เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 163 คุณต้องไปจากลูกชายฉัน
คำพูดเหล่านี้นภาลัยท่องได้หมดแล้ว!
เธอจึงวางตะเกียบลง และหยิบผ้าเช็ดมืออุ่นผืนหนึ่งมาเช็ดมุมปาก “คุณพูดต่อเลยค่ะ ฉันฟังอยู่”
“ตราบใดที่เธอยอมคืนตำแหน่งคุณนายนภา ฉันจึงยอมรับการรักษาของเธอต่อจากนี้ มิเช่นนั้นถึงแม้ว่าเธอพัฒนาตัวยาออกมาแล้ว ฉันก็จะปฏิเสธที่จะทามันเช่นเคย! และไม่มีวันให้เธอประสบความสำเร็จต่อหน้าลูกชายฉันได้แน่!”
การรักษาเธอให้หายดีถือว่าเป็นความปรารถนาอันแรงกล้าที่สุดของภีมพล ซึ่งนภาลัยได้รับปากจะช่วยเขาเอาไว้แล้ว
“อย่าบอกนะว่าภีมพลของฉันไม่อนุญาต ตอนนี้ฉันต้องการให้เธอเสนอตัวออกไปเอง คิดหาวิธีไปให้ไว!” คะนึงนิตย์ต้องการให้เธอหายวับไปทันทีอย่างอดทนไม่ไหว
“โอเค ฉันตกลงค่ะ” นภาลัยตอบกลับอย่างไม่ลังเลจนทำให้คะนึงนิตย์ชะงักเล็กน้อย
ในหัวสมองของเธอเกิดความคิดหนึ่งวูบวาบขึ้นมา “ภีมพลให้เงินเธอแล้วใช่มั้ย?”
นภาลัยช้อนสายตาเพื่อสบตาเธอ
“ไม่งั้นทำไมเธอถึงได้ทำตัวยึกยักอยู่ที่นี่ไม่ยอมไปสักที? แล้วทำไมเวลาให้ไปเธอถึงดื้อดึงอยู่อีกล่ะ?” คะนึงนิตย์กำลังประเมินเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ฉันไม่เคยมีบุญพาวาสนาส่งหรือเวรกรรมกับเธอ แถมฉันยังไม่ชอบขี้หน้าเธอมากๆ แล้วทำไมเธอต้องรักษาฉันให้หายให้ได้ล่ะ?”
โดยที่ไม่รอคำตอบจากเธอ คะนึงนิตย์พูดหัวเราะสวนกลับทันควัน “อย่าบอกนะว่าเธอหลงรักเขาเข้าให้แล้ว พวกแกใช้เวลาไม่กี่วันเองเนี่ยนะ?”
“คุณนาย” นภาลัยมีสติสัมปชัญญะมาก ทัศนคติก็ดีมากเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การที่รักษาคุณจนคุณหายดีถือว่าเป็นความปรารถนาที่สูงที่สุดของภีมพล ให้พวกเราได้ช่วยเขาให้สมปรารถนาเถอะค่ะ”
“อย่ามาเล่นความรู้สึกกับฉัน!” นัยน์ตาเปล่งประกายอาการขยะแขยงออกมา “เธอต้องไปจากเขา!”
“ฉันรับปากแล้ว” นภาลัยพูดย้ำอีกครั้ง “ฉันรับปากแล้วว่าจะไปจากเขา ตราบใดที่คุณยอมรับการรักษาจากฉัน!”
ตอนที่ดวงตาของทั้งคู่สบตากัน คะนึงนิตย์เหมือนโดนเธอมองจนทะลุปรุโปร่ง!
“เดี๋ยวเซ็นสัญญาไว้ให้ด้วย หลังจากเธอรักษาฉันจนหายดีแล้ว ฉันจะจ่ายเงินให้เธอสักก้อน จากนั้นเราไม่มีอะไรติดค้างกันต่างคนต่างไป” คะนึงนิตย์ลุกพรวด และเตรียมวางแผนให้เธอเสร็จสรรพ “เธอไปจากเมืองไนร์ก้า ส่วนเด็กตระกูลกงพลีของเราจะเลี้ยงดูเอง อีกอย่างฉันเชื่อมั่นว่าญาณีจะเป็นแม่เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมมาก”
เรื่องลูกเป็นสิ่งที่จี้ใจดำนภาลัย แต่เธอยังคงแสดงออกได้อย่างสงบเสงี่ยมมาก
ในฐานะของคนเป็นแม่คนหนึ่ง ไม่สามารถยกลูกให้กับภีมพลและญาณีได้หรอก
เมื่อหกปีก่อนก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาตลอด หกปีให้หลังจะเหมือนเดิมก็ได้ วันเวลาแห่งความยากลำบากผ่านพ้นไปแล้ว ใช่ว่าไม่มีเงินทองจะจับจ่ายใช้สอยนี่นา
เพียงแต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลามาต่อรองเงื่อนไขต่างๆ มันเป็นช่วงเวลาโน้มน้าวให้เธอทำการรักษา
“ตกลงค่ะ ฉันรับปากทุกอย่าง” นัยน์ตานภาลัยเผยความจริงใจออกมาเสมอ “ทำทุกอย่างตามที่คุณพูดค่ะ”
นังเด็กคนนี้รักภีมพลมากเหรอ? คะนึงนิตย์ตั้งคำถาม
มีเพียงนภาลัยเท่านั้นที่รู้ตัวเอง หากถ่วงเวลาต่อ ก็จะพลาดโอกาสที่ดีที่สุดในการปลุกผิวพรรณอันหลับใหลลึกของเธอเสียแล้ว
คิดว่าเธอเป็นคนป่วยคนหนึ่งเถอะ หรือว่าเป็นเด็กน้อยที่ต้องคอยเอาใจคนหนึ่ง
และอาจจะเป็นหัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่เรียกขานกันมา สรุปง่ายๆคือ นภาลัยประนีประนอมอย่างเชื่อฟัง
สหรัฐอเมริกา ภายในคฤหาสน์ปราสาทอันสง่างาม พื้นที่เขียวขจีทุกหย่อมหญ้า มีกลิ่นไม้นานาพันธุ์หอมฟุ้งอบอวลอยู่ในอากาศ
ญาณีเปรียบเสมือนไม้แขวนเสื้อที่เดินได้ เธอมีรูปร่างที่สูงปราดเปรียว กระโปรงสูทสีแดงสดอันชวนหลงใหลจนถูกควบคุมในการเดินได้อย่างคล่องตัว เผยความสง่างามของหญิงสาวทางตะวันออกที่มากด้วยความสามารถได้อย่างเต็มที่
เธอเดินเคียงข้างภีมพล มีคนเดินนำพวกเขาพาชมรอบปราสาท
ภีมพลรูปร่างสูงชะลูด สูทตัดเย็บด้วยมือ จนเผยให้เห็นรูปร่างอันสมบูรณ์แบบ ความสง่างามจนถึงจริตจะก้านอันเย็นยะเยือก จงเรียกสายตาของบรรดาเพื่อนต่างชาติได้อย่างเหนียวแน่น ทุกการกระทำของเขาเผยให้เห็นถึงสไตล์การปรากฏตัวขององค์ชาย
เขาจูงมือแชมป์ที่มาพร้อมกับความหล่อและขวัญข้าวที่มีหน้าตาสะสวยมาคนละข้าง บวกกับคนสวยอย่างญาณีที่อยู่ด้านข้าง ช่างเหมือนกับครอบครัวที่มีความสุขที่สุดครอบครัวหนึ่งเลยทีเดียว
บรรดาสาวใช้คนฟิลิปปินส์ที่มากความสามารถที่อยู่ในสนามต่างใช้สายตาชำเลืองมองด้วยความอิจฉา —
“ผู้หญิงที่สามารถออกงานเคียงข้างคุณภีมต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากอย่างแน่นอน”
“ได้ข่าวว่าคนนี้ไม่ใช่แม่ของเด็กๆ นะ แต่เป็นรองประธานบริษัทแหละ”