เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 39 ค้นพบความลับของเขา
นภาลัยเดินเล่นเป็นเพื่อนลูกๆในลานบ้านครู่หนึ่ง เด็กๆแบ่งปันสิ่งที่พบเจอและได้ยินในโรงเรียนอนุบาลแห่งใหม่กับหม่ามี๊
หลังกลับไปถึงห้องนอนเด็ก นภาลัยก็เล่าเรื่องให้ลูกๆฟัง กล่อมให้พวกเขาหลับในที่สุด
เธอมองเด็กสองคนที่นอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงแล้ว ในใจก็รู้สึกปลาบปลื้มอย่างบอกไม่ถูก นับตั้งแต่นับญาติกับ แด๊ดดี้ ใบหน้าของลูกๆก็มีรอยยิ้มเพิ่มมากขึ้น
นภาลัยมาถึงหน้าห้องนอนหลัก เธอสูดลมหายใจลึก นี่คือที่พำนักพึ่งพิงเพียงหนึ่งเดียวในคืนนี้ของเธอ
ภายในวิลล่าหลังใหญ่ถึงกับไม่มีการจัดเตรียมห้องเอาไว้
ก็ใช่ ใครจะได้รับเกียรติให้พักค้างคืนอยู่ที่นี่กัน
นภาลัยยืนอยู่ที่หน้าประตูครู่หนึ่ง ค่อยผลักประตูที่ปิดอยู่แต่ไม่ได้ลงกลอนให้เปิดออก เงาร่างสูงใหญ่หล่อเหลาของชายหนุ่มที่อยู่ใกล้มากเกือบจะทำให้เธอตาบอด
เสี้ยวพริบตาที่ประสานสายตากัน เธอก็เห็นรอยยิ้มบางๆของเขาได้อย่างชัดเจน สายตาเจิดจ้า จนถึงขั้นแฝงไปด้วย…ความอ่อนโยนที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เล็กน้อย
เขาที่เป็นแบบนี้ เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเหมือนภาพลวงตาอยู่บ้าง
ภีมพลยื่นมือออกมา นภาลัยรีบหลบไปอีกด้านหนึ่ง ทว่าเขากลับปิดประตู
เธอนึกว่าเขาจะโอบเธอ
เขาอาบน้ำแล้ว บนร่างมีกลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่ สวมชุดนอนผ้าไหมสีขาวเรียบลื่น นภาลัยรู้สึกได้ถึงฮอร์โมนเพศชายที่ลอยฟุ้งอยู่ในห้อง…
ห้องนอนสไตล์บารอก เตียงใหญ่สีขาวหิมะอ่อนนุ่ม ชายโสดหญิงโสด…เธอไม่กล้าคิดต่อไปเลยจริงๆ
จนกระทั่งมือของชายหนุ่มยื่นออกมาอีกครั้ง เธอถอยไปชิดกำแพง มือใหญ่ข้างนั้นยันกำแพงข้างหูเธอ นภาลัยถูกต้อนให้เข้ามุมเสียแล้ว
หัวใจเธอกระตุกวูบ มองเขาอย่างตื่นตะลึง
“คุณจะทำอะไร” หัวใจเธอเต้นผิดปกติ
มืออีกข้างของภีมพลโอบเอวเธอ นัยน์ตาที่จับจ้องเธอมีความรู้สึกที่ลบเลือนไม่ออก “คืนนี้ผมต้องการคุณ”
ตรงไปตรงมามาก!
ก้นบึ้งนัยน์ตาหญิงสาวปรากฏความตระหนกยิ่งกว่าเดิม!
ในสายตาเขา เธอมองเขาด้วยนัยน์ตาใสแจ๋วราวกับบ่อน้ำลึกในคืนฤดูใบไม้ผลิ ทำให้เขาถลำตัวเข้าไปอย่างอดไม่อยู่
“ระหว่างพวกเราไม่มีความรัก พวกเราเป็นแค่สามีภรรยาปลอมๆ คุณปล่อยฉันไปได้มั้ย” เธอขอร้องเขาเสียงอ่อน
สมรรถภาพทางกายเขาดีเกินไป เธอยังไม่ฟื้นคืนเลย
“คุณอย่าลืมฐานะของตัวเอง ตามกฎหมายแล้วคุณเป็นภรรยาของผม” ภีมพลเก็บงำรอยยิ้มอ่อนโยนนั้น พลางเอ่ยเสียงเรียบที่เจือไปด้วยการเตือน “ถ้าหากคุณกล้าฝ่าฝืนความต้องการของผม ผมจะเริ่มดำเนินการพัฒนา หมู่บ้านซันไลต์ที่ซื้อมา และไล่ชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งหมดออกไป ถึงตอนนั้นก็จะทำให้พวกเขาไม่มีบ้านให้กลับ”
“คุณ…” นภาลัยจ้องเขาด้วยความโมโห
เขากลับหัวเราะเบาๆ แนบริมฝีปากลงบนริมฝีปากเธอ และถือโอกาสปิดไฟ
เธออยากจะต่อต้าน แต่กลับไม่กล้ายั่วโมโหเขา คำพูดที่ออกมาจากปากเขา ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่นอน เขาพูดได้และทำได้ เขาเป็นภีมพลนะ เขาเป็นตำนานเทพที่ไม่มีใครกล้าล่วงเกินในเมืองไนร์ก้า
นึกถึงภาพที่หญิงสาวกับสาวินร่วมมือกันอย่างรู้ใจในบ้านที่สร้างจากไม้ไผ่…
นึกถึงสายตาที่สาวินมองตนเองด้วยแววตาเหยียดหยาม ภีมพลก็กัดริมฝีปากหญิงสาวอย่างไม่สบอารมณ์!
เจ็บจนเธอร้องซี๊ด!
“คุณบ้าไปแล้วหรอ?” เธอดิ้นรน
“ใช่ ผมบ้าไปแล้ว”
ภีมพลเกิดความปรารถนาที่จะเอาชนะอย่างหนึ่ง เขาจับจุดอ่อนของผู้หญิงคนนี้ได้ นั่นก็คือชาวบ้านในหมู่บ้านพวกนั้น!
หลังจากนี้จะใช้สิ่งนี้บีบเธอเอาไว้ให้มั่นแน่นอน!
“ตอบสนองผม” ภีมพลเอ่ยเสียงทุ้มต่ำและเผด็จการ ไม่รู้ว่าสาวินเคยทำกับเธอรึเปล่า!
นภาลัยหลับตาลง ตอบสนองจูบของเขาด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนและลำบากใจ…
บนเตียงอ่อนนุ่มหลังใหญ่ เธอเจ็บจนต้องจับเอวเขาเอาไว้ ฝ่ามือไล้ลงไปตามแผ่นหลัง และสัมผัสถูกรอยนูนบนแผ่นหลังโดยไม่ทันระวัง นั่นคือรอยย่นยุบยับ เธอตื่นตะลึงเล็กน้อย
จูบของเขาราวกับสายฝนที่โปรยปราย จูบจนเธอสมองขาวโพลน ทำให้เธอไม่มีเวลาจะไปครุ่นคิด
คำพูดของพ่อบ้านปวิธดังก้องในสมองเธอ ดังนั้นนี่คือบาดแผลที่หลงเหลือจากการฝ่าไฟไหม้เข้าไปช่วยคุณแม่เขาอย่างนั้นหรือ
นภาลัยลูบอย่างละเอียดอีกครั้ง อาศัยประสบการณ์ของตัวเองในการวินิจฉัย
ส่วนภีมพลก็คว้าหมับเข้าที่มือเล็กซึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเขา! และเพิ่มความลึกซึ้งของจูบยิ่งขึ้น