ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 50 กว่างโจว!

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

“เสี่ยวลู่ ระบบนี้ยังมีปัญหาบางอย่างอยู่ ไปปรับแก้ด้วยนะ ถ้าสงสัยเรื่องการควบคุมให้ไปถามพี่เปา พี่เขาเก่งเรื่องนี้” หวงซื่อปั๋วแสดงความเห็นต่อแบบร่างอย่างใจเย็น

เสี่ยวลู่เป็นสมาชิกคนหนึ่งของทีมออกแบบ รับผิดชอบออกแบบระบบและโหมดผีในเกม

เขามีประสบการณ์น้อยกว่าหวงซื่อปั๋วอีก เพราะก่อนหน้านี้เป็นแค่เด็กฝึกงานในบริษัทเกม แต่ก็ไม่ได้รับมอบหมายงานสำคัญอะไรสักอย่าง ได้ทำแค่กรอกเอกสารและงานยิบย่อยเป็นบางครั้ง ถึงจะไม่ได้ถือว่าไม่มีประสบการณ์การทำงานเลย แต่ก็บอกได้แค่ว่าพอถูๆ ไถๆ ไปเท่านั้น

บริษัทส่วนใหญ่จะตัดสินคนจากตำแหน่งและประสบการณ์การทำงาน (ความสามารถ) ถึงจะมีระยะการทำงานเท่ากัน แต่จากประสบการณ์ที่ต่างกัน หวงซื่อปั๋วจึงถือเป็นรุ่นพี่ในจุดนี้

“ได้ครับ พี่หวง! เดี๋ยวผมจัดการให้ตอนนี้เลย!”

เสี่ยวลู่เปิดเครื่องมือพัฒนาเกมแล้วปรับระบบตามที่หวงซื่อปั๋วบอก

เกมฐานทัพกลางทะเลได้เข้าสู่ขั้นตอนการสร้างแล้ว มีการใส่เทมเพลตและระบบต่างๆ ที่ซื้อมาก่อนหน้านี้เข้าไปในเครื่องมือพัฒนาเกมเพื่อให้เหล่านักออกแบบเริ่มสร้างเกม

เนื่องจากเครื่องมือพัฒนาเกมไม่ได้ใช้งานยากและทุกคนมีประสบการณ์มาก่อน กระบวนการทำงานจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วกว่าตอนที่คนไร้ประสบการณ์อย่างเผยเชียนรับผิดชอบเพียงคนเดียว

“ตั้งใจทำงาน อย่ามัวคิดถึงแต่ทริปไปกว่างโจว โฟกัสที่งานก่อน” หวงซื่อปั๋วย้ำพอเห็นเสี่ยวลู่เหม่อ

เสี่ยวลู่เขินเล็กน้อย เขาลูบหลังศีรษะตนเอง “โห่ พี่หวง ผมไม่เคยไปกว่างโจวมาก่อนเลยนะ แถมเราจะได้ไปสตูดิโอมีชื่อเสียงอย่างเทียนหัวสตูดิโออีก! ผมก็ต้องตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องห่วงครับ ผมการันตีเลยว่างานได้คุณภาพตามที่บอกแน่นอน”

หวงซื่อปั๋วพยักหน้า จากนั้นก็เดินกลับโต๊ะไปทำงานต่อ

จริงๆ แล้วเขาก็ไม่เคยไปกว่างโจวมาก่อนเหมือนกัน

ไม่ใช่แค่เขา คนส่วนใหญ่ในบริษัทก็ไม่เคยไปมาก่อน

ตั๋วเครื่องบินจากจิงโจวไปกว่างโจวราคาประมาณสองถึงสามพันหยวน สำหรับคนส่วนใหญ่ ก่อนจะเข้าบริษัทเถิงต๋า พวกเขาแทบไม่มีเงินเลย แล้วจะเอาเงินไหนไปซื้อตั๋วเครื่องบินได้…

พอได้ยินเรื่องศึกษาดูงาน หวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่เฮกันยกใหญ่

เปาซวี่เป็นพวกเก็บตัว ไม่ค่อยชอบออกไปไหน เขาอยากเก็บเลเวลอยู่ออฟฟิศตลอดเวลามากกว่า

ส่วนหวงซื่อปั๋ว เขาคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ไม่กระทบตารางงาน

หลังจากคำนวณตารางงานคร่าวๆ หวงซื่อปั๋วก็พบว่าการไปศึกษาดูงานครั้งนี้ไม่ได้กระทบกับกระบวนการทำงานมากเท่าไหร่ เกมฐานทัพกลางทะเลน่าจะเสร็จสมบูรณ์ตามกำหนดการ พอรู้อย่างนั้น เขาก็สงบใจลงได้

สำหรับหวงซื่อปั๋วตอนนี้ สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับเขาก็คือกระบวนการสร้างเกม!

บอสเผยเป็นคนฉลาดที่ให้เขารับผิดชอบงานใหญ่และจ่ายตอบแทนมากโข ขณะเดียวกันเขายังพาทุกคนไปศึกษาดูงานถึงกว่างโจวอีก ไม่มีทางใดเลยที่พวกเขาจะตอบแทนความมีน้ำใจนี้ได้!

ถ้าหวงซื่อปั๋วไม่คุมให้การสร้างเกมเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ เขาจะต้องเศร้าที่ทำให้บอสเผยผิดหวัง!

แต่อย่างไรหวงซื่อปั๋วก็อยากจะไปดูงานที่เทียนหัวสตูดิโอด้วยเหมือนกัน

สตูดิโอที่ว่าเป็นสตูดิโอชื่อดังภายในประเทศ ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการ หวงซื่อปั๋วตั้งสตูดิโอนี้ไว้เป็นเป้าหมายในสายอาชีพ!

หลังจากเริ่มทำงาน หวงซื่อปั๋วก็ได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเทียนหัวสตูดิโอมาบ้าง

มีคนบอกว่าเทียนหัวสตูดิโอเคยให้โบนัสเท่ากับเงินเดือนห้าเดือน

บ้างก็บอกว่าเทียนหัวสตูดิโอให้เงินโบนัสต่อเดือนกับทีมออกแบบสูงกว่าฐานเงินเดือนพวกเขาเสียอีก

บางคนบอกว่าเทียนหัวสตูดิโอให้รถสปอร์ตตอนท้ายปีเป็นโบนัสใหญ่

หวงซื่อปั๋วไม่เคยเช็กข่าวลือนี้ แต่ก็ชัดเจนว่าเทียนหัวสตูดิโอเป็นที่ทำงานในฝันของคนส่วนใหญ่ในวงการเกม

การได้ไปดูงานที่สถานที่แบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อหน้าที่การงานของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน!

หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันศุกร์ที่ 27 เดือนพฤศจิกายน

กลุ่มพนักงานบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยีเดินทางจากสนามบินมาถึงโรงแรม พวกเขาขึ้นห้องไปเก็บกระเป๋า

มณฑลฮั่นตงเข้าหน้าหนาวแล้ว อากาศเย็นจัด แต่ที่กว่างโจวอุณหภูมิกลับสูงกว่า แดดยามบ่ายสาดส่องอาบร่างทุกคนให้ความอบอุ่น

หวงซื่อปั๋วรู้สึกสับสนเล็กน้อย

บรรยากาศตอนนี้เหมือนวันหยุดพักร้อนไม่มีผิด!

สาวๆ ฝ่ายบริหารบางคนกำลังเช็กตารางการเที่ยวบนมือถือ วางแผนว่าวันพรุ่งนี้จะไปเที่ยวที่ไหน ไปเดินห้างไหน

คนจากทีมออกแบบบางส่วนกำลังหาซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้ๆ เพื่อซื้อเบียร์ขึ้นห้องไปนั่งก๊งพลางเล่นเกมการ์ดตอนดึกๆ

มียี่สิบเจ็ดคนที่เข้าร่วมการศึกษาดูงานครั้งนี้ เปาซวี่ไม่ได้มาด้วยเพราะไม่ได้สนใจอะไรและอยากอยู่ออฟฟิศมากกว่า

ส่วนบอสเผย…

เขาไม่ได้มารวมกลุ่มกับเหล่าพนักงานและขึ้นห้องไปก่อนแล้ว เพราะอยากพักให้หายเหนื่อยจากการนั่งเครื่อง

เลขาซินเป็นคนจัดการเรื่องการศึกษาดูงานครั้งนี้ เผยเชียนไม่ได้ยุ่งอะไรด้วยเลย

หวงซื่อปั๋วกับเสี่ยวลู่พักห้องเดียวกัน หลังจากเก็บกระเป๋า หวงซื่อปั๋วก็หยิบโน้ตบุ๊กออกมาตรวจดูแบบร่างไปพร้อมกับปรับแต่งเนื้อเรื่องของเกม

ตอนนี้พวกเขาวางเค้าโครงเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่เปาซวี่รู้สึกว่ายังมีบางจุดในเรื่องการควบคุมและรายละเอียดทั่วไปที่สามารถปรับปรุงเพิ่มได้

หวงซื่อปั๋วเป็นกังวลเหมือนกัน เพราะเขาอยากตั้งใจทำงานให้เกมออกมาสมบูรณ์แบบ

ตัวเกมจะออกมายอดเยี่ยมได้จริงๆ ก็ต่อเมื่อผู้เล่นมืออาชีพอย่างเปาซวี่ไม่พบปัญหาใดๆ!

“พี่หวง ผมออกไปหาคนอื่นๆ ก่อนนะ ถ้าพี่เหนื่อยก็พักก่อนได้” เสี่ยวลู่บอกหวงซื่อปั๋วก่อนออกไปสนุกสนานกับคนอื่นๆ

ในห้องของเผยเชียน…

“พี่เชียน ผมเบื่อที่ต้องทำตัวแบบนี้…เราต้องทำเป็นห่างเหินกันเพราะเรื่องงาน…” หม่าหยางว่าอย่างเหนื่อยอ่อน

ตอนนี้คนเดียวในบริษัทที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเผยเชียนกับหม่าหยางมีแค่เลขาซิน

ด้วยเหตุนี้ หม่าหยางจึงต้องทำตัวเหมือนเป็นคนอื่นคนไกลกับเผยเชียนเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ การต้องเรียกเผยเชียนว่าบอสเผยตลอดเวลาทำให้เขารู้สึกเหนื่อย

พวกเขาเป็นพี่น้องนอนร่วมเตียงสองชั้น แต่ตอนนี้ต้องมาเว้นระยะห่างจากกัน…

“แกต้องเสียสละเพื่อบริษัท” เผยเชียนตบบ่าหม่าหยาง “ตอนนี้แกเป็นหูเป็นตาให้ฉันในบริษัท! แกต้องบอกฉันทันทีที่เจอปัญหาอะไร!”

ถ้าเผยเชียนเปิดเผยความสัมพันธ์ คนอื่นๆ อาจจะระแวงหม่าหยางเอาได้

ถึงตอนนั้นคงจะยากสำหรับเขาที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในบริษัท

เผยเชียนจะต้องมั่นใจว่าคุมสถานการณ์ทั้งหมดอยู่ ไม่อย่างนั้นจะซวยเอาถ้าพวกเขาผลาญเงินไม่ได้ขึ้นมา!

ใบหน้าใหญ่ของหม่าหยางดูใหญ่ขึ้นไปอีก “พี่พูดเหมือนผมเป็นสายสืบ แต่ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอก ทุกคนกำลังตั้งใจทำงานตามแบบร่างกัน”

เผยเชียนพยักหน้า ดีมาก!

ก่อนหน้านี้เขาดูแบบร่างไปคร่าวๆ แล้ว ถึงจะไม่เข้าใจทั้งหมดดี แต่ก็รู้ว่ามีตามที่เขากำหนดครบสามข้อ

ขอแค่ไม่มีการปรับแต่งครั้งใหญ่กับแบบร่าง ก็มีโอกาสสูงที่เกมจะเจ๊ง เขาจึงไม่ได้กังวลอะไรมาก

“ใช่ แล้วก็ เหมือนทุกคนจะตื่นเต้นกันใหญ่ที่ได้ไปเทียนหัวสตูดิโอ พวกเขาเจ๋งขนาดนั้นเลยเหรอ” หม่าหยางถาม

“ฉันจะไปรู้ได้ไง” เผยเชียนไม่ได้รู้เรื่องวงการนี้มากมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แล้วก็ไม่รู้ว่าสตูดิโอที่ว่าเป็นอย่างไร

เขาแค่อยากมาที่กว่างโจวเพื่อผลาญเงิน ส่วนเทียนหัวสตูดิโอแค่บังเอิญเป็นหนึ่งในสตูดิโอที่เลขาซินติดต่อไป

พนักงานคนอื่นๆ คิดว่าเผยเชียนตั้งใจวางแผนออกมาแบบนี้ ซึ่งห่างไกลจากความจริงไปมาก เขาแทบไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าคนก่อตั้งเทียนหัวสตูดิโอคือใคร…

“ที่แรกที่เราจะไปวันพรุ่งนี้คือเทียนหัวสตูดิโอ อย่าลืมถามคำถามเยอะๆ จะได้ไม่ดูแปลก เราต้องทำตัวให้เป็นมิตรเพราะเขาใจดีต้อนรับเรา” เผยเชียนย้ำ

ในฐานะประธานบริษัท เผยเชียนไม่จำเป็นต้องถามคำถามหรือทำตัวเป็นกันเอง เพราะจะเป็นการลดภาพลักษณ์ตัวเองลง

ดังนั้นหม่าหยางจึงต้องเป็นคนทำหน้าที่นี้

หม่าหยางพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง พี่เชียน! ปล่อยเป็นหน้าที่ผมเอง!”

………………

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท