มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง – บทที่ 236 ทุบแตก

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 236 ทุบแตก

ในตอนนี้ เจี่ยงฉู่เหมือนกับจับจุดอ่อนได้ ชี้ไปทางมู่เซิ่งแล้วด่าอย่างสาดเสียเทเสีย “หึหึ เถ้าแก่หลายท่านนี้ สามารถดูออกได้ว่าหินชุบเลือดชิ้นนี้เป็นของจริง มีเพียงคุณที่พูดว่าเป็นของปลอม! หินชุบเลือดของล้ำค่าแบบนี้ ขายให้กับคนขยะแบบคุณถึงจะเสียเปล่า!”

พูดจบ เขาหันหน้าไปพูดกับ จางสวี้ทันที “ผู้อาวุโสท่านนี้ เมื่อครู่ที่คุณพูดว่าจะซื้อหินชุบเลือดของฉัน ยังเชื่อถือได้อยู่ไหม?”

“แน่นอนว่าพูดคำไหนคำนั้น เพียงแค่คุณยอมขาย ก็ยังคงราคานั้น สี่สิบล้าน!” จางสวี้ลูบเคราพูดอย่างสบายใจ

ฮ่าฮ่า นี่ยิ่งแสดงยิ่งฮึกเหิม?

มองดูใบหน้าที่จริงจังของพวกเขาทั้งคู่ มู่เซิ่งอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ฝีมือการแสดงเกินความจริงไปหน่อยไหม หากไปเป็นนักแสดง รับรองว่าบี้หนุ่มหน้าอ่อนเหล่านั้นในตอนนี้ได้แน่

“คุณคิดว่าผมดูไม่ออกหินชุบเลือด?” มู่เซิ่งหยิบหินชุบเลือดขึ้นมา ยิ้มแล้วถาม

“ถ้าคุณรู้ถึงจะแปลก!” เจี่ยงฉู่สีหน้าไม่เชื่อ

“ที่มาของหินชุบเลือด เนื่องจากวิธีการก่อตัวของหยกที่พิเศษ หยกก่อตัวภายใต้พื้นดิน และในตอนนี้ ก็มีเลือดของสัตว์ไหลเข้าสู่พื้นดิน หยดลงบนหยก ดังนั้นถึงได้ก่อตัวเป็นหินชุบเลือดที่พิเศษแบบนี้”

“ในนั้นมีหลายปัจจัยมากมาย รวมทั้งคุณภาพวัสดุของหยก และคุณภาพของเลือดสดและปัญหาอื่นๆ ดังนั้นปัจจัยการก่อตัวของหินชุบเลือดชนิดนี้ยากลำบากมากๆ มีเพียงแค่หินชุบเลือดตามธรรมชาติเท่านั้น ถึงจะมีรอยเลือดปะปนอยู่”

“หินชุบเลือดชิ้นนี้บนมือของคุณ ถึงแม้จะมีเส้นเลือด แต่เห็นได้ชัดว่าถูกทำลอกเลียนแบบออกมา พวกคุณนำหยกของราชวงศ์ซีฮั่นชิ้นหนึ่งใส่ลงในเลือดสด ผ่านความร้อนสูง ถึงทำให้เกิดเส้นเลือดในหินหยก”

พูดถึงตรงนี้ มู่เซิ่งนำหินชุบเลือดในมือเคาะกับเคาน์เตอร์กระจกใส มองไปทาง เจี่ยงฉู่ ใบหน้าแฝงรอยยิ้ม “พวกคุณก็ไม่เสียดายเลยจริงๆ ถึงได้นำหยกของราชวงศ์ซีฮั่นทำเป็นของปลอม นี่กล้าลงทุนจริงๆ”

“เพียงแต่ ทำได้เพียงแค่ใช้หลอกนักอัญมณีศาสตร์เหล่านั้นที่ความรู้ไม่ถึงแค่นั้นแหละ สำหรับฉัน นี่ก็คือของปลอมขยะชิ้นหนึ่ง!”

น้ำเสียงแสบหู คำพูดมีพลัง!

ในตอนนี้ ทุกคนที่ยืนล้อมรอบ ตกตะลึงกันหมด

คำพูดที่เจ้าหนุ่มคนนี้พูดมีเหตุผลทั้งนั้น

หรือว่าหินชุบเลือดชิ้นนี้เป็นของปลอมจริงๆ?

เพราะว่าพวกเขาก็เหมือนกับเลขาหมี่รั่วอวี้ เคยได้ยินชื่อเสียงของหินชุบเลือด แต่ความเป็นจริง ไม่เคยได้เห็นกับตา

ได้ฟังคำพูดประโยคสุดท้ายของมู่เซิ่ง หินชิ้นนี้ ใช้เพียงเพื่อหลอกลวงนักอัญมณีศาสตร์ที่ความรู้น้อยนิดเหล่านั้นแค่นั้นแหละ พวกเขาสีหน้าซับซ้อน อยากจะปล่อยความโมโห แต่กลับหาคำพูดโต้กลับมู่เซิ่งไม่ได้

หมี่รั่วอวี้ดวงตาเป็นประกาย จ้องมองมู่เซิ่ง

มู่เซิ่งพูดแนะนำเกี่ยวกับหินชุบเลือด เธอเคยเห็นในหนังสือ แต่ไม่ได้รู้ดีเหมือนกับมู่เซิ่งขนาดนั้น รายละเอียดของรอยเลือดในหินชุบเลือด เธอยิ่งไม่รู้อะไรเลย

แต่ว่า…

เขารู้เรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร?

“คุณ คุณโกหก!”

ถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคน เจี่ยงฉู่จะยอมรับได้อย่างไร เรื่องแบบนี้ถ้าหากถูกจับได้ พวกเขาจะมีปัญหาใหญ่โต!

“พ่อหนุ่ม ถึงแม้คำพูดของคุณจะเป็นความจริง พูดเหมือนเป็นเช่นนั้น แต่ทุกเรื่องจะต้องมีหลักฐาน ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่า คุณไม่ได้เป็นเพราะฉันซื้อหินชุบเลือดชิ้นนี้ไว้ถึงได้อิจฉาใส่ร้ายป้ายสี?” จางสวี้พูดอย่างรู้สึกไม่ยุติธรรม

“ใช่ แน่จริง คุณเอาหลักฐานออกมาสิ!”

เจี่ยงฉู่หน้าเปลี่ยนสี ยิ้มเยาะไม่หยุด

คนที่อยู่รอบๆ พากันพยักหน้า

ไม่ผิด พูดเยอะแยะขนาดนั้น ต่อให้ละเอียดแค่ไหน ก็แค่ปากพูดไม่มีหลักฐาน อยากให้พวกเขาเชื่อ จะต้องเอาหลักฐานออกมาถึงจะถูก

หมี่รั่วอวี้และผู้จัดการสายตามองไปทางมู่เซิ่งทันที

โดยเฉพาะ หมี่รั่วอวี้ ดวงตากลมโต เปล่งประกายความสงสัย และหวาดกลัว

เธอก็อยากจะรู้ มู่เซิ่งจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร

ส่วนเรื่องที่หวาดกลัวคือ ถ้าหากเธอใช้เงินสามสิบล้านซื้อหินชุบเลือดที่ทำเลียนแบบขึ้นชิ้นนั้นไว้ ตัวเองก็จบเห่ นอกจากถูกไล่ออกติดคุก ก็ไม่มีตัวเลือกที่สองแล้ว

“คุณอยากได้หลักฐาน?” มู่เซิ่งยิ้มบาง

“ใช่ หลักฐาน! ไม่เช่นนั้นคุณพูดอะไรผมก็ไม่มีทางเชื่อ!” เจี่ยงฉู่พูด

“ได้”

มู่เซิ่งพยักหน้า

วินาทีต่อมา

เพล้ง!

เขาพลิกมือ นำหินชุบเลือดในมือกระแทกลงบนพื้น เสียงแตกดังก้องขึ้น ในสายตาของทุกคน หยกงามชิ้นนี้ แตกเป็นสี่ห้าชิ้นทันที!

ซี้ด!

ทุกคนสูดหายใจเข้าลึก ชายหนุ่มคนนี้ ทุบหินชุบเลือดที่มีมูลค่าขนาดนี้แตกแล้ว?

จากนั้น ยังไม่รอให้เจี่ยงฉู่เอ่ยปากด่าทอ มู่เซิ่งนำเศษของหินชุบเลือดชิ้นหนึ่ง หยิบขึ้นมาจากบนพื้น วางบนไฟแช็กแล้วเผา หน้าตาสุขุมไม่ตื่นตระหนก “ฉันเคยพูดไว้ หินชุบเลือดคือหยกที่เลือดสดไหลซึม ผ่านเวลเป็นร้อยปีหรือเป็นพันปี ถึงจะก่อตัวเป็นหยกที่พิเศษ หยกแบบนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม เส้นเลือดภายในจึงขาดหายเป็นช่วงๆ และเต็มไปด้วยฟองอากาศ ที่สำคัญคือ เส้นเลือดเหล่านี้ ได้รวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับหยกตั้งนานแล้ว

“เช่นนี้ ที่คุณเห็นถึงแม้จะเป็นเส้นเลือด แต่ความจริง มันคือส่วนหนึ่งของหยกไปแล้ว ต่อให้นำไปเผาไฟ ก็ไม่มีปัญหาใดๆ

“แต่ถ้าหากเป็นของเลียนแบบที่ทำขึ้น หินชุบเลือดที่เกิดจากการแช่ในเลือด เป็นเพราะเวลาสั้นเกินไป ทำให้เลือดเข้าสู่ภายในหยกเท่านั้น ไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นเลือดยังคงเป็นเลือด หยกยังคงเป็นหยก ใต้การเผาไฟ เลือดจะเผาไหม้เป็นเศษๆ ทันที”

มู่เซิ่งพูดไปด้วย นำหินชุบเลือดส่วนที่มีเส้นเลือด บังไว้บนไฟแช็ก

“นี่ ไหม้แล้วจริงๆ ด้วย”

“พระเจ้า หรือว่า ไม่ใช่หินชุบเลือดจริงๆ”

“หยกจะถูกเผาได้อย่างไร ของปลอม หินชุบเลือดนี้ของปลอมแน่นอน!”

ทันใดนั้น เถ้าแก่ร้านจิวเวลรี่สองสามคนเห็นภาพนี้ ถึงบางอ้อในฉับพลัน แม้แต่ หมี่รั่วอวี้ก็เข้าใจอย่างถึงที่สุดแล้ว

หยกชิ้นนี้ เป็นของปลอม!

“คุณยังมีอะไรพูดอีก?” หมี่รั่วอวี้จ้องมอง เจี่ยงฉู่ หมอนี่กล้าดีมาก กล้ามาหลอกลวงถึง จิวเวลรี่มู่เหม่ย

“แก…”

มองดูหลักฐานแน่นอนตรงหน้า เจี่ยงฉู่อ้าปาก หน้าแดงก่ำ กลับพูดไม่ออกสักประโยค

“ในเมื่อคุณไม่มีอะไรจะพูด งั้นก็ไปพูดกับตำรวจเถอะ!” หมี่รั่วอวี้หน้าตาเย็นชา กดโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที

แจ้งตำรวจ?

เจี่ยงฉู่ได้ฟังคำนี้ เขาขมวดคิ้วแน่น จากนั้นพุ่งตรงออกไปทางประตูทันที

“อยากจะหนี!”

“ขวางเขาไว้ อย่าให้ต้มตุ๋นแบบนี้หนีไปได้!”

ทันใดนั้น เจ้าของร้านจิวเวลรี่เหล่านั้นล้อมรอบไว้ทันที

แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ ชายกำยำไว้หนวดเคราคนนั้นแรงเยอะมาก ทุกคนขวางเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ชั้นล่างก็ได้ล้อมรอบไว้แล้ว ดักบันไดที่เป็นทางหนีทางเดียวไว้อย่างแน่นหนา

“คุณหนีไปไม่พ้น” หมี่รั่วอวี้พูดอย่างเย็นชา

“หนีไม่พ้น? งั้นฉันจับเธอไว้ ดูสิพวกเขาจะไม่ยอมปล่อยฉันไป!” ขณะพูดก็สายไปแล้ว เจี่ยงฉู่ส่งเสียงพึมพำ ชักมีดกริชเล่มหนึ่งออกมา แทงไปทาง หมี่รั่วอวี้อย่างแรง!

“ว้าย!”

กลุ่มคนเกิดเสียงกรีดร้องขึ้น

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง

Status: Ongoing
ผู้ชายที่แม้แต่ภรรยาตนก็ปกป้องไม่ได้ ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?พอมู่เซิ่งเห็นภรรยาที่โดนรังแกเท่านั้นแหละ เขยแต่งเข้าที่โดนผู้คนเหยียดหยามมาโดยตลอด ตัดสินใจพลิกไพ่ใบสุดท้าย……

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท