บทที่ 757 งูประหลาด
หลังจากพูดจบประโยค ซูอันก็ยื่นมือออกไปและค่อย ๆ ถอดกะโหลกออกเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในกันแน่?
ทันทีที่เขายกโครงกระดูกนี้ขึ้นมา แสงสีฟ้าทั้งสองดวงในเบ้าตาของโครงกระดูกกลับสว่างจ้า แล้วพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของซูอันอย่างแรง!
ซูอันระบุได้ทันทีว่าแสงสองดวงนั้นคืออะไร?!
พวกมันไม่ใช่ผี แต่พวกมันเป็นงูสองตัวที่หน้าตาแปลกประหลาด!
งูสองตัวนี้มีขนาดไม่ใหญ่ รูปร่างของพวกมันก็ผอมมากเช่นกัน แต่มีขนาดหัวค่อนข้างโต
มันมีตุ่มขนาดใหญ่บนหัว และมีสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นดวงตาแต่ถูดจัดวางเป็นแนวตั้งอยู่บนตุ่มนั้น ซึ่งซูอันถือได้ว่าน่าจะเป็นใบหน้าของมัน ดวงตาที่แปลกประหลาดนี้เปล่งประกายด้วยแสงสีน้ำเงิน
งูธรรมดามีตาที่ด้านข้างของหัวของมันมีขนาดเล็กและกลมเสมอกัน ไม่เพียงแต่ตาของงูตัวนี้ถูกจัดวางเป็นแนวตั้งเท่านั้น แต่งูตัวนี้มีตาเพียงดวงเดียว ซึ่งทำให้พวกมันยิ่งดูแปลกประหลาดมากเข้าไปใหญ่!
ทั้งตัวของมันมีลวดลายสีดำและสีแดง และลักษณะเฉพาะของมันบ่งชี้ว่าพวกมันเป็นงูพิษร้าย
ซูอันได้เตรียมตัวเองเพื่อรับมือกับการถูกโจมตีอย่างกะทันหันเอาไว้แล้ว ขณะที่งูพุ่งเข้ามา เขารีบตวัดกระบี่ไท่เอ๋อร์ของเขาอย่ารวดเร็วเพื่อฟันงูสองตัวขาดจนเป็นสี่ส่วน
ดวงตาของซูอันก็หรี่ลงทันที เพราะงูพวกนี้ดูเหมือนจะไม่สูญเสียแรงที่พุ่งมาข้างหน้าเลย แม้ว่ามันจะถูกแยกร่างเป็นสี่ส่วน
จากนั้นเขาก็จำได้ว่างูยังคงสามารถเคลื่อนไหวได้หลังจากสูญเสียหัว มีหลายกรณีที่ผู้คนเสียชีวิตจากการที่ถูกหัวงูที่ถูกตัดนั้นกัดตาย
“ไม่ดีแล้ว!” งูสองตัวนี้เร็วและอยู่ใกล้เขามาก ดังนั้นจึงไม่มีอะไรอื่นที่ซูอันสามารถทำได้
เขาทำได้เพียงสวดอ้อนวอนให้ความสามารถในการฟื้นฟูอันทรงพลังของเขาสามารถต้านทานพิษของงูเหล่านี้ได้
แต่แล้วในช่วงเวลาอันคับขันจู่ ๆ เปลวไฟสีดำลุกโชนพุ่งผ่านเข้ามา และงูทั้งสองตัวก็ถูกไฟเผาจนไหม้เกรียมทันที
ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเพ่ยเหมียนหมานที่ก้าวเข้ามาช่วยเขา ซูอันรู้สึกถึงเหงื่อเย็นที่อาบหลังของเขาเอง
เขามองนางด้วยความขอบคุณ “เหมียนหมานใหญ่ ข้าคงตายไปแล้วถ้าเจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่กับข้า”
เพ่ยเหมียนหมานยิ้ม “เจ้าเองก็ช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว”
รอยยิ้มของนางก็หยุดนิ่งอย่างรวดเร็ว “ข้าคิดว่ามันจะดีที่สุดถ้าเราออกจากที่นี่ได้โดยเร็ว”
ซูอันหันกลับไป ขณะนี้รอบตัวพวกเขามีแสงสีฟ้าในกระโหลกที่เริ่มเคลื่อนไหว งูประหลาดเลื้อยออกจากกระโหลกศีรษะเหล่านั้น โดยกะโหลกจำนวนมากมีงูสองตัวอาศัยอยู่ และพวกมันก็เข้าปกคลุมพื้นดินอย่างยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
ที่นี่มีซากศพนับพัน พวกเขาจึงสามารถเดาได้เลยว่าคงมีงูไม่ต่ำกว่าหลายพันอยู่ที่นี่
“พวกเราออกไปจากที่นี่กันเถอะ!” ซูอันหันหลังวิ่งและดึงเพ่ยเหมียนหมานไปพร้อมกับเขา งูเลื้อยมาหาพวกเขาจากทุกทิศทุกทาง
โดยปกติแล้ว ผู้บ่มเพาะอย่างพวกเขาควรจะเร็วกว่างูมาก แต่งูพวกนี้ไม่ปกติอย่างสิ้นเชิง พวกมันเคลื่อนไหวเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อและไม่ได้ถูกทิ้งห่างเลย
ซูอันพยายามวิ่งซิกแซกไปมา เขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหลีกเลี่ยงงูเหล่านั้นไม่ให้ล้อมรอบเขาได้ และเมื่อไหร่ที่ถูกปิดกั้นเส้นทาง เขาจะใช้กระบี่ไท่เอ๋อร์ฟาดฟันเหล่างูเพื่อเปิดเส้นทาง
สถานที่แห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก ซูอันประมาณการว่ามันมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลสามสี่สนามประกอบกัน อย่างไรก็ตาม ในเมื่อเขาเป็นผู้บ่มเพาะ ดังนั้นเขาจึงวิ่งเร็วกว่าคนธรรมดามาก แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะใหญ่แต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการสำรวจอย่างเต็มที่
น่าเสียดายที่งูแปลก ๆ เหล่านี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งและไม่เลิกไล่ตามพวกเขา ขณะที่พวกเขาวิ่งผ่านกองกระดูกขาวมากขึ้น งูก็ยิ่งผสมโรงไล่ตามมามากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่มีทางที่ซูอันจะสามารถหยุดมันได้ ถ้าเขาหยุดวิ่ง ฝูงงูคงไล่มาทัน เมื่อเขาฟันงูสองสามตัวที่เข้าใกล้เกินไป เขาสังเกตเห็นว่าเลือดของพวกมันเหมือนกรดที่ลุกไหม้อยู่บนพื้น เลือดของพวกมันเป็นพิษและมีความกัดกร่อนสูง ถ้าเขาปล่อยให้งูพวกนี้รุมทำร้าย ชะตากรรมคงน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้
การวิ่งต่อไปมันเหมือนยิ่งเป็นการดึงดูดความสนใจงูเหล่านี้มากขึ้นเรื่อย ๆ มันแทบจะไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้
ความหวังเดียวคือการหาทางออกจากสถานที่แห่งนี้เท่านั้นจึงจะมีโอกาสรอด
หลังจากที่วิ่งไปรอบ ๆ หลุม พวกเขาก็หมดหวัง นอกจากโครงกระดูกและงูประหลาดแล้ว ก็ไม่มีอะไรอื่นอีก และทางออกก็ไม่มีเช่นกัน
“อาซู เราจะยังไงต่อไปดี??” เพ่ยเหมียนหมานตื่นตระหนกและไม่มีความกล้าหาญอีกต่อไป ใบหน้าของนางซีดเผือด
ในฐานะผู้บ่มเพาะ นางไม่กลัวความตาย
อย่างไรก็ตาม มันมีหลายวิธีที่จะตาย!
ถ้านางถูกคนอื่นฆ่ามันก็ไม่เป็นไร แต่การถูกกัดแทะโดยฝูงงูและตายอย่างช้า ๆ นั้นช่างน่ากลัวเกินกว่าที่นางจะรับไหว
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าทำไมโครงกระดูกพวกนั้นถึงไม่มีบาดแผล พวกมันคงถูกงูพิษพวกนี้กัดกิน! งูเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก ดังนั้นฟันของพวกมันจึงไม่ทิ้งร่องรอยที่มองเห็นได้บนกระดูก หลังจากที่คนเหล่านี้เสียชีวิตจากพิษของงู งูก็จะกินเนื้อจากศพของพวกเขาจนเกลี้ยงเกลา…
เมื่อคิดภาพที่งูเหล่านี้จะเข้าไปในร่างกายของนาง และออกมาจากเบ้าตาของนาง…เพ่ยเหมียนหมานก็ตัวสั่นด้วยความกลัว
ความคิดแวบผ่านเข้ามาในหัวของซูอันอย่างรวดเร็ว มันจะเป็นการต่อสู้ที่ไร้ชัยชนะหากพวกเขายืนหยัดต่อสู้กับงูจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนนี้ เขาต้องคิดหาทางอื่น
แต่พวกเขาได้ตรวจสอบหลุมนี้ทั้งหมดแล้ว และไม่พบทางออกใด ๆ
หลุมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อการเข่นฆ่าอย่างชัดเจน กำแพงนั้นลื่นและปีนขึ้นไปไม่ได้ และยังมีม่านพลังอยู่เหนือพวกเขา ซึ่งทำให้ไม่สามารถกระโดดหนีออกไปทางด้านบนได้ ผู้สร้างสถานที่แห่งนี้ไม่คิดจะยอมให้เหยื่อหลุดรอดไปแม้แต่รายเดียว
ซูอันอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่กำลังคืบคลานเข้ามาในจิตใจ ทำไมพวกเขาต้องตกลงมาในหลุมนี้ด้วย?
หืม?
เดี๋ยวนะก่อนหน้านี้ตอนที่ตกลงมายังไม่มีไอ้ม่านพลังนั่นเลย! ไม่มีทางที่ม่านพลังนั้นจะอนุญาตให้เข้าได้อย่างเดียวแต่ออกไม่ได้ใช้ไหม? ข้าไม่คิดว่ามันจะก้าวหน้าขนาดนั้น
เขารีบสำรวจบริเวณโดยรอบ กำแพงรอบตัวพวกเขาล้วนเป็นแนวตั้งอย่างสมบูรณ์ แต่เขาแน่ใจว่าพวกเขาลื่นไถลลงมาตามทางลาด แม้ว่าทางลาดนั้นจะสูงชัน แต่ก็ไม่ใช่แนวดิ่งที่สมบูรณ์อย่างแน่นอน
“อาซู?” เพ่ยเหมียนหมานเห็นซูอันเหม่อลอย นางจัดการกับงูที่เข้ามาด้วยเปลวไฟสีดำขณะที่นางตะโกนใส่เขา