ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 138 ความปรารถนาอยากผลาญเงินพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

หลังจากเลือกผู้จัดการสาขาได้แล้ว เผยเชียนก็หันไปหาหม่าหยาง

“ไอ้หม่า จางหยวน พอเปิดร้านสาขาเพิ่ม สาขานี้จะกลายเป็นสาขาใหญ่ พวกคุณไม่ต้องสนใจร้านนี้มาก

“จางหยวน เดี๋ยวคุณจะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการเขตดูแลร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูทุกสาขาในเมืองจิงโจว

“หม่าหยาง คุณจะได้เป็นผู้จัดการกลางของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู หน้าที่เหมือนเดิม คอยรายงานเรื่องต่างๆ กับผมโดยตรง

“ในหมู่ผู้จัดการสาขาที่ผมเพิ่งเลือกไป ให้พวกคุณเลือกคนที่ชอบที่สุดมาคนหนึ่ง เขาจะมาเป็นผู้จัดการสาขานี้ ร้านนี้เป็นสาขาแรก มีความหมายมาก ตั้งแต่นี้ต่อไปร้านนี้จะเป็นสาขาใหญ่

“ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รับเลือกเป็นผู้จัดการสาขาก็ไม่ต้องเสียใจไป ในอนาคตถ้ามีสาขาเปิดเพิ่ม เราจะเลือกผู้จัดการสาขาจากพนักงานเก่าที่ทำงานมานาน

“ตำแหน่งที่ว่างจากคนที่เลื่อนขั้นไปก็จ้างคนมาเติมให้เร็วที่สุด

“หม่าหยาง จางหยวน หลังหยุดยาว ผมให้เวลาคุณหนึ่งสัปดาห์ไปหาทำเลที่เหมาะที่สุดมาสิบที่ เดี๋ยวเราจะเปิดสาขาใหม่สี่สาขาจากที่ที่เลือกมา

“เรื่องทำเล การปรับปรุงร้าน การตกแต่งภายใน… เอาให้เหมือนที่ทำที่ร้านนี้ทุกอย่าง เข้าใจไหม”

หม่าหยางตบอก “วางใจได้เลยครับพี่เชียน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมเอง”

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

บอสเผยไม่เคยสัญญาลมๆ แล้งๆ ทุกอย่างที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหมด แถมเร็วมากด้วย!

บอสบางคนชอบสัญญาลอยๆ ทุกอย่างที่พูดจะเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด แต่บอสเผยไม่เหมือนกัน ไม่กี่วันก่อน

บอสบอกว่าจะเปิดสาขาเพิ่ม แป๊บเดียวก็ประชุมแผนเลย!

พวกเขาเพิ่งจะทุ่มเงินลงทุนกับร้านนี้สามล้านหยวนไปได้ไม่นาน เปิดสาขาเพิ่มอีกสี่สาขาต้องใช้เงินอย่างต่ำสิบล้านหยวน แต่บอสเผยกลับไม่นึกลังเลใจอะไรเลย บอสเกิดมาเพื่อทำการใหญ่จริงๆ!

พนักงานหลายคนรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำงานให้บอสแบบนี้

พอสั่งการทุกอย่างเสร็จ เผยเชียนก็สรุปรายละเอียดเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนจะกลับออกไปอย่างคลายกังวล

วันแรงงานแห่งชาติ…

บริษัทปิดทำการ เรื่องเรียนก็ไม่ได้มีงานอะไร เผยเชียนจึงตัดสินใจกลับบ้าน

แต่ก่อนจะกลับ เขาเดินถือบัตรเดบิตที่มีความมั่งคั่งส่วนบุคคลอยู่แปดหมื่นกว่าหยวนไปยังร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใกล้ๆ

เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว ร้านจึงคับคั่งไปด้วยคน จนต้องเดินเบียดไหล่กันไปมา

ช่วงปีนี้ การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าจากช่องทางออนไลน์ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะคลังสินค้าและระบบขนส่งยังจัดการกันได้ไม่ค่อยดี แถมบริการหลังการขายยังแย่มากๆ ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกมาซื้อของแพงๆ อย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร้านค้า

สองสามปีให้หลัง พออีคอมเมิร์ซเริ่มเฟื่องฟู พวกร้านค้าแบบนี้ก็ทยอยล้มหายตายจาก

เผยเชียนเดินไปรอบๆ อย่างไร้จุดหมาย

“ซื้อของนี่น่าเบื่อจริงๆ

“ถ้าเลขาซินมาด้วยก็คงดี…”

เผยเชียนคิดถึงเลขาซิน ถ้ามีเธออยู่ด้วย เธอคงจะไล่รายชื่อสิ่งของที่เขาต้องการให้ ที่ต้องทำก็แค่รูดบัตร

แต่วันนี้เป็นวันหยุด เลขาซินไม่ได้เข้างาน อีกอย่างถ้าว่ากันตามตรง การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านของเขาก็ไม่ใช้งานของเลขาซิน คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปขอให้เธอมาช่วยเรื่องนี้ได้ ไม่อย่างนั้นระบบอาจจะเตือนเอา

เผยเชียนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมาลำบากเดินซื้อของเอง

ทีวี

เครื่องซักผ้า

ตู้เย็น

แอร์

เผยเชียนแน่ใจมากว่าต้องเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าหมดบ้าน แต่ให้เลือกเอาเองก็เป็นเรื่องยาก

เพราะทุกอย่างดูแย่ไปหมด…

แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้แตกต่างจากที่เผยเชียนจำได้ แต่เขาก็พอจะจำได้คร่าวๆ ว่าแบรนด์ไหนดี แบรนด์ไหนไม่ดี

ที่ทำให้เผยเชียนปวดหัวคือ ถึงโทรศัพท์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์บนโลกนี้จะพัฒนาไปเร็วมาก แต่พวกเครื่องใช้ไฟฟ้ากลับไม่ได้ต่างไปจากที่เขาจำได้

เผยเชียนยืนดูเครื่องใช้ไฟฟ้าปี 2010 จากมุมมองของคนที่มาจากปี 2019 เขาย่อมรู้สึกว่าไม่มีเครื่องไหนเหมาะเลยสักเครื่อง เอาเข้าจริงหลายๆ แบรนด์ดังที่วางขายตอนนี้จะหายไปจากตลาดในอนาคต เผยเชียนรู้อยู่แล้วว่าแบรนด์ไหนจะเจ๊ง แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าของรุ่นที่ว่ากลับมีป้ายแปะแนะนำว่าเป็นของใหม่ล่าสุด

ตัวอย่างเช่นทีวี

ในยุคนี้ ทีวีจอสี่สิบนิ้วแบรนด์ต่างประเทศที่คุณภาพดีกว่าหน่อยมีราคาอยู่ที่ประมาณห้าถึงหกพันหยวน เผยเชียน

มองว่ามันคือการปล้นกันกลางวันแสกๆ

เพราะเขาเคยชินกับการเห็นทีวีจอสี่สิบนิ้วธรรมดาๆ วางขายที่ราคาพันกว่าหยวน เขาจึงไม่อยากซื้อในราคาที่แพงหูฉี่แบบนี้

เขาจะคิดแบบนั้นก็ไม่แปลก ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ซื้อก่อนได้ใช้ก่อน แต่ซื้อทีหลังได้ของถูกกว่า อีกทั้งยังมีคำพูดที่ว่า คนที่รอจะไม่มีทางตกเป็นทาสการตลาด

ของแบบนี้ออกรุ่นใหม่เร็วจะตาย ยิ่งมองในมุมมองของคนจากเกือบสิบปีข้างหน้า ของพวกนี้เดี๋ยวเดียวก็ถูกแทนที่ แต่ถ้าซื้อเร็วก็ได้ใช้เร็ว

เผยเชียนคิดว่าถ้าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ให้พ่อแม่ อย่างน้อยเครื่องซักผ้าก็ไม่สั่นตอนปั่นผ้าเหมือนมีแผ่นดินไหวอีก ซื้อของมาใส่ตู้เย็นได้เพิ่มขึ้น แถมจอทีวีใหญ่ขึ้นก็ช่วยให้ดูได้สบายตา ทุกอย่างที่ว่ามาคือสิ่งที่ต้องพบเจอในชีวิตประจำวัน ยิ่งเปลี่ยนเครื่องใช้ไฟฟ้าเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น

ชายหนุ่มเดินรอบร้านสองรอบก่อนตัดสินใจอย่างรวดเร็วว่าจะซื้ออะไรบ้าง เขาเดินไปรูดบัตรจ่ายเงินทันที

ทีวีสี่สิบสองนิ้วราคาหกพันกว่าหยวน

ตู้เย็นสองประตูที่ถือว่าใหม่มากในยุคนี้ ราคาหมื่นกว่าหยวน

แอร์ราคาสองพันกว่าหยวน หน้าร้อนในเมืองจิงโจวนั้นร้อนมาก ถือเป็นโอกาสเหมาะในการซื้อแอร์ เพราะอีกไม่กี่วันก็ได้ใช้แล้ว

เครื่องซักผ้าฝาหน้าราคาสามพันกว่าหยวน

นอกจากนี้ยังมีหม้อหุงข้าว เครื่องดูดฝุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ราคารวมประมาณสองพันหยวน

ทุกชิ้นที่เผยเชียนเลือกเป็นของแบรนด์คุณภาพดีจากทั้งในและนอกประเทศ ฟังก์ชันครบครัน ราคาจึงแพงกว่าของทั่วไป

ราคาทั้งหมดรวมกันอยู่ที่เกือบๆ สามหมื่นหยวน

พอซื้อของเสร็จ เผยเชียนก็เดินดูข้าวของต่ออีกสักพักแล้วไปเจอเข้ากับหุ่นยนต์ดูดฝุ่น

หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนั้นมีมาตั้งแต่ปี 2010 แล้ว แต่ยุคนั้นไม่มีใครสนใจเพราะราคาแพงเกิน แถมยังไม่มีแอปพลิเคชันใช้ควบคุม พูดสั้นๆ คือเป็นของไร้ประโยชน์ ใช้งานได้ไม่คุ้มค่าเท่าสมัยหลัง

เผยเชียนมองดูหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแล้วพบว่ารุ่นนี้เป็นของดีเลยทีเดียว ถึงจะกำหนดเส้นทางไม่ได้ แต่ก็มีโหมดทำความสะอาดหลายแบบ ราคาอยู่ที่สามพันกว่าหยวน เขาตัดสินใจซื้อทันที

เขาคุยกับร้านเรื่องเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องเก่ามาแลกเป็นส่วนลด พอจัดการทุกอย่างเสร็จก็ยืนมองรถบรรทุกขนของไปที่บ้าน

ร้านที่เขาไปซื้อของไม่ได้อยู่ห่างจากบ้านมาก เผยเชียนตามรถบรรทุกของร้านไปจนถึงบ้าน

“ขนเข้ามาได้เลยครับ” เผยเชียนบอกพนักงานให้ขนของเข้าบ้าน

แม่ของเขาเดินออกมาจากครัวด้วยความงุนงง “หืม อะไรเนี่ย ลูกซื้อทั้งหมดมาเหรอ”

เผยเชียนพยักหน้า “ใช่ พ่อล่ะ”

“ไปกินเลี้ยงกับลูกค้า กลับดึกๆ โน่น” แม่ของเผยเชียนตกใจพอเห็นคนขนเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นโตเข้าบ้าน “ลูกซื้อมากี่อย่างเนี่ย หมดเงินไปเท่าไหร่!”

“ไม่เยอะ ผมหมดเงินไปแค่สองหมื่นกว่าหยวน พอดีกับค่าจ้างที่ได้มา ผมคุยกับร้านเรื่องเอาเครื่องเก่าไปแลก ที่ร้านมีโปรโมชันเอาของเก่าไปแลกแล้วให้ส่วนลด แม่ไม่ต้องห่วง”

เผยเชียนรู้ว่าต้องรีบจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด อย่าให้แม่ได้มีโอกาสทำอะไร เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ทยอยขนเข้ามาในบ้านพร้อมกับเครื่องเก่าที่ถูกขนออกไป

“โห…”

แม่ของเขายืนมองทีวีเครื่องใหม่ ลองเปิดตู้เย็นสองประตูเครื่องใหม่ แล้วเดินไปสำรวจเครื่องซักผ้าเครื่องใหม่… แม่ของเผยเชียนพูดอะไรไม่ถูก

“แอร์มาวันพรุ่งนี้ เดี๋ยวเอาติดไว้ห้องพ่อแม่แหละ ถ้าวันไหนร้อนก็เปิดแอร์ ปรับอุณภูมิให้เหมาะก็พอแล้ว

“นี่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น เดี๋ยวผมสอนวิธีใช้ให้”

เผยเชียนเริ่มอธิบายวิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้แม่ฟัง จากนั้นก็ถอดผ้าปูที่นอนโยนใส่เครื่องซักผ้า

เครื่องซักผ้าฝาหน้าส่งเสียงทำงานเบาๆ เขาจัดพรมเช็ดเท้า ตอนนี้พื้นไม่สั่นแล้ว

“อย่าบอกนะว่าเครื่องใหม่มันใช้ง่ายขนาดนี้เลย!” แม่เผยเชียนพูดเสียงตื่น

เผยเชียนพยักหน้า “ใช่ ใช้ง่ายไม่พอ ประหยัดน้ำด้วย ตู้เย็นก็ประหยัดไฟกว่าเครื่องเก่า เปลี่ยนเครื่องใหม่แพงก็จริง แต่ก็ช่วยประหยัดค่าน้ำค่าไฟได้นะแม่”

แม่พยักหน้า “ก็จริง”

ไม่นานตู้เย็นก็อัดแน่นไปด้วยอาหาร เครื่องซักผ้ามีเสื้อผ้าอัดแน่น หุ่นยนต์ดูดฝุ่นวิ่งไปทั่วพื้น ทีวีฉายรายการโทรทัศน์อยู่

แม่ของเขาชอบเครื่องซักผ้าฝาหน้าเครื่องใหม่มาก แม่ไปขนเสื้อผ้าทั้งหมดที่ต้องซักมากองรอ เหมือนจะอยากใช้ของให้คุ้ม

เผยเชียนนอนอยู่บนโซฟา หันมองตู้เย็นสองประตูที่ขนาดใหญ่ไปสำหรับบ้านหลังนี้ เขารู้สึกสะท้อนใจขึ้นมา

“ถ้าบ้านใหญ่กว่านี้ก็ดี…

“ต้องพยายามเต็มที่ให้บริษัทขาดทุนให้ได้…”

วันที่สี่ วันสุดท้ายของช่วงวันหยุดยาว…

เผยเชียนกลับถึงออฟฟิศ

ความมั่งคั่งส่วนบุคคลของเขาเหลืออยู่ประมาณห้าหมื่นหยวน ความรู้สึกอยากผลาญเงินพุ่งสูงขึ้น

“วางแผนเรื่องอัปเดตเกมไว้รึยัง” เผยเชียนเดินไปถามลู่หมิงเหลียงที่โต๊ะ

ลู่หมิงเหลียงพยักหน้าทันที “เสร็จเรียบร้อยแล้วครับบอสเผย!”

“หืม” เผยเชียนรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ “คุณมาทำงานช่วงวันหยุดยาวเหรอ”

ลู่หมิงเหลียงนิ่งไป บอสเผยรู้ด้วยเหรอ

ก็ช่วยไม่ได้นี่!

จะบอกไปว่าไม่ได้มาทำงานก็ไม่ได้

เขาได้รับมอบหมายงานมาวันที่ 30 เมษายน วันที่ 1 ถึง 3 พฤษภาคมเป็นวันหยุด วันนี้วันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันแรกที่ได้กลับมาทำงาน แต่เขาเตรียมแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ถ้าบอกว่าไม่ได้มาทำงาน ใครมันจะไปเชื่อ

ลู่หมิงเหลียงรีบอธิบาย “เปล่าครับ บอสเผย ช่วงวันหยุด ผมอยู่บ้านไม่มีอะไรทำเลยนั่งคิดเรื่องแผนอัปเดตเกม”

เผยเชียนยังตีหน้านิ่ง “ทำงานที่บ้านก็ถือเป็นการทำงานล่วงเวลา! เดี๋ยวผมจ่ายค่าจ้างให้สามเท่าที่ต้องทำงานช่วงวันหยุดตามกฎ”

ลู่หมิงเหลียง “…โอเคครับบอสเผย”

เผยเชียนกลับหลังหันแล้วเดินไปที่ห้องประชุม “โอเค อย่าทำแบบนี้อีก ทุกคน มาประชุมกันเรื่องแผนอัปเดตเกม”

หม่าอี้ฉวินนั่งเงียบอยู่มุมห้องเหมือนอย่างเคย ในมือถือสมุดเตรียมจดตาม

ลู่หมิงเริ่มแนะนำแผนอัปเดตเกมที่มีในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปตามที่เผยเชียนบอกไว้ก่อนหน้านี้

เกมโดดเดี่ยวเดียวดายกลางทะเลทรายจะมีโหมดไม่จบสิ้นตัวใหม่ โหมดเล่นหลายคน และแผนที่ใหม่ ปล่อยเป็น DLC ราคาตัวละหนึ่งหยวน

เกมแม่ทัพผีจะปล่อยการ์ดแม่ทัพชุดใหม่ ราคาห้าหยวน

เกมฐานทัพกลางทะเลจะปล่อยอาวุธระดับตำนานชิ้นใหม่ ราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน จำกัดการขายแค่ห้าร้อยกระบอกต่อเดือน

เกมนักออกแบบเกมจะมีเสียงพากย์ชุดใหม่กับฉากใหม่ ราคาห้าหยวน”

แตกต่างกันแค่ลู่หมิงเหลียงบอกรายละเอียดเยอะกว่าที่เผยเชียนเคยบอก อย่างเกมแม่ทัพผี ลู่หมิงเหลียงอธิบายว่าจะมีการ์ดแม่ทัพชุดใหม่ มีความสามารถแบบไหน ภาพรวมจะออกมาประมาณไหน

แผนที่เขาทำมามีรายละเอียดเยอะขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้จากแผนอีกด้วย

………………….

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท