มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่188 ทำลายเสื้อผ้า
“ล้ม ล้มละลาย?”
ถงเสว่เหมยอึ้งชะงัก
เดิมเธอยังคิดว่า หลี่หรานแค่เพียงแต่จะให้หน้ามู่เซิ่งเท่านั้น พูดออกไปลอย ๆ บริษัทใหญ่โตออกขนาดนั้น มีหรือจะให้ล้มละลายลงไปในชั่วครู่เดียว ไม่คิดว่า ทั้งหมดนี้คือความเป็นจริง!
เฉินเสวียลี่ล้มละลายแล้ว?
ถ้านี่เป็นเรื่องจริง ถงเสว่เหมยก็จะแยกทางกับเฉินเสวียลี่ได้อย่างไม่ลังเล เพราะในสายตาของเธอที่มองเฉินเสวียลี่ ก็เพียงแต่เงินของเขาเท่านั้นเอง
“เฮอะ ๆ มันก็พวกหญิงบูชาเงิน แต่สำหรับข้าเอามาเล่นถึงตอนนี้ก็เบื่อแล้วแหละ รีบไสหัวไปเถอะ!” เฉินเสวียลี่พูดเสียงเย็นชา
ถงเสว่เหมยยืนเซ่ออยู่กับที่ พอได้ยินว่าเฉินเสวียลี่ล้มละลายจริง ๆ แล้ว จิตใจของเธอก็ย้ายออกจากเฉินเสวียลี่ไปแล้ว เตรียมวางเบ็ดล่อเหยื่อที่มีเงินรายใหม่
คนมีเงินจริงในปัจจุบันไม่ได้หาง่ายๆ เธอต้องเตรียมการให้ดี
โดยเฉพาะ เธอยังต้องหาจังหวะให้ดี เพื่อจะไปตกแต่งช่วงล่างใหม่ถึงจะได้ เธอก็รู้ดีอยู่ พวกคนมีเงินนั้น ล้วนชอบแต่ผู้หญิงที่ยังอยู่ในความเป็น ของเดิม
“คุณพ่อ ของขวัญที่ลูกเขยหนูให้มา คุณพ่อคงชอบนะ?”
จ้าวหลินตอนนี้ก็ได้ลุกยืนขึ้น ยกแก้วขึ้นคำนับด้วยเหล้า
“ชอบ ของล้ำค่าขนาดนี้ ฉันยังจะเพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรกเลยนะ”
จ้าวลิ่วป๋อผงกหัวถี่ ๆ ยิ่งดูจ้าวหลินยิ่งรู้สึกดูดี
“อา นี่ความจริงก็ไม่ได้เท่าไหร่ ในตอนวันฉลองแซยิดของท่านเจียงสาม ลูกเขยหนูยังส่งของขวัญไปให้หลายร้อยล้านเลยนะ” จ้าวหลินผายมือออก แสดงในท่าทีถ่อมตัว
แต่น้ำเสียงที่พูด หาความถ่อมตัวที่ไหนเจอ?
ของขวัญตั้งหลายร้อยล้าน?
เหล่าบรรดาญาติในตระกูลจ้าวผวางง
บ้านพวกจ้าวหลินเขาไปร่ำรวยเงินทองมากันตั้งแต่เมื่อไหร่นั่น?
ถึงแม้ในจิตสำนึกพวกเขาจะไม่เชื่อในเรื่องนี้ แต่ก็ยังคงออกปากชื่นชมยกยอกันให้ปลื้ม ถึงยังไง มู่เซิ่งรู้จักหลี่หรานกับตระกูลกู่สองผู้ยิ่งใหญ่ระดับมหากาฬนี้ มันเป็นข้อเท็จจริงที่เห็นชัด ถ้ายกยอปอปั้นได้ถูกใจ ไม่แน่ว่าวันหน้าวันหลังไปเจอปัญหาหนักหนาลำบาก ยังจะได้พึ่งพาจ้าวหลินช่วยกันได้บ้าง
“ไม่มีปัญหา ทีหลังมาที่เจียงหนาน มีเรื่องอะไรมาหาฉันได้!” จ้าวหลินตบอกพูดรับรอง
สภาพการณ์ในวันนี้ ตัวเอกคือมู่เซิ่ง แต่สุนัขจิ้งจอกอย่างจ้าวหลินใส่ชุดคลุมเสือโคร่งอวดอ้างบารมี โชว์ฟอร์มโดดเด่นอย่างเต็มที่
ด้วยสีหน้าเอือมระอาของเจียงหว่าน ได้แต่นั่งอยู่กับที่ ไม่กล้าไปปรามแม่ของเธอได้
จ้าวหลินชอบโชว์อ๊อฟเป็นที่สุด ถึงแม้เธอจะเข้าไปห้ามได้ตอนนี้ คุณแม่เธอก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบการโชว์อ๊อฟจนได้อีก แต่ก็ดีขึ้นแล้วที่ตอนนี้จ้าวหลินก็ยังเชื่อฟังขึ้นมาบ้าง จะโชว์อ๊อฟยังไงก็ยังไม่ทำให้เกิดความยุ่งยากเดือดร้อนกับมู่เซิ่ง
“คุณพ่อ คุณแม่ ไอ้มู่เซิ่งมันทำให้เพื่อนชายที่ตกมาได้อย่างแสนลำบากของหนูต้องพังไป หนูจะต้องทำให้มันรับกรรมสนองให้สาแก่ใจ!” มาถึงตอนนี้ ถงเสว่เหมยขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดไป
ถงมู่ได้ยินที่พูดเข้า ตื่นตระหนกขึ้นมาในใจทันที พูดไปว่า “แต่เขาเป็นถึงเพื่อนของประธานหลี่กับตระกูลกู่เชียวนะ ไปแก้แค้นเขา นั่นมันจะรนหาที่ไปตายหรือไง?”
“แล้วมันจะเป็นยังไง?ก็ความจริงเป็นเพราะจ้าวเซิ่งมารังแกพวกเราก่อน พวกเราทำไมจะแก้แค้นไม่ได้?คอยดูฉันนะ คราวนี้ ฉันจะต้องทำให้มันได้ขายหน้าต่อหน้าผู้คนอย่างแรง” จ้าวเหมยเหมยค้อนตาคว่ำใส่ถงมู่ “เธอทำไมตาขาวอะไรขนาดนั้น?”
“แต่ว่า…….” ถงมู่ยังจะพูดอะไรอีก
“มีอะไรต้องแต่ด้วย?เธอเห็นว่า มู่เซิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับสองผู้ยิ่งใหญ่นั้นจริง หรือ?” จ้าวเหมยเหมยหัวเราะเสียงเหยียด ๆ พุดอย่างตามความคิดของตัวเอง
“อา…..”
ได้ยินพูดมาแบบนี้ ถงมู่อึ้งไปในทันที
ที่จ้าวเหมยเหมยพูดนี่ ดูเหมือนก็มีเหตุผลนะ
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าไอ้ขยะมู่เซิ่งคนนี้ ไปรู้จักกับสองผู้ยิ่งใหญ่นั้นยังไง ถ้าจะบอกว่า มู่เซิ่งรู้จักสนิทกันดีกับสองผู้ยิ่งใหญ่นั่นจริง ทำไมเมื่อวานที่ถูกพวกเขาไล่ออกจากบ้านแล้ว ยังยอมอดกลั้นไม่กล้าขึ้นเสียง?นั่นไม่ใช่บุคลิกลักษณะของคนใหญ่คนโตเลย
ดูสภาพการณ์ในวันนี้ น่าจะเป็นเหตุบังเอิญที่มู่เซิ่งพบกับพวกเขาเข้า ทั้งสองฝ่ายแม้จะรู้จักกัน แต่คงไม่ได้ลึกซึ้งอะไรกันมาก สองผู้ยิ่งใหญ่นี้คงแค่บังเอิญผ่านมาเจอกันเข้าเลยแวะให้หน้ากันไปตามน้ำงั้น ๆ แหละ
“ถ้าเธอไม่กล้า ก็ดูอยู่ข้าง ๆ ช่างเหมือนกันกับมู่เซิ่งแท้ ๆ แค่เศษขยะ!” จ้าวเหมยเหมยพูดว่าเข้าให้
ถงมู่ได้ยินพูดมาแบบนี้ ไฟโกรธมาในทันที “ใครว่าฉันไม่กล้า?พวกเราตอนนี้ไปเอาเสื้อผ้าที่มู่เซิ่งมันซื้อมาจากGUGCกลับมา กรีดให้มันขาดให้หมด คอยดูว่าพวกมันจะเอาไปใส่ยังไง!”
“ตกลง ไปกันเดี๋ยวนี้เลย!”
จ้าวเหมยเหมยก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ดูจ้าวหลินอวดโอ่ต่อไป สามคนทั้งบ้าน พากันออกจากงานเลี้ยงไป
พวกเธอไม่มีต้องคิดใส่ใจความรู้สึกของจ้าวลิ่วป๋อที่เห็นพวกเธอเดินออกจากงานไป แท้จริงที่มาก็เพราะอย่างที่เฉินเสวียลี่พูดไว้ หวังจะได้เหยียบทับมู่เซิ่งนั้นเอง มาตอนนี้เฉินเสวียลี่เสียท่า พวกเธอก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม?
กุ๊ยอันธพาลทั้งสามคนบ้านนี้ มาถึงแล้วก็เข้าไปหาพนักงานของGUGC ถามถึงเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่มู่เซิ่งซื้อไว้เมื่อกี้นี้ พวกพนักงานเหล่านั้นก็ตอบไปตามจริง บอกว่าเสื้อผ้าพวกนั้น เพิ่งจัดการห่อบรรจุเรียบร้อย กำลังรอจะส่งให้ฝ่ายจัดส่ง
เสื้อผ้าเหล่านี้รวม ๆ กันแล้วเป็นเงินถึงสี่ล้าน ทางGUGCถ้าไม่จัดส่งเอง ก็คงจะไม่ไว้วางใจ
“ไม่ต้องแล้ว พวกเธอเอาเสื้อผ้าทั้งหมดมาเลย” จ้าวเหมยเหมยพูดไปอย่างไม่เกรงใจ
“นี่เป็นคำสั่งจากคุณมู่หรือคะ?” พนักงานขายเอ่ยปากถาม พวกเขายังคิดว่ามู่เซิ่งสั่งให้มารับของเอง
“พูดมาก ไม่งั้นฉันจะมาถามเธอเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปทำอะไร?” จ้าวเหมยเหมยโกหกไปเฉย หน้าไม่แดงใจไม่ลน
พวกพนักงานค้อมผงกหัว เชื่อคำพูดของจ้าวเหมยเหมยกันจริง ๆ จัดการเอาเสื้อผ้าห่อกองใหญ่ ส่งมอบให้กับจ้าวเหมยเหมยไปทั้งหมด
จ้าวเหมยเหมยก็รีบขนเสื้อผ้าพวกนั้นกลับไปบ้าน ไปถึงบ้านก็จัดการแกะออก รื้อเอาชุดสากลทั้งหมดออกมา โยนทิ้งลงไปกับพื้น ทั้งกระทืบทั้งย่ำขยี้ ระเบิดไฟแค้นที่สุมอยู่ใส่ลงไปอย่างกับเป็นตัวของมู่เซิ่ง!
“ไอ้ขยะ ฉันจะดูว่าหลังจากนี้ ยังกล้ามากวนให้ฉันโกรธอีกมั้ย!”
ขณะเดียวกันนั้นจ้าวเหมยเหมยก็ระเบิดเสียงตะโกนด่าใส่
ในใจของเธอ ยังมีความคิดที่เลวร้ายอีกอัน เธอเตรียมนำเสื้อผ้าพวกนี้ เอาไปโยนไว้ที่หน้าโรงแรมไป๋ต้า ถึงเวลานั้น จะดูว่ามู่เซิ่งจะได้อับอายขนาดไหน!
ในขณะนั้น
ในห้องพิเศษชั้นเลิศหรูที่สุดของโรงแรมไป๋ต้า การตกแต่งภายในห้องนั้น ใช้คำว่าเลอล้ำวิลิศมาหราก็ยังไม่เกินไป พอคนตระกูลกู่บอกว่าผู้รับผิดชอบที่อยู่เบื้องหลังโครงการเขตซีไห่นี้ก็คือมู่เซิ่งนั้น แววตาที่มองมู่เซิ่งของหลี่หราน ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างพินอบพิเทา
โครงการเขตซีไห่ เขามีได้ยินมาว่าเป็นโครงการในความรับผิดชอบของตระกูลมู่ หรือจะว่า มู่เซิ่งเกี่ยวดองกับตระกูลมู่?
เขาไม่กล้าถาม และก็ไม่กล้าคิดมาก
“ท่านกู่ ใช่แล้ว กู่ชิงเสวียนล่ะ?” มู่เซิ่งมองไปรอบ ๆ เจ้าเด็กสาวคนนั้นไม่ได้อยู่ในบริเวณนั้น ทำให้เขารู้สึกเอะใจ
กู่มู่สวีนหัวเราะเจื่อน ๆ พูดว่า “ยัยเด็กสาวนั่นรู้สึกเมื่อวานพอเจอหน้าคุณ จะขายหน้ามาก ตอนนี้หนีกลับไปเจียงหนานแล้ว”
มู่เซิ่งแค่นหัวเราะ คิดไม่ถึงว่าไอ้เจ้ากู่ชิงเสวียนนี่ จะหน้าบางถึงขนาดนี้
เขายังไม่รู้จัก ผู้หญิงทุกคน ล้วนอยากแสดงในสิ่งที่ดีที่สุดของตัวเองต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบ หญิงย่อมยอมรับผู้ที่ชื่นชมตัวเอง นับประสาอะไรกับกู่ชิงเสวียนที่เป็นเด็กสาวเริ่มมีรักแรก?
หลังจากหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง มู่เซิ่งเริ่มพูดเข้าเรื่อง “ท่านกู่ คุณบอกว่าที่เขตอำเภอซานเซี่ยงนี้ ก็มีโครงการว่าจะพัฒนาสร้างใหม่ ตอนนี้มาหาผม คุณคิดจะให้ผมช่วยอะไรหรือ?”
“ใช่ครับ ระยะหลังนี้ตระกูลกู่ของพวกเราทำด้านอสังหาริมทรัพย์ ก็พอเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ โครงการคฤหาสน์ซีไห่ก็ใกล้เสร็จแล้ว เพราะฉะนั้นก็เลยคิดจะเปิดโครงการที่อำเภอซานเซี่ยงขึ้นมาเลย โดยจะเริ่มต้นที่ห้าเขตุหมู่บ้านซานขุยบริเวณที่ติดเขา จัดให้เป็นกลุ่มทุนด้านธุรกิจท่องเที่ยว”
“คุณมู่ ไม่ทราบคุณสนใจไหม?”
“ได้เลยครับ ที่อำเภอซานเซี่ยงนี่อิงเขาเคียงน้ำ ทำเป็นพื้นที่พักผ่อนท่องเที่ยว ผมก็เห็นว่าเหมาะดีทีเดียว”
มู่เซิ่งตรึกตรองดูแล้ว ก็ผงกหัวตอบตกลง