เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกบนรถหลังกลับออกจากร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เขาเกือบจะเอาตัวไม่รอด
มันช่างหนักหนาเหลือเกิน!
เผยเชียนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถ้าเขามาเจอเรื่องนี้ช้าไปสักหนึ่งหรือสองสัปดาห์ สถานการณ์คงจะเกินควบคุมไปแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมา ปัญหาจะไม่ได้อยู่ที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแค่อย่างเดียว แต่โปรเจ็กต์อื่นๆ ที่อุตส่าห์ลงแรงไปก็คงสูญเปล่าไปด้วย!
“โชคยังดี ฉันจัดการทุกอย่างและกอบกู้สถานการณ์ได้ทันก่อนที่เรื่องจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ นอกจากจะปลอบหม่าหยางสำเร็จ ยังจัดการกับความเสี่ยงทุกอย่างได้อีก เป็นกลยุทธ์การจัดการปัญหาที่เยี่ยมยอดสุดๆ
“ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!”
เผยเชียนกังวลว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้จะสร้างแผลใจให้หม่าหยางจนไม่กล้าทำอะไร สุดท้ายเลยวาดฝันสวยหรูให้แทน
แน่นอนว่าที่เขาพูดไปไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่ ‘ภาพฝัน’ ที่เผยเชียนสร้างให้หม่าหยางนั้นแตกต่างจากบอสคนอื่นๆ
ภาพฝันที่บอสคนอื่นสร้างขึ้นล้วนเป็นคำโกหกพกลม ส่วนของเผยเชียนนั้นไม่เหมือนกัน เพราะเขาวางแผนจะทำตามที่สัญญาไป
การกระทำของหม่าหยางทำให้เผยเชียนนึกถึงอุตสาหกรรมไลฟ์สตรีมขึ้นมาได้
เผยเชียนมั่นใจว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ไลฟ์สตรีมจะกลายเป็นโอกาสลงทุนที่คุ้มค่ามาก ไม่นานสงครามแพลตฟอร์มไลฟ์สตรีมจะเกิดขึ้น วิถีชีวิตของผู้คนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แต่ใครบอกกันล่ะว่าโอกาสลงทุนครั้งนี้จะทำกำไรให้ได้แน่นอน
ถ้าใครเลือกลงทุนถูกจุด คนคนนั้นย่อมสร้างธุรกิจยักษ์ใหญ่ขึ้นมาได้ แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะโดนกลบฝังมิดในสงครามเม็ดเงิน สุดท้ายคนส่วนใหญ่ก็ต้องหนีหายไปเงียบๆ
เพราะคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ตาบอด ถ้ามีคนหนึ่งเห็นโอกาสลงทุน คนอื่นๆ ก็ย่อมต้องเห็นด้วยเช่นกัน
ในยุคอินเทอร์เน็ต อำนาจทางการเงินเป็นตัวกำหนดว่าจะสามารถคว้าโอกาสลงทุนมาเป็นของตัวเองได้หรือเปล่า
บริษัทหลายแห่งต้องสูญเงินหลักร้อยล้าน เผยเชียนถามตัวเองว่าพร้อมสูญเงินแบบนั้นหรือเปล่า คำตอบที่มีในใจคือพร้อม แต่ปัญหาใหญ่คือเถิงต๋าไม่มีเงินมากขนาดนั้น
ไม่ว่าจะยังไง สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาต้องผลาญเงินให้ได้!
เผยเชียนรู้จักกรณีศึกษาหลายกรณีที่บริษัทสูญเงินอย่างต่อเนื่อง
เช่น จักรยาน ofo
บริการเรียกรถโดยสาร ตีตี ชูสิง
แอปส่งอาหารเหม่ยถวน
แพนด้าทีวี
JD โลจิสติกส์…
ธุรกิจเหล่านี้เป็นตัวอย่างชั้นยอดในการขาดทุนเลยไม่ใช่เหรอ
เผยเชียนคิดว่าขอแค่เขาเลือกทำตามกรณีศึกษาที่ไล่มาสักกรณี ก็น่าจะทำให้ขาดทุนได้อย่างต่อเนื่อง จากนั้นก็เอาเงินทุนระบบมาอุดรูรั่วนี้ ถ้าทำได้ก็คงยอดเยี่ยมสุดๆ ไปเลย
เขาไม่ได้ทำตามแผนนี้ในตอนแรกเพราะต้องหาเงินให้พอก้าวเข้าไปในอุตสาหกรรมที่กล่าวมาก่อน ตอนนั้นแม้แต่เงินเริ่มทำโปรเจ็กต์ที่ว่ามายังไม่มีเลย เรื่องเงินที่จะใช้ดำเนินการยิ่งไม่ต้องพูดถึง
แต่ช่วงที่ผ่านมา เผยเชียนตระหนักว่าตนเองเริ่มขยับเข้าไปใกล้เป้าหมายขาดทุนหลักสิบล้านทีละนิดแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องวางแผนโปรเจ็กต์ที่จะช่วยทำเป้าหมายที่ว่าให้สำเร็จ
แน่นอนว่าชายหนุ่มยังต้องวางแผนกลยุทธ์ให้ละเอียดมากกว่านี้
เพราะระบบจะเลื่อนวันปิดบัญชีออกไปถ้ามีสินค้าที่ยังไม่ได้วางจำหน่าย
ถ้าเผยเชียนตัดสินใจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมสักอย่างโดยไม่เตรียมการและใช้เงินลงทุนดำเนินการไป เขาอาจจัดการโปรเจ็กต์ไม่ทันกำหนดปิดบัญชี ทำให้ไม่มีเงินลงทุนต่อ เป็นแบบนั้นคงไม่ดีแน่
ถ้าขาดทุนได้สำเร็จในสองรอบการปิดบัญชีนี้ เขาก็จะยังไม่ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมใหม่
เกิดทำกำไรขึ้นมาได้แบบไม่ทราบสาเหตุอีก…
ชีวิตของเผยเชียนคงกู่ไม่กลับแน่
จากตัวเลือกที่ว่ามา ไลฟ์สตรีมดูจะเป็นตัวเลือกที่ดี พอเห็นหม่าหยางห่อเหี่ยวแบบนั้น เผยเชียนก็อยากปลอบใจ เลยตัดสินใจให้ตำแหน่ง CEO ประจำโมหยูทีวีกับเจ้านั่นไป
แถมยังอ้างได้ว่าได้แนวคิดเรื่องโมหยูทีวีมาจากจอที่หม่าหยางติดไว้ที่ร้าน
…
วันที่ 3 มิถุนายน
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูอีกสองสาขาเปิดทำการแล้ว
เผยเชียนไปดูงานถึงที่ ในที่สุดก็โล่งใจได้พอเห็นทั้งสองสาขาไม่มีลูกค้าเข้าเลยด้วยตาของตัวเอง
หม่าหยางกับจางหยวนก็ตามติดไปด้วย แต่หม่าหยางดูจะงุนงงและท้อแท้อยู่ไม่น้อย
เผยเชียนดึงจางหยวนปลีกตัวออกไปเงียบๆ
“ผมว่าหม่าหยางดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว”
จางหยวนตอบตามตรง “ไม่มีอะไรหรอกครับบอสเผย น้องหม่าแค่สูญเสียเป้าหมายไปชั่วคราว ก็เลยดูเศร้าเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่ได้กินน้อยลงเลย แอบกินเยอะขึ้นกว่าเดิมด้วย”
เผยเชียนคิดในใจ นี่แหละไอ้หม่า จิตใจแข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะเจอเหตุการณ์ครั้งใหญ่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเรื่องการกินเลยสักนิด
“สาขาหลักเป็นยังไงบ้าง”
จางหยวนตอบ “ก็เรื่อยๆ ครับ
“พอเฉินเหล่ยออก เราก็หานักร้องประจำคนใหม่มาแทน มีคนให้ทิปบ้าง แต่จำนวนลูกค้าลดลงเรื่อยๆ
“เรายังให้ส่วนแบ่งนักร้องอยู่ รายได้ดีขึ้นกว่าตอนแรก แต่จะให้พลิกจากขาดทุนมาทำกำไร… ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะทำได้มั้ย”
เผยเชียนพยักหน้า โล่งใจได้สักที
ขอแค่ร้านพวกนี้ไม่พลิกกลับมาทำกำไรได้ก็สบายใจหายห่วง
แต่ทำไมรายได้ตอนนี้ถึงดีกว่าตอนเปิดร้านล่ะ หมายความว่าการให้ส่วนแบ่งนักร้องจากยอดขายเครื่องดื่มเป็นกลยุทธ์ที่ดี สามารถทำกำไรให้ได้ ดังนั้นยังถือว่าเป็นภัยต่อความมั่งคงของเขา
เผยเชียนนึกอะไรขึ้นได้ตอนที่หันไปเห็นหน้าใหญ่ยาวของหม่าหยางที่กำลังขมวดคิ้วอย่างทุกข์ระทม
มีวิธีจัดการเรื่องส่วนแบ่งเครื่องดื่มของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูไปพร้อมๆ กับหาอะไรให้หม่าหยางทำจะได้เลิกเศร้าไหมนะ
ชายหนุ่มปิ๊งไอเดียขึ้นมา
กรณีศึกษาบางกรณีต้องใช้เงินทุนหลักร้อยล้าน ตอนนี้เขายังเริ่มโปรเจ็กต์เหล่านั้นไม่ได้ แต่บางโปรเจ็กต์ไม่ต้องใช้ทุนเริ่มต้นเยอะขนาดนั้น
อย่างเช่น…
บริการส่งอาหาร!
เผยเชียนนึกขึ้นได้ว่าผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขานี้เป็นเชฟ
ตอนคัดเลือกผู้จัดการสาขา นอกจากเด็กเสิร์ฟสี่คนแล้ว มีเชฟหนึ่งคนยกมือด้วย ก็เลยได้เป็นผู้จัดการสาขาไปโดยปริยาย
คนนี้แหละเหมาะเลย!
“จางหยวน เรียกผู้จัดการสาขานี้มาหน่อย เรียกหม่าหยางให้ด้วย ผมมีภารกิจใหม่ให้พวกคุณ”
ทั้งสี่คนมานั่งรวมกันที่โซนคาเฟ่
หม่าหยางกับจางหยวนชินกับเรื่องนี้แล้ว แต่ผู้จัดการสาขาใหม่ที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นเชฟยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับตำแหน่งใหม่ เขาดูประหม่าเล็กน้อย
“ให้ผมเรียกคุณว่าอะไรดี ผู้จัดการสาขา” เผยเชียนถาม
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจจำชื่อผู้จัดการสาขา เพราะยังไงก็เป็นแค่ตัวประกอบเลยไม่ได้ใส่ใจอะไร
แต่ถ้ามองอีกมุมก็ถือเป็นเรื่องดี ถ้าเขารู้จักชื่อตัวประกอบคนไหนก็แสดงว่าตัวประกอบคนนั้นทำงานได้ดี ถือเป็นข่าวร้าย สำหรับเผยเชียน
ผู้จัดการสาขาที่เพิ่งเลื่อนขั้นมาจากเชฟดูจะอยู่ในวัยสี่สิบ เขาไม่ได้ดูแย่เหมือนชายวัยกลางคนส่วนใหญ่ เอาจริงๆ ชายคนนี้หุ่นดีและดูแลภาพลักษณ์ตัวเองเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
พอได้ยินเผยเชียนถาม ผู้จัดการสาขาก็รีบตอบ “ผมชื่อหลินชั่นหรงครับ”
เผยเชียนพยักหน้า จำได้แค่ว่าอีกฝ่ายแซ่หลิน
“ไอ้หม่า ฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้แกขาดเป้าหมาย
“ไม่ต้องห่วง เพราะฉันมีภารกิจสำคัญให้แกทำ!
“ถือเป็นการขยายธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของเรา เป็นส่วนสำคัญมากในการสร้างอาณาจักรเถิงต๋า
“แกมั่นใจมั้ยว่าจะทำภารกิจนี้ได้”
เผยเชียนเห็นประกายความหวังปรากฏขึ้นในตาหม่าหยาง
หม่าหยางกระปรี้กระเปร่าขึ้นทันที “พี่เชียน จัดมาเลย! ผมแค่กลัวว่าจะไม่มีพื้นที่ให้ได้แสดงความสามารถ!”
เผยเชียนพยักหน้า เป็นไปตามที่คาด แค่งานง่ายๆ ก็จุดไฟให้เจ้าหม่าหยางได้แล้ว
“เรา…จะต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม!”
หม่าหยาง จางหยวน และหลินชั่นหรงหันมองหน้ากัน
ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเหรอ
ก็จริงที่พวกเขาเริ่มต้นไปบ้างแล้วที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เมนูของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู ด้านหนึ่งเป็นเครื่องดื่มตะวันตก ส่วนอีกด้านเป็นอาหารง่ายๆ
ก่อนหน้านี้ เชฟหลินทำหน้าที่จับปลา[1] เอ๊ย ทำอาหารให้ลูกค้าที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าร้านไม่ค่อยสั่งอาหาร เชฟหลินเลยได้แต่จับปลาไปวันๆ
บอสเผยอยากจะต่อยอดอุตสาหกรรมนี้จริงๆ เหรอ
……………………
[1] เป็นการเล่นคำของผู้แต่ง ชื่อร้าน 摸鱼 (โมหยู) แปลตรงตัวได้ว่า จับปลา แต่มีอีกความหมายหนึ่งคือ อู้งาน