “แล้วข้าควรทำอย่างไรดี ข้าควรทำอย่างไรดี”

“เป็นไปได้หรือไม่ที่เขาจะหนีเพราะไม่สามารถจ่ายค่าห้องได้” กู้ฉวนลู่ขมวดคิ้ว พลางนึกถึงความเป็นไปได้

อย่างไรก็ตาม มันไม่ควรเป็นเช่นนั้นเลย เขาน่าจะทำเงินได้มากมายจากการขายของในครั้งนั้น

แต่ในห่อสัมภาระของเขาไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากเสื้อผ้า

“แล้วรถม้าของเขาล่ะ?” กู้ฉวนลู่ถามทันที

“รถม้าอะไร” ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ถ้ามีรถม้าสักคันก็คงดี ข้าจะสามารถขายมันเพื่อจ่ายค่าเช่าได้”

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าหูปานำมันเทศมาให้เขาหลายคันรถม้า

เขายังบอกด้วยว่าเขาบังเอิญผ่านเมืองหลิวเจีย ดังนั้นเขาจึงต้องการขายสิ่งนี้

“เขาเป็นพ่อค้าเร่ที่เดินทางไปทั่วไม่ใช่หรือ เมื่อข้าพบเขา เห็นได้ชัดว่าเขามีรถม้ามากมาย” ยิ่งกู้ฉวนลู่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่เขาคิดไม่ออกว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

“ไม่มี ตอนที่เขามาอยู่ที่นี่ เขาอยู่คนเดียวพร้อมกับห่อสัมภาระและไม่มีอะไรเลย”

กู้ฉวนลู่ยิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น

เป็นไปได้หรือไม่ว่าสินค้าของเขาถูกวางไว้ที่อื่น

เป็นไปไม่ได้ โรงเตี๊ยมมักจะมีที่เก็บรถม้าหรือสินค้า และแม้แต่โรงเตี๊ยมที่เล็กที่สุดก็มีบริการแบบนี้

เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะอาศัยอยู่ในที่นี่ และเก็บสินค้าไว้อีกที่หนึ่ง

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท