ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย – ตอนที่ 16 ฉันละเกลียดพวกเซ้นส์ดีอย่างแกจริงๆ

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

“ฟู้ว~~”

หลังจากที่จบคาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ผมก็ขีดเส้นใต้ในส่วนที่ผมเรียนไม่เข้าใจเพราะวาคามิยะได้บอกผมเอาไว้ว่า

[ถ้าคุณไม่เข้าใจส่วนไหนก็ขีดเส้นใต้เอาไว้นะคะถึงมันจะเป็นอะไรที่ดูง่อยๆแต่ถ้าคุณไม่เข้าใจก็ขีดได้เลยค่ะไม่ต้องกังวลว่ามันจะเยอะเกินไปรึเปล่าเพราะฉันไม่แคร์ค่ะขีดเต็มที่เลยฉันจะได้ช่วยคุณได้]

และนี่ก็คือคำสั่งของวาคามิยะ ริน ไม่สิตอนนี้ผมควรจะเรียกเธอว่าอาจารย์วาคามิยะมากกว่า แต่ว่านะ…

“ฉันเล่นขีดเส้นใต้ทุกที่เลยเนี่ยสิ….ไม่น่าทิ้งการเรียนเลยเรา”

ก็อย่างที่เห็นผมไม่เข้าใจอะไรเลยเพราะตั้งแต่เข้า ม.ปลายมาเรียกได้ว่าความรู้เป็น 0 หรือก็คือตูไม่ตั้งใจเรียนนั่นเอง…

“โทวะ!?”

ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนเรียกผมพร้อมกับตบไหล่ของผมจากด้านหลังนั่นทำเอาผมตกใจไม่ใช่น้อยๆเลยละ

หลังจากนั้นผมก็หันไปจ้องที่ต้นตอของเสียงก่อนที่จะบ่นออกไป

“….อย่าตะโกนแบบนั้นสิฟระ ฉันตกใจนะเฟ้ย”

“อา…อื้ม โทษที”

ซึ่งคนๆนั้นก็คือเคนอิจิและในตอนนี้เขาก็กำลังเกาแก้มของตัวเองพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างใสซื่อ

รอยยิ้มนั่นมันอะไรกันโคตรจะหล่อบาดไตเลยนี่หว่าถ้าต้องให้คะแนนแล้วละก็มันผมให้เต็ม100เลยละ นี่สินะที่มาของคำว่าคนมันจะหล่อทำอะไรมันก็หล่อไปหมด

“แล้วมีอะไรล่ะ”

“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันต่างหากที่อยากถามนาย?”

“ห๊ะ?”

ผมเอียงศรีษะด้วยความสงสัย นี่ผมทำอะไรแปลกๆไปงั้นเหรอ?

“ก็วันนี้นายไม่ได้หลับในคาบเรียนนี่นา”

“อ่ะอ๋อ..คือว่านั่นมัน..”

จากที่เคนอิจิพูดมาผมก็พอจะเข้าใจคร่าวๆแล้วล่ะ

เพราะโดยปกติแล้วผมนั้นมักจะหลับในคาบเรียนอยู่เสมอนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขามาถามผมแบบนี้สินะ

“นายไม่สบายงั้นเหรอ? หรือนายโดนข่มขู่?”

“ไม่ว้อยยย ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ ที่ฉันไม่หลับก็เพราะฉันนั่งเรียนอยู่ไง”

“บ้าน่ะเป็นไปไม่ได้…ฉันว่าวันนี้คงจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้นแหงๆ..”

เคนอิจิเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ

คุณเมิงก็พูดแรงเกินไปเปล่า

“ฉันก็แค่เรียนมันเป็นสิ่งที่นักเรียนควรทำอยู่แล้วไม่เห็นจะมีอะไรแปลกเลย”

“แปลกสิแปลกสุดๆเลย ฉันแปลกใจจนหายใจไม่ทันแล้วเนี่ย”

หลังจากพูดจบเคนอิจิก็เอาน้ำขึ้นมาดื่มก่อนที่จะหายใจเข้าออกลึกๆอยู่แบบนั้นสองสามครั้ง

…เวอร์เกินไปแล้วมั้งง

“แล้วอีกอย่างนะช่วงนี้ผิวพรรณของนายมันก็ดูดีขึ้นเยอะเลยด้วย….”

“มะไม่เห็นจะเป็นงั้นเลย..ฉันว่ามันก็ปกตินะ”

“หืมมม หรือว่านาย…จะมีผู้หญิงงั้นเหรอ?”

ถ้าผิวของผมเป็นอย่างที่เคนอิจิพูดมาจริงๆแล้วละก็มันอาจจะเป็นเพราะช่วงนี้ผมได้รับสารอาหารครบถ้วนละมั้ง

ก็ว่าล่ะทำไมเคนอิจิเอาแต่มองมาที่ผมด้วยท่าทางสงสัย

การที่เคนอิจิเดาต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงได้แม่นขนาดนี้ทำเอาผมเหงื่อตกเลยละ พวกหล่อๆก็เป็นซะอย่างเงี่ย…ฉันละเกลียดพวกที่เซนส์ดีแบบแกเป็นบ้า

“ถ้ามีคนมาบอกฉันว่าพวกเรียจูมีพลังจิตฉันก็เชื่อนะเนี่ย”

“ห๊ะ? นายพูดอะไรน่ะ?….หรือว่าฉันจะเดาถูกเหรอ?”

“ไม่ถูกแล้วก็ไม่ผิดนั่นแหละ แต่ว่านะเคนอิจิเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันมันไม่ใช่เรื่องดีๆอะไรหรอก”

ถึงผมจะพูดออกไปอย่างคลุมเครือแต่เคนอิจิก็ยังคงยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ

“อื้ม หรือก็คือมีอะไรบางอย่างมาเปลี่ยนชีวิตของนาย…ไม่สิควรจะพูดว่าใครบางคนมากกว่าสินะ”

“อื้ม อะไรทำนองนั้นนั่นแหละ”

“ฉันละดีใจจริงๆ ในที่สุดก็มีใครบางคนเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของผู้ชายที่มีชื่อว่า โทวะ ให้ดีขึ้นสักที”

“ครับๆ”

ผมตอบกลับเคนอิจิไปแบบผ่านๆ

“โทวะ~~พอผิวดีขึ้นนายเนี่ยก็เปลี่ยนเหมือนคนละคนเลยน้า~~”

“เลิกพูดแบบนั้นเถอะขนลุกนะเฟ้ย..แต่ว่านะเคนอิจิแต่ก่อนฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“นี่นายไม่รู้ตัวเลยเหรอ”

เคนอิจิพูดอย่างไม่ลังเลพร้อมกับมองมาที่ผมด้วยความประหลาดใจ

“ก็แต่ก่อนนายเนี่ยอย่างกับพวกอดอะไรตายอยากดูไร้ชีวิตชีวาสุดๆเลยละ ถึงฉันอยากจะชมนายแค่ไหนมันก็ไม่ไหวจริงๆ”

“อ๊ากก เงียบไปเลยฉันไม่อยากได้ยินมันแล้ว”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เอาน่าๆอย่างอนฉันเลย ก็เหมือนคำๆนึงที่ว่า ทุกๆอย่างสามารถเปล่งประกายได้หากถูกขัดเกลามาอย่างดี”

“แต่ไอ้คำแบบนั้นมันก็ใช้กับทุกคนไม่ได้อยู่แล้ว”

ถ้าไม่มีใครบอกผมตรงๆแบบนี้ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย

แสดงว่าในสายตาของวาคามิยะผมเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกันสินะ

และด้วยนิสัยชอบช่วยเหลือคนอื่นของวาคามิยะพอมาเจอผมก็คงจะไม่สามารถปล่อยผ่านได้

ผมก็พอรู้อยู่นะว่าตัวเองดูไม่แข็งแรงแต่พอได้มาคุยกับเคนอิจิแบบนี้ผมก็มั่นใจเลยละว่าตัวเองเป็นหนักกว่าที่คิด

“โทวะ ถ้านายเลิกทำหน้าปลาตายแล้วลองยิ้มเหมือนในตอนที่ทำงานพาร์ทไทม์ละก็ฉันว่านายเองก็ดูดีใช่เล่นเลยนะ”

“หน้าฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วและการที่จะให้ยิ้มตลอดฉันไม่เอาด้วยหรอก”

“เอาน่าๆ ฉันก็ไม่ได้บังคับอะไร แต่ลองยิ้มสักหน่อยก็ไม่เสียหายนิ”

“ไม่ได้เงินฉันไม่ทำหรอก”

“โทวะ นายเนี่ยเรื่องมากจริงๆเลยน้า~~ “

เคนอิจิพูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ

ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็ทำเป็นเมินเขาโดยมองออกไปที่นอกหน้าต่าง

เมินๆไปดีกว่าตอนนี้หิวแล้วโว้ย

“เคนอิจิแทนที่นายจะแหกปากอยู่แบบนี้เอาเวลาไปกินข้าวไม่ดีกว่าเหรอ”

“โหดร้าย…ที่ฉันอยู่ที่นี่ก็เพราะอยากกินข้าวด้วยกันกับนายไงละ”

“ไม่ต้องก็ได้…ไปกินกับแฟนเถอะ”

“ฉันกลัวนายเหงาอะโทวะ~~”

“ไม่โว้ยตูกินคนเดียวได้”

จากนั้นผมก็นำข้าวกล่องของวาคามิยะขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะซึ่งขนาดของมันก็เหมาะสำหรับผู้ชายอย่างผมเลย

ถึงจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆวาคามิยะก็ยังคงเอาใจใส่สินะ

พอรู้แบบนั้นผมก็เผลอยิ้มออกมา

“นั่นมัน….ข้าวกล่องงั้นเหรอ?”

“ใช่”

“เดี๋ยวๆอย่างพึ่งกิน…เออ…เราย้ายที่กันก่อนเถอะ”

เคนอิจิเอาข้าวกล่องผมไปพร้อมกับคว้าแขนของผมไปด้วย

…ใจคอไม่ดีเลยแฮะ

“ไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าวันนี้นายจะเอาข้าวกล่องมาด้วยเพราะงั้นเราไปกินที่ลานกว้างกันเถอะ”

“ไม่ไป..แถวนั้นคนเยอะจะตาย”

“มาเถอะน่า~~”

“ด-เดี๋ยวสิ..”

เคนอิจิพยายามพาผมที่กำลังขัดขืนออกจากห้องเรียนไม่สิควรจะพูดว่าลากผมออกจากห้องคงจะเข้าท่ากว่า

ทำไมถึงแรงเยอะขนาดนี้ฟะ..นี่เขาจะลากผมไปทั้งอย่างนี้จริงดิ..?

“เอาล่ะ…พวกเรามาถึงแล้ว!!”

“เฮ้ออ….เจ็บแขนเป็นบ้า”

ซึ่งในตอนนี้ผมก็ทำได้เพียงถอนหายใจออกมา

ตูว่าแล้ว…ที่นี่มันถ้ำของพวกกลุ่ม A ชัดๆ

เพราะรอบข้างของผมนั้นมันเต็มไปด้วยพวกคู่รักหน้าตาดีเรียงรายกันเต็มไปหมด..

“อ่ะ..”

หลังจากที่ผมเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่โคตรจะโดดเด่นในลานกว้างผมก็เผลอส่งเสียงแปลกๆออกไป

“โทคิวากิ…ซัง?”

แสงแดดที่เล็ดลอดผ่านต้นไม้เข้ามาได้ส่องไปที่คนๆนั้นราวกับว่าเขาเป็นคนที่ลงมาจากสวรรค์

ใช่แล้วครับ

คนๆนั้นก็คือท่านเทพธิดาของพวกเรานั่นเอง

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

ไหงดาวโรงเรียนถึงชอบมาห้องของผมละเนี่ย

Status: Ongoing
โทคิวากิ โทวะ ที่อุทิศตัว​ถวายพลังชีวิตให้กับงานพาร์ทไทม์​แต่แล้ววันนึงเขาดันบังเอิญไปพับกบพบกับสาวสวยที่ถูกขนาดนามว่าเทพธิดาหรือชื่อของเธอคนนั้นคือ วาคามิยะ ริน เพราะความบังเอิญ​ในครั้งนั้นก็ทำให้ชีวิตประจำวันของทั้งสองได้เข้ามาพัวพัน​ซึ่งกันและกัน และนี่ก็คือเลิฟคอมระหว่างคนสองคนที่ไม่เคยรู้จักกันที่จะ[ค่อยๆ]​พัฒนา​ความสัมพันธ์​ละมั้ง และนี่ก็คือเรื่องราวของพ่อหนุ่มคลั่งพาร์ทไทม์​กับเทพธิดาสุดรั่ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท