บทที่ 715 กลิ่นน้ำหอม
บทที่ 715 กลิ่นน้ำหอม
“อาซู!”
พิจารณาจากความเร็วอันน่าสะพรึงกลัวที่เขาตกลงมา กระดูกส่วนใหญ่ของเขาควรจะแตกหักเมื่อกระทบกับพื้น เพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตานรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อรับตัวเขาโดยไม่เกรงกลัวอันตราย
แรงกระแทกมหาศาลจากร่างกายของซูอันทำให้พวกนางทั้งสองได้รับบาดเจ็บจนกระอักเลือด
อ้าวเฉวียนหัวเราะอย่างมุ่งร้าย “ใครจะไปคาดคิดว่าตัวน่ารังเกียจอย่างเจ้ากลับมีเหล่าสตรีที่ห่วงใยเจ้ามากขนาดนี้? ก็ดี เช่นนั้นข้าจะส่งพวกเจ้าทุกคนลงไปอยู่ในนรกด้วยกันให้หมด!”
พูดจบมันใช้กรงเล็บขนาดใหญ่กวาดใส่คนทั้งสามตั้งใจจะให้ตายตกไปตามกันด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“ระวัง!”
ซ่างเฉี่ยนร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก นางไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่นางไม่ต้องการเห็นซูอันพบกับจุดจบ อาจเป็นเพราะพวกนางได้ต่อสู้เคียงข้างกันก่อนหน้านี้ หรือบางทีอาจเป็นเพราะรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ประดับบนใบหน้าของเขาเมื่อกอดนาง…
ซ่างเชียนแสดงสีหน้าบิดเบี้ยวทันทีเมื่อเห็นน้องสาวของเขาเป็นห่วงซูอัน นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเห็นแม้แต่น้อย
ซ่างหงมองลูกสาวอย่างประหลาดใจ ถ้าเขารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ จะกลายเป็นแบบนี้ เขาคงจะพาลูกสาวของเขาไปที่เมืองจันทร์กระจ่างแต่แรก!
น่าเสียดายที่ไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้…
กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่พอ ๆ เนินเขาลูกเล็ก ๆ กวาดลงมา ซูอันรีบผลักหญิงสาวสองคนออกไปหลายจั้ง จากนั้นก็เปิดใช้งานจ้าววายุและเคลื่อนย้ายไปในทิศทางตรงกันข้าม
เกิดเสียงดังกึกก้อง ทุกสิ่งที่อยู่รอบ ๆ สถานที่ที่พวกเขาเพิ่งยืนอยู่ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงรอยกรงเล็บที่ลึกและน่าสะพรึงกลัวเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าตัวเองโจมตีพลาด อ้าวเฉวียนก็ไม่ได้ไล่ตามซูอัน
เขาเย้ยหยันว่า “เจ้าคิดว่าข้าจะตามเจ้าไปเหรอ? ข้ารู้ว่าผู้หญิงสองคนนั้นสำคัญกับเจ้ามากถึงขนาดยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยพวกนาง! ข้าจะฆ่าพวกนางโดยที่เจ้าทำได้แค่มองเฉย ๆ! เลือดของพวกนางจะเปื้อนมือเจ้า!”
จากนั้นมันก็โฉบเข้าไปหาผู้หญิงทั้งสอง
เพ่ยเหมียนหมานรีบคว้าเจิ้งตานและวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แม้แต่ซูอันที่มีวิชาร่างก้าวทานตะวันและจ้าววายุก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโจมตีของมังกรยักษ์ตัวนี้ได้ พวกนางทั้งสองจะทำได้อย่างไร?
ตอนนี้พวกนางสามารถเห็นเขี้ยวมหึมาอันน่าสยดสยองรวมถึงได้กลิ่นปากเหม็นเน่าของมันอย่างชัดเจน
“น่าเสียดาย! ถ้าข้ายังหนุ่ม ข้าจะใช้เวลาเล่นกับพวกเจ้าสองคนให้สนุก แต่ผู้เฒ่าคนนี้ไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกต่อไป พวกเจ้าทั้งสองก็ตายไปก็แล้วกัน!”
เขาบินไปหาหญิงสาวทั้งสองและอ้าปากจะขย้ำพวกนาง เนื้อของหญิงสาวสองคนนี้จะต้องอร่อยเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
“อ๊า!”
ซ่างเฉี่ยนร้องออกมาด้วยความตกใจ นางเบือนหน้าหนีไม่อยากดูสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ซ่างเชียนก็เต็มไปด้วยความเสียใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าคู่หมั้นของเขาจะต้องมาตายในวันนี้ ส่วนหญิงสาวหน้าอกใหญ่ก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของไอ้ซูอัน ไอ้สารเลว!
—
ท่านยั่วยุซ่างเชียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 452!
—
ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง น่าเสียดายที่ความแตกต่างระหว่างการบ่มเพาะของเขาและของคู่ต่อสู้นั้นมีมากเกินไป จึงไม่มีทางที่เขาจะช่วยพวกนางได้ทันเวลา
เขาไม่มีทางเลือกจริง ๆ นอกจากต้องดูพวกนางตายตกไปต่อหน้า?
ไม่ ไม่เด็ดขาด!
สมองของเขาเริ่มทำงานด้วยความเร็วแสง เขาคิดถึงทักษะทั้งหมดที่มี เพื่อดูว่ามีวิธีช่วยพวกนางหรือไม่
ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันใด เขาตะโกนออกมา “ไอ้จิ้งจกเฒ่า เจ้าก็แค่ยอมรับมาตรง ๆ กับเราก็ได้ว่านกเขาของเจ้ามันไม่แข็งแล้ว! ทำไมเจ้าต้องหาข้ออ้างทำให้ตัวเองดูดีด้วย?”
“อะไรนะ?!” แม้ว่าเขาจะรู้ว่าซูอันกำลังยั่วโมโห แต่อ้าวเฉวียนก็รู้สึกเลือดขึ้นหน้า เขาเปลี่ยนความตั้งใจเขาต้องกำจัดไอ้เด็กปากสุนัขนี่ซะก่อน!
เขาเลิกโจมตีเพ่ยเหมียนหมานและเจิ้งตาน ก่อนจะฟาดหางใส่ซูอัน
ซูอันกลัวว่าเพ่ยเหมียนหมานและหญิงสาวคนอื่น ๆ จะถูกโจมตีอีกครั้งหลังจากนี้ ดังนั้นจึงใช้จ้าววายุในการเคลื่อนย้ายตัวเองเข้าไปในป่าทันที
ขณะที่เขาวิ่ง เขาก็ตะโกนยั่วยุอย่างต่อเนื่อง “เป็นอะไรไป? เจ้าร้อนตัวเพราะสิ่งที่ข้าพูดเป็นความจริงใช่สินะ? ฮ่า ๆ สิ่งที่ข้าพูดมันเป็นความจริงทั้งหมด เจ้ามันก็แค่จิ้งจกแก่ที่เสื่อมสมรรถภาพ!”
อันที่จริงเพื่อประโยชน์ในการช่วยชีวิตผู้หญิงสองคน เขาได้ใช้ทักษะปากอาจมดึงเอาความเกลียดชังทั้งหมดของอ้าวเฉวียนมาใส่ตัวเขาเอง ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จะไม่จบลงจนกว่าคนใดคนหนึ่งจะตาย
เขาคงไม่ใช้ความสามารถนี้ ถ้ามีทางเลือกอื่น แต่เขาก็ไม่สามารถมองเห็นหญิงสาวทั้งสองคนตายได้ นี่คือเหตุผลที่ซูอันต้องยอมเสี่ยง
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!” ดวงตาของอ้าวเฉวียนเปลี่ยนเป็นสีแดง สิ่งเดียวที่เขาคิดคือฉีกร่างชายคนนี้ออกจากกันและค่อย ๆ ทรมานจนตาย เขาไม่สนใจแม้แต่วิชาวัฏจักรหงส์อมตะอีกต่อไป
เมื่อตอนนี้การยั่วยุของเขาประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม ซูอันก็ไม่ลังเลที่จะใช้จ้าววายุหนีเอาชีวิตรอด
แต่ ไม่ว่าเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน มังกรตัวนี้ก็สามารถไล่ตามเขาได้ง่าย ๆ ด้วยการโบกสะบัดปีกเพียงไม่กี่ครั้ง ต้องสาปแช่งร่างกายที่ใหญ่โตของมัน
“พี่หญิงใหญ่! พี่หญิงใหญ่!” ซูอันตะโกนเรียกหมี่ลี่แต่ก็ไม่มีการตอบสนอง
ผู้หญิงคนนี้พึ่งพาไม่ได้เลย!
ซูอันสาปแช่ง นางไม่เคยปรากฏตัวออกมาตอนที่เขาตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ
แต่คิดอีกทีเขารู้ดีว่าการเรียกนางแบบนี้บ่อย ๆ เป็นเรื่องที่ไม่สมควร นางเคยเตือนเขาก่อนหน้านี้ว่าเขาพึ่งพานางมากเกินไปยามที่เขาลำบากซึ่งมันจะส่งผลเสียทำให้ไม่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างเหมาะสม
หลังจากพยายามหลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดซูอันก็ยอมแพ้ที่จะหนีต่อไป เพราะเขาใช้จ้าววายุถึงขีดจำกัดแล้ว ถึงเวลาตายแล้วใช่ไหม?
“หยุดวิ่งทำไม? เจ้าเหนื่อยแล้วเหรอ?” อ้าวเฉวียนยิ้มอย่างชั่วร้ายขณะที่เขากระโจนใส่ซูอัน
ซูอันใช้ร่างก้าวทานตะวันหลบหลีกพร้อมกับใช้กระบี่ไท่เอ๋อร์จ้วงแทงสวนออกไป ทั้งสองแลกเปลี่ยนการโจมตีกันสิบครั้ง ในการแลกเปลี่ยนครั้งสุดท้าย การเคลื่อนไหวของซูอันนั้นช้าเกินไปเล็กน้อย แขนของเขาถูกกรงเล็บมังกรเฉือนจนเป็นแผลลึก และกระบี่ไท่เอ๋อร์ก็กระเด็นออกจากมือของเขาปักลึกเข้าไปในต้นไม้ใกล้ ๆ
“เป็นกระบี่ที่ดี! มันจะเป็นของข้าเมื่อข้าจัดการกับเจ้าแล้ว!” อ้าวเฉวียนกระทืบเท้าของมันไปที่หน้าอกของซูอันโดยตั้งใจจะเหยียบให้แบน
เมื่อต้องเผชิญกับความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันมาก แผนการใด ๆ ทั้งหมดล้วนไร้ประโยชน์ ด้วยสีหน้าลังเล ซูอันได้เริ่มพิจารณาทางเลือกที่เหลือของเขาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นก็มีริ้วสีม่วงพุ่งตรงมาก่อนที่เท้าของมังกรจะถึงตัว ร่างที่สวยงามก็ดึงตัวซูอันหลบไปด้านข้าง
หัวใจของซูอันระเบิดด้วยความปีติยินดีและประหลาดใจในขณะที่เขาได้กลิ่นหอมที่คุ้นเคยของสาวงามที่แพรวพราวนี้ “ท่านมาทำอะไรที่นี่!?”