บทที่ 711 จุดอ่อน
บทที่ 711 จุดอ่อน
“ไม่!” ซ่างเฉี่ยนโกรธจัดและเบือนหน้าหนี เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้พยายามหยอกล้อนาง!
นางจะยอมรับมันให้เข้าทางเขาได้ยังไง?
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับศักดิ์ศรี เรายังไม่ออกจากป่า สิ่งสำคัญคือต้องฟื้นฟูพละกำลังของเราเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ซูอันคว้ามือนางไว้แล้ววางยาไว้ในฝ่ามือนาง
ผู้หญิงคนนี้ช่วยเขาปลดผนึกและต่อสู้เคียงข้างผู้หญิงที่เขาผูกพันธ์อีกสองคน ไม่มีทางที่เขาจะไม่ตอบแทนบุญคุณนี้
และ…มือของนางก็นุ่มนิ่มดีไม่น้อย…
ซ่างเฉี่ยนตกตะลึง นางเองก็ตระหนักเช่นกันว่าการฟื้นฟูคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ แม้ว่านางจะมียาของตัวเอง แต่ก็คงไม่ได้ดีเท่ากับยาของหมอเทวะจี้
ดังนั้นนางจึงยื่นมือออกไปอีกรอบ “ขออีกสองเม็ด!”
ซูอันสูดหายใจเข้าอย่างแรง เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าให้ได้อีกแค่เม็ดเดียวเท่านั้น!”
ไม่มีทางที่เขาจะมอบยาที่ล้ำค่านี้ให้กับซ่างเชียน
ซ่างเฉี่ยนขมวดคิ้วและเข้าใจความหมายของเขาอย่างชัดเจน นางไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ แต่รับยาและรีบไปหาสมาชิกในครอบครัวของนาง นางเสนอยาเม็ดทั้งสองและพูดเบา ๆ ว่า “ท่านพ่อ พี่ใหญ่กินยาเร็วเข้า”
ซ่างเชียนกินยาทันที ซ่างหงขมวดคิ้วและพูดว่า “แล้วเจ้าล่ะ?”
ซ่างเฉี่ยนมองซูอันซึ่งอยู่ห่างออกไป “ข้ามีวิธีของข้า”
ซ่างหงรู้ว่าลูกสาวของเขามีสติปัญญาเฉียบแหลม ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนางมากเกินไป เขากลืนยาเม็ดคืนวิญญาณเช่นกันและเริ่มควบคุมการหายใจของตัวเอง
น่าเสียดายที่เขาใช้งานร่างกายหนักจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มันจึงไม่ง่ายเลยที่จะฟื้นตัว แม้จะมียาที่คุณภาพดีเช่นนี้
ซ่างเฉี่ยนเดินกลับไปที่ซูอัน มือของนางอยู่ด้านหลัง นางไม่ได้พูดอะไร แต่นั่งลงและเริ่มควบคุมลมหายใจ
ซูอันขมวดคิ้ว “เจ้าให้ยานั้นกับพี่ชายของเจ้าเหรอ?”
“ใช่” ซ่างเฉี่ยนพยักหน้า แต่ไม่มีปฏิกิริยาอื่นใด
“ทำไมไม่ขอเพิ่มล่ะ?” ซูอันถามด้วยความสงสัย
ซ่างเฉี่ยนลืมตาและพูดช้า ๆ “แค่เจ้ามอบยาสองเม็ดให้แก่ข้า ข้าก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว อีกทั้งเจ้ายังแสดงออกชัดเจนว่าเจ้าไม่ต้องการมอบมันให้พี่ชายของข้า ดังนั้นข้าจึงรับผิดชอบโดยเลือกที่จะมอบของข้าเองให้เขา ไม่มีทางที่ข้าจะไร้ยางอายขอเจ้าอีกเม็ดหนึ่ง”
ซูอันรู้สึกประหลาดใจ “ข้าไม่คิดว่าแม่นางซ่างจะมีคุณธรรมเช่นนี้ เจ้าดูมีหัวคิดและมีจิตใจที่ดีกว่าพี่ชายของเจ้ามาก อันที่จริงข้ามีนิสัยชอบสนับสนุนหญิงสาวที่มีคุณธรรมเช่นเจ้า เอาเป็นว่าข้าจะให้เจ้าอีกเม็ดก็แล้วกัน”
“นั่น… ข้าไม่ยอมรับอะไรแบบนั้นหรอก” ซ่างเฉี่ยนดูเป็นกังวล แต่นางก็แอบดีใจ จุดอ่อนของชายคนนี้คือสาวสวย!
ซูอันหัวเราะคิกคัก “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ตอนนี้พวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ดังนั้นเราควรช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
เขาให้ยาเม็ดคืนวิญญาณอีกหนึ่งเม็ดแก่นาง
ซ่างเฉี่ยนไม่ได้ปฏิเสธเขา แต่ยื่นมือของนางออกมาแทน “ขอบคุณพี่ใหญ่ซู”
ซูอันหัวเราะอย่างเต็มที่ “ด้วยความยินดี!”
แต่แล้วในที่สุดซูอันก็เข้าใจความจริง เมื่อเขาเห็นซ่างเฉี่ยนเดินกลับไปหาซ่างหงอีกรอบ เขาตกหลุมพรางของหญิงสาวคนนี้แล้ว! นางเดินไปถึงตรงนู้นแล้ว แต่จู่ ๆ ก็เดินกลับมานั่งใกล้กับเขาอีกรอบ นางจะทำแบบนี้ทำไมถ้านางไม่สนใจยาของเขาจริง ๆ?
แทนที่จะโกรธ เขากลับพบว่าตัวเองสนใจนางมากขึ้น พี่ชายของนางค่อนข้างหยาบคายและใจร้อน แต่น้องสาวคนนี้ค่อนข้างฉลาด
ชายหนุ่มส่ายหัว ตอนนี้มันไม่มีประโยชน์ที่จะคิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ เขานั่งลงเพื่อปรับลมหายใจและมุ่งเน้นการฟื้นตัว เขาไม่ได้กินยาแต่อาศัยวิชาปฐมบทแรกเริ่มซ่อมแซมร่างกายอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน
ยิ่งไปกว่านั้น การอยู่ในสภาพบาดเจ็บในปัจจุบันจะทำให้เขาแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากวิชาวัฏจักรหงส์อมตะ ตอนนี้อันตรายยังไม่ผ่านพ้นไป ดังนั้นจึงควรระมัดระวังให้ตลอดเวลา
เขาสังเกตเห็นด้วยความประหลาดใจว่าอักขระตัวที่ห้าบนร่างกายของตัวเองถูกเติมเต็มไปแล้วประมาณสองส่วน ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการถูกโจมตีอย่างรุนแรงในการต่อสู้เมื่อครู่นี้
อักขระที่ห้านี้ต้องใช้ผลไม้พลังชี่ 2,178,309 ผลเพื่อเติมเต็ม!
สองในสิบส่วนนั้นเทียบเท่ากับผลไม้พลังชี่มากกว่าสี่แสนผล หากสิ่งนี้ถูกแปลงเป็นคะแนนความโกรธแค้น มันจะกลายเป็นตัวเลขที่เกินเอื้อมอย่างไร้สาระยิ่งกว่าเดิม
การถูกทุบตีนั้นได้ผลมากกว่าการกินผลไม้พลังชี่จริง ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุดคือการเพิ่มระดับการบ่มเพาะของเขาไม่เท่ากันทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเสมอไป เมื่อตอนที่อยู่ในมิติลับหยกจรัสได้เผชิญหน้ากับหมี่ลี่ ขณะนั้นสภาพของเขาเลวร้ายกว่านี้เยอะ
แต่ทว่า…ความคืบหน้าของระดับการบ่มเพาะในตอนนั้นหากเทียบเป็นคะแนนความโกรธแค้นแล้วมันน้อยกว่ารอบล่าสุดนี้มาก
มันเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนของการบ่มเพาะในปัจจุบันของข้างั้นเหรอ?
ซูอันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าระบบนี้ทำงานอย่างไร
ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพอใจ แม้ว่าการถูกทุบตีเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะของเขาจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเสน่หานัก แต่เขาก็สามารถฆ่านกสองตัวด้วยหินก้อนเดียว ทั้งพัฒนาความแข็งแกร่งของตัวเองและเอาใจหญิงสาว ดูสิว่าเจิ้งตานรักเขาแค่ไหนเมื่อเขาใช้ร่างกายของตัวเองปกป้องนาง!
มันไม่ใช่แค่นางเช่นกัน แม้แต่ความคิดเห็นของซ่างเฉี่ยนที่มีต่อเขาก็เปลี่ยนไป
เขาหัวเราะกับตัวเองแต่จู่ ๆ เสียงของชายชราผู้หนึ่งก็ดังก้องกังวานในอากาศ “ใครกันที่ฆ่าสมาชิกเผ่าของข้า!”
ทุกคนตกตะลึง เมื่อหันไปดู พวกเขาสังเกตเห็นร่างที่ค่อย ๆ เดินออกมาจากท่ามกลางต้นไม้
ชายชราผมหงอกที่รูปร่างไม่สูงใหญ่นักเดินมาข้างหน้าพร้อมไม้เท้าในมือ ชายชราคนนี้ดูเหมือนชายชราทั่วไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาปรากฏตัวในภูเขาลึกเช่นนี้ ไม่มีทางที่ใครจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นชายชราธรรมดา
เขาคู่หนึ่งโผล่ออกมาจากด้างข้างเหนือขมับของชายชรา ภาพนี้ทำให้ใบหน้าของทุกคนตกตะลึง ทันใดนั้นพวกเขาก็จำได้ว่าชายชราลึกลับคนนี้เป็นใคร!
นี่คือคนที่ทำให้ราชโองการซึ่งเป็นอาวุธทรงพลังที่สุดของทูตยุทธ์เสื้อแพรเป็นงูสิ้นพิษด้วยคำพูดคำเดียว ซึ่งทำให้ทูตยุทธ์เสื้อแพรล้มตายไปทีละคนก่อนที่จะถูกทำลายล้างในที่สุด
นี่คือผู้อาวุโสเผ่ามังกรดึกดำบรรพ์! ซูอันรู้สึกหวาดกลัว
เกิดอะไรขึ้น? มีคนเคยบอกว่าเผ่าพันธุ์มังกรไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกไม่ใช่หรือ? เขาควรจะจากไปหลังจากใช้ทักษะวิญญาณประกาศิต! ทำไมถึงยังอยู่ที่นี่?
ชายชราคนนี้คงบังเอิญเห็นมังกรแดงที่เขาเรียกออกมากลางอากาศ ดังนั้นจึงมาที่นี่เพื่อตรวจสอบ
ทำไมวันนี้มันถึงมีแต่เรื่องบ้า ๆ เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน!
ใจเขาเต้นแรง แต่ใบหน้ายังคงเผยรอยยิ้ม “ท่านต้องล้อเล่นแน่ ๆ! หนึ่งในเผ่าพันธุ์ของท่านจะอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ผู้อาวุโสมังกรมองเขา แล้วกวาดสายตามองไปยังคนอื่น ๆ ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ “เป็นพวกเจ้านี่เอง!”
สายตาของเขายังคงมองหาไปเรื่อย ซึ่งชัดเจนว่าเขากำลังมองหาพวกภูตดำ ทว่าเขากลับไม่เห็นวี่แววใด ๆ ของกลุ่มที่เขามองหา
ซูอันหัวเราะและพูดว่า “ช่างเป็นเรื่องบังเอิญ! ข้าไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีก ผู้เยาว์ขอคารวะ ว่าแต่จะให้ข้าเรียกท่านว่าอะไรดี?”
ผู้เฒ่ามังกรตอบกลับ “ผู้เฒ่าคนนี้มีนามว่า อ้าวเฉวียน!”
ซูอันตกตะลึง ผู้เฒ่าคนนี้มีแซ่ว่า ‘อ้าว’!
มันค่อนข้างคล้ายกับนามสกุลของมังกรในนิยายแฟนตาซีของโลกก่อนหน้านี้ มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญจริง ๆ เหรอ?
เขาสงบความคิดฟุ้งซ่านอย่างรวดเร็วก่อนจะประสานมือกล่าวว่า “คารวะผู้อาวุโสอ้าว ก่อนหน้านี้ท่านไม่ได้จากไปแล้วเหรอ?”
อ้าวเฉวียนหัวเราะและกล่าวว่า “ผู้เฒ่าผู้นี้สัมผัสได้ถึงพลังชี่ที่หนาแน่นในที่แห่งนี้ และตัดสินใจเดินเล่นรอบภูเขาเพื่อบ่มเพาะต่อไป แต่ไม่นึกเลยว่าข้าจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเผ่าข้า รวมไปถึงกลิ่นอายแห่งความตาย”
ข้าคงจะเชื่อเจ้าหรอก! เจ้าสามารถบ่มเพาะได้ทุกที่ที่ต้องการทำไมเจ้าถึงเลือกฝึกในภูเขาลูกนี้?
เรื่องที่เกี่ยวกับการไม่แยแสต่อเรื่องทางโลกนั้นน่าจะเป็นเรื่องจอมปลอมทั้งหมด ข้าจะไม่แปลกใจเลยหากเขาแค่รอเวลาอยู่ข้างนอก รอโอกาสที่จะฉวยทุกสิ่งในตอนสุดท้าย!