วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม
ที่ฉางหยางเกมส์
หลินหวานกล้ำกลืนฝืนใจทนเล่นเกมเพลงรบโลหิตมาได้สองสัปดาห์
ตอนแรกเธอรู้สึกดูแคลนและไม่เข้าใจตัวเกมเลย แต่ตอนนี้เธอค้นพบแล้วว่าเกมแบบนี้ก็มีความหมายในแบบฉบับของมัน
เกมเพลงรบโลหิตแบบดั้งเดิมเป็นเกมตามแบบฉบับที่วางให้ผู้เล่นใช้จ่ายเงินซื้อของในเกม พวกวาฬสามารถจ่ายเงินเพื่อสัมผัสประสบการณ์การเล่นที่ดีกว่า ส่วนผู้เล่นทั่วไปก็ร่วมเล่นกับวาฬในฐานะสหายร่วมรบหรือกระสอบทรายรองรับการกระทืบได้
พูดอีกอย่างคือ คนมีเงินก็ใช้พลังแห่งเงินอวดเบ่ง ส่วนพวกไม่มีเงินก็ไปหาเกาะคนอื่นเอา
เกมแนวสงครามที่มีระบบให้ผู้เล่นเสียเงินแบบเกมเพลงรบโลหิตจะมีแต่พลังงานด้านลบ ปัญหาหนักที่สุดคือความไม่ยุติธรรมและการยุยงให้เกลียดชังกัน
สองปัญหานี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เกมแนวสงครามที่มีระบบให้ผู้เล่นเสียเงินคล้ายๆ กันโดนวิจารณ์ในแง่ลบ
เกมแนวนี้ผู้เล่นจะไม่เสมอภาคกันเพราะพลังรบที่มีจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ทุ่มไปกับเกม ยิ่งรวยก็ยิ่งแข็งแกร่ง
ผู้เล่นจะถูกแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ ยิ่งเติมเงินเยอะก็ยิ่งได้ประสบการณ์การเล่นที่แตกต่างกว่า
ถ้าเติมหนักก็สามารถฆ่าผู้เล่นสี่คนพร้อมกันด้วยตัวคนเดียวได้ ทำให้ผู้เล่นคนอื่นต้องหวาดผวา
ความไม่เสมอภาคนี้จะทำให้เกิดความรู้สึกด้านลบในหมู่ผู้เล่น เหมือนคำพูดที่ว่า ‘ไม่ต้องกังวลว่าจะแบ่งให้น้อยหรือมาก แต่ควรจะแบ่งให้เท่าเทียมกัน’
นอกจากนั้นแล้ว เกมแนวนี้ยังสร้างความเกลียดชังในหมู่ผู้เล่นได้ง่ายมาก เพราะผู้พัฒนาเกมส่วนใหญ่จะออกแบบตัวเกมให้มีการแข่งขันในหมู่ผู้เล่นสูงเพื่อบีบบังคับให้เติมเงินเยอะๆ
ยกตัวอย่างเช่น ตอนทำสงคราม
ถ้าสามารถยึดครองเมืองได้ ผู้เล่นคนนั้นก็จะได้ขึ้นเป็นราชา มีประกาศแจ้งผู้เล่นทุกคนในเซิฟเวอร์ และผู้เล่นทุกคนในเมืองก็จะได้รับรางวัล เรียกได้ว่าเป็นโอกาสสุดยอดในการอวดเบ่งความเก่งของตัวเองให้คนอื่นรู้
ผู้เล่นหลายคนอยากขึ้นเป็นราชา ทีนี้ก็ต้องวัดกันว่าใครเติมเงินเยอะกว่า
นายเติมหนึ่งหมื่น ฉันเติมสามหมื่น นายเติมห้าหมื่น ฉันเติมหนึ่งแสน…
ความคิดอยากเอาชนะนี้จะกลายเป็นวงจรอุบาทว์ วาฬสองตัวจะแข่งกันเติมเงินซื้อข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตรงตามที่ผู้พัฒนาเกมต้องการ
ทุกๆ อัปเดตจะมีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามา ไม่ว่าก่อนหน้านี้เหล่าวาฬจะเติมไปเยอะเท่าไหร่ พวกเขาก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นถ้าไม่อยากโดนแซงหน้า
ผ่านไปปีสองปี ผู้เล่นที่เติมเงินไปมากมายก็จะมองย้อนกลับไป แล้วตระหนักว่าเงินที่เสียไปนั้นได้เพียงความว่างเปล่ามาเท่านั้น
แต่ถ้ามองจากอีกมุม ทำไมเกมแบบนี้ถึงเป็นที่นิยมได้ล่ะ
นั่นก็เพราะในเกมมีโลกที่มีชีวิตชีวาและอัดแน่นไปด้วยความคิดสร้างสรรค์
จริงๆ แล้วเกมออนไลน์แนว MMORPG สมัยก่อนก็ใช้กลวิธีเดียวกัน ตัวอย่างเช่น เกม Fantasy World เองก็มีระบบกิลด์ สมาชิกในกิลด์มีหัวหน้ากิลด์ ผู้จัดการกิลด์ หัวหน้าทีมผู้ช่วย ผู้บัญชาการ และอื่นๆ โดยผู้เล่นจะได้รับบทบาทที่ต่างกัน
เกมสงครามที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นแบบเกมเพลงรบโลหิตทำให้ผู้เล่นรู้สึกอินกับบทบาทที่ตัวเองได้รับ เพราะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์นั้นเป็นเรื่องซับซ้อน แบ่งได้หลายระดับ
จุดเดียวที่แตกต่างกันคือ ผู้เล่นเกม Fantasy World นั้นรู้สึกภาคภูมิใจกับเวลาที่ทุ่มเทศึกษากลไกเกม ส่วนผู้เล่นเกมแนวสงครามที่มีระบบเก็บเงินจะรู้สึกภาคภูมิใจกับจำนวนเงินที่เติมเข้าเกม
ตอนนี้เกมเพลงรบโลหิตปรับใหม่ โดยตัดช่องทางการเก็บเงินผู้เล่นออกจนเกือบหมด ทำให้เกิดความรู้สึกแง่ลบในหมู่ผู้เล่นน้อยลง กลับไปใช้รูปแบบเกม MMORPG ดั้งเดิมเหมือนเกม Fantasy World
ขณะเดียวกันความสัมพันธ์อันซับซ้อนของมนุษย์ในเกมเพลงรบโลหิตก็ไม่ได้หายไปไหน ผู้เล่นทุกคนได้รับบทบาทที่ต่างกัน ทำให้เกิดสังคมเกมที่เป็นไปด้วยความสงบขึ้นในเกม
ระบบ ‘ผู้ถูกเลือก’ คือตัวอย่างที่ดี ผู้เล่นแต่ละคนมีโอกาสได้รับบทบาทสำคัญ ประสบการณ์นี้เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากเกมอื่น
เมื่อได้รับเลือกเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ ความสามารถของผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าผู้เล่นคนอื่นๆ ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์แบบเกมแนว Hack and Slash[1]
เกมแนว Hack and Slash เองก็ให้ความรู้สึกเดียวกันได้ แต่ศัตรูที่ผู้เล่นต่อสู้ด้วยไม่ใช่ผู้เล่นจริง เป็นแค่ AI กลับกันในเกมเพลงรบโลหิต ผู้เล่นจะได้สู้กับผู้เล่นด้วยกัน ตัวละครแต่ละตัวบังคับโดยผู้เล่นจริงๆ
ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถกลายเป็นพระเอกผู้ไร้เทียมทานนำทัพตีจุดสำคัญในสนามรบ แสดงความเก่งกาจต่อหน้าผู้เล่นนับร้อย เป็นเรื่องยากที่เกมแนวอื่นจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกถึงความสำเร็จแบบนี้ได้
ดังนั้นอัปเดตใหม่ของเกมเพลงรบโลหิตจึงพยายามรักษาประสบการณ์การเล่นแบบเกมแนวสงครามที่มีระบบเติมเงินเอาไว้ และตัดองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดความรู้สึกแง่ลบในหมู่ผู้เล่นออก
หลินหวานเพิ่งจะเข้าใจจุดนี้หลังจากเล่นเกมเพลงรบโลหิตและคุยกับผู้เล่นคนอื่นๆ ในเกมทุกวันตั้งแต่ย้ายมา
“เข้าใจแล้ว เป็นฉันเองที่คิดตื้นไป ไม่รู้เลยว่าเกมจะมีอะไรเยอะขนาดนี้
“ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกวาฬถึงชอบทุ่มเงินกับเกมแนวนี้มากกว่าเกมแนว Fantasy World
“ฉันเข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยแล้ว
“ที่บอสถึงซื้อฉางหยางเกมส์ที่ขาดทุนหนักขนาดนี้มา
“ก็เพราะตั้งใจจะลองทำอะไรเสี่ยงๆ กับเกมเพลงรบโลหิต บอสอยากทดลองอะไรที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน!
“บอสเผยอยากให้ผู้เล่นเลิกเป็นทาสของเงิน อยากปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้เล่น และแสดงให้พวกเขาเห็นว่าทุกคนก็สามารถสัมผัสประสบการณ์เดียวกับพวกวาฬได้โดยไม่ต้องเสียเงิน…
“ช่าง…เป็นจุดมุ่งหมายที่สูงส่งจริงๆ!
“เรียกได้ว่าเป็นการเย้ยฟ้าท้าดิน!”
หลินหวานต้องมองบอสเผยใหม่อีกครั้ง
เกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นนั้นจะหาเงินจากการขายประสบการณ์การเล่นที่ทำให้รู้สึกโดดเด่นเกินหน้าคนอื่นให้กับพวกวาฬในราคาแพง
ไม่ว่าจะเป็นปีกสีทองวิบวับหรือตำแหน่งราชาในเกมแนวสงคราม ของพวกนี้สร้างขึ้นมาเพื่อผู้เล่นสายวาฬโดยเฉพาะ ส่วนผู้เล่นสายวาฬเองก็ไม่ได้คิดมากที่จะจ่ายเงินซื้อ
ด้วยวิธีนี้บริษัทเกมก็มีรายได้ ส่วนผู้เล่นสายวาฬก็ได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นที่เหนือชั้นกว่าคนอื่น คนที่ลำบากก็คือผู้เล่นที่ต้องมารับบทเป็นกระสอบทรายให้วาฬกระทืบ
ตอนนี้บอสเผยเลือกที่จะไม่ทำกำไรด้วยวิธีนั้น บอสอยากแบ่งประสบการณ์ที่ผู้เล่นสายวาฬได้สัมผัสให้ผู้เล่นทั่วไปได้เข้าถึงด้วยกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นมา
ถือเป็นการเย้ยฟ้าท้าดินเลยใช่ไหมล่ะ
หลินหวานรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังรับผิดชอบอยู่นั้นหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม
บอสเผยทุ่มเงินก้อนโตสร้างเกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชันอัปเกรดขึ้นมาเพื่อกลบข้อเสียเพียงจุดเดียวของเกม ซึ่งก็คือเรื่องกราฟิก หลังจากตัวเกมเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่งของเถิงต๋า เกมนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนตลาดเกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นภายในประเทศไป!
แน่นอนว่าอาจจะฟังดูเกินจริงไปหน่อย เกมที่มีระบบเก็บเงินไม่มีทางหายไปไหน ตราบใดที่เหล่าวาฬยอมจ่าย เกมก็ยังอยู่ในตลาดต่อไปได้
แค่เกมเพลงรบโลหิตเวอร์ชั่นอัปเกรดสามารถเปลี่ยนตลาดเกมและทัศนคติผู้เล่นไปได้สักเล็กน้อย ก็ถือว่าสร้างผลกระทบได้มากแล้ว!
ผู้พัฒนาเกมบางส่วนชอบเลียแข้งเลียขาผู้เล่นสายวาฬ โดยเอาเกมที่มีระบบเก็บเงินผู้เล่นมาใช้หาประโยชน์ให้ตัวเอง แต่ผู้พัฒนาเกมอีกส่วนกลับอยากสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองด้วยการพัฒนาเกมสแตนด์อโลนขึ้นมาอย่างจริงจัง
บอสเผยน่าจะเป็นคนเดียวในวงการที่ประสบความสำเร็จกับเกมสแตนด์อโลนแล้ว แต่ก็ยังตั้งใจจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับสถานการณ์อันแสนยุ่งเหยิงพวกนี้อยู่ บอสยอมทิ้งกำไรก้อนโตเพียงเพราะอยากเปลี่ยนทัศนคติผู้เล่นให้เลิกเป็นทาสของเงิน
ช่างเป็นเป้าหมายที่สูงส่งจริงๆ!
[1] เกมแนวไล่ดะฟันศัตรู เช่น Diablo, Devil May Cry, God of War