เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 769 ผู้ปกป้อง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

———-

บทที่ 769 ผู้ปกป้อง

เดี๋ยวนะ…!

จู่ ๆ ก็มีความคิดบางอย่างเกิดขึ้น เขาจำสารคดีที่ระบุว่าเหตุผลที่อารยธรรมจีนสามารถสืบหาต้นกำเนิดร่วมกันได้เสมอ นั่นก็เป็นเพราะว่าผู้คนในหลายพันปีต่อมาสามารถเข้าใจงานเขียนของบรรพบุรุษเมื่อหลายพันปีก่อนได้ตลอดเวลา

ทำไมพวกเขาถึงรู้จักตัวอักษรโบราณ? เห็นได้ชัดว่างานเขียนควรมีวิวัฒนาการที่เก่ากว่ารุ่นต่อรุ่น

ตัวอักษรของคนรุ่นหลังพัฒนามาจากตัวอักษรของราชวงศ์ฉินซึ่งมีจำนวนอักษรน้อยกว่า และอักษรในภาษาของราชวงศ์ฉินก็มาจากภาษาโบราณที่ถูกสลักอยู่บนศิลาจารึกที่มีจำนวนอักษรน้อยกว่าซะอีก

ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไร อักษรภาษาโบราณบนศิลาจารึกทั้งหลายย่อมต้องเกี่ยวพันกับอักษรของคนรุ่นหลังเสมอ อักษรโบราณอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าใจ แต่ด้วยสมมติฐานตอนนี้ทำให้เขารู้อยู่แล้วว่าอักษรเหล่านี้ตรงกับตัวเลขตั้งแต่หนึ่งถึงเก้า เขาน่าจะคิดออกได้หากเขาตรวจสอบอย่างรอบคอบ

เขามองไปที่สัญลักษณ์ที่ดูเหมือนตรีศูลที่มีเพลาโค้งและตั้งใจวิเคราะห์จากมุมต่าง ๆ

เหมือนมีอะไรดลใจใจให้เขาพลิกตรีศูลไปรอบ ๆ นี่มันเหมือนกับอักษรที่ถูกพลิกไปทางด้านซ้ายของ ‘เก้า’ (九) ใช่ไหม? เพลาโค้งตรงกับขอเกี่ยวทางด้านขวาของตัวอักษร

วงเล็บหันหน้าชนเข้าหากัน…ไม่ใช่ว่ามันดูเหมือนอักษร ‘แปด’ (八) อย่างนั้นเหรอ?

เดี๋ยวก่อน แต่ถ้านี่คือแปดแล้วสัญลักษณ์ที่ดูเหมือน 人 ล่ะ? มันไม่ใช่แปดอีกอันอย่างนั้นเหรอ? เดี๋ยวนะ บางทีไอ้ตรงที่ติดกันตรงยอดมันน่าจะคล้ายกับอักษร ‘หก’ (六) ก็ได้?

สัญลักษณ์ที่ดูเหมือนสปริงจากเกมมาริโอ้อาจเป็นอักษร ‘ห้า’ (五) ได้หรือไม่?

ส่วนสัญลักษณ์ ‘X’ หากเขาหมุนให้ดีก็จะเป็นสัญลักษณ์คล้ายกากบาทซึ่งควรเป็นอักษร ‘เจ็ด’ (七) ที่มีเพียงส่วนคล้ายตะขอที่ขาดหายไป

ซูอันตรวจสอบพวกมันอีกครั้ง แม้ว่าความคิดของเขาจะมีความสมเหตุสมผล แต่ก็ยังมีช่องโหว่ในตรรกะของเขา ตัวอย่างเช่น ถ้าเส้นแนวนอนทั้งสี่เส้นไม่ได้หมายถึงสี่ นั่นจะทำให้ทุกอย่างพังลงในทันที นอกจากนี้ เขายังไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าเขาควรคิดถึงในเรื่องของอักษรแปดและหกหรือไม่

ในขณะที่เขาคิดจนหัวแทบระเบิด เสียงคร่ำครวญคล้ายเสียงของทารกดังขึ้นอีกครั้ง ในที่สุดฝูงเทาเที่ยก็ไล่ตามพวกเขามาจนได้หลังจากที่กินศพเพื่อนของพวกมันจนหมดเกลี้ยง

“อาซู เราจะทำอย่างไรดี?” เพ่ยเหมียนหมานจ้องไปที่รูปร่างราง ๆ ของเทาเที่ยในหมอก เปลวไฟสีดำพวยพุ่งขึ้นในมือของเพ่ยเหมียนหมานขณะที่นางเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้

ทั้งสองคนไม่สามารถต้านทานฝูงเทาเที่ยได้อย่างแน่นอน

ซูอันไม่เหลือเวลาให้คิดแล้ว เขาแยกแผ่นภาพสลักหินรูปนกและเลื่อนพวกมันแต่ละส่วนไปยังตำแหน่งช่องหินที่เขาคิดว่าถูกต้อง

การออกแบบประตูค่อนข้างซับซ้อนและมีร่องสำหรับให้แผ่นชิ้นส่วนภาพสลักสี่เหลี่ยมเลื่อนไปยังตำแหน่งต่าง ๆ

เมื่อเขาเลื่อนชิ้นส่วนสุดท้ายเข้าที่ คลื่นแสงสีทองก็พวยพุ่งออกจากทั้งเก้าช่องก่อนจะค่อย ๆ ลามไปทั้งประตู

มีเสียงครืนดังสนั่นขึ้น จากนั้นประตูก็ค่อย ๆ เปิดออก

เพ่ยเหมียนหมานมองไปที่ซูอันด้วยความประทับใจ “อาซู ข้าไม่รู้จะชื่นชมเจ้าอย่างไรไหวจริง ๆ! เจ้าสามารถถอดรหัสกลไกที่ยากขนาดนี้ได้อย่างไร!?”

นางค่อนข้างมั่นใจในความฉลาดของตัวเอง แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงที่ใดเมื่อเห็นตัวอักษรโบราณเหล่านี้

“ฮ่า ๆ มีเรื่องที่น่าอัศจรรย์ของข้าอีกมากมายให้เจ้าได้รู้ในอนาคต” แม้ว่าซูอันจะพูดจาอวดดี แต่ในใจก็รู้สึกผิดเล็กน้อย เขาสามารถถอดรหัสกลไกนี้ได้เพียงเพราะตัวเองมีความรู้มาจากโลกที่แล้วตอนดูสารคดีและอ่านหนังสือบ้าง ไม่เช่นนั้นแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน

“คนขี้อวด!” เพ่ยเหมียนหมานกลอกตา นางไม่รู้ว่าชูเหยียนสังเกตเห็นก่อนคนอื่นได้อย่างไรว่าซูอันมีความพิเศษเช่นนี้ แต่นางไม่มีอารมณ์ที่จะคิดถึงเรื่องพวกนั้นในตอนนี้ นางดึงซูอันไปที่ประตูและพูดว่า “พวกเทาเที่ยกำลังจะตามมาทันแล้ว! พวกเรารีบเข้าไปกันเลยดีกว่า!”

เมื่อพวกเขาวิ่งผ่านประตูไปแล้วจึงมองหาวิธีที่จะปิดประตูอีกครั้งเพื่อกันพวกเทาเที่ยไว้ข้างนอก แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถปิดประตูได้ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไรก็ตาม

สถานการณ์เริ่มเลวร้ายและพวกเขาไม่มีเวลามากพอที่จะค้นหากลไกการปิดประตู ซูอันทำได้เพียงคว้ามือเพ่ยเหมียนหมานและวิ่งเข้าไปให้ลึกกว่าเดิม

เสียงเทาเที่ยตัวที่วิ่งนำหน้าสุดวิ่งเร็วกว่าตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด มันกรีดร้องขณะที่มันวิ่งเต็มฝีเท้าไปที่ประตู แต่ในขณะที่มันกำลังจะก้าวเข้าสู่ประตูหิน จู่ ๆ มีลำแสงเย็นวาบปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันส่งผลให้ทั้งร่างของมันแข็งค้างในทันที

โครงกระดูกตัวแรกที่เพ่ยเหมียนหมานเห็นซึ่งดูแข็งแกร่งมากค่อย ๆ ยืนขึ้น และเลือดสีเขียวข้นหยดหนึ่งก็หยดออกจากหอกในมือของมันและตกลงสู่พื้นด้วยเสียงแผ่วเบา

ร่างกายที่แข็งค้างของเทาเที่ยสั่นเทาครู่หนึ่ง และอึดใจต่อมาศีรษะอันใหญ่โตของมันก็ค่อย ๆ แยกออกจากร่างและหล่นลงที่พื้น

โครงกระดูกมองไปที่เทาเที่ยก่อนจะหันศีรษะไปทางประตูหิน ปากของมันส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าด และเสียงคำพูดอันคลุมเครือหลายคำเปล่งออกมาว่า “ปกป้อง… ผู้บุกรุก… กำจัด…”

มันค่อย ๆ เดินไปที่ประตูหินพร้อมกับหอกในมือ

มันดูเหมือนว่ามันเพิ่งตื่นจากการหลับใหล ในตอนแรกการเคลื่อนไหวของมันค่อนข้างติดขัดเล็กน้อย แต่เมื่อมันยิ่งเดิน ร่างกายของมันก็ยิ่งดูคล่องแคล่วขึ้นและการเคลื่อนไหวของมันก็ค่อย ๆ ราบรื่นขึ้นเช่นกัน

เทาเที่ยตัวอื่น ๆ วิ่งออกมาจากหมอก พวกมันเอียงศีรษะเล็กน้อยเมื่อเห็นเพื่อนที่ถูกตัดหัว พวกมันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมเทาเที่ยตัวที่แข็งแกร่งที่สุดและวิ่งเร็วที่สุดของพวกมันจึงกลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณของพวกมันเอาชนะความอยากรู้ของพวกมันเองอย่างรวดเร็ว พวกมันกระโจนเข้าใส่สหายที่ล่วงลับของพวกมันและกัดกินศพอย่างมูมมาม

ท้ายที่สุดแล้ว ในเทพนิยายจีน เทาเที่ยนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวแทนของความตะกละ พวกมันจะกินทุกอย่างที่หาได้ และตามตำนานเล่าว่าบางครั้งมันตะกละมากจนลงเอยด้วยการกินร่างของมันเองจนเหลือแต่หัว…

ทุกอย่างเรียบร้อยดีเมื่อซูอันและเพ่ยเหมียนหมานเดินผ่านประตูเข้าไป เพียงแค่แสงจากภายนอกก็เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะมองเห็นทางข้างหน้า

ข้างหน้าพวกเขาเป็นทางกว้างและตรงอย่างสมบูรณ์ ข้างทางเรียงรายไปด้วยรูปปั้นหินของสัตว์ต่าง ๆ สัตว์บางชนิดเป็นสัตว์ธรรมดา เช่น ม้า ช้าง เสือ และอูฐ แต่บางรูปปั้นกลับมีรูปลักษณ์ที่แปลกประหลาด และทั้งสองก็ไม่สามารถระบุได้ว่ามันคือตัวอะไร

ซูอันกลัวว่ารูปปั้นหินเหล่านี้อาจมีบางอย่างแปลก ๆ แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่แสดงสัญญาณแห่งชีวิตใด ๆ

แต่เพื่อให้แน่ใจ ชายหนุ่มจึงบอกให้เพ่ยเหมียนหมานเผารูปปั้นสัตว์บางตัวด้วยเปลวไฟสีดำของนาง ซึ่งท้ายที่สุดก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ จากพวกมัน

ทั้งสองผ่อนคลายลง “พวกมันน่าจะเป็นรูปปั้นหินในสมัยโบราณ” ซูอันตั้งข้อสังเกต “ซึ่งอาจหมายความว่ามีสุสานขนาดใหญ่อยู่ข้างหน้า แต่ข้ารู้สึกว่าที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับสุสานเลย สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ขณะนี้และประตูหินนั่น มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราอยู่ในวังมากกว่า”

“ต่อไปเราก็คงเห็นเองว่าที่นี่เป็นสุสานหรือพระราชวัง แต่ตอนนี้หาที่ซ่อนกันก่อนเถอะ” เพ่ยเหมียนหมานยังคงกลัวเรื่องเทาเที่ย นางไม่ต้องการพบเจอพวกมันอีกต่อไป

“ตกลง” ซูอันรู้เช่นกันว่าพวกเขาควรหาที่หลบภัยเพื่อหลีกหนีพวกมันก่อน

ทั้งสองเดินไปข้างหน้า และพบว่าตนเองได้กับพบสะพานสามสะพานซึ่งพาดผ่านลำธารที่คดเคี้ยวด้านล่าง

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท