นี่เป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดที่เคยดังในคอนเสิร์ตฮอลล์ในรอบหลายร้อยปี ผู้ชมบางคน แทบจะเป็นลมเพราะขาดออกซิเจนจากการกรีดร้อง!
เหลือเชื่อ!
สั่นสะเทือน!
ตกตะลึง!
หลายคนโบกมือ หลายคนตบอก หลายคนดวงตาเบิกกว้างร้องเสียงลั่น ทุกคนแทบกลายเป็นเหมือนซุนเย่าหั่ว ในเวลานี้ทุกคนล้วนเข้าใจแล้วว่าทำไมแก๊งปลาถึงเสียสติเช่นนั้น
“เซี่ยนอวี๋!”
“เขาคือเซี่ยนอวี๋!”
“เขาคือเซี่ยนอวี๋จริงๆ !”
“อห ก่อนหน้านี้ใครด่าหลานหลิงอ๋องไว้ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลย เทพที่ผมชอบมานานคือมีไว้ให้ดูถูกง่ายๆ หรือไง คำด่าสาดเสียเทเสียในเน็ตหรือการท้าต่อยในชีวิตจริงมาเลยผมไม่กลัวแล้ว!”
“เขาคือพ่อเพลงอวี๋!”
“ก่อนหน้านี้ฉันด่าพ่อเพลงอวี๋?”
“ฉันอยากฉีกปากตัวเองทิ้งจริงๆ ที่ถูกพวกเกรียนคีย์บอร์ดชักนำไปได้ พ่อเพลงอวี๋เป็นเพียงคนเดียวที่ฉันยึดถือตั้งแต่เริ่มเรียนดนตรีเมื่อไม่กี่ปีก่อน!”
“…”
บางคนหัวเราะลั่น!
บางคนกลับร้องไห้!
เหตุการณ์ในห้องส่งแทบไม่สามารถควบคุมได้!
อันหงซึ่งเป็นพิธีกรได้สูญเสียความสามารถในการควบคุมเวทีไปโดยสิ้นเชิง ที่นี่คือห้วงมหรรณพแห่งความวิปลาส ที่นี่กลายเป็นห้วงมหรรณพแห่งเสียงหวีดร้อง ตลอดหลายปีในสายอาชีพพิธีกรของอันหง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ทว่าความตกตะลึงซึ่งเขาประสบพบเจอในตอนนี้มีหรือจะน้อยไปกว่าผู้ชม?
……
ในบ้านของหลินเยวียน
ชั่ววินาทีที่หลานหลิงอ๋องถอดหน้ากากออก มีดปอกแอปเปิ้ลในมือของแม่หล่นลงบนพื้น ท่ามกลางเสียงเห่าของหนานจี๋ซึ่งดังก้องอยู่ในห้อง ครูสอนดนตรีซึ่งปลดเกษียณแล้วพลันหลั่งน้ำตา “ลูกของฉันเอง พ่อเห็นไหมนั่น ลูกของเรายืนอยู่ตรงนั้น เขาอยู่ตรงนั้น!”
“พี่!”
หลินเหยาก็ร้องไห้เช่นกัน!
ราวกับหยดน้ำตานั้นไร้ค่า!
เป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่ใบหน้าของหลินเซวียนจะเปลี่ยนจากนิ่งค้างเป็นบ้าคลั่ง เธอร้องไห้และหัวเราะไปพร้อมกัน “หลานหลิงอ๋องคือหลินเยวียนเองเหรอ หลานหลิงอ๋องคือน้องชายของฉัน!”
ความฝันคืออะไร
ทุกคนในสกุลหลินต่างรู้ดี ว่าความฝันของหลินเยวียนคือการร้องเพลง!
หลินเซวียนจำได้…
ไม่กี่วันหลังจากคอของหลินเยวียนบาดเจ็บ เขามักจะแอบฝึกร้องเพลงอยู่ในห้องขณะที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เขาใช้เวลาครึ่งปีเต็มๆ กว่าจะยอมรับเรื่องที่เสียงของเขาเสียหาย เขาร้องเพลงด้วยเสียงแหบแห้งครั้งแล้วครั้งเล่า จนต้องเข้าโรงพยาบาล จนตนเองพูดไม่ได้ คนในครอบครัวต้องอ้อนวอน กว่าเขาจะยอมหยุดดิ้นรน!
และในวันนี้!
เขาเกิดใหม่อีกครั้งจากเถ้าถ่าน!
ทันใดนั้นหลินเซวียนก็นึกถึงถ้อยคำด่าทอเกี่ยวกับหลานหลิงอ๋องบนอินเทอร์เน็ต เธอรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาชั่วขณะ ทว่าในเวลานี้เธอกลับรู้สึกเพียงเสียใจอย่างสุดซึ้ง พวกคุณเป็นใครถึงมารังแกน้องฉัน พวกคุณรับผลที่ตามมาไหวหรือ!!!!
……
ในวงการเพลง
เมื่อชายหนุ่มแปลกหน้าหน้าตาหล่อเหล่าคนนี้เอ่ยแนะนำตัว คนในวงการดนตรีจำนวนมากล้วนตื่นตกใจ เสียงร้องด้วยมากมายดังขึ้นท่ามกลางความตกตะลึง
“เซี่ยนอวี๋!”
“เขาคือเซี่ยนอวี๋ !”
“เขาคือพ่อเพลงตัวน้อย!”
“เชี่ยๆๆ เขาเขียนเพลงไม่ใช่เหรอ นี่ร้องเพลงได้ด้วย แถมร้องได้ดีด้วย มิน่าล่ะเขาถึงกล้าวิจารณ์แบบไม่เกรงกลัว ถ้าคนเขาไม่สวมหน้ากาก จะมีนักร้องคนไหนมาทุบตีได้”
“หยวนซีจบเห่แล้ว!”
“คุณดูท่าทีของเจิ้งจิงกับหยางจงหมิงเอาก็แล้วกัน เดิมทีพวกเขาก็มาจากบริษัทเดียวกัน พวกเขาเห็นเซี่ยนอวี๋ลูกที่ภาคภูมิใจที่สุดในบริษัท หยวนซีล่วงเกินพ่อเพลงทั้งหมดได้ในคราวเดียว!”
“คุกเข่า!”
“อย่าว่าแต่หยวนซีเลย ตอนนี้ฉันเองก็อยากคุกเข่าเหมือนกัน หลานหลิงอ๋องเป็นเซี่ยนอวี๋ไปได้ยังไง หลานหลิงอ๋องคือพ่อเพลงตัวน้อยเซี่ยนอวี๋ได้ยังไง เทพอย่างคุณจะมาแข่งกับปุถุคนคนเดินดินทำไมกัน!”
……
บริษัทยักษ์ใหญ่แต่ละแห่ง
ผู้บริหารบริษัทสักแห่งหนึ่งตัดสินใจเด็ดขาดแทบทันทีที่ตัวตนของเซี่ยนอวี๋เปิดเผย “แจ้งทุกแผนกในบริษัททันที ยุติสัญญาร่วมงานกับหยวนซีทั้งหมด!”
“เชี่ย!”
“บริษัทเรายังมีงานพรีเซนเตอร์ของหยวนซีอยู่นะ เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย แฟนคลับเท่าหยิบมือของหยวนซียังไม่พออุดร่องฟันของแฟนคลับเซี่ยนอวี๋ด้วยซ้ำ รอบนี้ต้องมีคนซี้แหงแก๋เท่าไหร่ล่ะเนี่ย!”
“ผมไม่สน!”
“ต่อให้หยวนซีมีงานพรีเซนเตอร์สักหมื่นงานก็ถอดออกให้หมด อย่าให้ช้าแม้แต่วินาทีเดียว ถ้าเกิดคุณยังอยากอยู่ในวงการนี้ต่อไป ก็อย่าไปงัดข้อกับพ่อเพลง พลังของเซี่ยนอวี๋ หยางจงหมิง เจิ้งจิงรวมกัน ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาเอ่ยปากหรอก คนไม่รู้เท่าไหร่ก็พร้อมจะฉีกหยวนซีเป็นชิ้นๆ แล้ว!”
“นักร้องคนอื่น…”
“นักร้องคนอื่นยังไม่ได้ทำจนเรื่องเลยเถิด พวกเขาก้มหน้ายอมรับความผิดต่อเซี่ยนอวี๋แต่โดยดี เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้ผ่านไป โดยที่เงื่อนไขคือเซี่ยนอวี๋เองก็ให้อภัยเขา แต่ทางหยวนซีต่อให้เซี่ยนอวี๋อยากให้อภัยก็คงไม่ได้แล้ว แฟนคลับเขาไม่ยอมแน่!”
“จัดการหยวนซี!”
“ก่อนหน้านี้เราติดหนี้เซี่ยนอวี๋ คนเขาถอยให้เราหนึ่งเดือน ให้พื้นที่แข่งขันในชาร์ตเพลงกับนักร้องแถวหน้าบนบริษัทเรา ตอนนี้ถึงเวลาตอบแทนน้ำใจแล้ว แต่การตอบแทนครั้งนี้เหมือนกับเราไม่ต้องตอบแทนนั่นแหละ ครั้งนี้หยวนซีต้องรับผลกรรมแน่นอน แม้แต่เทพเซียนจากสวรรค์ชั้นฟ้าก็ช่วยเธอไม่ได้”
ในขณะนั้น!
แทบทุกบริษัทตัดขาดกับหยวนซีอย่างเร่งด่วน ราวกับหยวนซีเป็นเทพแห่งโรคระบาด และทุกคนกระเสือกกระสนรักษาชีวิตด้วยการตัดสัมพันธ์!
……
บนเวที
หยวนซี ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเงามืดแถวหลังเพื่อรอให้หลานหลิงอ๋องถอดหน้ากาก เดิมทีเธอมีใบหน้าที่เย็นชา ทว่าทันทีที่เขาเปิดเผยตัวตน เธอพลันรู้สึกประหนึ่งเกือบจะถูกเหวี่ยงลงพื้นด้วยเสียงอันน่าสะพรึงกลัวรอบกาย
เธองุนงง!
เธอร้องไห้อีกครั้ง!
เสียงร้องไห้ในครั้งนี้ปราศจากความขุ่นข้องหมองใจ ปราศจากความเดือดดาล และปราศจากความดื้อรั้นไม่ยอมจำนน มีเพียงความรู้สึกสิ้นหวังและอับจนหนทาง เธอไม่รู้ว่าเธอจะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง ร่างบนเวทีสูงตระหง่านประดุจขุนเขา กดไว้จนเธอหายใจไม่ออก!
ครั้งนี้จบสิ้นแล้วจริงๆ …
ทำไมเขาถึงเป็นเซี่ยนอวี๋…
เขาคือผู้ก่อตั้งราชวงศ์ปลา เขาคือพ่อเพลงตัวน้อยซึ่งมีชื่อเสียงที่สุดในวงการดนตรีตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาคือคนดนตรีที่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันจากหยางจงและเจิ้งจิง เขาคือยอดพีระมิดของอุตสาหกรรมนี้!
……
ซย่าฝานวิ่งขึ้นไปบนเวที!
ซุนเย่าหั่ววิ่งขึ้นไปบนเวที!
จ้าวอิ๋งเก้อวิ่งขึ้นไปบนเวที!
เจียงขุยวิ่งขึ้นไปบนเวที!
พวกเขากอดกันรอบเซี่ยนอวี๋ ก่อตัวเป็นวงกลมแน่น หยางจงหมิงและเจิ้งจิงยืนอยู่ด้านนอกรอบวงราวกับเป็นเทพผู้พิทักษ์สององค์
ในที่สุด…
อิ่นตงลุกขึ้นยืน
เยี่ยจือชิวก็ลุกขึ้นยืน
พวกเขาไม่สามารถนั่งนิ่งในฐานะกรรมการตัดสินท่ามกลางผู้ชมได้อีกต่อไป นั่นเป็นการไม่เคารพคนดนตรีในระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เซี่ยนอวี๋ก็อยู่ในระดับเดียวกับพวกเขา!
นี่คือความเคารพ!
คือความเคารพต่อเพื่อนร่วมอาชีพ!
มีเพื่อนอาชีพในอุตสาหกรรมนี้เพียงไม่กี่คนที่พวกเขาเคารพ เซี่ยนอวี๋ก็คือหนึ่งในนั้น และสิ่งที่ประดักประเดิดที่สุดคือพวกเขาทั้งสองเคยพ่ายแพ้ต่อเซี่ยนอวี๋ในมหาสงครามเทพเซียน
โดยเฉพาะอิ่นตง!
เขาพ่ายแพ้ติดต่อกันสองรอบ!
รวมไปถึงครั้งนั้นเมื่อปลายปีที่แล้ว!
แต่ไหนแต่ไรมาในรายการนี้ไม่ได้มีพ่อเพลงเพียงสี่คน แต่มีห้าคน เห็นชัดๆ ว่าพ่อเพลงตัวน้อยไม่ได้รับมงกุฎซึ่งเป็นของพ่อเพลง แต่ในแง่หนึ่งเขากลับเปล่งประกายกว่าใคร…
เขาส่องแสงได้จริงๆ !
และเป็นแสงที่ฝูงชนไม่อาจหยุดยั้งได้!