มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 6 คุกเข่าลง
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เข็มสีทองทั้งเก้าถูกดึงออกจากจุดฝังเข็ม แสงสีทองสว่างในห้องค่อยๆดับลง
มู่เซิ่งพ่นลมหายใจ การรักษาสิ้นสุดลงแล้ว พิษร้ายในร่างของท่านสามถูกกำจัดออกไปจนเกือบหมด ที่เหลือแค่รอเวลาให้ท่านสามฟื้นเท่านั้น
“เหนื่อยจริงๆ นานแล้วที่ไม่ได้ออกแรงช่วยคนขนาดนี้”
เมื่อมู่เซิ่งเปิดประตู เขาเห็นทุกคนในตระกูลเจียงยืนอยู่ข้างนอกทุกคนมีความกังวลปรากฏบนใบหน้า
“หมอเทวดาหลิว ในที่สุดคุณก็ออกมาสักที!”
“คุณปู่ของเราเป็นยังไงบ้างครับ?”
ไม่มีใครสนใจมู่เซิ่งเลยสักคน พวกเขารีบตรงไปหาหลิวเจี้ยนหัวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาทันที
“ทุกอย่างราบรื่นดีครับ ท่านสามกำลังนอนอยู่ด้านใน ไม่นานคงจะฟื้นแล้วละครับ” หมอหลิวโบกมือและพูดต่อว่า “คราวนี้ต้องยกเครดิตให้กับคุณมู่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา เราคงช่วยชีวิตท่านสามไว้ไม่ได้”
ขณะพูด หลิวเจี้ยนหัวมองไปยังโทรศัพท์ในมือ เมื่อเห็นสายที่ไม่ได้รับหลายสิบสาย เขาอดไม่ได้ที่จะตีหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิด
เขาถูกมู่เซิ่งดึงตัวมาท่ามกลางตารางงานที่ยุ่งเหยิง ทำให้เขาลืมเรื่องงานไปเสียสนิท!
“ขอโทษนะครับ ผมยังมีประชุม ตอนนี้สายมากแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับผมจริงๆ ถ้าพวกคุณต้องการขอบคุณก็ขอบคุณคุณมู่เถอะ!” หลิวเจี้ยนหัวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
“ยกเครดิตให้คุณมู่?”
“คุณหมอหลิวหมายถึงไอ้คนไร้ประโยชน์เนี่ยนะ?”
“เป็นไปได้ยังไง!”
เมื่อหลิวเจี้ยนจวินพูดจบ ทุกคนก็พากันหันไปมองมู่เซิ่งที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่หน้าประตู
“ไอ้กระจอก… ไม่สิ มู่เซิ่ง นายเป็นคนรักษาคุณปู่ใช่ไหม?”
“นายไม่ได้เรียนแพทย์มานี่นา?”
บุคคลหนึ่งในตระกูลเจียงถามขึ้นอย่างไม่เชื่อ
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หมอหลิวเป็นคนพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
“อ๋อ คงเป็นเพราะอาจารย์ของผมจิตใจดีน่ะ เขาให้ความสำคัญกับชื่อเสียงและโชคลาภเกินไป ก็เลยยกเครดิตให้คนกระจอกๆ แบบนี้” เมื่อเห็นว่าความดีกำลังจะตกไปที่มู่เซิ่ง หลี่น่องที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พูดขึ้นอย่างประชดประชัน “ไม่ต้องบอกก็รู้ คนกระจอกๆ แบบนี้จะรักษาโรคที่โรงพยาบาลใช้เวลารักษามาหลายปีได้ยังไงกัน?ที่เขาเหงื่อออกชุ่มแบบนี้คงเป็นเพราะเหนื่อยจากการเทน้ำชาให้อาจารย์ของผมซะมากกว่า”
“ทุกคน มากับผมเถอะ ผมพิสูจน์ได้ว่าผมพูดความจริง”
หลี่น่องเย้ยหยัน เขาถือเข็มเงินและพาทุกคนเข้าไปในวอร์ด
ด้านใน ท่านสามยังคงนอนอยู่บนเตียง แม้ว่าดวงตาของเขาจะปิด แต่จุดด่างดำก็จางหายไปแล้ว ผิวของเขาเปล่งประกายจางๆ เหมือนคนสุขภาพดี
หลี่น่องนั่งลงข้างเตียง ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า “อาจารย์ของผมดึงเข็มออกไปมากกว่าครึ่งแล้ว แต่เพราะท่านมีธุระเร่งด่วน เดี๋ยวผมจะเป็นคนดึงเข็มที่เหลือสามอันนี้ให้เอง ท่านสามจะได้ฟื้นและรักษาโรคปอดให้หายอย่างสมบูรณ์”
“หมอหลี่ เรื่องจริงเหรอ? หมายความว่าปู่ของฉันจะไม่ป่วยอีกใช่ไหม?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจียงมู่หลงก็แสดงออกถึงความไม่เชื่อในทันที
ทุกคนได้ยินก็ตกตะลึง
อาการป่วยของท่านสามสร้างความลำบากให้ตระกูลเจียงมานานนับหลายปีแล้ว
หลี่น่องพยักหน้าด้วยความมั่นใจท่ามกลางสายตาของทุกคน “ถ้าคุณปล่อยให้ผมจัดการ ทุกอย่างจะต้องออกมาดีแน่นอนครับ!”
“พระเจ้า!”
“อาการป่วยของคุณปู่รักษาได้จริงๆ!”
“หมอเทวดา สมแล้วที่เป็นหมอเทวดา! อาจารย์กับศิษย์ร่วมมือกันรักษาโรคร้าย!”
หลี่น่องโบกมือเบา ๆ และฝูงชนก็เงียบลงทันที ก่อนจะหันไปมองมู่เซิ่งด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม “ไง ไอ้คนกระจอก แกทำแบบนี้ได้หรือเปล่า?”
มู่เซิ่งส่ายหัว ท่านสามถูกพิษอย่างแรง แม้แต่พระเจ้าก็รักษาด้วยเข็มสองสามอันไม่ได้
“ถ้าคุณเอาเข็มออก ท่านสามจะตกอยู่ในอันตราย!”
สีหน้าไม่พอใจของเขาปรากฏขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เซิ่งในช่วงครึ่งหลัง หลี่น่องโกรธจัด เขากระโดดขึ้นจากข้างเตียงชี้ไปที่มู่เซิ่งพลางสาปแช่ง “แก แกมันบ้า!”
“ฉันฝึกฝนรักษาคนมาไม่ต่ำกว่าพันคนแล้ว แถมยังได้รับธงอีกนับไม่ถ้วน ฉันจะเป็นหมอต้มตุ๋นที่ทำร้ายผู้คนได้ยังไง?”
“ไอ้กระจอก แกต้องคุกเข่าขอโทษฉันเดี๋ยวนี้!”
หลี่น่องกล่าว “ไม่งั้นฉันจะฟ้องแก”
“แกนี่มันไร้ประโยชน์อย่างที่เขาพูดกันจริงๆ สินะ” เจียงมู่หลงหันไปมองมู่เซิ่งด้วยสายตาดุร้าย
“หมอเทวดาหลิวเป็นหมอใจดี เขาไม่ห่วงชื่อเสียงเกียรติยศ แต่แกน่ะแค่ใบรับรองแพทย์ยังไม่มี เลย แกจะถือว่าตัวเองเป็นหมอวิเศษรักษาคุณปู่ได้ยังไง?”
“แกคิดว่าตัวเองคู่ควรงั้นเหรอ?”
คนในตระกูลเจียงเริ่มกระสับกระส่าย พวกเขากล่าวหามู่เซิ่งเสียงดัง เสียงของพวกเขาทั้งรุนแรงและไร้ความปรานีอย่างที่สุด
เจียงหว่านรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว แม้ว่ามู่เซิ่งจะเป็นคนไร้ประโยชน์ แต่เขายังคงขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอ ถ้าเขาอับอาย เธอก็ต้องอับอายไปด้วยเช่นกัน
เมื่อไหร่มู่เซิ่งจะเลิกทำตัวไร้ประโยชน์แบบนี้สักที
มู่เซิ่งมองหลี่น่องด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ในอีก 60 วินาที คุณจะคุกเข่าลงขอร้องผม”
“ได้โปรด! ฮ่าๆ” หลี่น่องเยาะเย้ย “แกไม่ได้แค่โง่อย่างเดียวนะ แต่ยังชอบฝันกลางวันด้วย รอให้ฉันทำให้ท่านสามฟื้นก่อน ฉันจะคอยดูแกถูกไล่ออกไป”
“ไอ้กระจอก ดูเข็มของฉันให้ดี!”
หลี่น่องถือเข็มเงินไว้แน่น ทุกคนต่างกลั้นหายใจเพื่อเฝ้าดู แต่มีเพียงมู่เซิ่งเท่านั้นที่เห็นว่าหลี่น่อง ทิ่มไปยังจุดระคายเคือง เพียงเพื่อต้องการปลุกท่านสามของตระกูลเจียงให้ตื่นโดยเร็วที่สุด
หลังจากการฝังเข็มทั้ง 5 จุด จุดฝังเข็มในร่างกายของท่านสามถูกปิดชั่วคราว หากเข็มถูกนำไปใช้ในขณะนี้ก็จะเท่ากับการฆ่าเขาโดยตรง!
“ตาของคุณปู่ขยับแล้ว ดูสิ” คนในตระกูลเจียงที่อยู่ข้างๆ เห็นจึงรีบตะโกนทันที
“เห็นไหมๆ”
หลี่น่องเยาะเย้ย “ไอ้กระจอก อยากให้ฉันอับสายสินะ?คนที่ต้องอายคือแกต่างหาก!”
“เหลืออีกสามสิบวินาที” มู่เซิ่งเหลือบมองนาฬิกาพลางพูดเบาๆ
“ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!” หลี่น่องรีบเร่งและอดไม่ได้ที่จะเพิ่มกำลังในมือของเขา
ในความเห็นของเขา ท่านสามจะตื่นขึ้นในไม่ช้า และคนที่จะพ่ายแพ้ก็คือมู่เซิ่ง!
แต่วินาทีถัดมา
ใบหน้าชมพูระเรื่อของท่านสามก็เปลี่ยนไปในทันที ราวกับว่าถูกดูดพลังงานออกไป ผิวของเขาเริ่มเหี่ยวแห้ง ใบหน้าซีดลง และหน้าอกของเขาซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ก็หยุดนิ่ง
“เฮ้ เดี๋ยวสิ!” หลี่น่องตะโกน สีหน้าของเขาหยุดนิ่ง
เกิดอะไรขึ้น?
เมื่อเรียนรู้จากบทเรียนที่แล้ว คราวนี้เขาเพียงกระตุ้นจุดฝังเข็มที่ไม่เกี่ยวข้องสองจุดอย่างระมัดระวัง แต่สถานการณ์ปัจจุบันกลับยิ่งรุนแรงกว่าครั้งก่อน
เขาก็ดูออกเช่นกันว่าท่านสามเกือบจะเสียชีวิตไปแล้ว!
“หมอเทวดาหลี่ ปู่ของฉันกำลังจะฟื้นแล้วใช่ไหม?” เจียงมู่หลงไม่เข้าใจ ในฐานะคนนอก เขาไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ
“เหลือเวลาอีก 10 วินาที”
มู่เซิ่งยืนพูดต่อ “หลังจาก 10 วินาที ต่อให้แกอยากคุกเข่าก็ไม่มีโอกาสแล้ว”
“ไอ้สารเลว หุบปาก!ฉันจะทำให้แกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย” เจียงมู่หลงไม่พอใจกับคำพูดของมู่เซิ่ง “หมอหลี่น่อง รีบใช้เข็มเร็วเข้า ถ้าปู่ของฉันฟื้นเมื่อไร ฉันจะให้ไอ้สารเลวนี้คุกเข่าแล้วออกไปจากที่นี่”
“รีบไล่มันออกไปเลย!”
“ใช่ คนไร้ประโยชน์แบบนั้นไม่สมควรอยู่ที่นี่!”
ในห้องเสียงดังโหวกเหวกไม่หยุด
วินาทีถัดมา
ตึง!
เข่าของหลี่น่องกระแทกพื้นกระเบื้องอย่างแรง ในที่สุดเขาคุกเข่าลงต่อหน้ามู่เซิ่ง “หมอเทวดามู่ คุณช่วยทำแทนผมทีเถอะครับ เมื่อกี้ผมผิดเองที่ทำตัวหยาบคาย”
คนอื่นมองไม่เห็น แต่หลี่น่องรู้ดีว่าถ้าเขายังยื้อเวลาไปมากกว่านี้ ท่านสามของตระกูลเจียงจะกลายเป็นศพโดยสมบูรณ์!
ตึง!ตึง!
หลี่น่องคำนับอย่างรวดเร็วจนมีเลือดซึมออกมาจากศีรษะ
ทุกคนยืนขึ้นด้วยความตกใจ
เหลือแต่เสียงสะท้อนในห้องเท่านั้นที่ดังก้องอยู่ในหู
หลี่น่องคุกเข่างั้นเหรอ?
และยังเรียกคนไร้ประโยชน์อย่างมู่เซิ่งว่าหมอเทวดา…