หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op) – ตอนที่ 80

ตอนที่ 80

เมื่อออกจากบ้านเช่าของเบทต้าโรแลนด์ก็รู้สึกมึนหัวเล็กน้อย

แม้ว่าปริมาณแอลกอฮอล์ของไวน์ผลไม้จะไม่สูงนัก แต่ดวงตาของเขาก็พร่ามัวเล็กน้อยหลังจากดื่มห้าแก้วติดกัน

โรแลนด์รีบออกจากเมืองก่อนประตูเมืองจะปิด

ดวงอาทิตย์กำลังตกในขณะที่ฟ้ากำลังมืดทำให้แสงสีทองปรากฎออกมา ผู้คนนั้นบ้างเข้าบ้างก็ออกจากเมืองไป มีพ่อค้าบางคนกำลังอยู่ในอาการเร่งรีบ บ้างเร่งเข้าเมือง เป็นธรรมดาที่จะมีบางส่วนออกจากเมืองไปบ้าง

ทุกที่ที่โรแลนด์เดินผ่านนั้น ผู้คนต่างเว้นระยะห่างจากเขาสองถึงสามเมตรเสมอ ผ้าคลุมเวทย์ของเขานั้นถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีที่สุด

หลังจากออกจากเมืองแล้วโรแลนด์ก็เดินไปทางทิศตะวันตกตามกำแพงเมือง หลังจากเดินทางไปได้ครึ่งชั่วโมงในที่สุดเขาก็เห็นสะพานของเมืองเดลพอ

แม่น้ำสายใหญ่ทอดยาวอยู่ตรงหน้าเขาและตามทางของแม่น้ำนั้นมีบ้านรูปแบบอะโดบี้หลายสิบหลังถูกสร้างอยู่ นอกจากนี้ยังมีทั้งคนที่คอยตะโกนสั่งงาน กลุ่มคนงานถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆอีกหลายกลุ่ม หลายคนใช้เชือกผูกกับแผ่นหินขนาดยักษ์ก่อนดึงขึ้นไป ก่อนจะโยนมันไปกลางอากาศปล่อยให้มันหล่นพื้นอย่างรุนแรง

ในเวลาเดียวกัน ในอากาศนั้นมีแขนสีน้ำเงินของแขนเวทย์หลายอันคอยขยับอยู่ตรงพื้นดิน

โรแลนด์เดินเข้าไปและเห็นเข้ากับฮอร์กและลิงค์อยู่ที่ไซต์ก่อสร้าง คนหนึ่งคอยดูอยู่ทางซ้าย ส่วนอีกคนคอยดูอยู่ทางขวา พวกเขาคุมคนงานอย่างต่ำก็กว่าร้อยคนแล้ว

ตาของฮอร์กนั้นค่อนข้างเฉียบแหลม ถึงแม้ว่าเขาจะเพ่งความสนใจกับงานของเขา ทว่าเขาก็ยังคงสังเกตุเห็นโรแลนด์ที่เดินเข้ามาในวิสัยทัศน์ของเขา

เขาแสดงท่าทางว่าให้คนงานพวกนั้นทำงานต่อ ก่อนที่เขาจะวิ่งเข้ามาหาโรแลนด์และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อะไรกัน ในที่สุดพ่อนักเวทย์แก่เรียนก็ออกมาจากหอคอยเวทย์สักทีนะ”

โรแลนด์มองไปยังไซต์ก่อสร้างที่ดูวุ่นวายและพูดขึ้นว่า “นี่ทำกันไปได้กี่วันกันแล้วเนี่ย? พวกนายสร้างบ้านกันไปเยอะมาก นี่นายเคยทำงานพวกนี้มาก่อนด้วยเหรอ?”

ฮอร์กยักไหล่ “ฉันจบปริญญาวิศวกรรมโยธามาและเคยฝึกงานในไซต์ก่อสร้างมาระยะหนึ่ง แม้ว่าตอนนี้ฉันจะมีแค่ธุรกิจเล็กๆ แต่ฉันก็ยังมีประสบการณ์ค่อนข้างมาก”

ไม่น่าแปลกใจเลย

ฮอร์กมองไปที่แขนเวทย์จำนวนมากที่ลอยอยู่บบนอากาศและพูดว่า “แต่ฉันต้องขอบคุณนายจริงๆ ถึงแม้ว่าพวกนักเวทย์ฝึกหัดพวกนั้นจะพึ่งมาที่นี่ได้แค่วันเดียว แต่พวกนั้นก็ช่วยได้มาก พวกเขาสามารถช่วยยกของหนักหลายร้อยกิโลได้ จนบางทีก็เกือบๆถึงสองตัน”

“ไม่ต้องขอบคุณฉัน แต่จ่ายข้าจ้างให้พวกนั้นด้วย”

“แน่นอนอยู่แล้ว” เมื่อพูดจบ ฮอร์กก็ขวมคิ้วและพูดว่า “ทว่าพวกเรานั้นใช้เหรียญทองจนเกือบหมแล้ว นายยังพอมีเหรียญทองเหลือขายให้พวกเราได้ไหม?”

โรแลนด์พยักหน้า “ฉันยังไม่ได้รับค่าจ้างของเดือนนี้จากหอคอยเวทย์เลย และยิ่งไปกว่านั้นฉันยังไม่เงินบรรณาการจากการเรียนสกิลพิเศษเลย ดูเหมือนว่าพวกนักเวทย์คนอื่นๆจะยังหาที่เรียนไม่เจอ”

“การโยนเหรียญใส่รูปปั้นนายแม้งดูน่าสนุกเป็นบ้า” ฮอร์กหัวเราะออกมาท่าทางของเขาดูสดใสและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าหากเรายังพอมีเหรียญทองเหลืออยู่ พวกเราก็สามารถดำเนินงานต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง โอ้ใช่ บางทีนายอาจจะมานี่เพราะมารับตัวพวกนักเวทย์ฝึกหัดกลับไปก็ได้ ส่งพวกนั้นมาช่วยอีกหละในวันพรุ่งนี้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ใช้งานพวกเขาจนสะบักสะบอม”

โรแลนด์ส่ายหัว “ไม่ใช่เรื่องนั้นหรอก”

ฮอร์กดูงุนงง “แล้วนายมาที่นี่เพื่อ?”

“เบทต้าได้รับภารกิจสีม่วงน่ะ เป็นภารกิจประเภทดันเจี้ยนขนาดเล็ก!” หลังจากโรแลนด์พูดจบ เขาก็มองดูการเปลี่ยนแปลงท่าทางของฮอร์ก

เหมือนที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด

ในตอนแรกนั้นฮอร์กดูตกตะลึงไปทันทีหลังจากนั้นเขาก็โพล่งออกมาอย่างรุนแรงว่า “เชี่ย!”

“น่าประทับใจใช่ไหมล่ะ? จริงๆแล้วฉันค่อนข้างประทับใจในดวงของหมอนั่นจริงๆ” โรแลนด์กล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นี่มันก็เกือบสองเดือนมาแล้วที่ฉันเริ่มเล่นเกมนี้ ถ้าไม่นับภารกิจบางอย่าง ภารกิจเกือบทั้งหมดของฉันล้วนมาจากหมอนั่นทั้งสิ้น”

“หมอนั่นแม้งเป็นโคตรผู้เล่นมหาเฮงเลย” ฮอร์กกล่าวออกมาอย่างอิจฉา จากนั้นดวงตาของเขาก็เริ่มเป็นประกาย “นายมาที่นี่เพื่อบอกฉัน ไม่ใช่ว่าจะให้ฉันกินมะนาวใช่ไหม? อย่าบอกนะว่า….?”

เมื่อเห็นท่าทางที่ดูคาดหวังของฮอร์ก โรแลนด์ก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ก็เหมือนที่นายคิดนั่นแหละ ฉันอยากจะชวนนายกับลิงค์ร่วมปาร์ตี้ด้วย ด้วยวิธีนี้จะทำให้เรามีผู้เล่นทั้งหมดสี่คน”

“ขอบใจมาก” ฮอร์กตบบ่าของโรแลนด์อย่างยินดี “ทว่าฉันและลิงค์ยังพึ่งเลเวลสองเท่านั้น หวังว่าพวกนายจะไม่รังเกียจนะ”

“ไม่แน่นอนอยู่แล้ว” โรแลนด์พูดออกมาโดยไม่ต้องคิด “ยังไงผู้เล่นก็ไม่มีทางตายอยู่แล้ว นี่มันเป็นการผจญภัยครั้งใหญ่ นอกจากนี้พวกเราก็ไม่มั่นใจด้วยว่า NPC ในโลกนี้สามารถเข้าดันเจี้ยนได้หรือไม่?”

“ก็ลองทดสอบดูสิ เดี๋ยวนายก็รู้เอง” ฮอร์กส่งสัญญาณให้ลิงค์จากระยะใกล้จากนั้นก็พูดต่อว่า “ถึงตอนนี้ก็มีพวกเราสี่คนแล้ว นายจะลองชวนพวก NPC ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญดูไหม?”

คำแนะนำของฮอร์กนั้นถือว่าดีมาก ทว่าหลังจากโรแลนด์ครุ่นคิดสักพัก เขาก็ปฎิเสธมัน “ลืมเรื่องนั้นเถอะ มันคนไม่สนุกแน่หาก NPC ตายไปในดันเจี้ยน”

“ก็จริง”

“ปีกสีเงินมีพวกผู้เชี่ยวชาญในด้านการรักษาอยู่ใกล้ๆแถวนี้ไหม?”

ฮอร์กโบกมือปฎิเสธ “ถึงแม้ว่าฉันอยากจะให้คนในกิลด์ของฉันเข้ามาหาประสบการณ์เกี่ยวกับดันเจี้ยนฟรีๆใจจะขาด แต่ฉันมั่นใจว่าไม่มีใครสักคนเลยในกิลด์ฉันที่อยู่แถวนี้”

“ถ้าอย่างนั้นฉันคงได้แค่ลองหาจากในฟอรั่มสินะ ถ้าพวกเราหาผู้รักษาไม่ได้จริงๆ พวกเราก็ต้องไปกันสี่คน ยังไงพวกเราก็ไม่ตายอยู่แล้วแค่พลาดไม่กี่ครั้งสุดท้ายพวกเราก็จะหาทางผ่านได้อยู่ดี อย่างเลวร้ายที่สุดพวกเราก็แค่กลับมาตอนเลเวลสูงขึ้น”

ฮอร์กหัวเราะออกมาเสียงดัง “นั่นแหละสิ่งที่ผู้เล่นอย่างเราได้เปรียบมากที่สุด”

“ถ้าฉันหาคนมาได้ ฉันจะมาเรียกนายก็แล้วกัน”

โรแลนด์ตบที่ไหล่ของฮอร์กและจากไปทันที

เขาเดินไปที่ด้านข้างของวิเวียนและพูดว่า “ในช่วงนี้พวกเธอควรอยู่นอกเมืองจะดีที่สุด อย่ากลับไปที่หอคอยเวทมนตร์เป็นอันขาด”

วิเวียนเห็นโรแลนด์มาถึงเมื่อไม่นานมานี้ แต่เมื่อเห็นว่าเขากำลังคุยกับฮอว์คเธอก็พยายามอดกลั้นความต้องการของตัวเองและทำงานต่อไป โดยไม่ได้เข้าไปใกล้โรแลนด์

จริงๆแล้วเธอนั้นต้องการกลับหอคอยเวทมนตร์มาก ไม่ใช่ว่าเธอรู้สึกเหนื่อยกับงาน แต่เธอเพียงแค่อยากอยู่เคียงข้างโรแลนด์ให้นานมากขึ้น

นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเมื่อเธอได้ยินคำพูดของเขา เธอก็ทั้งตกใจและกังวลเป็นอย่างมาก “เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะท่าน?”

“มีเรื่องอะไรนิดๆหน่อยๆน่ะ” โรแลนด์มองไปยังอาทิตย์ที่กำลังตกดินและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทางที่ดีพวกเธอไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้น่าจะดีที่สุด เพราะไม่อย่างนั้นมันจะก่อให้เกิดปัญหาอย่างมาก”

เมื่อก่อนหน้านี้ โรแลนด์ได้อ่านข้อมูลส่วนบุคคลของพวกนักเวทย์ฝึกหัดเหล่านี้

นอกเหนือจากวิเวียนที่มาจากตระกูลขุนนางเล็กๆนั้น พวกที่เหลือล้วนแต่เป็นสามัญชน

หากพวกเขาเป็นนักเวทย์อย่างเป็นทางการ พวกเขาก็จะมีความสามารถพอที่จะต่อต้านได้บ้าง ทว่าก็แค่บ้างเท่านั้น

ขนาดอัลโดซึ่งเป็นนักเวทย์อย่างเป็นทางการก็ยังถูกบงการและไม่สามารถทำตัวเป็นอิสระได้

วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ถูกเป่ากระเด็นไปโดยพายุลูกยักษ์ก็คืออยู่ให้ห่างจากมันเข้าไว้

“ท่านรองประธาน ท่านยังปลอดภัยดีใช่ไหม?” ดวงตาของวิเวียนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก” โรแลนด์ปลอบเธอ “เธอก็รู้ตัวตนของฉันดี ความตายไม่ใช้บทลงโทษสำหรับฉัน หลังจากอะไรๆผ่านพ้นไป ฉันจะมาเรียกพวกเธอกลับไปยังหอคอยเวทย์”

วิเวียนกัดริมฝึปากของเธอด้วยท่าทางลังเล “รับทราบค่ะ”

หลังจากอยู่ในไซต์ก่อสร้างต่อสักพักโรแลนด์ก็กลับไปที่เมืองก่อนดวงอาทิตย์ตกดิน

เมื่อเขาเข้ามาในเมืองทหารก็ปิดประตูเมือง

วันนี้ประตูเมืองปิดช้ากว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากหัวหน้าของกำแพงเมืองเห็นโรแลนด์กำลังกลับจึงสั่งทหารที่ปิดกำแพงเมืองให้ปิดช้ากว่าปกติสิบนาที

หลังจากกลับไปที่หอคอยเวทมนตร์โรแลนด์ก็ยังคงศึกษาความสามารถทางภาษาเหมือนเช่นเคย จากนั้นเมื่อเวลาของเกมจบลงเขาปีนออกจากแคปซูลและโพสต์รับสมัครไว้บนเว็บบอร์ด

รับสมัครสมาชิกสำหรับลุยดันเจี้ยน ขอฮิลเลอร์

หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op)

หฤโหดโคตรนักเวทย์ (Mage are too Op)

Status: Ongoing

ในฐานะผู้เล่นกลุ่มแรกที่เข้าสู่โลกแห่งฟาลาน เกมเสมือนจริงเกมแรกของโลก โรแลนด์ได้เริ่มตัวตนใหม่ของเขาในฐานะนักเวทย์

ทว่าการเป็นนักเวทย์นั้นแสนยากลำบากไม่เหมือนที่เขาเคยจิตนการไว้ ครั้งแรกที่เขาลองร่ายเวทย์หัวของเขาก็ระเบิดออกมา

ผู้เล่นนักเวทย์คนอื่นๆต่างถอดใจและพากันลบตัวละครทว่าโรแลนด์ก็ยังคงดื้อดึงต่อไป

โรแลนด์เริ่มพัฒนาความสามารถของตัวเองจนเชี่ยวชาญและพบเข้ากับพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาของตัวเอง

ซึ่งทำให้เขาสามารถเปลี่ยนความคิดของผู้เล่นที่มีต่อนักเวทย์และค้นหาความลับของเกมนี้ได้….

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท