ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย – บทที่ 968 ไปบ้านใหญ่ตระกูลกู้เพื่อตามหาคน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 968 ไปบ้านใหญ่ตระกูลกู้เพื่อตามหาคน

บทที่ 968 ไปบ้านใหญ่ตระกูลกู้เพื่อตามหาคน

ในตอนเช้าวันนั้น กู้ฟางสี่ไปที่โกดังบริเวณเชิงเขาเพื่อสำรวจรอบ ๆ เหมือนทุกครั้ง และเมื่อถึงเวลาทำอาหารเช้า นางควรจะกลับมาแล้ว แต่เมื่อทุกคนไปถึงที่โต๊ะรับประทานอาหารก็ยังไม่เห็นกู้ฟางสี่กลับมา

ทุกคนตื่นตระหนกและรีบออกจากบ้านไปตามหานางทันที พวกเขาค้นหาทั้งภายในและภายนอกโกดัง หากแต่ก็ยังไม่พบร่องรอยของกู้ฟางสี่

กู้ฟางสี่หายตัวไปราวกับหายไปจากโลกนี้

กู้เสี่ยวหวานไม่ได้สนใจกับการอาหารเช้าอีกแล้ว พวกเขาแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มเพื่อเริ่มตามหากู้ฟางสี่

ในวันปกติแล้ว กู้ฟางสี่ไม่ได้เดินไปไหนมากนัก คนที่นางจะแวะเวียนไปหาได้ก็มีหลิวต้าจ้วงและภรรยาของเถาต๋า

ป้าจางไปที่บ้านของหลิวต้าจ้วงและเถาต๋าก่อนเป็นอันดับแรก หลิวต้าจ้วงและคนอื่น ๆ กำลังทานอาหารเช้าอยู่ที่บ้าน ครั้นเห็นป้าจางเดินเข้ามาเหงื่อแตกพลั่กจึงรีบถามอย่างร้อนรนว่าเกิดสิ่งใดขึ้น

ป้าจางบอกว่ากู้ฟางสี่หายตัวไป แล้วถามพวกเขาว่าเมื่อเช้านี้เห็นกู้ฟางสี่หรือไม่

หลิวต้าจ้วงกับคนอื่น ๆ ส่ายหัวและบอกว่าพวกเขาไม่เห็น จากนั้นพวกเขาก็ไม่ใส่ใจที่จะกินข้าว ทิ้งชามข้าวแล้วออกไปตามหากู้ฟางสี่ด้วยกันกับป้าจาง

ภรรยาของหลิวต้าจ้วงและภรรยาของเถาต๋าเองก็ไม่ได้เกียจคร้านเช่นกัน หลังจากกำชับเด็ก ๆในครอบครัวให้อยู่บ้านไม่วิ่งเถลไถลไปไหนแล้ว พวกเขาก็ออกไปที่หมู่บ้าน และถามไถ่ตามบ้านต่าง ๆ

ระหว่างทาง ฉินเย่จือขี่ม้าพากู้เสี่ยวหวานเข้าก็ไปตามหาในเมือง

พวกเขาแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ มากมาย มองไปยังสถานที่ที่กู้ฟางสี่อาจไปแล้วเข้าไปถาม แต่ไม่มีใครรู้ว่ากู้ฟางสี่อยู่ที่ไหน

กู้เสี่ยวหวานไปถามที่ร้านจิ่นฝู แต่ก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นนาง

เมื่อเห็นว่ามีคนในครอบครัวของกู้เสี่ยวหวานหายไป ลูกจ้างภายในร้านจึงแบ่งงานกันทันที และมีลูกจ้างภายในร้านสองคนตามกู้เสี่ยวหวานออกไปเพื่อช่วยตามหากู้ฟางสี่

กู้เสี่ยวหวานมองหาทั้งในร้านต่าง ๆ และบนถนนแต่ก็ไม่พบ นางกระวนกระวายเหมือนมดบนกระทะร้อน และทันใดนั้นก็นึกถึงบ้านของกู้ฉวนลู่

บางทีท่านอาอาจจะไปที่บ้านของกู้ฉวนลู่

ดังนั้นนางจึงมุ่งหน้าไปยังบ้านของกู้ฉวนลู่ทันที

นี่เป็นครั้งแรกที่กู้เสี่ยวหวานไปที่บ้านของครอบครัวใหญ่กู้ในเมือง นางถามผู้คนบนถนนก่อนที่จะพบบ้านของกู้ฉวนลู่ในที่สุด

ซุนซื่อและคนอื่น ๆ ยังไม่ตื่นจากห้วงนิทรา เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ ซุนซื่อก็ลุกขึ้นอย่างไม่เต็มใจด้วยใบหน้ากระเง้ากระงอด

นางถามอย่างเกียจคร้านว่า “ใครน่ะ มารบกวนคนจะหลับจะนอน”

กู้เสี่ยวหวานไม่สนใจนางและเคาะประตูแรงขึ้น

“อย่าเคาะ ๆ ถ้าประตูพังจะรับผิดชอบหรือไม่?” ซุนซื่อสาปแช่งและวิ่งไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จืออยู่ที่ประตู นางตกใจในตอนแรก และเอ่ยอย่างไม่เป็นมิตร “พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

เมื่อเห็นว่าเป็นซุนซื่อ กู้เสี่ยวหวานจึงถามทันทีว่า “ท่านอาของข้าอยู่ที่ใด”

“อากู้ของเจ้าจะมาที่บ้านข้าทำไม?” ซุนซื่อรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และพูดอย่างเป็นกันเอง

กู้เสี่ยวหวานเห็นว่าท่าทางของนางไม่ได้ดูเหมือนว่ากำลังโกหก ดังนั้นจึงหันหลังกลับและจากไปโดยไม่คิดอะไร

เมื่อเห็นว่ากู้เสี่ยวหวานและฉินเย่จือจากไปแล้ว ซุนซื่อก็สงสัยว่าทำไมสองคนนี้ถึงเป็นบ้ากันขึ้นมาแต่เช้า มาที่นี่เพื่อถามถึงใครสักคน แล้วก็ออกไปหลังจากถามไม่กี่คำ

มันอธิบายไม่ได้จริง ๆ

ซุนซื่อปิดประตูด้วยความโกรธ และเมื่อนางกลับมาที่ห้องโถง นางเห็นกู้ซินเถาและกู้ฉวนลู่แต่งตัวเต็มยศ และนั่งอยู่ในห้องโถง

เมื่อเห็นว่าซุนซื่อกลับมา พวกเขาจึงถามนางว่าใครมาเคาะประตูแต่เช้า

ซุนซื่อเล่าเรื่องกู้เสี่ยวหวาน หลังจากถามคำถามที่อธิบายไม่ได้

“ใครจะไปรู้ นางมาที่บ้านของเราและถามว่าท่านอาของนางอยู่ที่นี่ไหม กู้ฟางสี่มาจะมาอยู่กับเราได้อย่างไร แน่นอนว่าข้าตอบว่าไม่ และพวกเขาก็กลับไปแล้ว” ซุนซื่อหาววอด และพูดอย่างเกียจคร้าน

กู้ฉวนลู่จิบน้ำ และทันใดนั้นก็นึกอะไรบางอย่างได้ “เจ้าบอกว่ากู้เสี่ยวหวานมาถามว่ากู้ฟางสี่อยู่ที่บ้านของเราหรือไม่งั้นหรือ?”

“ใช่ นางมากับฉินเย่จือคนนั้น” ซุนซื่อพูดเบา ๆ

คิดไม่ถึงว่าคำพูดเหล่านี้หลุดเข้าไปในหูของกู้ซินเถา นางมีความสุขมากและลุกขึ้นยืนจากที่นั่ง “ท่านแม่ ท่านพูดว่าอะไรนะ พี่ใหญ่ฉินกลับมาแล้วหรือ?”

“ใช่ ข้าเห็นเขากับกู้เสี่ยวหวานอยู่ด้วยกันเมื่อครู่” ซุนซื่อตอบ

กู้ฉวนลู่มองไปที่กู้ซินเถา เห็นว่าใบหน้าของกู้ซินเถาแดงก่ำเหมือนสตรีที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก

แล้วจึงมองซุนซื่ออีกครั้ง

เมื่อสมัยสาว ๆ ตอนที่ซุนซื่ออยู่กับเขา ซุนซื่อก็เป็นเช่นนี้ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มเขินอาย ใบหน้าของนางแดงระเรื่อราวกับดอกบัวสีชมพู

หรือว่านี่…

กู้ฉวนลู่ขมวดคิ้วทันทีและมองไปที่กู้ซินเถา

ซุนซื่อก็ไม่ได้คิดอะไร นางคิดว่าเป็นคำถามธรรมดา ๆ จากลูกสาวของนาง

แต่คิดไม่ถึงว่าคำถามสบาย ๆ ของกู้ซินเถาเกือบทำให้นางแสดงถึงความเจ้าชู้ออกมา

กู้ฉวนลู่มองไปที่กู้ซินเถาที่ตื่นเต้นและมีความสุข ก่อนพูดอย่างตรงไปตรงมา “ซินเถา ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเจ้ากับนายน้อยเจียงเป็นไรอย่างบ้าง นายน้อยเจียงปฏิบัติต่อเจ้าดีหรือไม่?”

กู้ฉวนลู่แค่อยากจะเตือนกู้ซินเถา ดังนั้นเขาจึงพูดถึงชื่อของเจียงหย่วน และถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ล่าสุดของพวกเขา

ใครจะไปรู้ว่าความความคิดของกู้ซินเถานั้นมุ่งตรงไปที่ฉินเย่จือ นางไม่ได้สังเกตเห็นคำเตือนของกู้ฉวนลู่เลย

“ก็ดี” หลังจากที่กู้ซินเถาพูดแบบนี้ นางก็วิ่งหนีไปอย่างอาย ๆ

คราวนี้กู้ฉวนลู่มั่นใจมากขึ้น เขาลุกขึ้นยืนทันทีและเรียกกู้ซินเถาไว้ หากแต่กู้ซินเถาไม่สนใจสิ่งที่กู้ฉวนลู่พูด และวิ่งไปโดยไม่หันกลับมามอง

กู้ฉวนลู่สาปแช่งด้วยความโกรธ จากนั้นชี้ไปที่ซุนซื่อและตำหนิ “ดูลูกสาวผู้แสนดีของเจ้า!”

ซุนซื่อรู้สึกงุนงงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ แต่คราวนี้นางก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงตำหนิของอีกฝ่าย เมื่อมองไปที่กู้ฉวนลู่ที่ดุร้าย นางรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองสั่นเทา “ซินเถาทำไมหรือ?”

“ซุนซื่อ เมื่อซินเถากลับมาเจ้าต้องสอนบทเรียนดี ๆ ให้นาง เด็กไม่รู้จักพอ” คำพูดของกู้ฉวนลู่ ทำให้นึกถึงกู้ซินเถาจริง ๆ

ถ้าผู้หญิงถูกลือว่าเป็พวกสำส่อน ชีวิตของนางอาจจะจบไม่ดี

คำพูดของกู้ฉวนลู่ทำให้ซุนซื่อตื่นขึ้นทันที ซุนซื่อก็ลุกขึ้นและถามอย่างเหลือเชื่อว่า “สามี เจ้าพูดว่าอะไร เจ้าหมายถึงซินเถา… นาง..”

——————————————-

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

Status: Ongoing
กู้เสี่ยวหวานเป็นสาวนักวิจัยด้านการเกษตรวัยเฉียดสามสิบผู้เพียบพร้อม​ในทุกด้าน​ เว้นแต่ด้านความรักที่ยังไม่มาทักทาย​ จนพ่อแม่กลุ้มใจและจัดนัดบอดให้หลายหน และความซวยก็มาเยือนในนัดบอดครั้งนี้​ หลังได้รับโทรศัพท์​จากหัวหน้าทีมวิจัยว่าการทดลองล้มเหลว​ ทำให้เธอต้องรีบทำการทดลองก่อนเวลานัดบอด​ จนประสบอุบัติเหตุ​โทรศัพท์​มือถือระเบิดกลางห้องแลบและพาตัวเธอทะลุมิติ​มาเกิดใหม่ในร่างสาวน้อยสมัยราชวงศ์ชิงผู้แบกภาระเลี้ยงดูน้องๆ​ ท่ามกลางครอบครัวที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น​

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท