บทที่ 621 ถามหาความจริง
บทที่ 621 ถามหาความจริง
ซูอันตัวสั่นในขณะที่ฟัง ในที่สุดเขาก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น นี่เป็นอีกแผนหนึ่งของซ่างหง!
เจียงลั่วฝูกล่าวต่อว่า “ในตอนนี้พวกเขากำลังไล่ล่าจับกุมผู้คนจากตระกูลฉู่ทีละคน ดังนั้นพวกเขาอาจจะมาที่นี่ในไม่ช้า ข้าแนะนำให้เจ้าไปหาที่หลบซ่อนก่อน เอาคุณหนูรองตระกูลฉู่ไปด้วย”
“ขอบคุณอาจารย์ใหญ่!” ซูอันพูดอย่างจริงจัง
“ไม่ต้องเกรงใจ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน นอกจากนี้ ตระกูลฉู่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสถาบันจันทร์กระจ่างมาโดยตลอด แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้มาก แต่ข้าก็จะช่วยทุกวิถีทางที่ทำได้” เจียงลั่วฝูหยุดพูดชั่วคราว “ใช่…เจ้ามีที่ซ่อนหรือยัง?”
ซูอันลังเล “มีที่เดียวซึ่งเหมาะสม มันอยู่ในภูเขามังกรซ่อน!”
ที่ซ่อนเก่าของกลุ่มวาฬไม่ได้เลวร้าย เพราะมันค่อนข้างถูกซ่อนไว้อย่างดี ถ้ำมังกรแดงก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน แต่ถ้าพวกเขาไปที่นั่น ก็คงไม่สามารถเข้าถึงข่าวในเมืองได้มากนัก…
เจียงลั่วฝูกล่าวว่า “ภูเขาไม่ใช่ทางเลือกที่ดีด้วยเหตุผลหลายประการ เจ้าหลบอยู่ในบ้านพักอาจารย์ต่อไปก่อนก็แล้วกัน”
ซูอันลังเลใจ “นั่นจะไม่ทำให้สถาบันจันทร์กระจ่างมีปัญหามากกว่านี้เหรอ?”
“ไม่ต้องกังวล สถาบันจันทร์กระจ่างมีสถานะที่น่ายำเกรงอยู่เสมอ แม้แต่นายพลหลิวเหย่าก็ยังไม่กล้าที่จะรุกล้ำเข้ามา” เจียงลั่วฝูกล่าว “แน่นอน เจ้าและฮวนเจาก็ไม่สามารถออกไปไหนได้ มันคงยากที่จะซ่อนเจ้าสองคนไว้ถ้าเป็นอย่างนั้น”
“ขอบคุณ อาจารย์ใหญ่คนสวย” ซูอันไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ยามนี้เขาต้องการจุดซ่อนที่ปลอดภัยจริง ๆ ชายหนุ่มคงจะปฏิเสธถ้ามีเพียงเขาคนเดียว แต่ขณะนี้เขายังต้องนึกถึงความปลอดภัยของฉู่ฮวนเจาเช่นกัน
เขารีบไปเรียกฮวนเจาที่ชั้นเรียนของนาง นางตกใจเมื่อได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ และยืนกรานที่จะกลับไปดูสถานการณ์
“ฮวนเจา ได้โปรดใจเย็น ๆ ทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์จะถูกจับกุมทั้งหมด ถ้าเจ้ากลับไปตอนนี้ เท่ากับยอมแพ้อย่างไร้ค่า” ซูอันพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
ฉู่ฮวนเจาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “แต่เราไม่สามารถหลบซ่อนและใช้ชีวิตต่อไปราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น! ข้าอยากจะยืนเคียงข้างท่านแม่และท่านพ่อในช่วงวิกฤตนี้!”
ซูอันตกตะลึง เด็กคนนี้มักสร้างปัญหาอยู่เสมอ แต่ตอนนี้นางกลับแสดงสีหน้าแน่วแน่ “ใจเย็น ๆ ข้าจะลองออกไปดูก่อน ได้ความอย่างไรเราค่อยวางแผนอีกที”
อารมณ์ของฉู่ฮวนเจาดีขึ้นทันที นางเอาแขนคล้องคอเขาแล้วพูดว่า “พี่เขยดีที่สุด! ถ้าท่านจะลงมือทำอะไร ข้าแน่ใจว่าทุกอย่างจะออกมาดี!”
ซูอันยิ้มอย่างขมขื่น ไม่รู้ว่าทำไมฮวนเจาถึงมั่นใจในตัวเขามาก ทั้ง ๆ ที่ตัวชายหนุ่มเองยังไม่มั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย
หลังจากที่ให้นางนั่งลงในบ้านพักอาจารย์และแนะนำให้นางให้ความสนใจกับสิ่งอื่นไปก่อน ซูอันก็ไปหาเจิ้งตานที่ชั้นเรียนนภา เรื่องนี้เป็นผลงานของซ่างหงอย่างแน่นอน เขาต้องการยืนยันว่านางรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่
ทว่าไม่มีแม้แต่เงาของเจิ้งตาน เขากลับได้รับการต้อนรับด้วยเสียงที่แสดงความไม่พอใจ
เสียงของอู๋ฉิงนั้นดังที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งหมด “อาจารย์ซู ข้ารู้ว่าเจ้าคิดว่าแม่นางเจิ้งน่าดึงดูด แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถมาหานางได้ตลอดเวลา! เจ้าไม่สนใจเกี่ยวกับชื่อเสียงของนางเลยเหรอ?”
ผานหลงพูดทันที “ใช่ ใช่! เจ้าแต่งงานแล้ว! เจ้าควรเรียนรู้ที่จะทำตัวเหมือนผู้ชายที่แต่งงานแล้วเขาทำกัน!”
“นี่เจ้ามาทำอะไรที่นี่? แม่นางเจิ้งกำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้!”
ตอนนี้ซูอันจำได้ว่าเจิ้งตานได้หยุดมาที่สถาบันจันทร์กระจ่างมาระยะหนึ่งแล้ว เขาไม่มีเวลาทะเลาะกับคนเหล่านี้และจากไปอย่างรวดเร็ว
เขาจงใจอ้อยอิ่งที่ประตูสถาบันจันทร์กระจ่าง ทำให้ดูเหมือนว่าเขาจากไปแล้ว เจียงลั่วฝูจะได้ปกปิดได้ง่ายขึ้น
จากนั้นเขาก็ตรงไปที่คฤหาสน์ตระกูลเจิ้ง ทั้งตระกูลถูกประดับประดาด้วยโคมไฟและธงที่เขียนข้อความแสดงความยินดีซึ่งแขวนอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เขาเดินตรงไปที่ทางเข้าหลัก
ยามเฝ้าประตูหยุดเขาเมื่อเห็นการมาถึงของเขา “คุณหนูใหญ่กำลังจะแต่งงานในวันพรุ่งนี้ นางจะไม่พบกับชายอื่นในเวลานี้”
ใบหน้าของซูอันมืดลง “ข้าแน่ใจว่าเจ้าจำครั้งสุดท้ายที่ข้ามาที่นี่ได้ บอกนางว่าข้ากำลังตามหานาง แล้วนางก็จะยอมเจอข้า”
“นี่…” ยามเฝ้าประตูคนนี้จำเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ได้จริง ๆ บุคคลนี้ดูค่อนข้างสำคัญต่อคุณหนูใหญ่ของพวกเขา
ซูอันโยนแท่งเงินให้ยามเฝ้าประตู เขายิ้มอย่างดีใจทันที “นายน้อย โปรดรอที่นี่ บ่าวจะไปส่งข่าวให้คุณหนูใหญ่ก่อน”
หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนเชิญเขาเข้าไปข้างใน
“อาซู ทำไมท่านถึงมาที่นี่?” เจิ้งตานไล่คนรับใช้ของนางและมองเขาด้วยความประหลาดใจ
เจิ้งตานสวมชุดแต่งงานสีแดงหรูหราแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นการเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงานในวันรุ่งขึ้น
นางดูมีเสน่ห์อย่างยิ่งในชุดแต่งงาน อย่างไรก็ตาม ดวงตาของนางมีสีแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางร้องไห้มาเมื่อไม่นานมานี้
“วันนี้เจ้าดูสวยมากจริง ๆ” แม้ว่าเขาจะมีความขุ่นเคืองอยู่ในใจ แต่รูปร่างหน้าตาของนางช่างงดงามเหลือเกิน
เจิ้งตานเม้มริมฝีปาก ดวงตาของนางแดงก่ำ “ข้าเริ่มที่จะเสียใจกับเหตุการณ์ในตอนนี้แล้ว บางทีท่านควรพาข้าหนีไปด้วยกันตอนนี้เลย”
ซูอันถอนหายใจ “ข้ากลัวว่ามันจะเป็นไปไม่ได้”
“เกิดอะไรขึ้น?” เจิ้งตานถามทันที มีบางอย่างผิดปกติอย่างชัดเจนกับท่าทีของเขา
ซูอันอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ เขามองนางอย่างตั้งใจ “ซ่างหงโกหกข้า เจ้ามีส่วนร่วมด้วยหรือเปล่า?”
เจิ้งตานกัดริมฝีปากอย่างแรงจนได้เลือด “ถ้าท่านไม่เชื่อข้า ข้าจะไปตระกูลซ่างกับท่านทันที!”
นางจับมือเขาแล้วเดินออกไป
ในตอนนี้ เจิ้งอวี้ถัง หัวหน้าของตระกูลเจิ้ง บังเอิญมายืนอยู่ตรงทางออกพอดี “ตานเอ๋อร์ เจ้ากำลังจะไปไหน?”
เจิ้งอวี้ถังขมวดคิ้วเมื่อเห็นมือที่เกาะกุมกันของพวกเขา
“ท่านพ่อ ข้าต้องไปเยี่ยมตระกูลซ่าง” เจิ้งตานกล่าวด้วยเสียงต่ำ
“เจ้าจะสร้างปัญหาอะไรอีก!” เจิ้งอวี้ถังโกรธทันที “พรุ่งนี้เจ้าจะแต่งงานกับซ่างเชียน! ใครจะไปบ้านของคู่หมั้นในเวลาเช่นนี้? มันผิดฤกษ์ผิดยาม!”
“ไม่เกี่ยว! ข้าต้องไปเยี่ยมตระกูลซ่าง!” เจิ้งตานแย้ง
“ไม่ได้ วันนี้ห้ามไปไหน! ตานเอ๋อร์ เจ้าเชื่อฟังพ่อมาตลอดตั้งแต่ยังเล็ก วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?” เจิ้งอวี้ถังมองไปที่ซูอัน “ผู้ชายคนนี้ทำอะไรเจ้าหรือเปล่า?”
เขารู้ว่าลูกสาวของเขาเคยเข้าหาซูอันเพื่อขโมยตั๋วหนี้จากบ่อนโกยเงิน แต่ตอนนี้ทำไมดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาเสียแล้ว?
ซูอัน…ไอ้ตัวบัดซบ! ไอ้นี่มันเชี่ยวชาญในการขโมยหัวใจของสาว ๆ จากตระกูลใหญ่เกินไปหรือเปล่า?
—
ท่านยั่วยุเจิ้งอวี้ถังสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 432!
—
“ข้าไม่เกี่ยวอะไรกับเขา…” เจิ้งตานอธิบายอย่างรวดเร็ว
ซูอันตัดบทนาง “พอแล้ว ข้าเชื่อคำพูดของแม่นางเจิ้ง ข้ายังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ต้องดูแล ขอลาก่อน”
ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบจากไป
เจิ้งตานทำท่าจะไล่ตามเขา แต่พ่อของนางหยุดนางไว้ด้วยสีหน้าอึมครึม “ตานเอ๋อร์ เจ้าควรบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
…
หลังจากออกจากตระกูลเจิ้งแล้ว ซูอันก็ใช้เวลาในการเตรียมตัว การเผชิญหน้ากับซ่างหงในตอนนี้นั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง เพราะอาจจะเป็นการเดินเข้าไปในกับดัก สิ่งสำคัญที่สุดของเขา คือการหาวิธีทำให้ตระกูลฉู่พ้นภัย
เขาเกิดความคิดขึ้นอย่างหนึ่ง จากนั้นจึงหยิบกระจกออกมาเพื่อเรียกฉู่ชูเหยียน