เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่258 ข่มขู่ด้วยความตาย
วริศเองก็เพิ่งเห็นข่าว “น่าจะเป็นข่าวที่คุณนายปล่อยครับ บัตรเชิญก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”
“……”ภีมพลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เงยหน้าขึ้นและหลับตาลง
วริศอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ภีมพลเอ่ยปาก “มีรูปแม่ของลูกฉันไหม?”เขาค้นหาในอินเทอร์เน็ตแล้ว แต่ไม่พบอะไรเลย
แม้แต่เรื่องที่เขามีลูกก็ไม่ถูกบันทึกไว้ ราวกับว่ามันถูกลบโดยเจตนา
“ไม่มีครับ”วริศกลับเปลี่ยนเรื่อง “คุณภีม เสาร์นี้ท่านว่างไปถ่ายรูปชุดวิวาห์กับคุณญาณีหรือเปล่าครับ?งานผมเลื่อนแล้วครับ”
“เลื่อนงานแต่งไป”ภีมพลหว่างคิ้วขมวดเล็กน้อย แล้วมองมาที่เขา “ฉันไม่อยากแต่งงาน”
“เรื่อง… เรื่องนี้ผมเกรงว่าท่านต้องคุยกับคุณนายครับ”วริศทำหน้าไม่ถูก “ผมเป็นแค่ผู้ส่งสารเท่านั้นครับ อีกอย่างการแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญของตระกูลกงพลี และได้รับความสนใจจากคนภายนอกเป็นอย่างมาก”
ทั้งสองสบตากัน ในใจรู้สึกวริศไม่เป็นสุข “คุณภีม……”
ภีมพลยืนขึ้นแล้วจึงเดินออกไป
“ท่านจะไปไหนครับ?”วริศหันไปมองแผ่นหลังนั้นอย่างกังวล “อีกสักครู่จะมีประชุมอีกนะครับ!”
“คุณก็เข้าไป ฉันจะไปหาแม่ฉัน”เขาหายตัวไปจากประตูอย่างรวดเร็ว
วริศตะลึง รู้สึกว่าเขาไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง การสูญเสียความทรงจำไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิเสธญาณี
หากไม่ชอบใคร ไม่ว่าจะทำยังไงก็คงไม่ชอบนั่นแหละ?
รถแลมบูกินีมุ่งหน้าไปที่รีพัลส์เบย์
ภีมพลนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ สีหน้าของเขาเย็นราวกับน้ำแข็ง เมินเฉยและอหังการ
ขณะนั้นเอง รถของไวศิษฎ์จอดอยู่ริมแม่น้ำ
กระจกรถลดระดับลง และลมเย็นตรงแม่น้ำพัดผ่านเข้ามาเบาๆ ทว่าก็ไม่สามารถปัดเป่าคิ้วที่ขมวดคิ้วของเขาให้คลายออกไปได้
“นายชอบเธอเหรอ?”
“นายชอบนภาลัยเหรอ?”
คำพูดของญาณีสะท้อนอยู่ในอากาศ และก้องอยู่ในหูของเขาไม่เสื่อมคลาย
ไวศิษฎ์ไม่กล้าที่จะยอมรับและมีความรู้สึกที่เข้าใจขึ้นมาทันทีได้บ้าง เมื่อวานนี้เขาโกรธมากขนาดนั้น เหตุผลเป็นเพราะตนเองตกหลุมรักเธอ?
เมื่อเห็นว่าเธอได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจ เขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะฉีกอีกฝ่ายออกเป็นชิ้นๆ และไม่สนว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครก็ตาม
แต่ไหนแต่ไรไวศิษฎ์ไม่เคยโกรธผู้หญิง
เขาตกหลุมรักนภาลัยเข้าแล้ว…ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ตัว
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ให้กำเนิดเด็กสองคนเพื่อคนอื่น จะมาทำให้เขาหลงใหล ไวศิษฎ์คิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว
เขาอยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์ อยากจะสงบสติอารมณ์สักหน่อย
รถแลมบูกินีหยุดจอดอย่างรวดเร็วภายในสวน ณ รีพัลส์เบย์ ภีมพลหลังจากกลับมาได้สติก็ออกจากรถ
คะนึงนิตย์ซึ่งนั่งจิบชาอยู่บนโซฟาในห้องรับแขกหัวใจเธอหดลง มาระหว่างวันทำงาน?คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
ดังนั้นเธอจึงได้เตรียมใจเอาไว้แล้ว
“แม่ครับ ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับแม่”หลังจากที่ภีมพลเดินเข้ามาก็เอ่ยปากทันทีด้วยเสียงเบา แต่ท่าทีของเขาแน่วแน่มั่นคง “ผมไม่อยากแต่งงาน””
“ลูกอายุ38ปีแล้ว แม้ว่าจะยังดูเด็ก แต่อายุอานามจริงก็ขนาดนี้แล้ว”สีหน้าของคะนึงนิตย์เย็นชา “เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับแม่ แม่เป็นโรคหัวใจ ถ้าลูกปฏิเสธอีกล่ะก็ แม่จะไม่ยอมทานยา!”
“……”ภีมพลมองเธออย่างไม่เชื่อสายตา
ใบหน้าของเธอยังคงแน่วแน่ ราวกับว่าไม่มีทางใดที่จะบรรเทาได้
จากนั้นภายในห้องรับแขกก็เกิดความเงียบที่น่ากดดันขึ้น
อย่างไรก็เป็นแม่แท้ๆ ภีมพลไม่สามารถมองดูเธอตายโดยไม่รู้สึกอะไรได้
ในฐานะลูกชาย เขาทำได้แค่ถอยออกมาและพยายามจะพูดคุยกับเธอด้วยเหตุผล “คุณแม่เองก็รู้ว่าผมความจำเสื่อมและยังจำเธอไม่ได้ แต่งงานกับเธอตอนนี้ก็เหมือนแต่งงานกับคนแปลกหน้า คุณแม่คำนึงถึงความรู้สึกของผมบ้างหรือเปล่า?”
“แม่มีหลักฐานว่าพวกลูกรู้จักสนิทสนมกันดี” เธอกล่าว“แม่มีวิดีโอและรูปภาพ พวกลูกไม่ใช่คนแปลกหน้า”
“เธอให้ผมดูแล้ว”หว่างคิ้วของภีมพลขมวดเล็กน้อย “แต่เธอแปลกหน้าสำหรับผมมาก ถ้าผมแต่งงานกับเธอและเป็นเธอที่นอนข้างกับผม ผมก็คงจะรู้สึกอึดอัดมาก”
“นพวกลูกก็ออกไปเที่ยวกันก่อน ใช้เวลาร่วมกันทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นเวลาหนึ่งเดือน จะได้ไปถ่ายรูปชุดแต่งงานที่อื่นพอดี พอถึงตอนนั้นก็ต้องเอารูปภาพไปจัดวางไว้ที่สถานที่จัดงานแต่ง ทำเป็นพื้นหลังโปสเตอร์อะไรแบบนั้น”
“……”เขาพูดไม่ออกจริงๆ “คุณแม่คิดรอบคอบจริงๆ”