รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 686 ตกลงว่าผู้ใดข่มดวงผู้ใดกันแน่?!

บทที่ 686 ตกลงว่าผู้ใดข่มดวงผู้ใดกันแน่?!

บท​ที่​ 686 ตกลง​ว่า​ผู้ใด​ข่ม​ดวง​ผู้ใด​กัน​แน่​?!

ฟังเรื่องราว​ของ​มัน​รึ​?

เมื่อ​เจ้าหลวง​ได้ยิน​คำ​บอก​ของ​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ ก็​พลัน​ขมขื่น​ใจขึ้น​มาใน​บัดดล​

มัน​ไม่อยาก​กล่าวถึง​…เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านั้น​อีกแล้ว​!

ลำพัง​แค่​คิด​ยัง​ช้ำใจแทบ​แย่​ ตรอมตรม​เป็น​ที่สุด​

ทว่า​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ออกปาก​แล้ว​ มัน​ไฉน​เลย​จะกล้า​ไม่เชื่อฟัง​ เล่า​ทุกอย่าง​ให้​ฟังแต่​โดยดี​ มิกล้า​ปิดบัง​แม้แต่น้อย​

เริ่ม​ตั้งแต่​ห​ลิง​อิน​พา​เสี่ยว​ห​ยา​บุก​เข้ามา​ใน​นคร​พิศวง​ที่​เขา​สร้าง​ขึ้น​ จน​ต่อมา​ มัน​หนี​ไป​ฝากตัว​กับ​จ้าว​ตะเข้​ และ​สุดท้าย​ได้​ไปหา​จ้าว​หลาน​ เหตุการณ์​ยิบ​ย่อย​ที่​เกิดขึ้น​ระหว่าง​นั้น​มัน​ก็​เล่า​ให้​ฟังจน​หมด​

“เครื่องใช้​ประจำวัน​จำนวน​หนึ่ง​งั้น​หรือ​?”

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​หรี่ตา​ลง​เล็กน้อย​ สนอกสนใจ​ใน​เครื่องใช้​ประจำ​วันที่​เจ้าหลวง​เล่า​ให้​ฟังอย่าง​มาก​

จาก​ที่​เจ้าหลวง​กล่าว​มา เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​ไม่ธรรมดา​อย่าง​แท้จริง​

ทว่า​ผู้ใด​กัน​จะว่าง​ขนาด​ประดิษฐ์​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​ขึ้น​มา

ไม่ต้อง​คิด​ให้​มากความ​ก็​รู้​ว่า​ ผู้​ที่​ประดิษฐ์​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​ไม่ธรรมดา​แน่นอน​ คง​มีวัสดุ​หา​ยาก​อยู่​ล้นหลาม​

เพราะ​อย่างนั้น​ถึงไม่เห็น​วัสดุ​หา​ยาก​เช่นนี้​เป็น​เรื่องใหญ่​ รังสรรค์​เครื่องใช้​ประจำวัน​ด้วย​วัสดุ​เหล่านี้​ได้​โดย​ไม่คิดมาก​ ถือ​เสีย​ว่า​เป็น​ของเล่น​

‘น่าสนใจ​!’

มัน​คิดในใจ​ เริ่ม​หมายตา​เจ้าของ​ผู้อยู่เบื้องหลัง​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​

ความ​จลาจล​ใกล้​มาเยือน​ มัน​จะทำการ​ใหญ่​ สิ่งที่​ขาดแคลน​ที่สุด​ก็​คือ​ยอด​ฝีมือ​ หาก​ชักชวน​เจ้าของ​ผู้อยู่เบื้องหลัง​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​มาได้​ มัน​ย่อม​ได้​กำลัง​พล​อัน​ทรงพลัง​มาเพิ่ม​อีก​หนึ่ง​

‘แต่​จะว่า​ไป​ เจ้าหลวง​ผู้​นี้​อาภัพ​ยิ่งนัก​ สหาย​และ​พี่น้อง​ที่​ได้​เจอ​กับ​มัน​ ต่าง​พบจุดจบ​น่าอนาถ​กัน​ทั้งสิ้น​…’

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​คิด​ขึ้น​ใน​ใจอีกครั้ง​ ‘หาก​ข้า​รับ​มัน​ไว้​เป็น​บุตรบุญธรรม​ จะอาภัพ​ตาม​มัน​ โดน​มัน​พา​ไป​ตกอับ​ด้วย​หรือไม่​นะ​’

บอก​ตามตรง​ ที่​มัน​ถามถึงประสบการณ์​ที่ผ่านมา​ของ​เจ้าหลวง​นั้น​เพียง​ถามไป​อย่างนั้น​ ใช่ว่า​ห่วงใย​อัน​ใด​ใน​ตัว​เจ้าหลวง​

หน้า​เหมือน​บุตรชาย​ของ​มัน​ที่​ตาย​ไป​อย่างนั้น​หรือ​

มัน​มีบุตรชาย​ที่ไหน​!

มัน​มีเพียง​บุตรสาว​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​เท่านั้น​…

ที่ว่า​หน้า​เหมือน​ก็​เป็น​เพียง​ข้ออ้าง​ของ​มัน​เท่านั้น​

มัน​รับ​บุตรบุญธรรม​ด้วย​ข้ออ้าง​นี้​มาหลาย​คน​แล้ว​

‘ไม่ต้อง​กลัว​ บุตรบุญธรรม​ที่​ข้า​รับ​ไว้​ ก็​ไม่มีผู้ใด​มีชีวิตรอด​เช่นกัน​!’

มัน​คิดในใจ​ มิได้​เกรงกลัว​ว่า​เจ้าหลวง​จะนำพา​ความ​โชคร้าย​มาให้​

เพราะ​เชื่อ​ว่า​ตัว​มัน​นั้น​ดวง​แข็ง​ เจ้าหลวง​ข่ม​ดวง​มัน​มิได้​

อีก​อย่าง​ ผู้​ที่​กลาย​มาเป็น​บุตรบุญธรรม​ของ​มัน​ต่างหาก​ที่​อาภัพ​ นั่น​เป็น​ชะตากรรม​ที่​ต้อง​ตาย​แน่​แล้ว​

บรรดา​บุตรบุญธรรม​ที่​มัน​รับ​ไว้​ทั้งหมด​ล้วน​เป็น​ ‘เครื่องมือ​’ ของ​มัน​ ช่วย​ปฏิบัติภารกิจ​ที่​อันตราย​ถึงขีดสุด​จน​อาจ​ไม่มีชีวิตรอด​แทน​มัน​

อย่างเช่น​เจ้าหลวง​

มัน​รับ​เจ้าหลวง​ไว้​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ก็​เพื่อให้​เจ้าหลวง​ไป​สอดแนม​ที่​ภพ​เซียน​!

ภายภาคหน้า​จะกลายเป็น​กลียุค​ มัน​จำต้อง​แข็งแกร่ง​กว่า​นี้​ จึงหมายตา​ภพ​เซียน​ คิด​จะรุกราน​ยึดครอง​ภพ​เซียน​ เปลี่ยน​สิ่งมีชีวิต​ใน​นั้น​ให้​กลาย​เป็นสมาชิก​ใน​นคร​พิศวง​ของ​มัน​

ตำแหน่ง​ภพ​เซียน​นั้น​หา​ยาก​ยิ่ง​ สิ่งมีชีวิต​ที่​ทราบ​ตำแหน่ง​นั้น​มีเพียง​หยิบมือ​ ทว่า​สุดท้าย​มัน​ก็​หา​ตำแหน่ง​ภพ​เซียน​เจอ​จนได้​

เดิม​มัน​คิด​จะยกทัพ​เข้าไป​ทันที​ กลับ​พบ​ว่า​รอบนอก​ภพ​เซียน​มีพลัง​บางอย่าง​ปกคลุม​ไว้​ มัน​ไม่กล้า​ผลีผลาม​ คิด​จะสอดแนม​จน​รู้ตื้นลึกหนาบาง​แล้ว​ค่อย​ลงมือ​

พอดี​กับ​ที่​เจ้าหลวง​มาถึง มัน​จึงคิด​จะใช้อีก​ฝ่าย​ ต้องการ​ส่งเจ้าหลวง​ไป​สอดแนม​!

“บุตรชาย​ของ​ข้า​ ประสบการณ์​ของ​เจ้าชวน​ให้​เศร้าโศก​น้ำตาไหล​เสีย​จริง​! ไม่ได้การ​ บัดนี้​ เจ้าเป็น​บุตรบุญธรรม​ของ​ข้า​แล้ว​ บิดา​บุญธรรม​อย่าง​ข้า​ไฉน​เลย​จะเพิกเฉย​ไหว​”

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ตบ​บ่า​เจ้าหลวง​ “วางใจ​เถิด​ พ่อ​จะจับ​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านั้น​มาให้​เจ้าจัดการ​ตามที่​ต้องการ​!”

“เรา​ไม่ไป​ข้องแวะ​กับ​พวก​มัน​แล้ว​ได้​หรือไม่​”

เจ้าหลวง​เอ่ย​เสียง​ขึ้น​จมูก​ มัน​ผวา​แล้ว​จริง ๆ​

ต้อง​พ่ายแพ้​ให้​กับ​เจ้าพวก​เครื่องใช้​ประจำวัน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ มัน​มีแผลใจ​ไป​หมด​แล้ว​ ไม่อยาก​ยุ่งเกี่ยว​อัน​ใด​กับ​เหล่า​เครื่องใช้​ประจำวัน​อีก​

“นี่​เจ้าไม่เชื่อใจ​ใน​พลัง​ของ​พ่อ​หรือ​” จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​เอ่ย​เสียง​เข้ม​

“เชื่อ​ เชื่อ​!” เจ้าหลวง​รีบ​บอก​ มิกล้า​โต้แย้ง​อัน​ใด​

หาก​ทำให้​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ขุ่นเคือง​จริง ๆ​ มัน​คง​โดน​บดขยี้​ตาย​ได้​ง่าย ๆ​

“เชื่อ​ก็ดี​”

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​หัวเราะ​ “เรื่อง​นี้​เจ้าไม่ต้อง​สนใจ​ พ่อ​จะจัดการ​ทุกอย่าง​ให้​เรียบร้อย​เอง​ เจ้าบำเพ็ญ​วิชา​ของ​ตน​ให้​ดี​ก็​พอ​ ใน​ฐานะ​บุตรบุญธรรม​ของ​พ่อ​ ขอบเขต​พลัง​ของ​เจ้าใน​ตอนนี้​ต่ำ​เกินไป​ พ่อ​หวัง​ว่า​เจ้าจะเก่ง​ขึ้น​ได้​ไว ๆ​”

มัน​ต้องการ​ให้​เจ้าหลวง​ไป​สอดแนม​ที่​ภพ​เซียน​โดยด่วน​ที่สุด​ นคร​พิศวง​ใหญ่​อื่น​ ๆ ก็​มิได้​ธรรมดา​ เกรง​ว่า​คง​เพ่งเล็ง​ภพ​เซียน​กัน​หมด​ ผู้ใด​ชักช้า​ อาจ​ไม่เหลือ​แม้แต่​เศษเล็กเศษน้อย​ที่​ตก​ถึงท้อง​

กลียุค​ใกล้​มาเยือน​ ผู้ใด​มีกองกำลัง​แกร่งกล้า​กว่า​ ผู้​นั้น​ย่อม​ได้เปรียบ​กว่า​!

“ขอรับ​ท่าน​พ่อบุญธรรม​!”

เจ้าหลวง​ปีติ​ยินดี​ ขอ​เพียง​มัน​ไม่ต้อง​ไป​ก็​พอ​ มัน​ไม่ต้องการ​พบ​หน้า​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านั้น​อีกแล้ว​

ขณะเดียวกัน​ น้ำตา​ของ​มัน​หลั่ง​ริน​ ซาบซึ้งใจ​เหลือแสน​

เหมือน​โชค​หล่น​ทับ​มัน​อย่าง​แท้จริง​ ถึงได้​พานพบ​บิดา​บุญธรรม​ที่​ดี​กับ​มัน​ถึงเพียงนี้​!

ตอนนี้​ มัน​เห็น​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​เป็น​เหมือน​บิดา​ของ​มัน​จริง ๆ​!

“ท่าน​พ่อบุญธรรม​ ไม่ว่า​อนาคต​เป็น​เช่นไร​ ข้า​จะติดตาม​ท่าน​พ่อบุญธรรม​ตลอดไป​ อยู่​ใต้​บัญชา​ท่าน​พ่อบุญธรรม​ ไม่มีทาง​แปร​ใจเป็นอื่น​!”

มัน​กล่าว​ต่อ​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​อย่าง​ขึงขัง​

“ดี ๆ​ๆ! พ่อ​มีบุตรชาย​อย่าง​เจ้า พ่อ​ดีใจ​มาก​จริง ๆ​!”

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ตบ​บ่า​เจ้าหลวง​ด้วย​รอยยิ้ม​ “เอาล่ะ​ เจ้าไป​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​ สาย​ ๆ พ่อ​จะไปหา​ ช่วย​วางแผน​เพิ่ม​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​เจ้าอย่าง​เข้มงวด​”

“ขอบคุณ​ท่าน​พ่อบุญธรรม​!”

เจ้าหลวง​กล่าว​ขอบคุณ​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​รัว​ ท้ายที่สุด​ก็​ไป​จาก​ที่นี่​

หลัง​เจ้าหลวง​ออก​ไป​ จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ก็​เอ่ย​ขึ้น​เบา​ ๆ “ฝูถูอยู่​ที่ใด​ ออกมา​พบ​ข้า​”

จากนั้น​ ลมหายใจ​ต่อมา​ ร่าง​พิศวง​ร่าง​หนึ่ง​เหิน​เข้ามา​ คุกเข่า​อยู่​เบื้องหน้า​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​อย่าง​นอบน้อม​

“ข้า​ขอ​สั่งให้​เจ้าไป​คัดเลือก​กำลัง​พล​มาจำนวน​หนึ่ง​ ไป​ยัง​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​ พา​ตัว​เครื่องใช้​ประจำวัน​ รวมถึง​เจ้าของ​ผู้อยู่เบื้องหลัง​เครื่องใช้​ประจำวัน​กลับมา​พบ​ข้า​!”

มัน​หันไป​ออกคำสั่ง​ของ​ร่าง​พิศวง​นั้น​ หรือ​ก็​คือ​ฝูถู

มัน​ให้ความสำคัญ​ต่อ​เจ้าของ​ผู้อยู่เบื้องหลัง​เครื่องใช้​ประจำวัน​เหล่านี้​มาก​ มิได้​สบประมาท​หรือ​ชะล่าใจ​แม้แต่น้อย​

ฝูถูเป็นกำลัง​พล​สำคัญ​ตน​หนึ่ง​ใน​นคร​พิศวง​ของ​เขา​ พลัง​ที่​มีนั้น​เทียบ​ชั้น​ว่าที่​จักรพรรดิ​เซียน​ได้​เลย​ หาก​ได้​ยืม​พลัง​พิศวง​ลางร้าย​แล้ว​เปล่ง​อานุภาพ​เต็มเปี่ยม​ สามารถ​ต่อสู้​กับ​จักรพรรดิ​เซียน​ได้​แน่นอน​

“รอ​ก่อน​ ข้า​จัก​ประทาน​กระถาง​มาร​คลั่ง​คลุม​เวหา​ให้​เจ้าด้วย​ นี่​คือ​กระถาง​สัมฤทธิ์​ที่​ร่วง​ออก​มาจาก​แดน​กำเนิด​พิศวง​ลางร้าย​ มีพลัง​ล้นหลาม​ไม่อาจ​วัด​ได้​ อาวุธ​จักรพรรดิ​เซียน​ก็​มิอาจ​เทียบ​เทียม​!”

จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​รู้สึก​ว่า​ยัง​ไม่พอ​ เรียก​กระถาง​สี่ขา​ขนาดเล็ก​ออกมา​อีก​อัน​ แล้ว​ส่งไป​ให้​ฝูถู

กระถาง​สี่ขา​ขนาดเล็ก​นี้​ใหญ่​ไม่เท่า​ฝ่ามือ​ด้วยซ้ำ​ ทว่า​ภายใน​กระถาง​มีพลัง​พิศวง​ลางร้าย​ลึกล้ำ​เกิน​หยั่ง​ไหลเวียน​อยู่​ มอง​เพียง​ปราด​เดียว​ก็​ชวน​ให้​อกสั่นขวัญแขวน​ สะท้าน​ไป​ทั้ง​วิญญาณ​

แน่นอน​ว่า​ ชื่อ​กระถาง​มาร​คลั่ง​คลุม​เวหา​เป็น​ชื่อ​ที่​จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​ตั้งขึ้น​เอง​ มัน​ไม่รู้​ว่า​แท้จริง​แล้ว​กระถาง​นี้​มีนาม​ว่า​อัน​ใด​

“รับ​บัญชา​ท่าน​จ้าว​!”

ฝูถูรับ​กระถาง​มาร​คลั่ง​คลุม​เวหา​มา แล้ว​ตอบ​เสียง​นอบน้อม​ ก่อน​จะไป​จาก​ที่นี่​ รุดหน้า​ไป​รวมกำลัง​พล​ เตรียม​บุก​ไป​ยัง​อาณา​จัก​รอ​วี้ซ​วี​

“เหตุใด​จู่ ๆ ข้า​ถึงสังหรณ์​ใจไม่ดี​ขึ้น​มาได้​…”

หลัง​ฝูถูไป​แล้ว​ จ้าว​แห่ง​รัตติกาล​หัวใจ​กระตุก​วูบ​อย่าง​แปลกประหลาด​ มัน​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​อดมิได้​ “เจ้าหลวง​อะไร​นั่น​คง​ไม่ได้​ข่ม​ดวง​ข้า​จริง ๆ​ กระมัง​!”

แต่เพียง​ไม่นาน​มัน​ก็​ตั้งสติ​ขึ้น​ได้​ แล้ว​ปัด​ตก​ความคิด​นั้น​ไป​

มัน​ไฉน​เลย​จะถูก​เจ้าหลวง​ข่ม​ดวง​เอา​!

น่าขัน​!

“หาก​ฝูถูล้มเหลว​ อย่าง​มาก​…ข้า​ก็​ถอดใจ​”

มัน​เอ่ย​ต่อ​ใน​ใจ แลดู​ไม่มั่นใจ​เท่าใด​

เมื่อ​พลัง​สูงถึงระดับ​มัน​แล้ว​ ไม่ว่า​ลางสังหรณ์​ใด​ก็​มิใช่ว่า​จะโผล่​ออกมา​พรวดพราด​ ที่​มัน​เกิด​ความคิด​เช่นนี้​ขึ้น​มา น่ากลัว​ว่า​อาจ​เพราะ​จะมีเรื่อง​ไม่คาดคิด​เกิดขึ้น​จริง ๆ​

มัน​รู้สึก​ว่า​ควร​วางแผน​ให้​รัดกุม​ หาก​ฝูถูที่​มีกระถาง​มาร​คลั่ง​คลุม​เวหา​ไป​ด้วย​ยัง​ล้มเหลว​ มัน​ก็​ตัดสินใจ​ว่า​จะไม่ดึงดัน​ ล้มเลิก​แผนการ​เกี่ยวกับ​พวก​นั้น​

ณ ดินแดน​หยิน​ เหยียน​โจว​ แดน​ทักษิณ​ทิศ​

เวลา​ผ่าน​ไป​พักใหญ่​ สัตว์​อสูร​ทั้ง​เก้า​ลาก​รถ​จน​ท่อง​ไป​ทั่ว​แดน​บูรพาทิศ​ตามคำสั่ง​ของ​ห​ลี่​จิ่ว​เต้า​ จน​มาอยู่​ใน​แดน​ทักษิณ​ทิศ​ซึ่งอยู่​ข้างเคียง​กัน​

ระหว่างทาง​ สัตว์​อสูร​ทั้ง​เก้า​ได้​รับประโยชน์​ไม่น้อย​ ขอบเขต​พลัง​สูงขึ้น​กว่า​เก่า​มาก​ บัดนี้​ พวก​มัน​ทั้งหมด​ล้วน​ก้าว​สู่ขอบเขต​จักรพรรดิ​ กลายเป็น​อสูร​จักรพรรดิ​!

คุณชาย​ให้อาหาร​พวก​มัน​อยู่​บ่อย ๆ​ บางครั้ง​คุณชาย​ก็​จะบรรเลง​เพลง​ฉิน​ให้​ฟังด้วย​ ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ พวก​มัน​อยาก​จะบรรลุ​ช้ายัง​มิได้​

ขอบเขต​พลัง​ของ​พวก​เด็ก​ ๆ อย่าง​ต้าเต๋อ​และ​อ้าย​ฉาน​ก็​ยิ่ง​สูงขึ้นไป​อีก​ในเวลานี้​ พวกเขา​ต่าง​ก้าว​สู่ขั้น​เทียน​ตี้​ และ​ต้าเต๋อ​กับ​อ้าย​ฉาน​ยัง​ได้​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ของ​เพื่อน ๆ​ ที่​ก้าว​สู่ขอบเขต​เซียน​ไป​ครึ่ง​ขา​ อีก​เพียง​ก้าว​เดียว​ก็​จะได้​บรรลุ​เป็น​เซียน​แล้ว​

อัน​หลาน​เสวี่ย​ก็​ยกระดับ​พลัง​ขึ้น​มาก​ แม้จะยัง​ไม่ถึงขั้น​เทียน​ตี้​ กระนั้น​ก็​ก้าว​สู่ขั้น​ตี้จ​วิน​แล้ว​ ห่าง​เพียง​ขั้น​เดียว​จาก​ระดับ​เทียน​ตี้​

เสี่ยว​ห​ยา​และ​พี่ชาย​ของ​นาง​ก็​พา​กัน​ก้าว​สู่ขั้น​เทียน​ตี้​แล้ว​เช่นกัน​ การ​ได้​อยู่​กับ​คุณชาย​ทุกคืน​วัน​เช่นนี้​ได้​รับประโยชน์​มหาศาล​จริง ๆ​ มหาศาล​จน​พวก​นาง​จินตนาการ​ไม่ออก​!

จิ้งจอก​น้อย​สีแดง​เพลิง​และ​จิ้งจอก​ขาว​ก็​ยกระดับ​พลัง​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​เช่นกัน​ พวก​นาง​สอง​ตัว​ ตัว​หนึ่ง​ก้าว​สู่ขอบเขต​สูงสุด​ อีก​ตัว​ก้าว​สู่ขอบเขต​มหา​จักรพรรดิ​ พวก​นาง​สอง​ตัว​รู้สึก​เหมือน​ฝัน​ไป​ ดู​มิใช่ความจริง​จน​พวก​นาง​ยาก​จะเชื่อได้​ลง​!

ก่อนหน้านี้​ ขอบเขต​พลัง​ของ​พวก​นาง​ทั้งสอง​ต่ำต้อย​จน​ทน​ดู​แทบ​มิได้​ ไม่ถึงขอบเขต​นักบุญ​ด้วยซ้ำ​

ส่วน​ลั่วสุ่ย​ เซี่ยเหยียน​ และ​ห​ลิง​อิน​สามคน​ยิ่ง​มีขอบเขต​สูงขึ้นไป​อีก​ใน​บัดนี้​ เหนือ​ขอบเขต​เซียน​ขึ้นไป​ได้​นาน​แล้ว​

โดย​ขอบเขต​พลัง​ของ​ลั่วสุ่ย​นั้น​สูงที่สุด​ ตีโค้ง​แซงขึ้น​มาได้​ บัดนี้​ นาง​เป็น​ถึงราชัน​แห่ง​เซียน​ตน​หนึ่ง​แล้ว​!

ก่อนหน้านี้​ ห​ลิง​อิน​คือ​ผู้​ที่​มีขอบเขต​พลัง​สูงที่สุด​มาโดยตลอด​ แต่​ถึงอย่างไร​ ลั่วสุ่ย​ก็​อยู่​เคียงข้าง​คุณชาย​อยู่​ตลอด​ ทั้ง​พรสวรรค์​ ทั้ง​พลัง​กาย​เนื้อ​ ล้วน​อยู่​ใน​ระดับ​ที่​สมบูรณ์แบบ​เกิน​หยั่ง​ไป​แล้ว​ ห​ลิง​อิน​ถูก​แซงขึ้นไป​ได้​

ห​ลิง​อิน​ใน​ตอนนี้​เป็น​จ้าว​แห่ง​เซียน​ตน​หนึ่ง​

เซี่ยเหยียน​มีขอบเขต​พลัง​ต่ำ​ที่สุด​มาแต่ไหนแต่ไร​ใน​บรรดา​ทั้ง​สามคน​ บัดนี้​ก็​ยัง​คงเดิม​ ไล่ตาม​ลั่วสุ่ย​และ​ห​ลิง​อิน​ไม่ทัน​

นางใน​ตอนนี้​เป็น​เซียน​สมบูรณ์​ตน​หนึ่ง​

ขณะที่​บรรลุ​เซียน​ พวก​นาง​ต่าง​ทึ่ง​กัน​หมด​ ชักนำ​สสาร​นิรันดร์​เข้า​ร่าง​ ไม่ถูก​กาลเวลา​กัดกร่อน​อีกต่อไป​ มีอายุขัย​เป็น​นิรันดร์​ นี่​ต่างหาก​ที่​เรียก​ว่า​ เซียน​อย่าง​แท้จริง​!

หาก​อยู่​เป็น​นิรันดร์​มิได้​ ต่อให้​มีพลัง​ระดับ​เซียน​ก็​เท่านั้น​ ถือเป็น​เซียน​เทียม​ อย่างเช่น​ปลา​มังกร​

ทว่า​ยาม​พวก​นาง​บรรลุ​เซียน​ กลับ​มิได้​รู้สึก​ถึงสสาร​นิรันดร์​แต่อย่างใด​

พวก​นาง​รู้สึก​ถึงสสาร​ที่​อัศจรรย์​กว่า​นั้น​ เหนือชั้นกว่า​ความ​นิรันดร์​ แม้แต่​สสาร​โกลาหล​ที่​เป็น​ต้นกำเนิด​ของ​ทุกสิ่ง​ยัง​เทียบ​มิได้​!

ใน​ลาน​คุณชาย​มีหิน​โกลาหล​อยู่​ก้อน​หนึ่ง​ พวก​นาง​สัมผัส​ได้​ว่า​สสาร​ชนิด​นี้​เมื่อ​เทียบ​กับ​สสาร​โกลาหล​แล้ว​เป็น​อย่างไร​

‘นี่​คือ​สสาร​ที่​คุณชาย​ประทาน​ให้​!’

พวก​นาง​ต่าง​ตระหนัก​ดี​

สสาร​ที่​อัศจรรย์​ยิ่งกว่า​สสาร​โกลาหล​นี้​ ย่อม​ต้อง​เกี่ยวข้อง​กับ​คุณชาย​!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท