หม่าหยางเกาหัว “ระบบระบายอากาศเหรอ คืออะไรอ่ะพี่”
“ไปเสิร์ชในเชียนตู้” เผยเชียนไม่มีเวลามาอธิบายเรื่องแบบนี้ เขาเปิดคอมพิวเตอร์แล้วกดดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเล
ระบบระบายอากาศเกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ประมาณปี 2000 ยุโรปก็ตั้งข้อมูลจำเพาะของระบบขึ้นมาแล้ว ระบบที่ว่าค่อยๆ เริ่มใช้งานในครัวเรือนและในบริษัทต่างๆ ก่อนจะขยายไปใช้งานในวงกว้าง
ในประเทศจีน ระบบระบายอากาศและเครื่องฟอกอากาศเริ่มมีกระแสขึ้นมาหลังวิกฤติปัญหาหมอกควัน ผู้คนเริ่มรู้จักทั้งสองสิ่งนี้มากขึ้นในปี 2014
ระบบระบายอากาศในช่วงปีนี้ผลิตโดยบริษัทต่างประเทศ ราคาจึงแพงหูฉี่
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแย่อะไร กลับเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ!
พอดาวน์โหลดเกมฐานทัพกลางทะเลเสร็จ เผยเชียนก็ลองเล่นดู
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้สเป็กสูงมาก เล่นเกมได้ลื่นไหลดีเยี่ยม!
เขาปรับการตั้งค่าทุกอย่างไปที่ระดับสูงสุดหลังจากเข้าเกม เพื่อจะได้รับประสบการณ์การเล่นเกมอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย!
คอมพิวเตอร์เครื่องนี้มีข้อดีมากมาย ไม่มีข้อเสียเลย
ถ้าเล่นเกมแพ้ขึ้นมา จะโทษว่าคอมพิวเตอร์ไม่ดีก็ไม่ได้!
พวกข้อแก้ตัวอย่างเมาส์กระตุก แป้นพิมพ์ไม่ตอบสนอง คอมพิวเตอร์ค้าง จอกะพริบ หรือหูฟังไม่ทำงาน…
เอามาใช้ไม่ได้เลยสักอย่าง
ถ้าเล่นเกมห่วยเองคงโทษคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่ได้ ต้องโทษฝีมือการเล่นอันกากแสนกากของตัวเอง!
สำหรับบางคนแล้ว นี่อาจเป็นข้อเสียก็ได้
เผยเชียนเล่นโหมด PvP และแพ้ราบคาบไปสองเกม
จากนั้นก็หนีไปเล่นโหมดไบโอเคมิเคิลอีกสองเกม ซึ่งก็แพ้ราบคาบเช่นเคย
เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเล่นโหมดเนื้อเรื่อง
“คนหัวดีอย่างฉันเล่นเกมที่ต้องพึ่งความเร็วของการตอบสนองอย่างเดียวไม่ได้หรอก โหมดเนื้อเรื่องสิสนุกสุด”
เผยเชียนเล่นโหมดเนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ ในใจรู้สึกท่วมท้น
ฉันสร้างเกมนี้ขึ้นมาจริงๆ เหรอ
สงสัยจริงว่าหวงซื่อปั๋วกับเปาซวี่ผ่านอะไรกันมาบ้าง
เผยเชียนเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ จนจางหยวนเดินถือค็อกเทลมาเสิร์ฟ
ขนาดแก้วไม่ได้ใหญ่ แต่ของเหลวข้างในส่องแสงเป็นประกาย ด้านล่างสุดสีแดงเข้ม ส่วนด้านบนเป็นสีแดงลูกแอปเปิ้ล ทั้งสองสีโปร่งใส ตรงกลางที่สองสีมาบรรจบเกิดการผสมกันของสี เห็นแล้วดูเท่ไม่หยอก
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือช่างน่าพิศวงจริง!
หลังจากลองจิบดูก็พบว่ารสชาติก็พิเศษไม่แพ้กัน เป็นรสชาติที่ยากจะอธิบายแต่ก็ยากที่จะลืมได้
“แก้วนี้ชื่ออะไร” เผยเชียนถาม
จางหยวนตอบอย่างตรงไปตรงมา “บอสเผยครับ นี่คือค็อกเทลแสงเหนือ ปกติจะเรืองแสงในที่มืด แต่สูตรนี้ปรับเล็กน้อยทำให้สีสันเป็นธรรมชาติมากขึ้น”
“ไม่เลวเลยนี่ ราคาเท่าไหร่เหรอ” เผยเชียนถาม
จางหยวนตอบ “แก้วละห้าสิบหยวนครับ”
เขากลัวว่าเผยเชียนจะคิดว่าราคาแพงไปเลยรีบอธิบายเพิ่ม “แก้วนี้ใส่กราปป้าเข้าไปด้วยครับ ขวดขนาดเจ็ดร้อยมิลลิลิตรก็สี่ร้อยหยวนแล้ว แก้วนี้ใส่ไปตั้งสามสิบมิลลิลิตร”
“มีแบบที่ถูกกว่านี้ด้วยครับ แต่จะไม่ผสมกราปป้า”
“อ๋อ” เผยเชียนพยักหน้าตอบ “แล้วแก้วถูกสุดในเมนูราคาเท่าไหร่”
จางหยวนนึกอยู่ครู่หนึ่ง “ถูกที่สุด…ยี่สิบห้าหยวนครับ เครื่องดื่มส่วนใหญ่ในบาร์ขายราคาประมาณนี้”
ไม่ได้ถือว่าถูกเลยในปี 2010
ราคาค็อกเทลหนึ่งแก้วก็เท่ากับค่าอาหารสองมื้อของนักศึกษาส่วนใหญ่แล้ว
อีกอย่างกลุ่มลูกค้าที่จะมาใช้งานร้านอินเทอร์เน็ตก็เป็นคนละกลุ่มกับที่จะมาเที่ยวบาร์
“บอสเผยคิดว่าไงครับ ราคาโอเคหรือเปล่า ถ้าคิดว่าแพงไป เราลดราคาลงได้นะครับ”
ลดเหรอ
หรือจะเพิ่ม
ถ้าลดราคาลงก็จะได้เงินจากการขายเครื่องดื่มต่อแก้วน้อยลง แต่ถ้าคนไปบอกต่อกันว่าเครื่องดื่มร้านนี้ราคาถูกแล้วคนแห่มากินจะทำอย่างไร
ไม่ใช่จะกลายเป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้น้อยแต่คืนทุนได้ไวเหรอ
เขาลดราคาลงไม่ได้!
ถึงตอนนี้ราคาเครื่องดื่มที่ตั้งไว้จะไม่ได้ถูก แต่หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็คิดว่ายังเพิ่มราคาขึ้นไปอีกได้!
เผยเชียนตัดสินใจ “เพิ่มราคาแก้วละสิบหยวน ลูกค้าของเราเป็นลูกค้าระดับสูง ถ้าตั้งราคาไว้ต่ำเกินไปจะเหมือนไปดูถูกพวกเขา!”
“หา” จางหยวนอึ้งไป
“เอาตามนี้ เราจะเพิ่มราคาเครื่องดื่มทุกอย่างไปอีกสิบหยวน” เผยเชียนจิบค็อกเทลอย่างสุขใจพลางกลับไปสนใจเกมต่อ
เป็นเรื่องปกติที่จางหยวนจะไม่ถามอะไรเพิ่มแล้วหันกลับไปทำงานต่อ
เผยเชียนเล่นเกมต่อด้วยความพึงพอใจ
ไม่ใช่บรรยากาศที่ทำให้เขารู้สึกพอใจ แต่เป็นเพราะราคาต่างหาก!
ตามที่คำนวณดู เล่นเกมที่นี่สองชั่วโมงกับสั่งค็อกเทลหนึ่งแก้วจะเสียเงินรวมทั้งหมดแปดสิบหยวน
ราคานี้ไปเล่นร้านอินเทอร์เน็ตทั่วไปได้ทั้งสัปดาห์!
ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องหนีไปร้านอื่นที่ถูกกว่าทันที
เผยเชียนรู้ว่าร้านอินเทอร์เน็ตระดับสูงแบบนี้จะเป็นที่นิยมในอีกหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า
แต่นั่นก็ไม่สำคัญ ขอแค่ตอนนี้ยังไม่เป็นที่นิยมก็พอ
อีกอย่างหกถึงเจ็ดปีข้างหน้า ราคาค็อกเทลก็ไม่น่าจะอยู่ที่แก้วละหกสิบหยวน!
ต้องขาดทุนแน่! ต้องขาดทุนไปอีกสี่ถึงห้าปี
ยอดเยี่ยมจริงๆ!
เผยเชียนลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะกลับออกไป
ตอนนั้นเองหม่าหยางก็เดินเข้ามาถาม “พี่เชียน เราวางแผนไว้ว่าจะเปิดร้านวันมะรืน พี่ว่าเราควรจัดงานฉลองเปิดร้านหรือทำแคมเปญพิเศษมั้ย ผมคิดไว้ว่าสามวันแรกจะลดราคาชั่วโมงเล่นเกมกับเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่ง พี่ว่าให้ส่วนลดประมาณนี้พอมั้ย”
ลดราคาชั่วโมงเล่นเกมลงครึ่งหนึ่งเหรอ
ลดราคาเครื่องดื่มลงครึ่งหนึ่งด้วย
โนๆๆๆ ไม่ได้เด็ดขาด!
ขืนทำแบบนั้น ไม่นานร้านได้ดังเป็นพลุแตกแน่ เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้ยังไง
เผยเชียนส่ายหน้ารัว “ไม่ได้ ไร้รสนิยม! ร้านเราเป็นร้านระดับสูง เข้าใจรึเปล่า
“เราจะเปิดให้บริการตามปกติ ไม่ใช้วิธีดึงดูดลูกค้าแบบนั้น เหล้าดีไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่ม ร้านเราบรรยากาศขั้นเทพแบบนี้ยังจะกลัวลูกค้าไม่เข้ากันอีกเหรอ
“ทำไมต้องลดราคากับทำอะไรใหญ่โตด้วย อย่าทำให้ร้านเราเป็นเหมือนตลาดสดสิ!”
“โอเคครับ ไม่ทำก็ได้…” หม่าหยางไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลเท่าไหร่ แต่ก็รู้ดีว่าถ้าทำตามที่เผยเชียนพูดก็ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน
เผยเชียนเดินออกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูด้วยความพึงพอใจ เขาพร้อมสำหรับวันเปิดให้บริการของร้านนี้แล้ว
ถ้าได้เห็นว่าไม่มีลูกค้าเลยตอนเปิดให้บริการ เขาก็จะได้โล่งใจจริงๆ เสียที!
…
…
วันที่ 9 มีนาคม…
วันเปิดให้บริการของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู!
ไม่มีแคมเปญเปิดตัว ไม่มีดอกไม้ ไม่มีประทัด ไม่มีป้าย ไม่มีอะไรทั้งนั้น!
ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ
หน้าร้านไม่มีตัวอักษรจีนอะไร มีแค่โลโก้ขนาดใหญ่ ร้านดูดีมีระดับจริงๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยประกาศให้คนอื่นรู้ว่าด้านในมีอินเทอร์เน็ตให้บริการ
โชคยังดีที่ร้านเป็นตึกผนังกระจกสองชั้น ทำให้ช่วงกลางวันสามารถมองทะลุเข้าไปเห็นโซนคาเฟ่และโซนสำหรับเล่นเกม
ถึงกระนั้นทุกอย่างก็เงียบเชียบเกินไป
จางหยวนรอแสดงฝีมือชงเหล้าอันน่าตื่นตาตื่นใจให้ลูกค้าดูอยู่ที่บาร์
รอไปได้ครึ่งวันก็เห็นแค่คนเดินผ่านหน้าร้าน อย่างมากก็มีแค่คนมองเข้ามาอย่างสงสัย แต่ไม่มีใครเดินเข้ามาเลยสักคน
ลมหนาวด้านนอกร้านทำหน้าที่ไล่ลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม
เผยเชียนนั่งจิบกาแฟดูร้านอันว่างเปล่าอยู่ที่โซนคาเฟ่ มุมปากค่อยๆ ผุดยิ้ม แต่เขาก็พยายามอดกลั้นไว้อย่างสุดกำลัง
หม่าหยางไม่ได้ใจเย็นเหมือนปกติ เขาเริ่มกระสับกระส่าย “พี่เชียน อย่างน้อยควรให้พวกเขาออกไปแจกใบปลิวดีไหม…”
‘พวกเขา’ ที่ว่าคือเหล่าผู้จัดการที่จ้างมา
จริงๆ ก็เป็นผู้จัดการแค่ชื่อ แต่หน้าที่ที่ต้องทำกว้างมาก พวกเขาต้องคอยบริการเสิร์ฟน้ำและชาให้ลูกค้า
ก่อนหน้านี้เผยเชียนปฏิเสธแผนโปรโมตวันเปิดร้านของหม่าหยางทิ้งหมด
เขาให้เหตุผลไปว่าต้องรู้จักอดทน!
ร้านเราดูดีอยู่แล้ว ถ้าเราปล่อยแคมเปญเปิดตัวหรือเสนอโปรโมชันเหมือนธุรกิจบังเทิงอื่นๆ ก็ไร้ความหมายสิ!
สุดท้ายวันเปิดร้านก็เงียบเป็นเป่าสาก ไม่มีใครสนใจเลยสักคน
เผยเชียนจิบชาอย่างไม่ใส่ใจ “ทำไมต้องแจกใบปลิวด้วย ไม่เห็นจะมีระดับเลย เราต้องให้ลูกค้าบังเอิญเข้าร้านมาเองจะได้เซอร์ไพร์สกัน!”
“ให้ลูกค้าบังเอิญเข้ามาเองเหรอพี่…”
หม่าหยางรู้สึกว่าวิธีนี้ดูจะแปลกๆ แต่ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องเถียงอย่างไรดี
…………………………….