มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง ตอนที่ 291 ต้องมีอะไรกับเขาให้ได้!
ในเวลานี้หวงอวี่ได้รับสายโทรศัพท์ และสีหน้าของเขาก็เริ่มยิ้มแย้มทันที
“หวงอวี่เกิดอะไรขึ้น?” เจิ้งซินซินถามทันทีที่เห็นสิ่งนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า พ่อของผมมาแล้ว”หวงอวี่หัวเราะและพูด”เดิมทีผมยังกังวลว่าพ่อของผมจะทันงานประมูลในวันพรุ่งนี้ไหม แต่ตอนนี้ไม่ต้องกังวลแล้ว และเขายังนำผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดของเขามาที่นี่ด้วย ครั้งนี้ ขอเพียงการประมูลสิ้นสุดลง ก็จะขวางมู่เซิ่งไว้ที่หน้าประตูและสั่งสอนมันให้สาหัสไปเลย!”
ที่สำคัญกว่านั้นคือ
หากพ่อของเขามา และพ่อของเขาก็จะช่วยจ่ายค่าหัวต่อคนของงานประมูล ดังนั้น หวงอวี่จึงสามารถประหยัดเงินก้อนนี้ไปอีก
“หึ ถ้าอย่างนั้นเราก็รอให้งานประมูลจบลงแล้วค่อยสั่งสอนพวกเขาสักหน่อย!” เจิ้งซินซินหัวเราะอย่างเย็นชาและพูด ในตอนนั้น เธอถูกมู่เซิ่งข่มขู่ที่จุดชมวิว ซึ่งทำให้เธอรู้สึกเสียหน้ามาก ตอนนี้ ในที่สุดก็สามารถหาโอกาสแก้แค้นได้แล้ว
“แน่นอน ขยะแบบนี้ ผมจะสั่งสอนมันให้สาสมแน่นอน กล้ามาขู่ผม!”ท่าทีของหวงอวี่นั้นกําเริบเสิบสาน หยิ่งทะนงอย่างมาก
เมื่อเห็นฉากนี้ แม้แต่เลขาฯที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะแอบส่ายหัวเบาๆ ถ้ามู่เซิ่งไม่ปรากฏตัว อย่างมากเธอก็แค่ดูถูกหวงอวี่แต่ตอนนี้เมื่อเปรียบเทียบกับมู่เซิ่งแล้ว ช่องว่างระหว่างทั้งสองนั้นใหญ่มากจนเห็นว่าหวงอวี่เป็นเพียงเรื่องตลก
คนอื่นเขามีทรัพย์สินหลายล้านล้าน เพียงแต่เขาไม่โอ้อวดเท่านั้นเอง ส่วนคุณมีเงินแค่ไม่กี่สิบล้าน ก็แหกปากว่าจะทุบตีเขา คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ
ถ้าเลขารู้ว่าคนที่หวงอวี่จะทุบตีคือมู่เซิ่ง เธอคงจะหัวเราะออกมาดังๆแล้ว
หลังจากเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ มู่เซิ่งก็กลับมาที่โรงแรม เจียงหว่านนอนตั้งนานแล้ว แล้วยังนอนขดตัวเหมือนแมว กำลังหลับสนิทอยู่เลย
มู่เซิ่งดึงผ้าหุ่มที่เจียงหว่านเตะออกขึ้นอย่างเงียบๆ และหลับไปบนเตียงอีกเตียง
เนื่องจากมู่เซิ่งนอนดึก เจียงหว่านจึงตื่นก่อนในตอนเช้า และสั่งอาหารเช้ามาสองอัน หลังจากมู่เซิ่งตื่น ทั้งสองคนก็นั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่ข้างเตียง แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่าง ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่น
“เมื่อวานเดินทั้งวัน วันนี้ตื่นเช้ามา รู้สึกปวดเอวกับขามาก มู่เซิ่ง นายรู้สึกแบบนี้ไหม?”เจียงหว่านบ่นพร้อมกับนวดน่องที่บวมของเธอ
“ไม่นะ”มู่เซิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม“งั้นวันนี้ก็ไม่ออกไปข้างนอกแล้วเนาะ เราพักผ่อนอยู่ในห้อง เป็นไง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของมู่เซิ่ง เจียงหว่านแสดงสีหน้าที่รู้สึกขอโทษ ก้มศีรษะของเธอและพูดว่า”ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้ตารางการเดินทางของวันนี้ยุ่งเหยิง”
“ไม่เป็นไร ก็พูดไปแล้ว มีเวลาอีกมากสำหรับฮันนีมูน ให้ตัวเองพักผ่อนให้เต็มที่ ส่วนรูปแต่งงาน แล้วค่อยไปถ่ายก็ได้ ไม่รีบ”มู่เซิ่งส่ายหัวและพูด
เจียงหว่านกลับดูกังวล แม้ว่าเธอจะสนุกกับการฮันนีมูน แต่เธอก็ยังกังวลมากเกี่ยวกับบริษัทในเจียงหนาน เพราะตอนที่เธอออกจากเจียงหนาน บริษัทกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก และเธอก็กังวลว่าเจียงมู่หลงจะใช้โอกาสในระหว่างที่เธอไม่อยู่ในบริษัทมาโจมตีบริษัทของเธอ
ดังนั้น ในขณะที่เจียงหว่านกำลังสนุกสนาน เธอก็ยังกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ในเจียงหนาน
“เดี๋ยวก่อน ฉันจะโทรกลับไปที่บริษัทก่อน” เจียงหว่านกล่าว
“อืม” มู่เซิ่งพยักหน้า
เจียงหว่านเดินไปที่ระเบียงคนเดียวและโทรหาหลิงเยียนหราน
“เยียนหรานสถานการณ์ที่บริษัทเป็นอย่างไรบ้าง?”เจียงหว่านถามอย่างกระวนกระวายใจ
ที่ปลายสาย หลิงเยียนหรานส่ายหัวและพูดว่า”ไม่เลวนะ”
“ไม่เลวนี่สถานการณ์เป็นอย่างไร?เยียนหรานอย่าประหมาทสิ เรื่องของบริษัทต้องเอามาใส่ใจนะ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของบริษัท”เจียงหว่านพูดอย่างกังวลเมื่อเธอได้ยินเช่นนี้
“ฮ่าๆ ประธานเจียง คุณไม่ต้องกังวล สถานการณ์ของบริษัทกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น คนที่สามีของคุณหามานั้น เป็นผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจจริงๆ แค่เขามาก็สามารถแก้ปัญหาทั้งหมดได้ในคราวเดียว แม้แต่เจียงมู่หลงก็ต้องแพ้พ่ายไป เดี๋ยวคุณกลับมา คุณก็จะเห็นบริษัทโฉมใหม่ที่มีแนวโน้มการพัฒนาที่ดีเป็นพิเศษ”
หลิงเยียนหรานพูดด้วยรอยยิ้ม และในตอนท้าย เธอกล่าวเสริมว่า”ตอนนี้คุณควรไปฮันนีมูนกับสามีของคุณให้สนุก ทางที่ดีที่สุดคือรีบตีเหล็กในขณะที่กำลังร้อน รีบทำลูกซะนะ”
เมื่อรู้ว่าบริษัทในเจียงหนานไปได้สวย ในที่สุดเจียงหว่านก็ถอนหายใจยาว แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคครึ่งหลังของหลิงเยียนหราน เธอก็หน้าแดงและพูดว่า “เยียนหราน คุณอย่าพูดไปเรื่อย เขากับฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้…”
“เป็นเพราะยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ หรือเป็นเพราะยังไม่ได้กันเหรอ” หลิงเยียนหรานหัวเราะคิกคัก
เจียงหว่านหน้าแดงด้วยความโกรธ”เยียนหราน ฉันจะฉีกปากคุณ!”
“มาสิ มาสิ!” หลิงเยียนหรานยังคงหัวเราะไม่หยุด
ในช่วงนี้ คนที่มู่เซิ่งส่งมาได้จัดการกับกิจการของบริษัทของเธอได้เป็นอย่างดี แม้แต่เจียงมู่หลงก็ลดการโจมตีไปที่บริษัทของเจียงหว่าน ดูเหมือนว่าเป็นเพราะเบื้องหลังไม่มีการสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติม ดังนั้น หลิงเยียนหรานจึงอารมณ์ดี มีเวลาว่างที่จะล้อเล่นกับเจีงหว่าน
เจียงหว่านกลับมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ มู่เซิ่งถามอะไรเธอก็ไม่พูดอะไรสักคำ เพียงแค่เหม่อลอยและจ้องมองไปที่กำแพง
แม้ว่าคำพูดของหลิงเยียนหรานจะโจ๋งครึ่ม แต่ก็เป็นความจริง
เธออยู่กับมู่เซิ่งมานานแล้ว เมื่อไหร่จะมีความคืบหน้า?
สิ่งที่ผูกมัดพวกเขาสองคนในตอนนี้ ก็แค่สัญญาการแต่งงาน แม้ว่าเธอจะไว้ใจมู่เซิ่งมาก และรู้ว่ามู่เซิ่งรักเธอมาก แต่ก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะไม่มีมือที่สามเข้ามาแทรกแซงชีวิตคู่ของพวกเขา เพราะมู่เซิ่งดีและเก่งขนาดนี้
“รอไม่ได้แล้ว หากมีโอกาส ก็รีบมีอะไรกับเขาซะ”เจียงหว่านแอบคิดในใจ
แม่เจ้า!
หลิงเยียนหรานคงคาดไม่ถึงว่าเรื่องที่เธอล้อเจียงหว่านเล่น จะทำให้เจียงหว่านมุ่งมั่นที่จะไปมีอะไรกับมู่เซิ่งให้ได้
หลังจากบริกรนำอาหารกลางวันมาให้ ทั้งสองคนก็รับประทานอาหารและพักผ่อนไปสักครู่ ก่อนจะเตรียมตัวและออกไปเข้าร่วมงานประมูล
แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่ได้แต่งตัวดี แต่เพียงแค่สวมเสื้อผ้าที่เป็นทางการก็กลายเป็นภาพที่สวยงามที่ทางเข้างานประมูลแล้ว เพียงแค่ปรากฏตัวที่นั่นพวกเขาก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน
และที่ทางเข้าของงานประมูล นอกจากคู่รักอย่างมู่เซิ่งกับเจียงหว่านแล้ว ยังมีอีกคู่หนึ่งที่ยืนอยู่คือหวงอวี่และเจิ้งเสี่ยวเซวียน ทั้งสองตั้งใจมาถึงก่อนเวลา
แม้ว่าเวลาที่จัดการมู่เซิ่งคือตอนที่สิ้นสุดการประมูล แต่พวกเขาก็ใช้เงิน 2 ล้านจึงซื้อที่นั่งด้านหน้าได้ ซึ่งดีกว่าที่นั่งด้านนอกสุดมาก ถ้าพวกเขาไม่ได้อวดมู่เซิ่ง คงน่าเสียดายมาก
ดังนั้น เมื่อพวกเขาทั้งสองมาถึงประตู สายตาของพวกเขาก็มองหาตำแหน่งของมู่เซิ่ง เพราะกลัวว่าพวกเขาจะพลาด
“หวงอวี่ ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินคนนั้นมาแล้ว”หลังจากรอไปครู่หนึ่ง เจิ้งซินซินก็เห็นมู่เซิ่ง มองไปที่เจียงหว่านที่พร่างพรายในฝูงชน เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉา และพูดกับหวงอวี่อย่างรวดเร็ว
หวงอวี่มองไปทันที และเห็นมู่เซิ่งที่สวมเสื้อผ้าธรรมดา ความรู้สึกที่รู้สึกเหนือกว่าก็ผุขึ้นในใจ ในขณะเดียวกันเมื่อเห็นเจียงหว่านที่อยู่ข้างๆมู่เซิ่ง เขาก็รู้สึกอยากที่จะแย่งเธอมาครอบครอง
คนไม่ได้เรื่องอย่างมู่เซิ่ง มีภรรยาที่สวยงามเช่นนี้ได้อย่างไร?
ผู้หญิงประเภทนี้ ต้องอยู่บนเตียงของหวงอวี่อย่างผมเท่านั้น
ดังนั้น เขาจึงก้าวเดินไปหามู่เซิ่ง หยุดมู่เซิ่งไว้ แสร้งทำเป็นพบกันโดยบังเอิญ และพูดด้วยรอยยิ้ม”ช่างบังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่าพวกคุณสองคนจะมีเงินมาเข้าร่วมงานประมูลครั้งนี้ …”