บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่ – ตอนที่ 25

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

โคร๊มมมมมม!!!

 

อลิซที่เห็นสายฟ้าเส้นใหญ่กำลังพุ่งตรงเข้ามาทางพวกเธอนั้นก็ปักดาบของตนลงกับพื้นและใช้พลังของตนสร้างกำแพงลมขึ้นมาช่วยคอนแนลป้องกันอีกทีหนึ่ง

 

แต่ว่าสายฟ้านั้นกลับพุ่งทะลุกำแพงลมของเธอได้เหมือนกับว่ามันเป็นเพียงแผ่นกระดาษก่อนที่จะกระแทกเข้ากับโล่ของคอนแนลเข้าอย่างแรงจนเกิดระเบิดขึ้น ทำให้เธอต้องยกมือขึ้นมาเพื่อป้องตาของตัวเองเอาไว้จากฝุ่นควัน

 

และเมื่อทุกอย่างสงบลงเธอก็พบว่าคอนแนลที่ตั้งโล่ของเขาเอาไว้เพื่อปกป้องทุกคนนั้นกลับหายตัวไปแล้ว และเมื่อเธอหันกลับไปมองข้างหลังก็พบว่านากานั้นได้หายไปเช่นกัน

 

“นากา! คอนแนล!! เป็นอะไรหรือเปล่า!?”

 

“ฉันไม่เป็นไร! …แต่ก็เกือบไปแล้วล่ะ”

 

“ผมอยู่ทางนี้! ยังปลอดภัยดีอยู่ครับ!!”

 

เสียงของนากาและคอนแนลดังขึ้นมาจากคนละทิศ เมื่อเธอหันตามไปมองก็พบว่านากานั้นเหมือนจะกระเด็นไปกระแทกเข้ากับต้นไม้หลังจากที่เขาได้วิ่งมาเบื้องหน้าเพื่อเอาตัวเองบังแรงระเบิดนั้นให้กับเธอ

 

ส่วนทางคอนแนลนั้นดูเหมือนว่าเมื่อโล่ของเขาถูกสายฟ้ากระแทกเข้าใส่จนเกิดระเบิดขึ้นก็ทำให้เขากระเด็นไปอีกด้านหนึ่งเช่นเดียวกัน

 

“แล้วเด็กคนนั้นกับเวก้าล่ะครับ!?”

 

พวกเขารีบวิ่งกลับมารวมกลุ่มกันที่เดิมก่อนที่คอนแนลจะร้องถามขึ้นมาทำให้พวกเขารีบช่วยกันกวาดตามองหาอีกสองคนในทันที

 

ซึ่งเมื่อพวกเขามองไปรอบๆ ก็พบว่าสวนหน้าคฤหาสน์นั้นกำลังลุกไหม้อยู่หลายจุด และตามตัวคฤหาสน์เองก็มีรอยไหม้ลากไปเป็นทางยาว รวมถึงคฤหาสน์อีกส่วนหนึ่งเองก็กำลังพังลงมาเช่นกัน

 

เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีเสียงของประกายสายฟ้าดังขึ้นมาอีกครั้งจนทำให้ทุกคนรีบหันไปมองและพบเข้ากับแมรี่ที่กำลังยืนหอบอย่างรุนแรงอยู่ อีกทั้งยังมีกระแสไฟฟ้าเล็กๆ ปะทุออกมาจากตัวเธออยู่อย่างต่อเนื่อง

 

ปังปัง!!

 

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังลังเลอยู่ว่าจะทำยังไงกันต่อดีก็ได้มีเสียงปืนจากพาร์ทไอพ่นของเวก้าดังขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับที่เวก้านั้นได้พุ่งตัวกลับมาทางพวกเขาอีกครั้ง

 

ซึ่งดูเหมือนว่าถึงแม้เวก้าจะสามารถหลบสายฟ้าจำนวนมากนั้นไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าก็ต้องแลกกับการที่พาร์ทไอพ่นของเขานั้นเสียหายไปข้างหนึ่งจนอาวุธของมันบางส่วนไม่ทำงาน ทำให้ปริมาณกระสุนที่เขายิงออกมานั้นบางตาลงมาก

 

“พ…พอได้แล้ว…!!”

 

เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—เพล้ง!!

 

พริบตานั้นเองคริสตัลสีม่วงที่กำลังลอยอยู่ข้างๆ ตัวแมรี่ซึ่งกำลังกุมใบหน้าซีกซ้ายของตัวเองอยู่ก็ปริแตกออก ก่อนที่จะมีสายฟ้าสองเส้นพุ่งออกมากระทบเข้ากับกระสุนของเวก้าจนพวกมันแตกสลายไป

 

“เป็นอะไรไปครับแมรี่! พลังของเธอไม่น่าจะมีแค่นี้ไม่ใช่หรือไงกันครับ!! พลังที่พรากชีวิตของทุกคนไปนั่นน่ะ!!”

 

ปั้งปั้งปั้งปั้ง!!

 

เมื่อเวก้าที่บินกลับเข้ามามองเห็นดวงตาข้างซ้ายของแมรี่ที่กลายเป็นสีทองเขาก็เผยสีหน้าโกรธแค้นและพูดออกมา ก่อนที่เขาจะยิงกระสุนจากปืนทุกอันที่ยังใช้งานได้อยู่ออกมาในทันที

 

“กรรรร…!!”

 

ในขณะที่ทางแมรี่ก็ส่งเสียงคำรามต่ำๆ ในลำคอออกมาและเงยหน้าขึ้นไปมองฝนกระสุนที่กำลังพุ่งเข้ามาเหล่านั้น

 

เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—เปรี๊ยะ—!! ฟู๊มมม!!

 

“—!?”

 

แต่ว่าก่อนที่ฝนกระสุนเหล่านั้นจะกระทบเข้ากับร่างของแมรี่นั่นเอง จู่ๆ ก็ได้มีม่านพลังสีม่วงแผ่นบางๆ แผ่ออกมาจากร่างของเธอ

 

และเมื่อกระสุนวิซสีเขียวขนาดใหญ่ที่ถูกยิงออกมาจากปืนตรงเกราะแขนของเวก้ากระทบเข้ากับม่านพลังสีม่วงนั้น มันก็ได้ระเบิดออกมากลางอากาศในทันทีทำให้กระสุนนัดเล็กๆ ที่ถูกยิงออกมาจากพาร์ทไอพ่นนั้นถูกแรงระเบิดกระแทกเข้าจนสลายหายไป

 

ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีกระสุนบางนัดรอดพ้นจากแรงระเบิดไปได้ แต่ว่าพวกมันก็ปะทะเข้ากับประจุสายฟ้าขนาดเล็กที่ผุดขึ้นมาภายในม่านพลังนั้นเข้าจนแตกกระจายไป ซึ่งนากาที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่ร้องออกมาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

 

“วิซธาตุไฟฟ้ามันทำได้ถึงขนาดนี้เลยหรอ!?”

 

“ผมเคยเห็นการต่อสู้ของพวกผู้ใช้วิซระดับสูงมาอยู่บ้าง แต่ว่าพวกเขาก็ยังทำไม่ได้ขนาดนี้เลยนะครับ!”

 

“ไม่ใช่…นี่มันไม่ใช่วิซปกติที่พวกเธอรู้จักกัน…! แต่มันเป็นอย่างอื่นที่บริสุทธิ์และอันตรายมากกว่านั้นต่างหาก!!”

 

ในขณะที่พวกนากากำลังตื่นตกใจกันอยู่นั้นเอง แมรี่ก็ค่อยๆ ลดมือลงจากใบหน้าของเธอก่อนที่จะเงยขึ้นไปมองเวก้าซึ่งกำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ

 

“…..”

 

วิ๊ง— เปรี๊ยง!!!

 

“—!?”

 

ซ่าาาาาาาา—-

 

ทันใดนั้นเองก็ได้มีประจุไฟฟ้าก่อตัวขึ้นมาเป็นลูกบอลไฟฟ้าสีทองลอยอยู่ที่เบื้องหน้าของแมรี่ ก่อนที่มันจะปล่อยกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่เวก้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งทันทีที่มันได้พุ่งออกมาจากลูกบอลไฟฟ้านั้นเครื่องสื่อสารในหูของนากาและคอนแนลก็ได้ส่งเสียงประหลาดดังลากยาวออกมาในทันที

 

ตู้ม!!

 

“อ๊ากกกกก—!?”

 

เวก้าที่เห็นกระแสไฟฟ้าสีทองพุ่งเข้าใส่นั้นก็ได้พยายามที่จะเร่งไอพ่นหลบในทันที แต่ว่าดูเหมือนว่ามันจะช้าไปเพราะว่าสายฟ้าเส้นนั้นได้พุ่งเข้าใส่พาร์ทไอพ่นที่เอวของเขาเข้าเต็มๆ จนทำให้มันระเบิดออกมา

 

และดูเหมือนว่ากระแสไฟฟ้านั้นจะแล่นไหลผ่านไปตามตัวพาร์ทนั้นจนเข้าไปถึงตัวของเวก้าด้วย จนทำให้เขากรีดร้องออกมาเสียงดัง ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงลงมากระแทกเข้ากับสนามหญ้าเบื้องล่างและแน่นิ่งไป

 

“คุณเวก้า—!?”

 

“ปล่อยหมอนั่นไปก่อนเถอะคอนแนล! ตอนนี้เราต้องรีบหยุดเด็กคนนั้นเอาไว้ให้ได้ก่อนที่พวกวังหลวงจะรู้เรื่อง ไม่งั้นมีหวังพวกนั้นได้ยกทหารทั้งกองทัพมาจัดการพวกเราไปพร้อมกันแน่!!”

 

“เธอมีแผนอะไรดีๆ หรือเปล่าล่ะ? ขนาดเวก้าเขายังโดนเด็กคนนั้นเป่าทีเดียวร่วงลงมาเลยนะ”

 

นากาที่เห็นฉากเวก้าร่วงลงมาราวกับนกปีกหักก็รู้สึกสมน้ำหน้าเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเอ่ยปากถามอลิซออกมา พลางมองไปยังแมรี่ที่ขณะนี้กำลังเงยหน้ามองไปยังท้องฟ้าสีครามเหนือหัวพวกเขาและกำลังขยับปากพึมพำอะไรสักอย่างที่พวกเขาไม่ได้ยินออกมาโดยไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเวก้าซึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้วอีกต่อไป

 

“นั่นมันคุณหนูคนเดียวกันกับที่คุณอลิซพาเข้าไปจริงๆ หรอครับ!?”

 

“อืม… ตอนนี้เธอน่าจะกำลังสับสนและพยายามที่จะกลับมาอยู่… ถึงไม่รู้ว่าจะกลับมาได้หรือเปล่าก็เถอะ ถ้าเกิดว่าอยากจะช่วย… วิธีที่ดีที่สุดก็คงจะต้องทำให้เธอหมดสติไปก่อน แล้วค่อยลุ้นว่าพอตื่นขึ้นมาแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่าล่ะนะ …แต่ปัญหาคือจะทำให้เธอหมดสติยังไงโดยไม่โดนเป่ากระจุยตามนายเวก้านั่นไปนี่สิ”

 

“สับสน? หมายความว่าถ้าเกิดพูดดีๆ เด็กคนนั้นก็อาจจะหยุดก็ได้งั้นสินะ?”

 

“ฉันไม่แน่ใจ… ถ้าเกิดว่านายเข้าไปเรียกแล้วเป็นเด็กคนนั้นที่ได้ยินก็ดีไป… แต่ว่าถ้าไม่ใช่ก็มีโอกาสที่เธอจะคลั่งขึ้นมาแล้วก็เล่นงานนายได้ ฉันคิดว่าทำให้หมดสติไปก่อนน่าจะดีที่สุดละมั้งนะ….”

 

“ต้องทำให้หมดสติแล้วค่อยว่ากันทีหลังงั้นสินะ เข้าใจล่ะ!!”

 

เมื่อนากาได้ยินที่อลิซพูดออกมาเขาก็กำชับดาบในมือแน่นก่อนที่จะลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปหาแมรี่ในทันที ทำให้อลิซที่กำลังคิดหาวิธีอื่นอยู่นั้นรีบร้องห้ามออกมาเสียงดังในทันที

 

“เดี๋ยวก่อนสิ! คอนแนลรีบตามเขาไปเร็ว!!”

 

“ค—ครับ!!”

 

ซึ่งทางด้านแมรี่ที่ได้ยินเสียงโวยวายนั้นก็ได้หันมามองทางพวกเขาและพบกับนากาที่กำลังวิ่งเข้าใส่ ทำให้เธอแผ่ม่านพลังสีม่วงออกมาอีกครั้งแต่ว่าก็ไม่ได้ขยับตัวหนีไปไหน

 

“ไม่ยอมให้ใช้หรอกน่า!! พี.คิว.!!”

 

อลิซที่เห็นแบบนั้นเธอก็ตะโกนออกมา พร้อมๆ กับที่มีกำแพงอากาศสีเขียวจางๆ ของเธอปรากฏล้อมรอบแมรี่จากทุกทิศทาง ก่อนที่กำแพงอากาศเหล่านั้นจะบีบเข้ามาใกล้เธอจนกลายเป็นเหมือนกับกล่องสี่เหลี่ยมสีเขียวครอบตัวของเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้ม่านพลังสีม่วงนั้นได้ขยายออกมา

 

กรึก กรึก กรึก

 

และทันทีที่ม่านพลังของแมรี่สัมผัสกับกำแพงอากาศเหล่านั้น กำแพงของอลิซก็ได้เกิดรอยร้าวขึ้นราวกับว่ามันพร้อมจะปริแตกออกมาได้ตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น

 

วิ๊ง—

 

เมื่อเด็กสาวเห็นว่ามีกำแพงอากาศสีเขียวกำลังบีบอัดเข้าหาเธอจากทุกทิศทางนั้น เธอก็มองมันอยู่สักครู่ก่อนที่จะสร้างลูกบอลสายฟ้าสีทองขึ้นมาอีกครั้ง และหันกลับไปมองทางนากาในทันที

 

“นั่นมั—!? บ้าจริง!!”

 

เปรี๊ยง!!

 

นากาที่เห็นแบบนั้นเขาก็เหลือบมองไปด้านหลังเล็กน้อยและพบกับอลิซซึ่งบาดเจ็บที่ขาและยังคงนั่งอยู่ในทิศทางที่เขาวิ่งจากมา ทำให้เขาหยุดวิ่งลงและยกดาบของเขาออกมาเบื้องหน้าเพื่อหวังที่จะใช้มันป้องกันตัวเขาและอลิซซึ่งอยู่ในเส้นทางของสายฟ้านั้น

 

แต่ว่าในตอนนั้นเองคอนแนลก็ได้รีบวิ่งแซงเขาไปและเข้ามาขวางหน้าระหว่างตัวเขากับสายฟ้าสีทองเส้นใหญ่นั้นเอาไว้

 

“ผมจัดการเองครั—”

 

ตู้ม!!

 

“เหวอ–!?”

 

“คอนแนล!?”

 

เมื่อสายฟ้าเส้นนั้นปะทะเข้ากับโล่ของคอนแนลมันก็ระเบิดออกอย่างรุนแรงจนทำให้ตัวเขากระเด็นกลิ้งออกไปพร้อมๆ กับที่โล่อัศวินของเขานั้นเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ขึ้นมา และม่านพลังสีม่วงนั้นก็ได้ขยายออกอีกครั้งเมื่อกำแพงอากาศของอลิซถูกสายฟ้าสีทองเส้นนั้นยิงทะลุจนแตกกระจายหายไป

 

นากาที่ได้คอนแนลช่วยเปิดโอกาสและรับสายฟ้าสีทองเอาไว้เอา เขาก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในม่านพลังสีม่วงอย่างรวดเร็ว

 

“ฮึ้ย—!!”

 

ฟวั่บ!!

 

ในจังหวะที่เขาใกล้จะเข้าถึงตัวแมรี่ได้นั้นเองจู่ๆ ก็มีลูกบอลไฟฟ้าสีทองปรากฏขวางระหว่างตัวเขาและแมรี่ราวกับว่ามันกำลังปกป้องเธอเอาไว้ ทำให้เขาต้องรีบหยุดฝีเท้าลงและใช้ดาบเปื้อนเลือดในมือฟันเข้าใส่มันจนขาดครึ่งไป จากนั้นเขาจึงได้ยื่นมือเข้าไปหาแมรี่ในทันที

 

เปรี๊ยะ!

 

“โอ๊ย!?”

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองก็ได้มีกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กจำนวนมากพุ่งออกมาจากร่างของแมรี่ตรงเข้าใส่มือของนากาและกระแสไฟฟ้านั้นก็ได้ผลักมือของเขาให้ออกห่างมาจากร่างของเธออย่างรุนแรง

 

“ชิ—ถ้าแบบนี้เธอเองก็ช่วยทนหน่อยก็ละกัน!!!”

 

แต่นากานั้นก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ เขาได้ออกแรงฝืนสู้กระแสไฟฟ้านั้นกลับไปทำให้แขนของเขาถูกช็อตจนเริ่มที่จะไหม้และมีเลือดไหลออกมาแต่ว่ามันก็ทำให้เขาสามารถยื่นมือเข้าใกล้แมรี่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ปึ้ง!!

 

และในทันทีที่มือของนากาสัมผัสเข้ากับศีรษะของแมรี่ได้นั้น เขาก็ออกแรงจับหัวของเธอฟาดเข้ากับพื้นอิฐเบื้องหน้าเข้าอย่างจังทำให้เธอหมอสติไปในทันที พร้อมๆ กับที่ม่านหลังสีม่วงนั้นก็ได้สลายตามไปในเวลาไม่นาน

 

“แฮ่ก…แฮ่ก… ที่ว่าควบคุมไม่ได้นี่ไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ สินะเนี่ย…”

 

“นี่ทำบ้าอะไรของนายเนี่ยหะ!?”

 

อลิซที่พยายามยันตัวขึ้นมาได้นั้นก็รีบเดินกะโผลกกะเผลกเข้ามาร้องว่าใส่เขาอย่างรีบร้อน ก่อนที่เธอจะนั่งลงไปตรวจสอบอาการของแมรี่ในทันที

 

“ยังหายใจอยู่สินะ… นี่นาย!! คิดบ้าอะไรของนายอยู่กัน! โชคดีแค่ไหนที่เธอหมดสติไปในทีเดียวแบบนั้นนะ! นี่ถ้าเกิดว่าเธอหัวแข็งกว่านี้แล้วไม่หมดสติไปนายคิดจะรับมือกับสายฟ้านั่นยังไงหะ!!”

 

เมื่อพบว่าแมรี่นั้นได้หมดสติไปโดยมีเพียงแค่รอยแดงที่หน้าผากเพียงเท่านั้นอลิซก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนที่เธอจะตะโกนว่านากาออกมาทันทีเนื่องจากว่าเขาเพิ่งจะจับหัวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโขกกับพื้นไปอย่างรุนแรงโดยไม่มียั้งมือ

 

“ตอนแรกฉันก็กะว่าจะลูบหัวแล้วก็พูดปลอบดีๆ แล้วนะแต่เธอดูแขนฉันนี่สิ!! แล้วอีกอย่างมันก็ได้ผลไม่ใช่หรอ ทีนี้เราก็เหลือแค่พาเด็กคนนี้ไปให้เอริกะไม่ก็อารอนตรวจดูเท่านั้นเองใช่มั้ยล่ะ?”

 

“ให้ตายสิ…ชอบทำอะไรเสี่ยงตายจริงๆ”

 

“อย่างเธอน่ะมีสิทธิพูดแบบนั้นด้วยหรอไงน่ะ…”

 

อลิซที่เห็นเขาแก้ตัวออกมาน้ำขุ่นๆ ก็ก้มลงไปเพื่อตรวจดูว่าแมรี่มีบาดแผลที่อื่นอีกหรือเปล่าโดยไม่สนใจนากาที่ยื่นแขนออกมาให้เธอดู แต่ว่าเมื่อเธอได้ยินที่นากาบ่นอุบอิบออกมาเบาๆ ทำให้เธอยันตัวเองยืนขึ้นอีกครั้งเพื่อต่อว่าเขาในทันที

 

“นี่นาย—!!”

 

“เอาเถอะครับ ถึงจะรุนแรงไปหน่อยแต่ว่านากาก็หยุดเด็กคนนี้เอาไว้ได้จริงๆ นะครับ คราวนี้ยอมๆ เขาไปก่อนก็แล้วกัน …แต่ว่าครั้งหน้าก็ช่วยระวังตัวหน่อยเถอะครับ! ถ้าเกิดเมื่อกี้นี้ผมวิ่งเข้าไปขวางไว้ให้ไม่ทันมีหวังได้เจ็บหนักไปแล้วนะครับนั่น!!”

 

คอนแนลที่เห็นเหมือนว่าทั้งสองมีวี่แววว่าจะเถียงกันโดยไม่มีใครยอมใครแล้วนั้นเขาก็ได้รีบพูดขึ้นมาเพื่อขัดพวกเขาเอาไว้ก่อน

 

“อ่าๆ เข้าใจแล้วๆ พอดีเห็นบอกว่าต้องรีบก็เลย—”

 

“ย…ยังหรอกน่า!”

 

“—!?”

 

แต่แล้วเวก้าที่นอนนิ่งไปนานนั้นเหมือนว่าจะได้สติกลับขึ้นมา เขาได้ร้องตะโกนออกมาก่อนที่จะพยายามยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก

 

“ส่งตัวแมรี่มาเดี๋ยวนี้!!”

 

“ชิ—!?”

 

เขาตะโกนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับดีดปืนลับที่ยังคงใช้งานได้อยู่บางส่วนออกมา ก่อนที่จะส่งพลังวิซของเขาเข้าไปจนมันเรืองแสงสว่างจ้าออกมามากกว่าทุกที จนเหมือนกับว่าเขาไม่สนใจขีดจำกัดของมันอีกต่อไปแล้ว

 

และเขาก็ใช้พาร์ทไอพ่นของตนที่ถึงแม้ว่าจะระเบิดจนแทบจะไหม้เกรียมแต่ว่าก็ยังพอจะทำงานได้อยู่ เพื่อที่จะพาร่างที่สะบักสะบอมของตนลอยขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อยและพุ่งเข้าใส่พวกนากาในทันที

 

“ไม่ได้ผลหรอกครับ!!”

 

ซึ่งทันทีที่คอนแนลเห็นแบบนั้น เขาก็รีบพุ่งออกมาเบื้องหน้าและยกโล่ของเขาขึ้นมาขวางเอาไว้

 

แกร๊ก—ฟ๊าววววว!

 

“–!!?”

 

แต่ว่าก่อนที่พาร์ทไอพ่นนั้นจะได้ยิงกระสุนวิซออกมา มันก็ได้หลุดออกมาจากฐานติดที่เอวของเวก้าและพ่นไอพ่นออกมาอย่างรุนแรงก่อนจะพุ่งแยกกันเข้าใส่คอนแนลและนากาอย่างรวดเร็ว

 

ปุ๊ง— ปึ๊ก—

 

แต่ว่าก็มีพาร์ทเพียงแค่อันเดียวเท่านั้นที่พุ่งชนเข้ากับโล่ของคอนแนล เพราะว่าพาร์ทไอพ่นอีกอันที่พุ่งเข้าใส่นากานั้นได้ส่งเสียงระเบิดออกมาเล็กน้อยก่อนที่มันจะปล่อยควันดำออกมาและไอพ่นของมันก็ได้ดับลงจนตกลงสู่พื้นไปซะก่อน

 

ในขณะที่ทางเวก้าหลังจากที่เขายิงพาร์ทไอพ่นออกมาใส่พวกนากาทั้งอันนั้น เขาก็กลิ้งม้วนตัวไปกับพื้นเพื่อสลายแรงพุ่ง ก่อนที่จะเล็งยิงปืนบนเกราะแขนของเขาเข้าใส่พาร์ทไอพ่นที่ยังคงพุ่งไถไปกับโล่ของคอนแนลทันที

 

ปั้ง—เพล้ง!!

 

ทันทีที่มันได้ส่งกระสุนพุ่งออกมาจากลำกล้องนั้นก็ได้มีเสียงของคริสตัลที่แตกกระจายดังขึ้นมา ก่อนที่ปืนซึ่งติดอยู่บนเกราะแขนนั้นจะระเบิดออกอย่างรุนแรงเมื่อมันถูกใช้งานจนเกินขีดจำกัด

 

แต่ว่ากระสุนที่ถูกยิงออกไปแล้วนั้นก็ยังคงพุ่งเข้าใส่เป้าหมายอย่างแม่นยำ และเมื่อมันกระทบกับพาร์ทไอที่ยังคงพุ่งไถไปกับโล่ของคอนแนลเข้ามันก็เกิดระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรงเพราะพลังวิซของเวก้าที่อัดแน่นไว้ในนั้นได้ทำปฏิกิริยากับกระสุนวิซจนมันระเบิดตามขึ้นมาด้วย

 

ตู้มมม!!

 

“อุ๊ก–!?”

 

“คอนแนล!?”

 

แรงระเบิดนั้นทำให้โล่ของคอนแนลที่ร้าวเป็นทางยาวอยู่แล้วนั้นได้แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ และทำให้ตัวเขานั้นกระเด็นลอยข้ามหัวพวกอลิซไป

 

ในขณะที่ทางเวก้านั้นก็รีบคว้ามีดสั้นมาถือไว้และพุ่งตัวเข้ามาทางแมรี่ที่นอนสลบอยู่เพื่อหวังที่จะจบเรื่องนี้ในทันที

 

“ก็บอกว่าคู่ต่อสู้ของแกคือฉันไง!!”

 

ในชั่วพริบตานั้นเองดาบเปื้อนเลือดของนากาก็ได้พุ่งผ่าฝุ่นควันจากการระเบิดเข้าใส่เวก้าอย่างรวดเร็ว พร้อมๆ กับที่ตัวเขาพุ่งตัวตามมาง้างหมัดต่อยเข้าใส่เวก้าในทันที

 

“–!?”

 

ผลัวะ!

 

เวก้าที่เห็นแบบนั้นก็รีบใช้มีดในมือปัดใส่ดาบของนากาอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขารอดมาได้แต่ว่ามีดของเขาก็ได้กระเด็นหลุดมือไป พร้อมๆ กับที่หมัดของนากานั้นซัดเข้าที่หน้าของเวก้าเข้าเต็มๆ จนเขากระเด็นออกมาแต่ว่าก็ยังทรงตัวยืนเอาไว้ได้

 

“น–นากา ไม่เป็นอะไรสินะครับ”

 

คอนแนลที่รับแรงระเบิดเข้าไปเต็มๆ ได้เดินกลับมากลับมาด้วยสภาพสะบักสะบอม ก่อนที่เขาจะหันไปมองเวก้าที่สภาพไม่ได้ดีไปกว่าเขาสักเท่าไหร่และพูดออกมา

 

“คุณเวก้า…”

 

“หึ… ป่านนี้แล้วยังจะเรียกผมแบบนั้นอยู่อีกหรอครับคอนแนล…”

 

เวก้าหัวเราออกมาเบาๆ ตอบคอนแนลกลับมา เลยทำให้คอนแนลตัดสินใจถือโอกาสที่ยังคุยกันได้นี้ถามเรื่องที่คาใจเขาออกไป

 

“ทำไมกันละครับ ทำไม–”

 

“ทำไมผมถึงทำแบบนี้น่ะหรอ? นี่ยังจะต้องถามอีกจริงๆ หรอ!?”

 

เขาตวาดคอนแนลกลับมาเสียงดัง ก่อนที่จะชี้นิ้วไปทางเด็กสาวผู้ไร้สติที่อลิซนั้นได้กอดเอาไว้อยู่

 

“ก็เพราะเจ้าปีศาจนี่แหละที่เป็นคนฆ่าคนรัก… ไม่… เป็นคนที่ฆ่าครอบครัวของผมไปทั้งหมดน่ะ!!”

 

“หา!?”

 

“—!?”

 

พอนากากับคอนแนลได้ยินคำพูดจากปากของเวก้านั้น พวกเขาก็เอ่ยร้องขึ้นมาด้วยความแปลกใจ ก่อนจะมองตามนิ้วของเวก้าไปยังแมรี่ที่อยู่ในอ้อมกอดของอลิซ

 

“ยัยนั่นเป็นคนฆ่าทุกคนที่อยู่ในคฤหาสน์ของผม… ทั้งหัวหน้าอัศวินเดเมี่ยน… คร๊ากกับเคย์ตั้นที่เฝ้ายามตามหน้าที่ แจสมินที่เป็นแค่สาวใช้ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ หรือแม้แต่เจนที่เลี้ยงดูเธอมาเหมือนเป็นลูกแท้ๆ เพราะงั้นจะไม่ให้ผมโกรธมันได้ยังไงละครั—”

 

ผลัก!!

 

ทันใดนั้นเองอลิซก็ได้ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพุ่งเข้าหาเวก้าและต่อยไปที่ใบหน้าของเขาเข้าเต็มแรง โดยไม่ได้สนใจสภาพบาดแผลที่ขาของเธอเลยแม้น้อยส่งผลให้มีเลือดจำนวนมากไหลทะลักออกมาจนแทบจะย้อมขาข้างนั้นของเธอให้กลายเป็นสีแดง

 

“นั่นมันก็เพราะตัวแกไม่ใช่หรอไงหะ!? แกเป็นคนส่งเด็กคนนั้นเข้าไปในห้องทดลองเองไม่ใช่หรอ! คนที่มีอำนาจพอจะทำแบบนั้นได้ก็มีแต่แกไม่ใช่หรอไง!!”

 

“—!!”

 

อลิซกระชากคอเสื้อของเวก้าขึ้นมาและตะโกนใส่หน้าเขาสุดเสียง ก่อนที่จะต่อยหน้าของเวก้าเข้าไปเต็มแรงอีกครั้งในทันที

 

“ด–เดี๋ยวก่อนสิอลิซ เธอรู้เรื่องพวกนั้นได้ไงน่ะ”

 

“นั่นสิครับ! ถึงจะมีการทดลองจริงๆ ก็เถอะ แต่มันอาจจะไม่ใช่เพราะคำสั่งของคุณเวก้าก็ได้นะครับ!?”

 

นากากับคอนแนลได้เห็นกับความโกรธเกรี้ยวของอลิซในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เพราะถึงแม้ว่าปกติแล้วเธอจะมีท่าทีหงุดหงิดอยู่เกือบตลอดเวลาแต่ว่าพวกเขาก็รู้ดีว่าจริงๆ แล้วเธอนั้นเป็นคนที่คอยห่วงใยพวกพ้อง เพียงแค่ว่าใจร้อนไปหน่อยเท่านั้นเอง

 

ซึ่งเมื่อเห็นแบบนั้นก็ทำให้พวกเขารีบเข้าไปรั้งแขนของอลิซเอาไว้ในทันทีก่อนที่เธอจะได้ต่อยหน้าของเวก้าซ้ำไปอีกครั้ง

 

“นายบอกว่าเจอลูกตาสีฟ้าในกระปุกแก้วของเอริกะที่ห้องทดลองนั่นใช่มั้ยล่ะ!! แล้วรู้มั้ยว่าสีตาของเด็กนั่นมันเป็นสีอะไร? ก็สีฟ้าไงล่ะ!!”

 

อลิซพูดถามออกมาก่อนที่จะออกแรงสะบัดพวกเขาออกอย่างรุนแรง จนทำให้พวกเขาที่กลัวว่าแผลบนไหลของอลิซจะเปิดออกอีกครั้งก็ได้รีบปล่อยตัวเธอในทันที

 

“แล้วถ้าเกิดว่าลูกตาในกระปุกนั่นมันไม่ใช่อันเดิม ก็หมายความว่ามันต้องโดนเอาไปเปลี่ยนกับของใครสักคนแล้วแน่ๆ ใช่มั้ยล่ะ!? ถ้าตามที่เอริกะเล่าไว้ว่ามันเป็นหนึ่งในลูกตาของสองเทพพิทักษ์ที่ตายไปนั่น มันก็ควรที่จะมีพลังมหาศาลอยู่แล้ว!!”

 

เธออธิบายออกมาเสียงดังด้วยความโกรธของเธอ ก่อนที่จะยื่นมือไปคว้าผ้าเปื้อนเลือดที่เวก้าใช้พันตาข้างหนึ่งของเขาเอาไว้ และดึงออกมาเผยให้เห็นเบ้าตาที่กลวงโบ๋ของเวก้าซึ่งเขาซ่อนมันเอาไว้ด้านใน

 

“เห็นมั้ยล่ะ!! ถ้าเกิดหมอนี่มันมีของที่มีพลังมากขนาดนั้นอยู่กับตัว มันจะต้องไปขโมยอุปกรณ์ของเอริกะมาเพื่อจัดการเด็กคนนั้นทำไม!!”

 

“ไม่ได้อยู่กับเวก้าหรอ—”

 

“แต่ถ้าแบบนั้นก็หมายความว่า… ดวงตาที่คุณเอริกะตามหาอยู่ มันอยู่กับเด็กคนนี้งั้นหรอครับ!?”

 

คอนแนลที่เห็นแบบนั้นเขาก็หันไปมองแมรี่และถามออกมาในทันที ก่อนที่อลิซจะโยนผ้าปิดตาใส่หน้าเวก้าและตะโกนใส่เขาอีกครั้ง

 

“ก็ตามนั้นนั่นแหละ! เพราะงั้นแกไม่มีสิทธิที่จะโทษว่าเป็นความผิดของเด็กคนนั้น!! เรื่องทั้งหมดนี่มันก็เป็นเพราะแกเองนั่นล่ะที่ไปทดลองกับร่างกายของเธอ!! เป็นความผิดของแกคนเดียว! เข้าใจมั้ย!!”

 

“ถ้าแบบนั้นแค่มาฆ่าผมก็พอแล้วไม่ใช่หรอครับ! ทำไมถึงต้องฆ่าคนอื่นๆ ในคฤหาสน์ด้วย!! ทำไมถึงต้องฆ่าเจนด้วยล่ะ!! ทำไมล่ะ!!”

 

เวก้าที่ได้รับผ้าปิดตาคืนมานั้นก็เอามันมาพันไว้เหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะพูดเถียงกลับมาด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนและซุกหน้าลงกับเข่าของตัวเองเพื่อพยายามที่จะปิดบังน้ำตาของตนเอาไว้

 

“พวกเขาแค่ทำตามคำสั่งของผมเท่านั้นเอง… ถ้าจะมีใครที่สมควรตายที่สุดก็คือผมเองนี่ละ… ทำไมถึงไม่เล็งเป้ามาที่ผมคนเดียวกัน…”

 

“แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะครับ… ท่าทางของเด็กคนนี้ตอนใช้พลังออกมาก็ดูเหมือนว่าจะแทบควบคุมตัวเองไม่ได้เลยนะครับ…”

 

“นั่นสิ ไม่ใช่ว่าก่อนที่เธอจะระเบิดไฟฟ้าออกมานั่นก็พยายามบอกให้พวกเรารีบหนีไปก่อนหรอกหรอ?”

 

“มันก็แน่อยู่แล้วสิเล่นพยายามใช้พลังที่ไม่ใช่ของตัวเองแบบนั้นน่ะ…”

 

อลิซที่ได้ยินสิ่งที่คอนแนลและนากาพูดออกมาก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนที่เธอจะพูดออกมาเบาๆ และหันไปจ้องเวก้าที่ร้องไห้ฟูมฟายอยู่อย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้งหนึ่ง

 

“แต่ทำไมล่ะ…! ทำไมถึงไม่มาฆ่าผม!! ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมก็อยู่ใกล้ๆ นั่นด้วยแท้ๆ!! ทำไมถึงต้องฆ่าพวกทีมแพทย์ แล้วก็ไปไล่ฆ่าพวกสาวใช้กับอัศวินกัน!! มันเป็นผมเองที่ออกคำสั่งบังคับให้พวกเขาทำโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของพวกเขาน่ะ…”

 

“ถ้าเกิดว่าเป็นแบบที่นายพูดจริงๆ มันก็หมายความว่าความตายของพวกเขาทั้งหมดนั่นมันเป็นความผิดของนายเพียงคนเดียว… แม้แต่เด็กคนนั้นที่นายพยายามจะโทษเธอก็เป็นหนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของคำสั่งของนาย… เพราะแบบนั้นนายก็ไม่มีสิทธิที่จะโทษเธอด้วยเหมือนกัน…”

 

เมื่อเวก้าได้ยินแบบนั้น น้ำตาของเขาก็ไหลออกมาและซุกหน้ากลับลงไปอีกครั้งก่อนที่จะส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาโดยไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างอีกต่อไป

 

จนทำให้นากาที่เห็นเวก้ากำลังร้องไห้ออกมาโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จนราวซะกับว่าเขาเป็นเด็กตัวน้อยไร้ที่พึ่งพิงนั้นก็ได้แต่เกาหัวตัวเองพูดอะไรไม่ถูก ก่อนที่เขาจะเดินไปอุ้มอลิซที่เซล้มไปลงเพราะว่าเมื่อเธอใจเย็นลงบ้างแล้วอาการเจ็บที่ขาของเธอก็ได้กลับมาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็มองไปทางเวก้าและพูดออกมาเบาๆ

 

“ฉันไม่รู้ว่านายได้เห็นหรือยังนะ… เมื่อเช้านี้พวกฉันได้มาที่นี่เพราะว่าเอริกะเขาเป็นห่วงเจนขึ้นมา… พวกฉันเจอร่างของเจนเขาอยู่ในห้องนอน เหมือนกับว่ามีคนอุ้มเธอกลับมาแล้วจัดท่าทางให้เธอได้นอนพักอย่างสงบน่ะ…”

 

“…!?”

 

ระหว่างที่นากากำลังพูดอยู่ เขาก็เหลือบไปมองแมรี่ที่สลบไม่ได้สติอยู่ และเมื่อเวก้าได้ยินแบบนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองทางนากาอย่างเหม่อลอย

 

“ฉันเลยคิดว่าถ้าเกิดเป็นการทำไปเพื่อแก้แค้นจริงๆ เขาคงจะไม่สนใจที่จะพาร่างของเหยื่อที่ตั้งใจจะแก้แค้นมาทำอะไรแบบนั้นหรอกนะ…”

 

“…..”

 

และเมื่อนากาพูดเสร็จเขาก็หันไปมองคอนแนลและพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่าพวกตนจะกลับกันแล้ว โดยที่ไม่คิดจะหันกลับไปมองอีกครั้งเวก้าเลยแม้แต่น้อย

 

“จะปล่อยเจ้านั่นไว้แบบนั้นหรอ…?”

 

“อืม…”

 

“ไม่คิดจะจับตัวเขากลับไปหน่อยหรอไง…?”

 

“เอริกะไม่ได้บอกให้พวกเราจับตัวเวก้ากลับไปสักหน่อยนี่ แถมเจ้าเครื่องที่โดนเขาขโมยมาก็พังไปแล้วด้วย ไม่มีเหตุผลอะไรให้เราต้องอยู่ที่นี่แล้วล่ะ…”

 

เขาตอบอลิซกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบาและก้าวขาเดินออกมาจากอาณาเขตของคฤหาสน์ในทันทีโดยที่มีคอนแนลที่อุ้มแมรี่ตามหลังเขามาติดๆ

 

“นั่นสินะครับ ถ้าเจ้าเครื่องนั่นมันพังอยู่ที่นี่คงจะไม่มีอะไรเชื่อมโยงไปถึงตัวคุณเอริกะเขาได้ ขอแค่พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่จะมีใครมาเห็นได้ก็น่าจะพอ…”

 

“เฮ้อ… งั้นก็ตามใจพวกนายละกัน… ถ้าโดนเอริกะบ่นขึ้นมาพวกนายก็รับผิดชอบกันเองก็แล้วกัน”

 

“อื้ม ขอบคุณที่เข้าใจนะอลิซ…”

 

“ว่าแต่จะเอายังไงกับเด็กคนนี้ดีละครับ?”

 

คอนแนลที่อุ้มแมรี่เดินตามหลังนากามานั้นได้เอ่ยปากถามขึ้นมา เพราะว่าในตอนนี้เครื่องสื่อสารของพวกเขาก็ยังคงส่งเสียงซ่ากลับมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่หลังจากที่แมรี่ได้ยิงลูกบอลสายฟ้าลูกแรกของเธอออกมา

 

ซึ่งหลังจากที่นากาได้ลองแตะๆ มันดูแล้วนั้นก็ไม่มีเสียงสัญญาณอะไรดังขึ้นมาเลย ทำให้เขาที่คิดว่าไม่น่าจะสามารถติดต่อไปหาเอริกะได้ก็ก้มมองดูอลิซที่เขากำลังอุ้มอยู่เหมือนกับจะถามเธอว่าจะเอายังไงกันต่อดี

 

“ก็พาเธอกลับไปด้วยกันก่อนสิ…เพราะฉันคิดว่าเอริกะคงมีเรื่องอยากจะคุยกับเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัวเลยล่ะ…”

 

“อื้อ ก็ตามที่อลิซบอกมานั่นแหละ พาไปหาเอริกะน่าจะดีที่สุดแล้วล่ะเผื่อว่าเธอจะมีวิธีการรักษาเพราะยังไงเอริกะก็เป็นคนเก็บลูกตานี่เอาไว้ล่ะนะ แถมเราก็ต้องรอดูอยู่แล้วด้วยว่าตื่นมาแล้วเขาจะยังคลั่งอยู่หรือเปล่าน่ะจะได้จัดการได้ทัน”

 

“เข้าใจแล้วครับ…”

 

พอคอนแนลได้ยินที่อลิซกับนากาตอบกลับมานั้น เขาก็ได้แต่พยักหน้าตกลงไป เพราะในร่างของแมรี่เองก็มีของที่เอริกะถามหาอยู่จริงๆ ก่อนที่พวกนากาทั้งสี่คนนั้นเดินตรงกลับเข้ารีมินัสไป

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

บันทึกสัญญาแห่งการเริ่มต้นใหม่

Status: Ongoing
เมื่อคำสัญญาจากอดีตได้หวนคืนกลับมาเพื่อทวงคืนสิ่งที่ถูกหยิบยืมไป การเดินทางของคนถูกทิ้งกลุ่มหนึ่งเพื่อจะช่วยเหลือมนุษยชาติจึงได้เริ่มต้นขึ้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท