ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 35 สัมภาษณ์งาน

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

บ่ายวันอังคาร

หวงซื่อปั๋วมาถึงทางเข้าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวและกำลังตะลึงงัน

บริษัทเกมเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีอยู่บนตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวจริงๆ!

เขารู้ว่าตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวเป็นตึกสำนักงานหรูและบริษัทที่มาตั้งสำนักงานที่นี่ได้จะต้องมีเงิน

ยังไม่ทันที่จะรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าตึก เขาก็เห็นหนุ่มสาวมากความสามารถหลายคน

แต่ละคนสูงชะลูด สวมสูทดูดี ผู้ชายก็หล่อเหลา ผู้หญิงก็สวยสง่า

คนเหล่านี้คือพนักงานที่ทำงานในบริษัทจัดการลงทุนที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว

ดูจากระยะไกล ก็บอกได้ว่าคนพวกนี้จะต้องประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน

ความมั่นใจของหวงซื่อปั๋วเริ่มหดหายไปเล็กน้อยทันที

เขาอึ้งไปหมด!

ช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา เขาไปเจอประกาศรับสมัครงานของบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีบนอินเทอร์เน็ตโดยบังเอิญ

เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณสมบัติตรงตามที่ระบุจึงส่งประวัติส่วนตัวไป

ไม่นานก็ได้รับการตอบกลับจากเลขาสาวเสียงหวานบอกให้มาสัมภาษณ์งานวันอังคารตอนสิบโมงเช้าที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิวชั้นสิบเจ็ด

นอกจากนี้เลขาสาวยังส่งอีเมลอธิบายรายละเอียดที่อยู่มาให้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

หวงซื่อปั๋วตกตะลึงไปเมื่อได้ยินว่าให้ไปที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว นั่นมันตึกที่หรูที่สุดไม่ใช่หรือ

แต่ไม่ว่าจะค้นหาในอินเทอร์เน็ตอย่างไรก็หาเว็บไซต์ทางการของบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีไม่เจอ

พอได้ค้นชื่อบริษัทดูก็ได้รู้ว่าเป็นบริษัทที่สร้างเกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายและเกมแม่ทัพผี!

หวงซื่อปั๋วรู้สึกละอายใจเล็กน้อยที่ตนได้เล่นทั้งสองเกมแต่ไม่เคยรู้เลยว่าบริษัทที่สร้างเกมนี้ตั้งอยู่ที่เมืองจิงโจว…

เขาไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับบริษัท แต่ก็คิดว่าเป็นข้อเสนอที่ดีเพราะบริษัทมีเกมที่ประสบความสำเร็จถึงสองเกมและตั้งอยู่ที่ตึกเฉินฮว่าแกรนด์วิว

และต่อให้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แต่เขาก็มั่นใจว่าถ้าบริษัทนี้ไม่แย่มากจริงๆ อย่างไรเสียก็ต้องดีกว่าบริษัทปัจจุบันของเขาแน่นอน

แต่เขาก็กังวลว่าบริษัทจะรับตนเองเข้าทำงานหรือเปล่า

หวงซื่อปั๋วเพิ่งจะเปลี่ยนสายการทำงานกลางทางและเพิ่งเข้าอุตสาหกรรมนี้มาได้ประมาณหกเดือน ตอนนี้ทำงานอยู่ตำแหน่งระดับล่างสุด ซึ่งก็คือนักวางแผนจัดการ ได้เงินเดือนหนึ่งพันห้าร้อยหยวน

เพราะต้องทำงานล่วงเวลาทุกวัน หัวเขาจึงเริ่มล้านก่อนวัยอันควร

ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจลองสมัครบริษัทนี้ดูหลังจากเห็นประกาศรับสมัครงาน

ถึงจะได้เงินเดือนเท่าเดิม แต่ถ้าได้ทำงานล่วงเวลาน้อยลง หวงซื่อปั๋วก็พอใจแล้ว

แต่เขาก็รู้ว่าประวัติส่วนตัวของตนเองไม่ได้โดดเด่นอะไร เป็นไปได้สูงว่าจะโดนมองข้าม

แม้จะเป็นในวงการเกมเล็กๆ ของเมืองจิงโจว เขาก็ถือว่าเป็นบุคลากรระดับล่าง นักศึกษาจบใหม่ยังมีโอกาสได้งานมากกว่าด้วยซ้ำ

พอได้เห็นเหล่ามืออาชีพด้านการลงทุนสวมสูทเดินผ่านไปเมื่อครู่ เขาก็รู้สึกต้อยต่ำลงไปอีกเพราะตัวเองใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นมา

เขาเช็กเวลาและพบว่ามาเร็วกว่าที่นัดหมายเล็กน้อย

หวงซื่อปั๋วรีบออกจากบ้านแต่เช้าและขึ้นรถโดยสารสาธารณะเพราะกลัวว่าจะมาสาย แต่เพราะรถไม่ติดจึงมาถึงก่อนเวลา

หลังจากตัดสินใจว่าไม่ควรรอด้านนอก หวงซื่อปั๋วก็รวบรวมความกล้าและเดินเข้าล็อบบี้สุดหรูไป

พออธิบายตรงโต๊ะต้อนรับว่ามาที่นี่ทำไม พนักงานก็ขอชื่อและทำคีย์การ์ดชั่วคราวให้

หวงซื่อปั๋วใจเต้นแรงระหว่างที่รอลิฟต์

เขากังวลหนักกว่าตอนสอบสมัยมัธยมปลายอีก

อาจเป็นเพราะเพดานของที่นี่สูงมากอีกทั้งการตกแต่งก็หรูหรา หวงซื่อปั๋วเลยรู้สึกแปลกแยกและต่ำต้อย ความกล้าที่รวบรวมมาหล่นหายไปหมด

ติ๊ง

ประตูลิฟต์เปิด

ระหว่างเตรียมเข้าไปข้างใน หวงซื่อปั๋วก็ต้องตกตะลึงเมื่อสังเกตเห็นคนคุ้นหน้า

คนคนนั้นคือหัวหน้าของเขาในบริษัทที่ทำอยู่ หัวหน้าฝ่ายวางแผนหลิว!

ช่วงบ่ายเมื่อวาน หวงซื่อปั๋วเพิ่งโทรหาหัวหน้าหลิวเพื่อขอลากิจและได้รับอนุญาต

แต่ทั้งสองกลับบังเอิญมาเจอกันที่นี่

ช่างเป็นสถานการณ์สุดกระอักกระอ่วน

ทั้งสองคนพูดอะไรไม่ออก

แต่ในเมื่อบังเอิญเห็นกันแล้ว จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นอีกฝ่ายก็คงจะดูไม่เหมาะ

อีกอย่างทั้งสองคนรู้ดีว่าอีกฝ่ายมาทำอะไรที่นี่

ทั้งคู่มาเพื่อสัมภาษณ์งานเข้าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี!

ดูจากท่าทีของหัวหน้าหลิว หวงซื่อปั๋วก็มั่นใจว่าอีกฝ่ายเพิ่งสัมภาษณ์เสร็จ

ทั้งคู่กำลังจะผ่านขั้นตอนเดียวกัน

หวงซื่อปั๋วไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเริ่มทักก่อน “พี่หลิว”

หัวหน้าหลิวหน้าตาไม่สู้ดี เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดี

เขาชอบบรรยากาศการทำงานของบริษัทเถิงต๋ามาก แต่ไอ้เด็กหนุ่มที่สัมภาษณ์เขาดันบอกว่าให้กลับไปก่อนและรอการติดต่อกลับ!

นอกจากนี้ ระหว่างการสนทนา เด็กหนุ่มที่ทำหน้าที่สัมภาษณ์ยังดูไม่ได้สนใจอะไร เหมือนว่ากำลังเหม่อลอยอยู่

มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะไม่ผ่านการสัมภาษณ์

เพราะเหตุนี้ หัวหน้าหลิวจึงรู้สึกไม่พอใจ

คนที่มีความสามารถและประสบการณ์แบบฉันหายากมากนะในวงการเกมของเมืองจิงโจว แต่ไอ้เด็กที่สัมภาษณ์กลับดูถูกฉันอย่างนั้นหรือ

เจ้านั่นต้องเป็นพวกทายาทตระกูลร่ำรวยที่หาเรื่องสนุกทำไปวันๆ! บริษัทแบบนี้อยู่ไม่นานเดี๋ยวก็เจ๊ง!

แน่นอนว่าในใจก็ยังแอบมีความรู้สึกขมขื่นอยู่

พอบังเอิญเจอหวงซื่อปั๋ว หัวหน้าหลิวก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดขึ้นอีก

ตลอดหกเดือนตั้งแต่ที่หวงซื่อปั๋วเข้าวงการเกมมา เขาเป็นลูกน้องของหัวหน้าหลิวมาตลอด

และเขาก็ทำอะไรไม่ได้ดีเลยสักอย่าง

ทำให้หัวหน้าหลิวหงุดหงิดใจอยู่ตลอดเวลาและไม่ยอมให้หวงซื่อปั๋วกลับบ้านจนกว่าจะทำงานเสร็จ วันไหนอารมณ์ไม่ดี หัวหน้าหลิวก็เพิ่มงานให้หวงซื่อปั๋วอีก

แต่ไอ้ห่วยนี่กลับคิดจะหนีอย่างนั้นหรือ!

แถมยังเป็นที่เดียวกับเขาอีกด้วย!

เจ้านี่มันรู้สถานะตัวเองบ้างหรือเปล่า!

หัวหน้าหลิวอดขุ่นเคืองใจไม่ได้ “ที่นี่มีคนอยากเข้าเยอะมาก ไม่ใช่ที่ของแกหรอก”

“ถ้ามีเวลาว่างขนาดมาสัมภาษณ์งานใหม่ก็แสดงว่างานแกมันน้อยไปสินะ กลับไปแล้วไปรวบรวมข้อมูลให้ใหม่ด้วย”

หัวหน้าหลิวเบ้ปากแล้วเดินจากไป

“…”

หวงซื่อปั๋วรู้สึกเลวร้ายมาก

ที่นี่มีคนอยากเข้าเยอะเสียจนไม่ต้องการนักวางแผนผู้มากประสบการณ์แบบหัวหน้าหลิวเชียวหรือ

ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่มีทางที่หน้าใหม่ในวงการอย่างเขาจะเข้าทำงานที่นี่ได้!

นอกจากนี้หัวหน้าหลิวยังเพิ่มงานให้เขาอีกหลังจากกลับไป

แต่หวงซื่อปั๋วก็ไปฟ้องเรื่องนี้ให้ประธานรู้ไม่ได้

ถ้าเกิดบ่นไปว่า… “บอสครับ หัวหน้าหลิวแอบไปสัมภาษณ์งานบริษัทอื่น!”

แล้วถ้าประธานดันถามกลับมาว่า… “รู้ได้ยังไง”

เขาก็ต้องตอบว่า… “ผมบังเอิญเจอตอนที่ไปสัมภาษณ์ที่เดียวกันครับ”

ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้หรอก

ไม่อย่างนั้นทางเลือกเดียวที่มีคือลาออก

เขาแค่ต้องลาออกแล้วค่อยๆ หางานใหม่ เจียดเงินเก็บมาใช้ทีละนิดเอา

ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นก็คงต้องทำแบบนี้

ความคิดทั้งหมดผุดขึ้นมาในหัวของหวงซื่อปั๋ว

ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด ลิฟต์ก็มาถึงชั้นสิบเจ็ด

ทันทีที่ออกจากลิฟต์ หวงซื่อปั๋วก็เห็นป้ายบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี

พอมองเข้าไปด้านในชายหนุ่มก็อึ้งไป

ที่นี่โคตรหรู!

พนักงานต้อนรับสาวสวยรออยู่หลังโต๊ะต้อนรับตัวใหญ่

แถมทั้งคู่ยังเป็นฝาแฝด!

ถึงเมืองจิงโจวจะไม่ใช่เมืองขนาดใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเมืองเล็กๆ การที่บริษัทสามารถหาคู่แฝดมาทำงานตรงโต๊ะต้อนรับได้นับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

แค่เห็นก็รู้ว่าบริษัทนี้มีอำนาจขนาดไหน!

หวงซื่อปั๋วเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ทั่วไปของคนที่ชอบคิดอะไรเกินกว่าเหตุ

ตอนที่เผยเชียนรับสมัครตำแหน่งนี้ เขาไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากได้คนสวยสักสองคนมาเป็นพนักงานต้อนรับเท่านั้น

แต่ซินไห่ลู่ไปค้นหาคู่แฝดมาให้จากไหนก็ไม่รู้ และบอกว่าจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้บริษัทได้

เผยเชียนแสนดีใจและให้เงินเดือนในอัตราที่สูงที่สุดของตำแหน่งบริหารจัดการในตลาดทันทีด้วยเงินเดือนห้าพันหยวนต่อคน!

ถึงจะดูเหมือนไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่ แต่ในปี 2009 เงินเดือนทั่วไปของพนักงานต้อนรับในเมืองจิงโจวอยู่ที่ราวๆ สองพันหยวน ถึงจะเป็นคนสวยแค่ไหน ได้มากสุดก็แค่สามพันหยวน

การที่เผยเชียนขึ้นให้เป็นห้าพันหยวนถือว่าใจกว้างมาก

แน่นอนว่าเขาให้ได้ถึงหมื่นหยวนต่อเดือนเลยด้วยซ้ำ จะได้ช่วยผลาญเงินได้เร็วขึ้น

แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็จะดูเกินพอดีมากไปหน่อย ถึงจะเป็นคู่แฝดสุดสวย แต่ได้เงินเดือนตั้งหนึ่งหมื่นหยวนในตำแหน่งพนักงานต้อนรับก็คงไม่เข้าที

……………….

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท