เผยลับจับใจ ซุปเปอร์สาวบ้านนอก บทที่ 299 นภาลัยปวดใจ
เป็นเจ้าบ้าน ภีมพลก็ไม่ได้เป็นคนเดินไปทักทายเธอก่อน
นภาลัยก็อายจนไม่รู้จะเริ่มพูดอะไร ตั้งแต่เริ่มเข้ามาเจอเขา สมองของเธอก็เหมือนถูกตัดลง
ในที่สุดก็ทนสายตาตรงๆของเขาไม่ได้ นภาลัยหลบสายตา รีบเก็บสายตากลับ
“คุณนภามาแล้วหรอ?” ยังดีที่ป้าโสนมาได้ทันเวลา “สวัสดีตอนเช้า!” ใบหน้าของเธอยกยิ้มขึ้นมา
“สวัสดีป้าโสน” ใบหน้านภาลัยมีรอยยิ้ม รู้สึกทั้งตัวผ่อนคลายลงมาหน่อย
ภีมพลก็เริ่มเดินลงมาชั้นล่างอีกครั้ง
ใบหน้าของพ่อบ้านปวิธก็ดูอบอุ่นขึ้นมา
ป้าโสนพูดกับเธอ “อาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้ว คุณชายแชมป์และคุณหนูขวัญข้าวยังอยู่ข้างบน ฉันขึ้นไปเรียกพวกเขาลงมากินข้าวเช้า คุณไปที่ห้องอาหารก่อนเถอะ”
“ให้ฉันไปเรียกเองเถอะ” นภาลัยอดทนรอไม่ไหวจะได้เจอลูก เธอยิ้มและจับแขนของป้าโสน “คุณก็ลำบากแล้ว คงต้องยุ่งตั้งแต่เช้าอยู่ในครัว”
“คุณมา ฉันดีใจอย่างมาก” ในใจของป้าโสนดีใจจนเก็บไม่อยู่
นภาลัยยิ้มและเดินขึ้นชั้นบน ตอนที่เดินผ่านภีมพล เธอตั้งใจไม่มองเขา แต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงไอความเย็น
สองมือภีมพลสอดในกระเป๋า ร่างสูงของเขายืนนิ่งอยู่ในห้องรับแขก เชยคางขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเขานิ่งลึกลง
“อรุณสวัสดิ์คุณภีม” ปวิธและป้าโสนทักทายเขา เดาอารมณ์ของเขาไม่ออก
คุณนภามาแล้ว เขาไม่ดีใจหรือไง?
เมื่อวานยังสั่งให้เธอเตรียมอาหารเช้าให้เยอะหน่อย
ชั้นบน
นภาลัยกำลังจะกดกริ้งหน้าห้องเด็ก ประตูห้องกลับเปิดออก
แชมป์และขวัญข้าวปรากฏตัวอยู่ด้านหน้า “แม่!!” เด็กน้อยตื่นเต้นดีใจเป็นที่สุด เข้าไปยังอ้อมกอดเธอทันที
“ลูก……” เธอก็ดีใจเช่นกัน มีน้ำตาร้อนที่ขอบตาเล็กน้อย คุกเข่าลงต่อหน้าเด็กๆ ยื่นมือไปกอดพวกเขา “เมื่อวานนอนหลับกันดีไหม?”
“คิดถึงแม่มากไป จนนอนไม่หลับ”
“หนูก็ด้วย” ขวัญข้าวขยี้ตา
นภาลัยปวดใจ จูบเบาๆบนหน้าผากของลูกๆ “ไปเถอะ ลงไปกินข้าวได้แล้ว”
จากนั้นเธอก็จูงมือเด็กทั้งซ้ายและขวาลงไปชั้นล่าง
“แม่ แม่จะนอนค้างที่นี่ไหม?”
“คงไม่หรอก” เธอรู้สึกได้ถึงการรอคอยของเด็กๆ “แต่แม่สามารถอยู่กับลูกๆได้สักพัก”
“อย่างนั้นกินข้าวเย็นเสร็จค่อยไปนะ?”
“……” เธอไม่ได้ตอบ ต้องดูความเห็นของภีมพลก่อน
“พ่อ! ลุงปวิธ! ป้าโสน! อรุณสวัสดิ์!!”เดินผ่านมุมบันได แชมป์ดีใจอย่างมาก
ภีมพลหันไปมองทางพวกเขา เป็นภาพที่ดูอบอุ่น
ขวัญข้าวถาม “กินข้าวเช้าได้หรือยัง? หนูหิวแล้ว!”
ไม่ยากที่จะมองออกว่าอารมณ์ของเด็กๆไม่เลวอย่างมาก มีพวกเขาพูดเอะอะโวยวายอยู่ ห้องรับแขกก็ไม่ได้ดูอึดอัด
ป้าโสนตอบอย่างมีความสุข “อรุณสวัสดิ์คุณชายแชมป์ คุณหนูขวัญข้าว อาหารเช้าทำเสร็จแล้ว!”
อยู่ดีๆนภาลัยก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก อยู่ใกล้กับภีมพลมากเกินไป ก็รู้สึกเหมือนว่าไม่สามารถเมินไอความเย็นชานี้ได้
ครอบครัวสี่คนเดินไปทางห้องอาหาร
ภีมพลได้กลิ่นหอมจางๆออกมาจากตัวของเธอ เป็นกลิ่นที่พิเศษชนิดหนึ่ง ทำให้เขาสงบลง นี้เป็นความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่ง
เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเธอ ใบหน้าขาวเหมือนหยก ขนตาที่เรียวยาวงอนงามเหมือนดอกกุหลาบเย็นดอกหนึ่งยามค่ำคืน
ทำให้เขาปวดใจ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะดูแล
ในตอนนี้ ความเกลียดต่อเธอก็ลดลงเล็กน้อย
ครอบครัวทั้งสี่คนเดินเข้ามาในห้องอาหาร แชมป์ปล่อยมือจากพ่อ เขายืนนิ่งอยู่หน้าแม่เขา เงยหน้าถาม “แม่! ผมอยากให้ พ่อกินกับพวกเราด้วย! แม่ทำบะหมี่ไข่มะเขือเทศได้หรือเปล่าครับ?”
กระเพาะของเขายังไม่ดีขึ้นหรอ?
นภาลัยมองดูอาหารมากมายเต็มโต๊ะ และหันไปมองเขา “………”
สองคนสบสายตากัน เขาดูนิ่งเรียบ เธอกลับรู้สึกปวดใจอย่างประหลาด
เขาไม่ได้กินยาตรงเวลาหรือไง?
ทำไมล่ะ?
หากเขากินยาตรงเวลา ก่อนที่จะเกิดรถชน กระเพาะของเขาควรจะต้องรักษาหายแล้ว
ส่วนภีมพลก็อ่านสายตาของเธอไม่ออก ลืมว่าตัวเองได้ทำลายขวดยาแตกในค่ำคืนที่คิดถึงเธออย่างมากคืนนั้น
ยิ่งลืมว่าเธอได้ให้ยาที่รักษากระเพาะมา
สายตารอคอยของป้าโสนตกลงบนตัวของนภาลัย เธอพูดเสียงเบา “คุณนภา มะเขือเทศปอกเปลือกและต้มเสร็จแล้ว เส้นก็เตรียมพร้อมแล้ว ไข่ตีเรียบร้อย คุณ…..สามารถเริ่มทำได้เลย”
นภาลัยมีสติกลับมา เธอเดินไปที่ห้องครัว มองดูวัตถุดิบที่เตรียมพร้อมอย่างดี