หลังจากที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้สิ่งที่หลี่ว์ซู่พูดเธอก็จากไป เธอมาได้ตามเขาไปที่ท่าเรืออาร์เตมอีกแล้ว คนที่หลี่ว์ซู่อยากให้ไปที่ท่าเรืออาร์เตมน้อยที่สุดคือหลี่ว์เสี่ยวอวี๋นี่แหละ เพราะผู้ควบคุมถ่ายรูปของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋และวิญญาณของเธอไว้แล้ว เธออาจจะเป็นหนึ่งในแผนของพวกมันก็ได้
ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็ได้ยินเสียงดังมาจากที่ไกลๆ เขาหันไปและพบว่ามีพวกผู้บำเพ็ญลับร่างกายกำยำกำลังกดผู้บำเพ็ญลับอีกคนลงบนพื้นเพื่อค้นหาของในตัวเขา ผู้บำเพ็ญคนนั้นดิ้นอยู่บนพื้น แต่ผู้บำเพ็ญลับร่างกายกำยำแข็งแรงกว่าจนเขาดิ้นไม่หลุด
“แกกล้าขโมยของจากเพื่อนเหรอ!” ผู้บำเพ็ญลับบนที่อยู่บนพื้นตะโกน แต่ก็ไม่ได้ผล
“จะเป็นเพื่อนกันหรือเปล่าฉันไม่สนหรอก ฉันนี่เพื่อหาเงิน องค์กรใหญ่ๆ ไม่สนใจชีวิตพวกเราด้วยซ้ำ แล้วแกมีสิทธิ์อะไร”
ผู้บำเพ็ญลับเจอช็อคโกแลตไม่กี่ชิ้นจากตัวเขา “ถ้าแกมีช็อคโกแลตซ่อนไว้อีกก็รีบเอาออกมาเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากที่พวกเขาหยิบช็อคโกแลตออกมาได้แล้ว พวกผู้บำเพ็ญลับคนที่โดนเอาของไปก็มามองหน้าคนอื่นๆ อย่างก้าวร้าว
หลี่ว์ซู่มองเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยสายตาเย็นชา คนพวกนี้โง่เง่าได้แม้ในกระทั่งตอนที่เกิดความวุ่นวาย เมื่อโลกอยู่ในสถานการณ์ปกติ คนพวกนี้จะยับยั้งตัวเองไว้ไม่ให้ทำเรื่องแย่ๆ แต่ในตอนที่โลกกำลังวุ่นวายแบบนี้พวกเขาไม่มีความยับยั้งชั่งใจอะไรเลย และคนที่อ่อนแอกว่าจึงตกเป็นเหยื่อของคนที่แข็งแรงกว่า
ผู้บำเพ็ญลับไม่มีศีลธรรมกันมากเท่าไหร่อยู่แล้ว และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
หลี่ว์ซู่ไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว อีกอย่างคนพวกนี้ก็บุกรุกเข้าไปในภูเขาจั่งไป๋ หลี่ว์ซู่หวังว่าคนพวกนี้จะฆ่ากันเองเร็วๆ นี้นะ
กลุ่มผู้บำเพ็ญลับพวกนั้นอยู่ห่างไกลจากเขาไป หลี่ว์ซู่ไม่ได้กังวลว่าเขาจะเข้าไปเกี่ยวกับปัญหาคนอื่นหรือเปล่า เขาแค่หวังว่าผู้บำเพ็ญลับพวกนี้จะไปถึงท่าเรืออาร์เตมสักที เขาจะได้หายเข้าไปในฝูงชนแหละปลอมตัว
ในตอนนั้นเองกลุ่มผู้บำเพ็ญลับร่างกายกำยำเริ่มจะทะเลาะกับกลุ่มผู้บำเพ็ญลับที่อยู่ข้างๆ แล้ว แต่ยังไม่ได้สู้กัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะชอบเรื่องอะไรแบบนี้กัน เพราะพวกเขากำลังหัวเราะเสียงดัง
หลี่ว์ซู่รู้สึกสะเทือนใจที่เห็นว่ามนุษย์นั้นช่างประหลาดเสียจริง ผู้บำเพ็ญลับพวกนี้สามารถมาฆ่าอีกฝ่ายได้ถ้าพวกเขาร่วมมือกัน แต่ก็ไม่มีใครเคลื่อนไหวอะไร
เมื่อผู้บำเพ็ญลับคนหนึ่งเห็นเขากำลังถูกเอาของไป เขาก็รีบหันหลังวิ่งหนีทันที แต่ไม่นานกลุ่มผู้บำเพ็ญลับร่างกำยำก็ตามเขาทัน พวกนั้นต่อยเขาจากข้างหลังศีรษะ ผู้ที่หลบหนีไปก็นอนกองอยู่บนพื้นและกระตุกอยู่สองสามครั้ง
ผู้บำเพ็ญลับที่เพิ่งโจมตีออกไปตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาพลิกตัวอีกฝ่ายและตรวจดูลมหายใจ “มันตายแล้ว!”
ผู้บำเพ็ญลับคนที่เพิ่งฆ่าคนเริ่มจะทำอะไรไม่ถูก เหมือนกับนี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคนตาย เขาแค่อยากจะแกล้งเฉยๆ ไม่ได้กะจะเอาให้ตาย
หนึ่งในกลุ่มของผู้บำเพ็ญลับร่างกำยำหัวเราะออกมาเสียงดัง “ก็ดีเหมือนกัน มันจะได้ไม่ต้องหนี ไหนมาดูสิว่าในตัวมันมีอะไรบ้าง”
ชีวิตของคนคนหนึ่งไม่มีค่าสำหรับพวกเขาเลย ฆาตกรคนที่ฆ่าดูตกใจและทำอะไรไม่ถูก แต่ก็ค่อยๆ กลับกลายเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นแทน
หลี่ว์ซู่หัวเราะอย่างเย็นชา นี่มันเป็นธรรมชาติของมนุษยิ์สินะ
ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็ถึงกับผงะเมื่อเขาเห็นคลาวด์อีปะปนอยู่ในฝูงชน เธอยังตามเขามาอยู่และเธอก็แต่งหน้าแบบเดิมด้วย
เมื่อวานหลี่ว์ซู่พยายามเพ่งมองฝูงชนและเห็นว่าคลาวด์อีหายตัวไปแล้ว แต่วันนี้เธอกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง เธอถึงกับแต่งหน้าใหม่อีกรอบด้วย
แต่ตอนนี้หลี่ว์ซู่เริ่มมีความหวังขึ้นมา เพราะคลาวด์อียืนอยู่ข้างๆ ผู้บำเพ็ญลับที่เพิ่งโดนฆ่าไป และฝูงชนคงจะถูกดึงดูดด้วยความสวยของเธอแน่ ถึงตอนนี้เธอกำลังใช้เครื่องสำอางปกปิดความสวยงามที่แท้จริงของเธออยู่ก็เถอะ
อย่างที่คาดไว้เลยว่ามีผู้บำเพ็ญลับคนหนึ่งกำลังตกตะลึงเมื่อเห็นเธอ เขายิ้มออกมาและยื่นมือออกไปสัมผัสตัวคลาวด์อี
วันนี้เขาโชคดีชะมัดที่เจอสาวสวยคนนี้ระหว่างทางหนี!
หลี่ว์ซู่รู้สึกเศร้าใจให้กับความโชคร้ายของเขา ใจหนึ่งเขาก็รู้สึกสนุกที่เห็นปรมาจารย์หุ่นเชิดเจอเรื่องแบบนี้เข้า อีกใจหนึ่งเขาก็สงสารที่ชีวิตของผู้บำเพ็ญลับคนนี้จบเห่แล้ว นายจะไปจีบปรมาจารย์หุ่นเชิดแบบนั้นเลยเหรอ เธอเป็นยอดฝีมือสูงสุดของโลกแห่งการฝึกฝนบำเพ็ญเลยนะ!
แต่ทำไมคลาวด์อีถึงไม่ยอมฆ่าเขาสักทีล่ะ ดูจากนิสัยของเธอแล้วเธอก็น่าจะฆ่าเขาทันทีเลยสิ พวกคนร้ายมีความเชื่อของตัวเอง และการปกป้องโลกนี้ก็ดูเหมือนจะขัดกับความเชื่อของพวกเขา ปรมาจารย์หุ่นเชิดจะต้องฆ่าสิ
จากนั้นคลาวด์อีก็หันมาหาหลี่ว์ซู่และยิ้มให้เขาแปลกๆ ยิ้มของเธอเจิดจ้าจนเกือบทำให้หลี่ว์ซู่ตาบอด
แล้วในตอนที่มือของผู้บำเพ็ญลับคนนั้นแตะบนตัวของคลาวด์อี เธอก็รีบยืนขึ้นและวิ่งมาหาหลี่ว์ซู่ เธอจับมือหลี่ว์ซู่ไว้แน่นและบีบเสียงให้น่าสงสาร “ช่วยฉันด้วยค่ะ!”
หลี่ว์ซู่งง
เอาจริงเหรอเนี่ยพี่สาว ถ้าจะฆ่าเขาก็ทำได้ไปนานแล้ว ทำไมจะต้องเอาฉันไปเกี่ยวด้วยเนี่ย
หลี่ว์ซู่เป็นคนที่ดูการต่อสู้เมื่อครู่และกินขนมในมือไปด้วยก็เท่านั้น แต่ตอนนี้กลายเป็นว่ามีผู้คนจำนวนหนึ่งหันมาหาเขาแล้วตะโกนใส่ “จับมันไว้!”
แล้วเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยวะเนี่ย!
กลุ่มผู้บำเพ็ญลับหัวเราะอย่างเย็นชาและเดินเข้าไปหาหลี่ว์ซู่ เมื่อหลี่ว์ซู่เห็นอย่างนั้นแล้วเขาก็อยากจะตอกกลับว่า ‘ไม่ใช่เรื่องของแก!’ แต่คลาวด์อีกลับกระซิบเบาๆ “จำฉันได้ยังไงเนี่ย ใช้วิธีอะไรอยู่ใช่หรือเปล่า”
หลี่ว์ซู่หันไปหาผู้บำเพ็ญลับพวกนั้นและพูดกับพวกเขาด้วยน้ำเสียงรักความยุติธรรม “อย่าคิดจะแตะต้องเธอเชียวนะ”
พอหลี่ว์ซู่พูดจบ เขาก็ไม่รู้ว่าคลาวด์อีเองก็อึ้งไปเช่นกัน เธอจำได้ว่านานมาแล้วตอนเธอยังเด็ก มีผู้ชายร่างสูงกำยำเคยปกป้องเธอไว้แบบนี้เหมือนกัน จากนั้นเธอก็ตามเขาไปทุกหันทุกแห่ง ฆ่าคนไปไม่รู้กี่ศพ และจากนั้นคนคนนั้นก็ตายไป
คลาวด์อีไม่เคยคิดว่าที่เป็นเหมือนพ่อจะปรากฏตัวขึ้นมา เธอไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำที่ไม่เคยได้ยินมานาน นี่เป็นเหมือนกับการกลับชาติมาเกิด หรือนี่อาจจะเป็นโชคชะตาก็ได้
เมื่อหลี่ว์ซู่พูดจบ เขาก็เห็นว่าคลาวด์อีเอนกายทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดมาที่เขา เหมือนกับว่าเธอกำลังสูดหายใจอย่างหนัก เธอที่เป็นปรมาจารย์หุ่นเชิดที่แสนจะเก่งกาจคนนั้นตอนนี้เป็นเหมือนกับลูกแมวที่ซบบนตัวเขา
ร่างของหลี่ว์ซู่แข็งทื่อ อย่าทำอย่างนี้ได้ไหมพี่สาว ฉันตกใจแล้วนะ…
เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ปรมาจารย์หุ่นเชิดต้องการอะไรกันแน่นะ
ผู้บำเพ็ญลับพวกนั้นกำลังมองหลี่ว์ซู่ พวกเขาเห็นพลังของหลี่ว์ซู่แล้วและรู้ว่าเขาแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าพวกเขาเดินกลับไปตอนนี้ เขาจะมีหน้าไปเจอผู้บำเพ็ญคนอื่นได้อย่างไร พวกนั้นคงจะไม่กลัวพวกเขาแล้วน่ะสิ
ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็เห็นอีกคนปรากฏตัวขึ้นอยู่หลังพวกผู้บำเพ็ญลับ กระบี่สีแดงพุ่งผ่านด้านหลังผู้บำเพ็ญลับที่อยู่ข้างหน้าเขา หลี่ว์ซู่จำคนนี้ได้ เขาคือปรมาจารย์หุ่นเชิดมารโลหิตที่หลี่ว์ซู่เคยเจอที่โบราณสถานเกาะช้างนี่นา!