มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 352 ใหญ่ขึ้นแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังรับรู้สัมผัสถึงประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของยาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กนี้อยู่ เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นของถังเสี่ยวเยว่ ก็ได้ดึงดูดสายตาของทุกคนมาที่ตัวเธอทันที
เมื่อทุกคนหันไปมอง สายตาก็พลันหยุดชะงักไปชั่วขณะอย่างไม่รู้ตัว
เดิมทีถังเสี่ยวเยว่ก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยงามรูปร่างอวบอิ่มอยู่แล้ว ทั่วทั้งร่างกาย ส่งกลิ่นหอมราวกับลูกพีชที่สุกงอม โดยหลังจากที่ได้กินยาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กเข้าไปแล้ว ก็ยิ่งมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่เคลื่อนไหวร่างกาย ก็จะแฝงไปด้วยกลิ่นอายของผู้หญิงที่ภูมิฐานและสง่างดงาม
ขณะนั้น ถังเสี่ยวเยว่ได้ก้มหน้าลง สีหน้าท่าทางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พร้อมกับพูดเสียงดังว่า: “ใหญ่ขึ้นแล้ว ไม่นึกว่าจะขยายใหญ่ขึ้นด้วย! ”
“อะไรใหญ่ขึ้น? ”
ทุกคนยังไม่ทันตั้งสตินึกคิดขึ้นมาได้
มีเพียงแต่มู่เซิ่งที่มีสายตาที่ยอดเยี่ยม เป็นคนแรกที่พบเห็น ก็คือหน้าอกของถังเสี่ยวเยว่ใหญ่ขึ้นแล้ว
เดิมทีขนาดของเธอเองก็ไม่เล็ก ตอนนี้หลังจากที่เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว ก็ยิ่งจะใหญ่โตเต่งตึงมากขึ้นไปอีก เสื้อผ้าที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่นั้น ก็แค่ปกปิดเอาไว้ได้พอตัว ยังคงเผยให้เห็นเนื้อหนังที่ขาวนวล ดึงดูดสายตาของผู้คน
ในตอนที่ส่งเสียงกรีดร้องนั้น หน้าอกทั้งสองข้าง ก็ยังกระเพื่อมตามไปด้วย มู่เซิ่งมองเห็นแล้วก็ตกใจ นี่ไม่ใช่เรียกว่าใหญ่แล้ว นี่มันคืออาวุธขนาดยักษ์ต่างหาก
ถังเสี่ยวเยว่สังเกตไปที่สายตาของมู่เซิ่ง ทันใดนั้นแก้มสองข้างก็แดงก่ำขึ้น ก้มหน้าลงและพูดว่า: “ฉัน ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกชุดหนึ่งดีกว่า”
เมื่อพูดจบ ถังเสี่ยวเยว่ก็รีบวิ่งออกไปจากห้อง ภายใต้สายตาที่งุนงงของทุกคน
ซึ่งทุกคนต่างก็ไม่ได้คิดอะไรไปมาก
ถังเสี่ยวเยว่ทั้งสวยงดงามและอายุน้อย การเปลี่ยนแปลงหลังจากที่กินยาเข้าไปแล้ว น่าจะแสดงออกมาอย่างไม่ชัดเจนที่สุด ไม่เหมือนกับพวกคนอื่นที่เผยการเปลี่ยนแปลงให้เห็นอย่างชัดเจน
การพูดคุยกันของผู้ยิ่งใหญ่มีอิทธิพลภายในห้องก็คงดำเนินต่อไป กู่มู่สวีนลูบคลำไปที่แผ่นหลังที่คดงอของเขา หัวเราะแหะแหะแล้วพูดว่า: “ตอนนี้ ฉันเดินไม่หอบแล้ว ต่อให้วิ่งหนึ่งร้อยเมตร ก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร”
ทุกคนได้ยินดังนั้น ก็หันมองไปที่กู่มู่สวีนโดยพลัน
แผ่นหลังของเขาที่คดงอ เวลานี้ ได้กลับมาตั้งตรงอย่างที่สุดแล้ว แต่เมื่อมองดูรูปร่าง หากจะบอกว่าเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบสามสิบปีก็ยังมีคนพอจะเชื่ออยู่บ้าง
“ยินดีด้วยนะ ท่านกู่”
“นี่เหมือนกับว่าได้ของฟรีเลยทีเดียว ฉันได้ยินมาว่าช่วงที่ผ่านมานี้ท่านกู่ใช้จ่ายเงินไปให้กับโรงพยาบาลไม่น้อยเลยล่ะสิ? ซึ่งก็ไม่เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพใด ๆ เลย ตอนนี้ยาหนึ่งเม็ดของคุณมู่ ก็รักษาท่านให้หายดีเป็นปกติแล้ว”
เตาจั๋วเองก็เขย่าแขนที่พันด้วยผ้าพันแผลของตนเอง และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “นี่คือบาดแผลที่ฉันได้รับบาดเจ็บมาจากเกาะสองใจตอนก่อนหน้านี้ เพราะว่าเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อน และยังมาปะทะต่อสู้กับปรมาจารย์บู๊อีก เดิมทีหมอบอกว่ากระดูกแขนของฉันแตกหักอย่างละเอียด ยากที่จะฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้”
“ผลปรากฏว่าหลังจากที่กินยานี้เข้าไปแล้ว ไม่นึกว่ากระดูกที่หักของฉันจะหายดีแล้ว นี่มันช่างไม่แตกต่างอะไรกับยาเซียนเลย น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก”
“ฉันเองก็ด้วย! ” หยางเหนิงพูดเสริมขึ้นอย่างดีใจ
ตอนที่เขาอยู่บนเกาะสองใจ คือผู้ที่บาดเจ็บสาหัสที่สุด เดิมทีคิดว่า ชีวิตต่อจากนี้ คงจะต้องใช้ไม้เท้าประคองเดินไปตลอดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า ยาของมู่เซิ่ง จะทำให้เขาฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้
“ใช่เลย ประสิทธิภาพของยานี้ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก คุณมู่ เชิญรับการคารวะจากฉันด้วย” ทุกคนทยอยเดินกันมาที่เบื้องหน้าของมู่เซิ่ง แล้วโค้งคำนับ เมื่อเปรียบเทียบในครั้งนี้กับตอนเริ่มประชุมนั้น นอกจากความเคารพแล้ว บนใบหน้าของทุกคน ยังเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา สดชื่นแจ่มใสอย่างที่สุด
หากพูดว่า ก่อนหน้านี้เป็นเพราะหวาดกลัวในพลังความสามารถของมู่เซิ่ง จึงยอมที่จะเชื่อฟังและปฏิบัติตาม ถ้าอย่างนั้นในตอนนี้ พวกเขาแต่ละคนต่างก็ได้รับผลตอบแทนกลับกันบ้างแล้ว ต่อให้มู่เซิ่งไม่พูด แต่ละคนก็คงจะทยอยกันออกมาน้อมรับฟังและปฏิบัติตามกันเองแล้ว
เวลานี้ ถังเสี่ยวเยว่เดินจากด้านนอกเข้ามาด้านใน เธอได้ไปเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาที่ค่อนข้างหลวมสักหน่อยแล้ว แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ในขณะที่เดินนั้น ก็ยังแอบเห็นรูปร่างทรวดทรงองเอวที่สะดุดตา หน้าอกสองข้างที่เต่งตึง ในขณะที่เดิน ก็ยังกระเพื่อมไปด้วยเล็กน้อย
ลูกตาของมู่เซิ่ง ก็จับจ้องไปยังหน้าอกสองข้างที่เต่งตึงนั้น พร้อมกับขยับขึ้นลงตามจังหวะด้วย
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขากลั่นยา ก็ยังคิดไม่ถึงว่า ยาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กนี้จะส่งผลเกิดการเปลี่ยนแปลงกับผู้หญิงมากขนาดนี้ ในขณะที่เขากำลังเหม่ยลอยนั้น ในใจก็เกิดความคิดขึ้นอย่างหนึ่ง ถ้าหากเจียงหว่านกินยานี้เข้าไปแล้ว จะเกิดผลลัพธ์มากขนาดนี้บ้างหรือไม่?
เมื่อนึกถึงเวลานอนตอนกลางคืน สามารถมีหมอนข้างที่นุ่มนวลเพิ่มขึ้นอีกสองใบ มู่เซิ่งก็อดไม่ได้ที่เลือดจะสูบฉีดขึ้นอย่างแรง
ถังเสี่ยวเยว่เหลือบตาขาวใส่มู่เซิ่ง และกระซิบพูดว่า: “คุณมู่ อย่าได้ชักช้าอยู่อีกเลย รีบแนะนำการมีขึ้นของยานี้ให้กับพวกเราเถอะ”
ขณะนี้มู่เซิ่งถึงตั้งสติกลับคืนมาได้ ยิ้มและพูดว่า: “ยาชนิดนี้ ก็คือยาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กที่ฉันกลั่นมันขึ้นมา มันไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย และขับสิ่งสกปรกในร่างกายให้ออกมาอย่างง่ายดายแล้ว ยังจะสามารถช่วยส่งเสริมส่วนที่บกพร่องมาแต่กำเนิด ทำให้กลไกการทำงานในร่างกายของคน เพิ่มสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว”
เวลานี้ มู่เซิ่งไม่จำเป็นต้องบรรยายถึงสรรพคุณในตัวยาอย่างละเอียดอีกแล้ว เพราะทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็กินเข้าไปกันแล้ว และต่างก็สามารถรับรู้สัมผัสได้ถึงความยอดเยี่ยมของยาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กนี้
“คุณมู่ ขอถามหน่อยว่ายาชำระล้างไขกระดูกขนาดเล็กนี้ จะมีประสิทธิภาพต่อเนื่องได้ยาวนานเท่าไร? ” จางเสวียนหลงยกมือถามขึ้นโดยพลัน
มู่เซิ่งยิ้ม และมองไปที่พวกคนเหล่านั้น ที่ยังคงกังวลว่ายาตัวนี้ จะออกฤทธิ์ในเวลาอันสั้นแล้วก็หมดฤทธิ์ไป แล้วก็เอ่ยปากพูดว่า: “วางใจเถอะ ประสิทธิภาพของยาตัวนี้ จะออกฤทธิ์ตลอดไป โดยจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของทุกคน แล้วก็จะออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยังคงรักษาสภาพแบบนี้ต่อไปได้ ยกตัวอย่างเช่น ตอนนี้จางเสวียนหลงแม้ว่าจะไม่เจ็บหลังแล้ว แต่หากว่าได้รับบาดเจ็บขึ้นอีก ก็ยังคงจะเกิดโรคเรื้อรังได้เหมือนเดิม”
ทุกคนเข้าใจกันแล้ว ประสิทธิภาพของยาตัวนี้น่าตกตะลึงกว่าที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้เสียอีก
จางเสวียนหลงถามต่อว่า: “ถ้าอย่างนั้นคุณมู่ ยาชนิดนี้ คุณกลั่นออกมาจำนวนเท่าไร? ”
“หนึ่งร้อยเม็ด แต่เมื่อหักลบจากที่พวกท่านกินเข้าไป ก็ยังมีเหลืออยู่อีกเก้าสิบกว่าเม็ด” มู่เซิ่งพูดขึ้น
“เก้าสิบเม็ด โดยยาแต่ละเม็ด หากมีสรรพคุณแบบนี้ทั้งหมดแล้วล่ะก็ มูลค่าของมันนั้น ก็คงจะสูงมากอย่างน่าเหลือเชื่อ……” ใบหน้าที่งดงามของถังเสี่ยวเยว่ค่อย ๆ สูญหายไป คู่ดวงตาของเธอ ปรากฏแววตาที่จริงจัง ในตอนที่เธอพูดคุยทั่วไปกับมู่เซิ่งแล้ว จะแสดงท่าทางของผู้หญิงตัวเล็กน่ารักออกมา แต่หากในด้านธุรกิจแล้ว เธอก็ยังคงเป็นหญิงแกร่งที่ไม่ยอมลดราวาศอกให้กับใคร
ทุกคนเงียบสงบ พวกเขาแต่ละคน ต่างก็กำลังจินตนาการถึงมูลค่าในตัวของยานี้
“ยาเม็ดหนึ่งที่เยี่ยมยอดขนาดนี้ ต่อให้ต้องจ่ายเงินหลักสิบล้านเพื่อซื้อมันมา ก็คงจะมีคนยอมซื้ออย่างแน่นอน หนึ่งเม็ดราคาห้าสิบล้าน เก้าสิบเม็ด ก็มีราคาทั้งสิ้นสี่พันห้าร้อยล้านเลย! ”ถังเสี่ยวเยว่พูดขึ้น
มิน่าล่ะ ที่ตอนแรกมู่เซิ่งพูดนั้น เดิมทีเขาคิดจะมอบให้เธอทำเพียงคนเดียว แต่ธุรกิจมันใหญ่โตมากจริง ๆ เกรงว่าเธอจะจัดการไม่ไหว
สปาหรงเหม่ยในตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นธุรกิจชั้นนำ แต่ยอดการสั่งซื้อจำนวนสี่พันกว่าล้าน สำหรับเธอแล้ว มันช่างใหญ่โตเกินไปจริง ๆ
จางเสวียนหลงส่ายศีรษะ และพูดว่า: “ห้าสิบล้านก็คิดจะได้ยาหนึ่งเม็ดนี้? ฉันว่ากำลังฝันไป! ยาหนึ่งเม็ดนี้ สามารถที่จะจำหน่ายในราคากี่ร้อยล้านได้ อีกทั้งการลดน้อยลงของจำนวนยา ทำให้ราคาก็ยิ่งจะสูงขึ้น หากจำหน่ายให้กับพวกตระกูลที่เหนือกว่าตระกูลอันดับหนึ่งและตระกูลมหาเศรษฐีแล้ว ราคากี่ร้อยล้านก็ยังคงจะมีคนจำนวนมากมาแย่งซื้อกัน! ”
“สามารถจำหน่ายได้ในราคาที่แพงขนาดนี้เลยเหรอ? ” มีคนถามขึ้น เขาไม่ถนัดในธุรกิจนี้ จึงไม่ค่อยชัดเจน เกี่ยวกับราคาของยา
จางเสวียนหลงใช้มือตบลงไปบนโต๊ะ และพูดว่า: “พวกเราที่อยู่ที่นี่ ใครบ้างล่ะที่ไม่ใช่ผู้ที่มีสถานะระดับกี่พันล้าน? อย่างเช่นตัวฉัน มีทรัพย์สมบัตินับหมื่นล้าน ถ้าหากมีคนบอกฉันว่า ยาชนิดนี้สามารถรักษาบาดแผลโรคเรื้อรังภายในร่างกายของฉันได้ และยังสามารถทำให้ร่างกายของฉันฟื้นฟูกลับคืนสู่สภาพเดิม สองร้อยล้าน ห้าร้อยล้านฉันก็เต็มใจจ่าย! ”
เมื่อกี่คนนั้นได้ยินคำพูดนี้ ต่างก็แอบพยักหน้า รู้สึกเห็นด้วยอย่างมาก
ต่างพูดกันว่าเงินทองไม่สามารถซื้อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ อีกทั้งโรคในร่างกายของพวกเขาก็เป็นโรคเรื้อรังรักษาไม่หาย ต่อให้เป็นหมอดังมีชื่อเสียงก็ยากที่จะกำจัดออกไปได้ ซึ่งการใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ปัญหาของโรคเรื้อรังนี้ หากว่าสามารถใช้เงินกี่ร้อยล้านเพื่อซื้อยาเทวดาหนึ่งเม็ดมารักษาโรคให้หายขาดได้ แต่ละคนก็คงต้องการกันทั้งนั้น
แต่เมื่อคิดกันไปแบบนี้แล้ว ทุกคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงขึ้นในทันที
