เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 28 เขาโกรธแล้ว
คนที่สามารถอยู่ข้างกายเขาได้ จะต้องผ่านการตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า ภีมพลให้ความสำคัญกับครอบครัวมากจริงๆ
เพื่อลูก ก่อนที่เขาจะตรวจสอบอะไรให้ชัดเจน ก็พาเธอกลับมาที่เอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่าแล้ว
“หม่ามี๊ พวกเรากลับไปที่หมู่บ้านซันไลต์กันเถอะ! ผมต้องบอกกับธารณ์! และจะไปเยี่ยมพี่สาวินด้วย!”
“หม่ามี๊ หนูก็จะกลับไปด้วย! หนูเก็บของเรียบร้อยแล้ว!”
นภาลัยเห็นลูกๆลงมาชั้นล่างอย่างอารมณ์ดี และมาขอร้องตรงหน้าเธอไม่หยุด
วันนี้อากาศไม่เลว ในเมื่อคิดจะไป ก็ไปเถอะ! ไปอย่างกะทันหันเกินไป จึงไม่ได้บอกคนในหมู่บ้านก่อน
“คุณนาย ต้องการใช้รถมั้ยครับ”
“ไม่ต้องๆ เรียกรถไปก็พอแล้วค่ะ อย่าทำตัวเป็นจุดสนใจมากเกินไปเลย”
กลางวัน
เสียงโทรศัพท์บ้านในห้องรับแขกของเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่าดังขึ้น พ่อบ้านปวิธก้าวเข้าไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีครับ คุณภีม”
“เด็กๆทำอะไรกันอยู่ กินข้าวรึยัง” ระหว่างทำงาน ภีมพลก็ถามด้วยความเป็นห่วง
ปวิธตอบว่า “คุณนายพาพวกเขาไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่หมู่บ้านครับ ไม่ได้กินข้าวกลางวันที่วิลล่า”
“อะไรนะ” ภีมพลเสียงเย็น “พวกเขากลับไปที่หมู่บ้านแล้ว?”
“ครับ”
ครู่หนึ่ง หมู่บ้านซันไลต์ เสียงโทรศัพท์มือถือของนภาลัยที่กำลังล้างสมุนไพรอยู่กับสาวินดังขึ้น
เธอหยิบออกมาดูก็เห็นว่าเป็นภีมพลที่โทรมา
“ฉันรับโทรศัพท์ก่อน”
เพิ่งจะกดปุ่มรับ เสียงเย็นยะเยือกของชายหนุ่มก็ดังลอยมา “ใครให้คุณพาพวกเขากลับไป เกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ”
“อยู่กับฉันมาหกปีก็ไม่ได้เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น กลับมาเยี่ยมหน่อยจะเป็นอะไรไป”
“สถานการณ์ในตอนนี้มันเหมือนกันหรอ” เสียงของภีมพลทุ้มต่ำ “สื่อมวลชนรายงานไปแล้วว่าพวกเขาเป็นลูกของผม คุณสามารถพิจารณาถึงสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหมดได้มั้ย”
“…” เธอไม่มีเหตุผลที่จะใช้โต้เขากลับได้เลย
“รออยู่ที่นั่น ผมส่งคนไปรับพวกคุณแล้ว ภายหน้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม ไม่อนุญาตให้พวกเขาจากไปโดยพลการ!”
“เฮ้ พวกเขาก็เป็นลูกฉัน!”
นภาลัยคิดจะโต้กลับหลายประโยค แต่อีกด้านของโทรศัพท์มือถือกลับมีเสียงสายไม่ว่างดังลอยมา
ครู่หนึ่ง รถหรูคันหนึ่งก็ขับเข้ามาในหมู่บ้าน เลี้ยวมาจอดในลาน หลังประตูรถเปิดออก พ่อบ้านปวิธก็ลงมา
“คุณนายครับ ผมได้รับคำสั่งจากคุณภีมให้มารับคุณกับลูกๆกลับเมือง” ปวิธทำความเคารพอย่างนบนอบ
อาจจะกลัวเธอต่อต้าน ดังนั้นจึงพาบอดี้การ์ดมาด้วย
นภาลัยกับลูกๆถึงได้เอ่ยลาสาวินไปทั้งแบบนี้ จากนั้นก็ขึ้นรถของปวิธ
“อาจารย์” สายตาของสาวินเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์ เธอไม่มีความสุขนี่!
ทำไมถึงได้รู้สึกว่าไม่มีอิสระเลยสักนิดเดียว?
มุมปากนภาลัยโค้งขึ้นเล็กน้อย ขณะยื่นมือไปลูบศีรษะเขา “พรุ่งนี้ฉันจะมา วันนี้ส่งพวกเขากลับไปก่อน”
“อาจารย์ยังออกมาได้อีกหรอครับ” สาวินถามอย่างเป็นกังวล
“ได้”
ระหว่างทางกลับไป นภาลัยคิดๆดูแล้ว ก็หันไปมองพ่อบ้านปวิธ “เขาโมโหหรอ”
“คุณภีมเป็นห่วงความปลอดภัยของพวกคุณมากครับ” ปวิธหวังว่าเธอจะเข้าใจ “คุณชายแชมป์กับคุณหนูขวัญข้าวมีฐานะสูงศักดิ์ หลังจากนี้ออกไปข้างนอกจำเป็นต้องมีบอดี้การ์ดติดตาม จำเป็นต้องรายงานให้คุณภีมทราบครับ”
“…”
ปวิธเอ่ยต่อว่า “คุณภีมเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกๆครับ”
รถจอดอยู่ในลานหน้าเอเมอรัลด์ เบย์ วิลล่า
นภาลัยลงจากรถแล้วก็เห็นแลมโบกินี่ที่จอดอยู่ไม่ไกล เขากลับมาแล้ว?
เพิ่งจะเข้าไปในห้องรับแขก ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่ไร้ซึ่งโทสะทว่าน่าเกรงขาม
ภีมพลนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา นัยน์ตาราวกับเหยี่ยวจับจ้องมาที่เธอ คล้ายกับว่าเธอทำเรื่องอะไรที่ชั่วร้ายมาก
ป้าโสนเห็นสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี จึงรีบพาเด็กๆขึ้นไปข้างบน
นภาลัยยืนนิ่งอยู่กลางห้องรับแขก สบตาเขาด้วยท่าทีไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่ง และไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ เขาต้องทิ้งงานกลับวิลล่ามาจัดการเลยหรอ
“วันนี้การกระทำของคุณเป็นอันตรายมาก” ใบหน้าภีมพลเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์ นัยน์ตาทั้งคู่ราวกับเหยี่ยว “รู้ตัวมั้ย”
นภาลัยตอบ “ฉันไม่รู้สึกว่ามันอันตรายมากตรงไหน เด็กๆเติบโตที่หมู่บ้านซันไลต์ ใช้ชีวิตที่นั่นมาหกปี ไม่ใช่สถานที่วุ่นวายอะไร บอกลาเพื่อนๆก็เป็นเรื่องปกติ”
ภีมพลลุกขึ้นยืน เก็บงำสีหน้าเล็กน้อย นัยน์ตามีโทสะพาดผ่าน
นภาลัยไม่อยากทะเลาะกับเขา ดังนั้นจึงเอ่ยว่า “ฉันเข้าใจความหมายของคุณ หลังจากนี้ฉันจะระวัง”
“ไม่ใช่ระวัง” เขาเอ่ยเสียงเข้ม “แต่ต้องไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกเด็ดขาด”
เธอเงียบ…
ส่วนภีมพลก็จ้องเธอนิ่งๆ ก้าวมาทางเธอทีละก้าว “ได้ยินมั้ย”