บทที่ 705 ยอดอัจฉริยะ
บทที่ 705 ยอดอัจฉริยะ
ซูอันรู้สึกตกใจขณะที่เขาเห็นดาบที่แทงเข้ามา โชคดีที่เขาเฝ้าระวังอยู่เสมอ เมื่อเห็นความเร็วที่อีกฝ่ายกำลังปิดระยะห่าง เขาก็ไม่กล้าลังเลและเรียกใช้งานจ้าววายุเคลื่อนที่ห่างออกไปหลายจั้งในชั่วพริบตา
ติ้งรุ่นไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น
แม้แต่ในฝันร้ายที่มืดมนที่สุดของเขา เขาไม่เคยจินตนาการว่าเขาซึ่งเป็นผู้บ่มเพาะชั้นยอดจะล้มเหลวในการสังหารคนที่ถูกผนึกพลังชี่ไว้ ซึ่งไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
“ผนึกของเจ้าถูกปลดด้วยงั้นเหรอ?”
เขาสับสนมาก สิ่งนี้ก็ไม่สมเหตุสมผลเลย!
หรือต่อให้อีกฝ่ายผนึกจะถูกปลดแล้ว เขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ในระดับที่สี่หรือห้าเท่านั้น การฆ่าผู้บ่มเพาะระดับต่ำกว่ามากเช่นนี้ควรจะง่ายพอ ๆ กับการเชือดไก่ แต่ไอ้เด็กคนนี้กลับหลบหลีกการโจมตีของเขาได้อย่างไร?
กลุ่มนักโทษด้วยกันแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมซูอันถึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระเช่นนี้ มิหนำซ้ำยังรวดเร็วจนมองตามไม่ทัน
ซ่างเชียนรู้สึกหดหู่มากขึ้น เขาตระหนักดีว่าดาบนั้นหากมุ่งเป้ามาที่เขา ตัวเองย่อมไม่มีทางที่จะสามารถหลบหลีกได้แม้ในยามปกติก็ตาม นับประสาอะไรกับในตอนนี้ที่พลังชี่ของเขาถูกผนึกไว้
เขาไม่คิดว่าซูอันซึ่งเขาเคยดูถูกมาตลอดจะมีความสามารถขนาดนี้ ความรู้สึกต่าง ๆ นับล้านปะทุขึ้นในหัวใจของเขา
“เจ้าคิดยังไงล่ะ?” ซูอันรู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อยเมื่อเห็นต้นไม้เล็ก ๆ ตรงที่เขาเคยยืนถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ ในทันที เขาจะประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับต้นไม้นั่นถ้าช้าไปแม้แต่ครู่เดียว
โชคดีที่จ้าววายุไม่ได้รับผลกระทบจากผนึก ติ้งรุ่นผู้ที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่จำเป็นต้องเดา ข้าแค่ต้องฆ่าเจ้าให้ได้ก็พอ!”
หลังจากเอ่ยจบเขาพุ่งตัวเข้าหาซูอันอย่างรวดเร็วกว่าครั้งที่แล้วและฟันดาบออกในแนวขวางปลดปล่อยคลื่นพลังดาบกวาดออกไปคล้ายกับเป็นการโจมตีระยะไกลเพื่อเผื่อเอาไว้หากซูอันถอยหลังหลบเลี่ยงการโจมตีของเขาอีก เพราะต่อให้ซูอันเคลื่อนที่ในพริบตาถอยหลังออกไป พลังดาบของเขาก็จะกวาดไปถึงอีกฝ่ายอยู่ดีเมื่อท่าของอีกฝ่ายสิ้นสุดลง
แต่ดูเหมือนว่าซูอันจะอ่านความคิดของติ้งรุ่นออก! คราวนี้เขาไม่ได้ใช้จ้าววายุเพื่อถอยหลัง แต่หลีกไปด้านข้างแทน!
ดาบของติ้งรุ่นพบกับอากาศที่ว่างเปล่าอีกครั้ง เขายืนนิ่งและเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
ซูอันไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่ในขณะนี้ แม้ว่าเขาจะสามารถใช้จ้าววายุได้ต่อเนื่องมากกว่าแต่ก่อน แต่มันก็ยังมีขีดจำกัด เขาจะไม่สามารถทนได้ถ้าชายผู้นี้ยังคงโจมตีต่อไปเรื่อย ๆ
ติ้งรุ่นหันกลับไปมองซูอันเขาตั้งข้อสังเกตด้วยเสียงต่ำว่า “บอกตามตรง ข้าประทับใจมาก เด็กคนไหนที่สามารถหลีกเลี่ยงการจู่โจมจากข้าได้สองครั้งถือเป็นอัจฉริยะ หากมีเวลาเพียงพอ ความสำเร็จในอนาคตของเจ้าอาจเกินกว่าข้าด้วยซ้ำ น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่ได้ใจดีนัก”
จากนั้นเขาก็ไม่ได้โจมตีแบบเดิมอย่างที่เคยทำกับซูอัน เขากลับยกดาบขึ้นและดีดใบดาบแทน
ซูอันตื่นตระหนกจนขนหัวลุก ไอ้ดาบนี้เองที่ทำลายซ่างหง! ซูอันรีบใช้จ้าววายุพุ่งไปด้านข้างโดยไม่ลังเล
อย่างไรก็ตามติ้งรุ่นไม่ได้หยุด นิ้วของเขาดีดดาบครั้งแล้วครั้งเล่า
คราวนี้ซูอันไม่ได้เรียกจ้าววายุเพราะเขาใช้มันไปแล้วสามครั้งติดต่อกัน และเขาต้องการเก็บการใช้งานอันมีค่าไว้ในช่วงเวลาสำคัญ
เขากลับไปใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันแทน แม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังชี่เพื่อแยกร่างออกเป็นสามได้ แต่ทักษะนี้ก็ยังให้ความสามารถในการหลบหลีกที่ดีแก่เขา
“หืม?” ติ้งรุ่นเริ่มสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ เจิ้งตานซึ่งเคยเห็นสิ่งนี้มาก่อนจึงไม่แปลกใจนัก แต่ทั้งซ่างหงและซ่างเชียนต่างมองตากัน
“คนผู้นี้เป็นอัจฉริยะจริง ๆ!” ซ่างหงถอนหายใจ น่าเสียดายจริง ๆ ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างซูอันและลูกชายของเขาไม่เลวร้ายนัก เขาคงจะทุ่มสุดตัวเพื่อคว้าเด็กคนนี้มาไว้ข้างกาย
ภายในใจของซ่างเชียนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา มันช่างอึดอัดใจจริง ๆ เมื่อเห็นคนที่เขาเคยดูถูกมีความสามารถเหนือกว่าตัวเองมากขนาดนี้
ติ้งรุ่นขมวดคิ้ว นิ้วของเขาดีดใบดาบด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ พลังดาบพุ่งออกด้วยความถี่ที่มากขึ้น มุ่งหน้าไปทางซูอันจากมุมที่ยากต่อการคาดเดามากขึ้น
ไม่นานนัก ช่องว่างขนาดใหญ่ของระดับการบ่มเพาะของพวกเขาทั้งสองก็เริ่มส่งผล และยิ่งไปกว่านั้นพลังชี่ของซูอันก็ถูกผนึกไว้ด้วย ดังนั้นแม้ว่าซูอันจะเป็นผู้มีทักษะการเคลื่อนไหวอันยอดเยี่ยมมาก แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่มีทางที่จะหลบเลี่ยงทุกการโจมตีได้
ท้ายที่สุดเขาก็พลาดท่าเคลื่อนไหวช้าไปเพียงเสี้ยววินาที พลังดาบที่มองไม่เห็นได้เฉือนเข้าที่ต้นขาของเขา
อาการบาดเจ็บกะทันหันนี้ทำให้การเคลื่อนไหวของเขาช้าลงทันที และต่อมาพลังดาบอีกสายได้สร้างบาดแผลลึกที่หน้าอกของเขา ในขณะที่พลังดาบอีกทิศทางหนึ่งฟันแผ่นหลังส่วนล่าง
“ว้าย!” เจิ้งตานร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก ใบหน้าของนางซีดเผือดไปหมด อย่างไรก็ตาม นางได้ถูกปิดผนึกพลังชี่ไว้เช่นกัน นางจึงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้
การได้เห็นคู่หมั้นของเขาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อชายอีกคนหนึ่งทำให้ซ่างเชียนโกรธจัด
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 999!
—
อย่างไรก็ตาม เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าเมื่อไหร่ที่ซูอันตาย เขาจะเป็นรายต่อไป นี่คือเหตุผลที่ซ่างเชียนไม่มีอารมณ์จะตะโกนด่าได้ในตอนนี้
“ห๊ะ?” ความรู้สึกไม่สบายใจแปลก ๆ เข้ามาในจิตใจของติ้งรุ่น พลังดาบล่องหนของเขาน่าจะเอาชีวิตผู้บ่มเพาะระดับสี่หรือห้าได้อย่างง่ายดาย เด็กซูอันคนนี้ควรจะแหลกเป็นชิ้น ๆ แต่ผลลัพธ์ที่ประจักษ์แก่สายตากลับเป็นแค่อีกฝ่ายมีบาดแผลลึกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น
“อันที่จริงข้าคิดอยู่เหมือนกันว่าจะแกล้งตาย แต่พอคิดไปคิดมาแล้ว มุขตื้น ๆ แบบนั้นคงตบตาคนอย่างเจ้าไม่ได้ง่าย ๆ” ซูอันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากแอ่งเลือดของตัวเอง ช่างน่าเสียดาย! นักฆ่าคนนี้ฉลาดเกินไป…ข้าอยากจะแอบจิ้มเขาด้วยแท่งพิษสักที
เจิ้งตานเอามือปิดปากทันทีเมื่อเห็นเขาลุกขึ้นยืน ดวงตาของนางเริ่มเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำตา นางเต็มไปด้วยความสุขและความเหลือเชื่อ
แม้แต่ซ่างเชียนยังต้องยกย่องซูอัน นี่มันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? บาดเจ็บขนาดนี้แต่ยังไม่ตาย ร่างกายของมันแข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ?
ติ้งรุ่นมองไปที่ซูอันและเอ่ยชม “ความแข็งแกร่งของร่างกายของเจ้าเกินความคาดหมายของข้ามาก แม้แต่ผู้บ่มเพาะระดับสูงหลายคนก็ถือว่าด้อยกว่าเจ้า”
ในฐานะนักฆ่า เขาเข้าใจขีดจำกัดทางกายภาพของแต่ละระดับการบ่มเพาะที่แตกต่างกันดี ความเข้าใจดังกล่าวมีความสำคัญต่อการรู้ว่าเขาต้องใช้กำลังมากเพียงใดเพื่อยุติชีวิตของเป้าหมายแต่ละคน
ซูอันถอนหายใจ “ข้าไม่รู้ว่าข้าควรจะมีความสุขหรือเศร้าหลังจากได้ยินคำชมของเจ้า”
ติ้งรุ่นเผยรอยยิ้มให้เห็นฟันขาวของเขาอีกครั้ง “เจ้าควรจะรู้สึกแย่มากกว่าเพราะข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ อีกแล้ว…”
เขาดีดใบดาบอีกครั้งทันที และพลังดาบล่องหนจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งเข้าหาซูอันด้วยความรุนแรงที่เหนือกว่าเดิมมาก