เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 142 ทักษะใหม่ของเธอ
ขวัญข้าวชี้ไปที่ที่นั่งว่างที่อยู่ไม่ไกล “คุณป้า ไปนั่งตรงนั้นสิคะ!หนูกะบพี่แชมป์จะนั่งข้างๆ คุณพ่อ”
“ได้สิจ๊ะ” ญาณีรีบลุกขึ้นในทันที
“ขอโทษด้วยนะ ป้าคิดไม่รอบคอบเอง” ใครจะเถียงกับเด็กกันล่ะ? โดยเฉพาะป้านิตย์ชอบเด็กสองคนนี้เป็นพิเศษ
เธอเองต้องชอบพวกเขาด้วย เพราะเธอจะเป็นแม่เลี้ยงในอนาคต
แชมป์โบกมือเรียกน้องสาวของเขา “ขวัญข้าว มานั่งนี่สิ พี่จะอุ้มเธอเอง”
ภีมพลเอื้อมมือออกไปอุ้มขวัญข้าวขึ้นนั่งบนเก้าอี้
“ขอบคุณค่ะ คุณพ่อ” เด็กหญิงตัวเล็กสวมชุดกระโปรงดูน่ารักมาก
แชมป์นั่งลงที่อีกด้านหนึ่งของภีมพล บรรยากาศอาหารกลางวันไม่น่าพอใจสำหรับญาณีสักเท่าไร เพราะมีเด็กสองคนนี้
“พ่อคะ หนูอยากกินลูกอม” ขวัญข้าวพูดด้วยน้ำเสียงเล็กๆ “ซื้อให้หนูหน่อยได้ไหม?”
แชมป์รีบขัดทันที “พ่อบอกว่าแม้แต่เดือนกับดาวก็เอามาให้เราได้ พอต้องซื้อให้เราแน่นอน ใช่ไหมครับ?”
ภีมพลเหยียดแขนออกและวางแขนโอบไหล่ของเด็กๆ เสียงของเขาทุ้มลึก “ลูกอยากกินลูกอมแบบไหน? พ่อจะซื้อให้”
จากนั้นแชมป์กับขวัญข้าวได้ร้องขอและให้คำอธิบายที่ชัดเจน
ภีมพลกดโทรออกทันที “ช่วยส่งลูกอมมาที่รีพัลส์เบย์หน่อย เอาลูกอมสีชมพู เป็นรูปหัวใจ รสสตรอว์เบอร์รี่กับรสช็อกโกแลตผสมกัน โรยด้วยไอซิ่งอีกหนึ่งชั้น”
เขาเป็นคนอดทนและรักเด็กมาก
เมื่อญาณีเห็น เธอก็เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป…
อาหารกลางวันจบลงเ แต่ญาณีกลับมีสีหน้าบูดบึ้งเพราะภีมพลไม่ได้สนใจที่จะมองเธอ แม้เพียงหางตา
เธอจินตนาการถึงฉากอันมีความสุขที่เอเมอรัลด์ เบย์ในอดีต
รถส่งขนมขับเข้ามาในรีพัลส์เบย์
“ว้าว!”
ภีมพลพาเด็กๆ ออกจากห้องนั่งเล่นอย่างตื่นเต้น
ญาณียืนอยู่หน้าหน้าต่างมองภาพอันอบอุ่นของสองพ่อลูก ทุกวินาทีมันทิ่มแทงลงไปในใจของเธอ
ไม่ได้อยู่ด้วยกันมา 6 ปี แต่ยังสนิทสนมกันมาก นี่แหละที่เรียกว่าเลือดข้นกว่าน้ำ
ชั้นบนในห้องวิจัยยา
นภาลัยที่สวมหน้ากากสีดำอันละเอียดอ่อนหลอดเลือดในมือลงบนโต๊ะอย่างแรง ซึ่งทำให้กรินทร์ตกตะลึงอยู่ข้างๆ
เขาเหลือบตาขึ้นมอง “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า?” ท่าทางแปลกๆ แบบนี้ “คุณหึงงั้นเหรอ?”
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ
กรินทร์ถอนหายใจ “พวกคุณมัวทำอะไรอยู่กันแน่ ทำไมไม่คุยกันดีๆ ล่ะ?”
“กินข้าวนานขนาดนี้ ท้องจะแตกแล้วหรือเปล่า” เธอกัดฟันถาม
อย่างไรก็ตาม กรินทร์สังเกตเห็นหลอดยาที่เธอกระแทกโต๊ะเมื่อครู่นี้ “อันนี้คืออะไรเหรอครับ?” เขาหยิบมันขึ้นมาและมองดู เห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้มีไว้สำหรับรักษารอยไหม้
เธอไม่ตอบและเริ่มทำความสะอาดโต๊ะ
“รักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ?” กรินทร์มองเธอด้วยความประหลาดใจ
เธอเหลือบตาขึ้นมอง
กรินทร์ยิ้มออกมาทันที “คุณนี่เก่งจริงๆ ยังหาเวลาคิดถึงเขาได้อีก”
“ยังเหลืออีกสองหรือสามวันไม่ใช่เหรอ? ยาขวดที่สองจะไม่ถูกใช้จนกว่าจะวิจัยเสร็จ ฉันแค่ไม่อยากเสียเวลา อย่าคิดมาก”
แต่ความจริงเป็นอย่างไร ใครมีตาย่อมมองเห็นได้
“คุณสองคนคุยอะไรกันน่ะ?”
เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังมาจากด้านหลัง นภาลัยตกใจแต่เธอไม่ได้มองย้อนกลับไป
ภีมพลเดินไปยืนข้างเธอ ก่อนจะโน้มตัวไปมองหน้าใกล้ๆ “หน้ากากสวยจัง เสียงคุณเป็นอะไร?หรือว่าคุณพากย์เสียงเอา?”
“ฉันชอบเอาไปเล่นที่แผนกกุมารแพทย์น่ะ” นภาลัยตอบอย่างสงบโดยไม่มองเขา
นี่มันเสียงผู้ชาย!
นั่นไม่เพียงแต่ทำให้กรินทร์ตกใจ แต่ยังรวมถึงภีมพลด้วย ผู้หญิงคนนี้ยังมีทักษะอะไรอื่นอีกไหม?
“คุณภีม โปรดอยู่ให้ห่างจากฉัน ฉันอยู่ที่นี่ใช้ชื่อรมิตาค่ะ” นภาลัยลดเสียงของเธอลง “อย่าทำลายแผนของฉัน เลย ฉันจะทำให้แม่ของคุณพอใจภายในสิบวัน”
“อยากหาเงินนี่เอง” เขาหัวเราะเยาะเธอ “ผมคิดว่าคุณมาคนเดียว ไม่คิดว่าคุณจะพาลูกศิษย์มาด้วย”
“ไม่สำคัญว่าฉันจะพาใครมาด้วย แค่รักษาหายก็พอ”