ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 214 บอสเผยกับคุณหร่วนเข้าใจกันและกันดี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ระหว่างที่เผยเชียนกำลังครุ่นคิด เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

เขาเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นลู่หมิงเหลียง

“บอสเผยครับ พวกผมทำแบบร่างคอนเซปต์เสร็จแล้ว บอสอยากตรวจดูก่อนไหมครับ”

ก่อนหน้านั้นลู่หมิงเหลียงบอกให้หร่วนกวางเจี่ยนส่งแบบร่างคอนเซปต์เกมกลับใจคือฟากฝั่งทั้งหมดมาให้ดู ไม่ว่าจะเป็นฉาก ตัวละคร มอนสเตอร์ อาวุธ อุปกรณ์สวมใส่ และอื่นๆ

หร่วนกวางเจี่ยนทำทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ แต่ตอนนี้เขามีสตูดิโอเป็นของตัวเองแล้ว

หลังเรียนจบหร่วนกวางเจี่ยนก็ใช้ชื่อเสียงและเส้นสายที่มีเปิดสตูดิโอเล็กๆ ข้างมหาวิทยาลัย

สตูดิโอของเขาชื่อกวงหวนสตูดิโอ งานภาพเกมแม่ทัพผี เกมนักออกแบบ รวมถึงงานออกแบบคอนเซปต์อื่นๆ ทำให้สตูดิโอมีชื่อในวงการ

หร่วนกวางเจี่ยนชวนรูมเมตตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาทำงานที่สตูดิโอของตัวเอง ตอนนี้กิจการของพวกเขาอยู่ในช่วงรุ่งเรืองและเพิ่งจะจ้างพนักงานกลุ่มใหม่ไป ก่อนหน้านี้พวกเขารับได้แต่งานเล็กๆ ตอนนี้สามารถรับงานที่ใหญ่ขึ้นได้แล้ว

พอมีชื่อเสียงมากขึ้น บริษัทเกมหลายต่อหลายแห่งก็ติดต่อพวกเขาผ่านเว็บรวมทรัพยากรเข้ามา จนบางครั้งต้องให้ลูกค้าต่อคิว

ลูกค้าที่อยากให้หร่วนกวางเจี่ยนวาดงานให้โดยเฉพาะจะต้องจ่ายเงินเพิ่มและต้องรอคิวนาน

แต่หร่วนกวางเจี่ยนก็ยังจงรักภักดีกับเถิงต๋า

ไม่ว่าจะขออะไรมา พวกเขาก็จัดให้ได้ตามที่ต้องการ ขอแค่ไม่กระทบกับโปรเจ็กต์ที่หร่วนกวางเจี่ยนกำลังทำอยู่!

พอกำหนดพล็อต โครงสร้างโลก และทรัพยากรงานภาพของเกมกลับใจคือฟากฝั่งได้แล้ว ลู่หมิงเหลียงก็รีบติดต่อกวงหวนสตูดิโอขอให้หร่วนกวางเจี่ยนช่วยออกแบบคอนเซปต์ให้

ตอนนี้แบบร่างคอนเซปต์ชุดแรกเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เผยเชียนตรวจแบบร่างไปพร้อมลู่หมิงเหลียง แบบร่างชุดแรกที่ส่งมาเป็นคอนเซปต์ฉาก

ประตูสู่ยมโลกตั้งอยู่บนเทือกเขาทอดยาว ขนาบข้างด้วยภูเขารูปทรงประหลาด ด้านหน้ามีหุบเหวลึกลิบตาซึ่งเนืองแน่นไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย

หมอกจางสีฟ้ากระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณประตู ตัวอักษรจีนโบราณน่าเกรงขามแต่ก็แฝงไปด้วยความพรั่นพรึงที่จารึกไว้บนประตูทำให้เผยเชียนรู้สึกเสียวสันหลัง

ด้านหลังประตูคือเส้นทางสู่ยมโลกที่ทอดยาวไปไกลสุดขอบฟ้า วิญญาณชั่วร้ายมากมายเดินร่อนเร่อยู่ตามทาง พวกมันเดินกันสับสนอลหม่าน ดูไม่เหนื่อยหน่ายเลยสักนิด

เส้นทางสู่ยมโลกแวดล้อมไปด้วยหมอกสีเขียวลอยวนไปมา บางครั้งบางคราก็มีมือเหี่ยวแห้งตกสะเก็ดพุ่งพรวดออกมาจากหมอก หมายจะลากคนบนเส้นทางสู่ยมโลกไป

หลังข้ามสายธารลืมชาติด้วยสะพานลืมภพ ผู้เล่นจะได้พบฝูงวิญญาณชั่วร้าย มีโคมนำวิญญาณห้อยลงมาจากฟ้า ผีเร่ร่อนเดินผ่านหน้าไปที่ละตน บางตนเดินหายลับเข้าไปในหมอก ไม่ก็กระโดดลงสายธารลืมชาติแล้วหายวับไปตลอดกาล

นอกจากนั้นแล้วก็มีภาพสิ่งของต่างๆ และภาพร่างของมอนสเตอร์

มีทั้งภาพวัดสภาพผุพัง พระพุทธรูป วัดเทพแห่งพื้นดิน ผีชั่วร้ายทั่วไป อาวุธสภาพไม่สมบูรณ์ ธงนำวิญญาณ และอื่นๆ

มอนสเตอร์ในเกมมียายเมิ่งโผที่สะพานลืมภพกับสี่ผู้พิพากษาแห่งยมโลก

ถึงเกมอื่นๆ จะใช้ตัวละครเดียวกันเป็นมอนสเตอร์ แต่หร่วนกวางเจี่ยนออกแบบมอนสเตอร์เหล่านี้ใหม่หมดโดยใช้สไตล์งานอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ทำให้มอนสเตอร์ออกมาดูมืดหม่นเลยทีเดียว

หลังจากดูแบบร่างทั้งหมด เผยเชียนก็รู้สึกเศร้าใจขึ้นมา

“หร่วนกวางเจี่ยนนี่ฝีมือไม่ตกเลย”

ความหมายจริงๆ ของประโยคนี้คือ บ้าจริง แกทำงานห่วยออกมาบ้างไม่ได้รึไง!

ที่สำคัญที่สุดคือ ตั้งแต่เกมแม่ทัพผี เกมนักออกแบบเกม มาจนถึงเกมกลับใจคือฟากฝั่ง งานของเจ้านั่นดูดีมีระดับขึ้นเรื่อยๆ น่าหงุดหงิดจริงๆ!

เห็นได้ชัดว่าแบบร่างคอนเซปต์เกมกลับใจคือฟากฝั่งนั้นเสร็จเร็วกว่างานครั้งก่อน แถมงานที่ได้ก็ดูดีสุดๆ

เทียบกับเกมนักออกแบบเกมแล้ว เนื้อหาเกมกลับใจคือฟากฝั่งเหมาะกับงานภาพสไตล์มหากาพย์หมึกสีน้ำมันของหร่วนกวางเจี่ยนมากกว่า นี่เป็นหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมงานครั้งนี้ถึงดูดีกว่าเดิม

ลู่หมิงเหลียงเห็นด้วยกับที่เผยเชียนพูด เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยชม “ใช่ครับ สมแล้วที่เป็นมืออาชีพ ฝีมือไม่เคยตกจริงๆ! ส่งงานให้คุณหร่วนทำนี่สบายใจหายห่วงสุดๆ!”

เผยเชียน “…”

เขาอยากจะตัดขาดจากหร่วนกวางเจี่ยน ไม่อยากร่วมงานด้วยอีก

แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ทำแบบนั้น!

เจ้านั่นฝีมือดีมาก แถมยังให้ส่วนลดอีก สไตล์งานก็เหมาะกับเกม เผยเชียนจะไปหาเหตุผลไหนมาปฏิเสธไม่ร่วมงานกับอีกฝ่าย

โชคดีที่เกมกลับใจคือฟากฝั่งไม่ใช่เกมที่ขายงานภาพเพียงอย่างเดียว เขายังสามารถไล่ตะเพิดผู้เล่นด้วยระบบเกมได้ อีกอย่างการร่วมงานกับหร่วนกวางเจี่ยนทำให้เผยเชียนผลาญเงินได้เยอะขึ้น คิดได้อย่างนั้น ชายหนุ่มก็ได้แต่กัดฟันกล้ำกลืนฝืนใจร่วมงานกับอีกฝ่าย

“ดีแล้ว เอาตามนี้แหละ”

เผยเชียนดูแบบร่างอยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร แบบร่างคอนเซปต์ทำออกมาได้ดีมาก ไม่มีจุดไหนต้องแก้

เขาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องคอนเซปต์งานภาพมากนัก เลยได้แต่ปล่อยให้หร่วนกวางเจี่ยนทำไป

ลู่หมิงเหลียงรู้สึกใจฟูเมื่อได้ยินที่เผยเชียนพูด “บอสเผยกับคุณหร่วนนี่เหมือนใจสื่อถึงกัน รู้ใจกันสุดๆ

“คุณหร่วนบอกว่าจะหยุดงานสักสองสามวันหลังจัดการโปรเจ็กต์นี้เสร็จ เห็นว่าจะมาที่จิงโจวแล้วมาเยี่ยมเราถึงออฟฟิศ เขาตั้งใจจะแวะมาหาบอสเผย

“บอสกับคุณหร่วนรู้จักกันมานานแต่ไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้ง บอสเผยก็น่าจะอยากเจอคุณหร่วนเหมือนกันใช่ไหมครับ”

มุมปากของเผยเชียนกระตุก

คิดเหมือนกันก็บ้าแล้ว!

ไม่เห็นจะอยากเจอหมอนั่นเลยสักนิด!

ชื่อแรกในสมุดบัญชีหนังหมาคืออาจารย์เฉียว ส่วนชื่อที่สองรองลงมาก็ไอ้นี่แหละ!

ที่สำคัญที่สุดเลยคือ ตั้งแต่ทำเกมแม่ทัพผีด้วยกัน ความสัมพันธ์ของหร่วนกวางเจี่ยนกับเผยเชียนก็ไม่ใช่ความสัมพันธ์เชิงธุรกิจล้วนๆ อีกต่อไป

ดูเหมือนว่าหร่วนกวางเจี่ยนจะมองเผยเชียนเป็นพี่น้อง ถึงจะอยู่กันคนละวงการ คนหนึ่งทำงานในแวดวงเกม อีกคนออกแบบคอนเซปต์งานภาพ แต่ด้วยความที่คิดอะไรเหมือนกันนี่เองที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างวงการ

เผยเชียนเบ้ปากอีกครั้ง “เอ่อ ถ้าเขามาเมื่อไหร่ ผมจะ ‘ต้อนรับ’ เป็นอย่างดีเลย”

ทั้งสองเกมคืบหน้าตามแผน

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เหมือนว่าจะไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไรให้เผยเชียนเข้าไปแก้

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาต้องจัดการ

เผลอแป๊บเดียวก็จะเข้าช่วงสิ้นเดือนแล้ว ยังเหลือเรื่องด่วนอีกสามเรื่องที่ต้องจัดการ

เรื่องแรก ตามแผนที่เผยเชียนวางไว้ วันที่ 1 สิงหาคมเขาต้องเลือกพนักงานผลงานดีเด่น

เขาพอจะมีไอเดียคร่าวๆ แล้วว่ารอบนี้จะตัดสินยังไง

พนักงานผลงานดีเด่นจะคัดเลือกจากคะแนนโหวต เผยเชียนไม่คิดจะแทรกแซงเรื่องนี้ เพราะเขาไม่เชื่อการตัดสินใจของตัวเอง

พนักงานทุกคนคือผู้ตัดสินเรื่องนี้ได้ดีที่สุด พนักงานดีเด่นที่พวกเขาเลือกมาจะต้องเป็นคนที่ทุกคนมองว่ามีความสำคัญต่อบริษัทมาก เผยเชียนจะไม่เก็บคนคนนั้นเอาไว้แน่นอน

ต่อให้จะรักและมั่นใจในตัวพนักงานคนนั้นแค่ไหน เขาก็ต้องกำจัดคนคนนั้นทิ้งไป!

เรื่องที่สองคือ ภัตตาคารระดับสูงกับนี่เฟิงโลจิสติกส์

ตอนนี้ทั้งสองธุรกิจยังอยู่ในช่วงเตรียมเปิดกิจการ แต่ก็ใกล้ได้เวลาตัดสินใจแล้วว่าจะให้ใครเป็นคนรับผิดชอบ

เผยเชียนจำได้ว่าผู้จัดการร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาย่อยคนหนึ่งเป็นเชฟ หมอนั่นน่าจะเหมาะมาดูแลภัตตาคารระดับสูง

เพราะเชฟคนนั้นทำอะไรไม่สำเร็จเลยหลังจากขึ้นเป็นผู้จัดการสาขา เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีความสามารถ ถ้าเผยเชียนให้เขาดูแลภัตตาคารระดับสูง เบื้องหน้าจะดูเหมือนว่าเลือกคนรับผิดชอบได้ตรงกับงาน แต่จริงๆ แล้วใช้การไม่ได้เลยต่างหาก

ส่วนนี่เฟิงโลจิสติกส์…

เผยเชียนว่าจะถามพนักงานดีเด่นรอบนี้ว่าสนใจอยากดูแลนี่เฟิงโลจิสติกส์หรือเปล่า

ถ้าไม่สนใจ เขาก็จะให้งบตามฝันหนึ่งล้านหยวนกับพนักงานคนนั้นไปไล่ตามความฝันของตัวเอง แต่ถ้าสนใจ เผยเชียนก็จะให้พนักงานคนนั้นดูแลกิจการนี่เฟิงโลจิสติกส์

เรื่องที่สาม เผยเชียนต้องเอาเงินที่ได้จากหลินฉางไปสร้างผลงานสักอย่าง

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท