เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙] – บทที่ 774 ศัตรูคู่แค้น

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

———-

บทที่ 774 ศัตรูคู่แค้น

ขณะเดียวกัน ซูอันก็กระโจนเข้าโจมตีนักรบโครงกระดูก เขาสังเกตเห็นว่าแสงสีแดงในดวงตาของมันกะพริบ และคิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นส่วนที่ควบคุมโล่บิน ดังนั้นเขาจึงโจมตีโครงกระดูกเพื่อพยายามเบี่ยงเบนความสนใจ

นักรบโครงกระดูกกวัดแกว่งหอกของมัน เพื่อสร้างอาณาเขตรอบ ๆ ตัว ทำให้ซูอันไม่สามารถเข้าใกล้ได้

ซูอันล้มเหลวในการปะทะกันครั้งแรก และรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันในแง่ของพละกำลัง

ด้วยเหตุนี้ ชายหนุ่มจึงใช้วิชาร่างก้าวทานตะวันเพื่อแยกตัวเองออกเป็นสองร่างและโจมตีนักรบโครงกระดูกจากทิศทางที่ต่างกัน

นักรบโครงกระดูกเอียงหัวของมันราวกับงุนงง ความสับสนหมุนวนอยู่ในดวงตาสีแดง จู่ ๆ คนผู้นี้ก็แยกออกเป็นสองส่วนได้อย่างไร?

มันจึงเหวี่ยงหอกโดยไม่ลังเล ผ่าร่างทั้งสอง

แต่มันกลับตกตะลึงอีกครั้ง เพราะไม่ได้รู้สึกเพิ่งผ่าเนื้อหนังของมนุษย์แต่ตัดผ่านเพียงอากาศที่ว่างเปล่าเท่านั้น

ซูอันร่างที่สามปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของนักรบโครงกระดูก และใช้กระบี่ไท่เอ๋อร์ก็ตัดตรงคอของมัน

กระบี่ไท่เอ๋อร์นั้นคมอย่างไม่น่าเชื่อ ซูอันออกแรงอย่างเต็มที่ เขาคิดว่านักรบโครงกระดูกคงไม่อาจต้านทานการโจมตีครั้งนี้ได้ ไม่ว่ากระดูกของมันจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม

ส่วนของกะโหลกของมันตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งไปมา

โล่ซึ่งยังคงหมุนอยู่กลางอากาศพุ่งฝังเข้าไปในกำแพงราวกับถูกตัดการเชื่อมต่อ มันสูญเสียความสามารถในการโจมตีต่อไปหลังจากโครงกระดูกถูกจัดการ

ซูอันรีบเข้าไปประคองเพ่ยเหมียนหมาน “เหมียนหมานใหญ่ เจ้าเป็นอะไรไหม?”

“ข้าสบายดี” เพ่ยเหมียนหมานมองโครงกระดูกด้วยความกลัว “เราอาจจะตายไปแล้วถ้ามันตัดสินใจซุ่มโจมตีเราที่ประตู”

“แสดงว่าโชคของเราค่อนข้างดี” ซูอันหัวเราะ เขาเดินไปที่กำแพงเพื่อตรวจสอบโล่ที่ฝังอยู่ โล่อันนี้ทั้งแข็งแกร่งและถูกสร้างขึ้นมาอย่างซับซ้อนมาก มันเป็นทั้งเครื่องมือป้องกันที่ยอดเยี่ยมและเป็นอาวุธที่น่าเกรงขาม เขาสงสัยว่าจะมีวิธีที่เขาสามารถเอามันเป็นของตัวเองได้ไหม

เขาเอื้อมมือไปดึงโล่ แต่ทว่าในช่วงเวลาอึดใจนั้น จู่ ๆ โล่ก็เริ่มหมุนอีกครั้งจนหลุดจากกำแพง ซูอันหลบไปด้านข้างด้วยความตื่นตระหนก

หัวของเขาเกือบถูกผ่าครึ่งแล้ว!

“บัดซบ? มันมีสมองด้วยเหรอ?” ซูอันมองไปที่โล่บินด้วยความตกใจ

“อาซู ตรงนั้น!” เสียงของเพ่ยเหมียนหมานมีความสั่นเทาราวกับว่านางได้เห็นผี

ซูอันมองไปและตัวสั่น ร่างหัวขาดของนักรบโครงกระดูกไม่ได้ล้มลง แต่มันกลับเดินเข้าไปใกล้ส่วนกระโหลกที่ถูกฟันให้หล่นอยู่ที่พื้น ก่อนจะย่อตัวลงและปาดป่ายมือของมันไปรอบ ๆ บริเวณ ราวกับว่าอยากจะหยิบกะโหลกของตัวเองขึ้นมาต่อใหม่ แต่มันกลับมองไม่เห็น แม้ว่ากระโหลกของมันจะอยู่ในระยะเอื้อม แต่ก็ยังห่างอยู่เล็กน้อย

ซูอันตั้งสติได้ เขาคำรามก้องและพุ่งเข้าใส่โครงกระดูกโดยมีกระบี่อยู่ในมือ น่าเสียดายที่โล่บินวนมาขวางทางของเขาไว้

เคร้ง!

กระบี่และโล่ชนกันเสียงปะทะดังสนั่น ซูอันถอยหลังไปหลายก้าว

ในที่สุดโครงกระดูกที่ไม่มีหัวก็พบกระโหลกของมันแล้ว มันหยิบขึ้นมาแล้ววางบนลำคอ จากนั้นจึงบิดลงจนเข้าที่

แสงสีขาววาบปรากฏที่คอของโครงกระดูก และกระโหลกของมันก็กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกระดูกส่วนคอราวกับไม่เคยถูกฟันแยกออกจากกัน แสงสีแดงวูบวาบราวกับมีชีวิตภายในเบ้าตาปรากฏขึ้นอีกครั้ง และหอกของมันก็แทงเข้าหาพวกเขาทั้งสองคน

ซูอันหลบไปด้านข้าง “ไอ้ตัวนี้ไม่มีวันตายเหรอ?” เขาพูดด้วยความตื่นตระหนก “แล้วข้าจะปราบมันได้อย่างไร!?”

เพ่ยเหมียนหมานตอบด้วยเสียงเครียด “ให้ข้าดูก่อนว่าจะเผามันเป็นเถ้าถ่านด้วยเปลวไฟสีดำของข้าได้หรือไม่ ข้าไม่เชื่อว่ามันจะสามารถฟื้นคืนชีพได้อีกหลังจากถูกเผาจนเหลือแต่เถ้า!”

เปลวไฟพุ่งไปที่โครงกระดูก

คราวนี้นักรบโครงกระดูกไม่ใช้โล่ป้องกันตัว แต่มันกระทืบพื้นและกระโดดขึ้นไปกลางอากาศแทน

ทั้งสองคนตกตะลึง ความเร็วของมันเร็วกว่าที่คาดไว้มาก ไม่มีอะไรเหมือนกับนักรบโครงกระดูกเงอะงะที่พวกเขาคุ้นเคย

จากนั้นทั้งสองฝ่ายจึงต่อสู้กันอย่างรุนแรง เพ่ยเหมียนหมานส่งเปลวไฟไปยังโครงกระดูก แต่ก็ถูกหยุดยั้งด้วยการโจมตีกลับที่ดุร้ายเสมอ

การโจมตีของโครงกระดูกนั้นแข็งแกร่งเกินไปสำหรับพวกเขา มันฟาดหอกไปมาอย่างสลับซับซ้อน สร้างอาณาเขตรอบ ๆ ตัวมันที่พวกเขาไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้

อาวุธที่มีรัศมีการโจมตียาวเช่นหอก ปกติแล้วจะอ่อนแอกว่าในการต่อสู้ระยะประชิด แต่ในที่สุดเมื่อพวกเขาปิดระยะได้หลังจากใช้ความพยายามอย่างมาก พวกเขาก็ต้องเผชิญกับโล่หมุน ซึ่งทำหน้าที่ทั้งโจมตีและป้องกันราวกับตัวเม่น ทั้งสองไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอีกหลายครั้ง ซูอันและเพ่ยเหมียนหมานก็ถูกโจมตีและชนเข้ากับกำแพงที่อยู่ใกล้เคียง โชคดีที่ทั้งสองคนสามารถหลบได้ในวินาทีสุดท้ายและพ้นจากการถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ

นักรบโครงกระดูกหันกลับมาพร้อมที่จะไล่ตามพวกเขาอีกครั้ง

ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องคร่ำครวญมาจากที่ไกล ๆ พร้อมกับเสียงฝีเท้าหนัก ๆ

ทั้งสามหันกลับไปและได้เห็นเทาเที่ยห้าตัวค่อย ๆ ย่างเท้าเข้ามา

นักรบโครงกระดูกไม่สนใจพวกเขาทั้งสองคนอีกและชี้หอกไปที่เทาเที่ย แม้ว่ามันจะเป็นแค่กระดูก ทั้งซูอันและเพ่ยเหมียนหมานก็ยังเห็นว่ามันดุร้ายห้าวหาญยิ่งนัก!

เหล่าเทาเที่ยที่เพิ่งมาถึงไม่ได้เหลือบมองซูอันกับเพ่ยเหมียนหมานอย่างน่าประหลาด มันพุ่งกระโจนเข้าหานักรบโครงกระดูกแทน

ซูอันรู้สึกประหลาดใจ “แปลกแฮะ ธรรมชาติของเทาเที่ยควรจะตะกละเป็นที่สุด มันควรจะสนใจร่างกายที่มีเลือดเนื้อของเรามากกว่า แต่ทำไมตอนนี้มันถึงมุ่งเป้าไปโจมตีที่ไอ้เจ้าโครงกระดูกนั่นก่อน?”

“ชาวซางชอบที่จะจับเทาเที่ยมาฝึกฝนเพื่อใช้ในการต่อสู้กับอาณาจักรรอบข้าง” เพ่ยเหมียนหมานพึมพำตอบ “แต่เทาเที่ยนั้นฉลาดแกมโกงและชั่วร้าย มันไม่เต็มใจที่จะปล่อยให้ตัวเองถูกใช้แบบนั้นตลอดไป ทหารของกองทัพซางได้สังหารพวกมันไปมากมาย แต่ทหารจำนวนมากก็ถูกเทาเที่ยกินเช่นกัน ดังนั้นทหารราชวงศ์ซางและเทาเที่ยจึงนับได้ว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันที่สุดและจะพุ่งเข้าไปฆ่าฟันกันทันทีที่เผชิญหน้ากัน”

ดวงตาของซูอันเบิกกว้าง “เจ้ารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?”

เพ่ยเหมียนหมานมีสีหน้าสับสน นางลูบหน้าผากโดยไม่รู้ตัว “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ในสมองของข้า จู่ ๆ มันก็มีฉากต่าง ๆ มากมายผุดขึ้นมา ฉากพวกนี้ดูไม่คุ้นเคย แต่บางทีก็รู้สึกคุ้นเคยเช่นกัน เมื่อได้ยินคำถามของเจ้า ข้าเลยตอบไปตามสัญชาตญาณ”

ซูอันขมวดคิ้ว “มีอะไรมาบุกรุกจิตสำนึกของเจ้าหรือเปล่า?”

เขามองไปรอบ ๆ อย่างกังวล แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย “ที่นี่แปลกจริง ๆ”

เพ่ยเหมียนหมานส่ายหัว “ข้าไม่คิดอย่างนั้น ข้าไม่รู้สึกถึงอาการวิงเวียนศีรษะที่จะต้องเกิดขึ้นหากว่าข้าถูกบางสิ่งบงการ แต่ข้ากลับรู้สึกเหมือนฉากเหล่านั้นเป็นความทรงจำของข้าเอง…”

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

Status: Ongoing
ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าซูอัน ชายหนุ่มที่วันๆใช้ชีวิตคลุกตัวอยู่แต่ในโลกออนไลน์ เที่ยวยั่วยุ ปั่นประสาทผู้คนในโลกออนไลน์ให้ไม่เป็นสุขอยู่ทุกวี่วัน เป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่ใครๆต่างก็ต้องเข็ดขยาด แต่แล้ววันหนึ่ง ไม่รู้ว่าฟ้าลงทัณฑ์หรือสวรรค์บัญชา ให้เขาคนนี้ต้องพบจุดจบชีวิตที่น่าอนาถโดนฟ้าผ่าตายในขณะที่กำลังเปิดศึกคีย์บอร์ดกับคนบนโลกออนไลน์อยู่ในห้องของตัวเอง หากแต่นี่ไม่ใช่จุดจบ!ชายหนุ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในร่างใหม่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเขยใหญ่ตระกูลอ๋องฉู่ที่แสนมั่งคั่งแถมยังมีภรรยาที่สวยหยาดเยิ้มเป็นอันดับหนึ่งของมณฑลที่ใครๆต่างก็หมายปองดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตใหม่ของเขาจะโรยด้วยกลีบกุหลาบสินะ?ไม่เลย!บนโลกใบใหม่ที่เขาฟื้นขึ้นมานั้นเต็มไปด้วยผู้บ่มเพาะพลังเหนือมนุษย์มากมายแถมตำแหน่งลูกเขยอ๋องฉู่กลับทำให้เขาต้องคอยเผชิญจากการถูกลอบสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยที่เขาก็ไม่เข้าใจว่าไอ้เจ้าของร่างคนก่อนไปสร้างศัตรูเอาไว้มากมายขนาดนี้ได้ยังไง? ซ้ำร้ายร่างที่เขามาสิงสู่กลับเป็นแค่ร่างที่ไม่ได้ดีเด่ไม่มีพรสวรรค์เป็นเลิศเหมือนใครเขา ทุกคนในโลกนี้จึงต่างมองเขาเป็นแค่ไอ้คนไร้ค่าที่โชคดีถูกคุณหนูใหญ่ลูกสาวคนโตของอ๋องฉู่เลือกให้เป็นสามี อย่างเดียวที่พอจะภูมิใจได้ก็มีแต่หน้าตาที่หล่อเหลาและไอเทมสุดล้ำที่ติดตัวเขามาด้วย ซึ่งมันคือ “คีย์บอร์ดเซียน!!” ระบบสุดโกงตัวช่วยที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตยียวนผู้คนในโลกใบใหม่แห่งนี้ได้โดยที่ไม่ตายก่อนวัยอันควร!ขอเชิญติดตามเรื่องราวการผจญภัยสุดป่วนในโลกที่ไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่อยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อ ซูอัน หนุ่มสายเกรียนเซียนปั่นประสาทที่ทะลุมิติมาพร้อมระบบคีย์บอร์ดสุดยียวนคู่ใจ ความโกลาหลครั้งมโหฬารยิ่งกว่าเดิมจึงอุบัติขึ้นจนทุกคนในโลกแห่งการบ่มเพาะไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิผู้แข็งแกร่งที่สุดในใต้หล้าหรือแม้แต่ขอทานยังต้องอุทานเป็นเสียงเดียวกัน“ซูอัน! แกมันไอ้ตัวบัดซบ!!”**เนื้อหาบางส่วนของนิยายแปลเรื่องนี้ อาจมีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ และความรุนแรง**(ผู้อ่านที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท