ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 218 ตัดหมิงเหลียงออกทั้งน้ำตา

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

นี่เป็นครั้งแรกที่หลินชั่นหรงได้ยินว่าภัตตาคารแห่งเดียวจะต้องเตรียมจานชามและโต๊ะเก้าอี้ไว้หลากหลายสไตล์…

มีที่ว่างมากพอเก็บข้าวของทั้งหมด ที่จอดรถชั้นใต้ดินมีที่เหลือกว้างขวางให้เก็บโต๊ะเก้าอี้ แต่ประเด็นคือพวกเขาจะต้องจัดแต่งร้านใหม่ทุกครั้งหลังลูกค้าใช้บริการ…

แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว

เผยเชียนส่ายหน้า “จำเป็นสิ!

“ร้านเราเป็นภัตตาคารระดับสูง นอกจากจะใช้วัตถุดิบชั้นเลิศกับฝีมือเยี่ยมยอดรังสรรค์อาหารสุดพิเศษออกมาแล้ว บรรยากาศในร้านก็ต้องจัดให้หรูเลิศไม่แพ้กัน

“ขนาดนักปราชญ์สมัยก่อนยังมีแก้วหลายแบบไว้ดื่มเหล้าแต่ละชนิดเลย แถมวิธีดื่มก็ยุ่งยากซับซ้อน แต่ที่ทำไปก็ไม่ใช่แค่ทำพอเป็นพิธี แต่แก้วแต่ละแบบจะช่วยให้ลิ้มรสเหล้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่พิเศษกว่าปกติ!

“ภัตตาคารอื่นมีอาหารแค่แบบเดียวทำให้จัดบริการได้แค่สไตล์เดียว

“แต่ภัตตาคารของเรามีอาหารทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นตะวันตก จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เราต้องเตรียมการตกแต่งภายในไว้หลากหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การกินอาหารที่ดีที่สุด เราต้องจัดการทุกอย่างให้เต็มที่ ทั้งการตกแต่ง โต๊ะ จานชาม ไปจนถึงบรรยากาศภายในร้าน!

“รายละเอียดพวกนี้แหละที่จะเป็นตัวกำหนดว่าร้านเราจะประสบความสำเร็จได้รึเปล่า เข้าใจไหม”

หลินชั่นหรงอ้าปากเล็กน้อยด้วยความอึ้ง

ก็…

ฟังดูมีเหตุผล แต่ทำไมถึงรู้สึกแปลกๆ

บรรยากาศในร้านถือเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่มันจำเป็นจะต้องเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งกับจานชามที่ใช้อยู่ตลอดด้วยเหรอ

หรือว่า… บอสเผยไม่อยากทำอะไรอยู่ในกรอบเดิมๆ เขาอาจอยากทำอะไรที่สมบูรณ์แบบกว่านี้

การจัดเตรียมบรรยากาศสำหรับการกินอาหารที่ดีเยี่ยมจะช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้บริการชั้นยอด

ใช่ ต้องเป็นแบบนั้นแน่!

หลินชั่นหรงพยักหน้ารัว “โอเคครับ บอสเผย ผมเข้าใจแล้ว!

“กลับถึงบ้าน ผมจะไปค้นข้อมูลเรื่องพวกนี้เพิ่มกับจัดอบรมพนักงานอย่างเป็นระบบให้พวกเขาเสิร์ฟอาหารได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็นจีน ตะวันตก หรือญี่ปุ่น โดยไม่มีข้อผิดพลาด เราจะทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบ ตั้งแต่บรรยากาศในร้านและการให้บริการไปจนถึงวิธีการเฉพาะในการดื่มด่ำกับอาหาร!”

“เอ่อ…”

เผยเชียนพูดอะไรไม่ออกไปชั่วครู่

จริงๆ เขาไม่ได้จะเข้มงวดอะไรขนาดนั้น เพราะลูกค้าที่มาภัตตาคารก็มีแค่เหล่าพนักงานในสังกัด เพราะอย่างนั้น การบริการจึงไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบก็ได้

สุดท้ายหลินชั่นหรงก็เข้าใจผิดไปเต็มๆ เขาเองก็พูดอะไรไม่ได้เพราะจะดูแปลกๆ

หลินชั่นหรงนึกเรื่องหนึ่งออก “บอสเผยครับ ภัตตาคารเราจะใช้ชื่อว่าอะไรเหรอครับ”

เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามกลับ “เราต้องตั้งชื่อภัตตาคารด้วยเหรอ”

หลินชั่นหรง “…”

ถามอะไรล่ะนั่น ก็ต้องตั้งอยู่แล้วสิ!

ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะไปแนะนำเพื่อนยังไง เวลาคุยกันคงแปลกน่าดู

“แก เมื่อวานฉันไปกินภัตตาคารโคตรเด็ดมา!”

“จริงเหรอ ร้านชื่ออะไร”

“ไม่มีชื่อ!”

โคตรพิลึกเลย…

ถ้าอยากโฆษณาร้านในเว็บรีวิวร้านอาหาร ยังไงก็ต้องมีชื่อร้าน!

แถมภัตตาคารนี้ยังตั้งอยู่ในวิลล่า

คนสัญจรไปมาก็ไม่ค่อยมี ถ้าไม่แขวนป้ายไว้ด้านนอกก็คงไม่มีใครรู้ว่านี่คือร้านอาหาร อาจจะคิดไปว่าเป็นบ้านใครสักคนแทน!

เผยเชียนส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ชื่อไม่จำเป็นต้องมีหรอก

“อาหารจะสร้างชื่อให้เราเอง

“ถ้าอาหารดีจริงลูกค้าก็มาเอง ถึงจะไม่โฆษณาอะไร เดี๋ยวร้านก็ดังได้เอง”

หลินชั่นหรงอ้าปากค้าง “แต่เราต้องมีชื่อร้านไว้ไปจดทะเบียนนะครับบอสเผย”

“โอ้” เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นคุณตั้งได้เลย ยังไงคุณก็เป็นผู้จัดการสาขา

“ตั้งได้แล้วก็จดทะเบียนด้วยชื่อนั้นแหละ แต่ไม่ต้องขึ้นป้ายด้านนอกนะ เราจะใช้อาหารมัดใจลูกค้า!

“จัดแจงทุกอย่างดีๆ ล่ะ เดี๋ยวผมจะพาพนักงานเถิงต๋ามากินเลี้ยงที่ร้านวันเปิดกิจการ!”

หลินชั่นหรงหนักใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินว่าตัวเองต้องเป็นคนคิดชื่อร้าน แต่พอเห็นสายตาไว้วางใจของบอสเผย เขาก็พยักหน้า

“ได้ครับบอสเผย! ผมจะพยายามเต็มที่!”

พอกลับถึงอพาร์ตเม้นต์ เผยเชียนก็เปิดเว็บอ้ายลี่เต่าเข้าไปดูคลิปที่ตัวเองลงเอาไว้

ยอดวิวยังน้อยอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้กระเตื้องขึ้นจากตอนเช้าเลย

ถือเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่โปรโมตก็ไม่ได้ยอดวิว พอไม่มียอดวิวก็ไม่มียอดไลก์กับไม่ได้ทิป ปล่อยไปสักพักเดี๋ยวก็จมหายไปเอง

อัปโหลดมาสเตอร์ที่เน้นคอนเทนต์ไม่ได้ดังได้ในวันสองวัน ต้องค่อยๆ สั่งสมชื่อเสียงจากคอนเทนต์คุณภาพที่อัปโหลดให้ผู้ชมดูอย่างต่อเนื่อง

เผยเชียนสั่งมือถือเรือธงตัวใหม่ของเฉินฮว่ามาไว้เป็นเหยื่อทารุณกรรมในคลิปต่อไป

แต่ดูจากความเร็วของการส่งสินค้าในยุคนี้แล้ว น่าจะต้องรออีกสองถึงสามวันกว่าพัสดุจะมาถึง

“เฮ้อ คิดถึงเว็บ JD Central จัง…

“ได้แต่หวังให้นี่เฟิงโลจิสติกส์รีบเปิดให้บริการเร็วๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์สั่งของตอนเช้าได้ของตอนเย็นอีกครั้ง”

เผยเชียนหาว เขาซุกตัวใต้ผ้าห่มแล้วงีบหลับไป

วันที่ 1 สิงหาคม

เผยเชียนมาถึงออฟฟิศในตอนเช้าด้วยอารมณ์เบิกบาน

วันนี้คือวันเลือกพนักงานดีเด่นครั้งที่สองของปี

พนักงานทุกคนรู้เรื่องนี้ดีและต่างตื่นเต้นไม่ก็เป็นกังวลกันยกใหญ่

มีแค่เปาซวี่ที่ดูทุกข์ใจ เขาไม่ได้สนใจเรื่องการคัดเลือกนี้เลย ในใจถึงกับแอบภาวนาไม่ให้ตัวเองได้ที่สอง!

เปาซวี่พยายามออกหน้าให้น้อยลงในช่วงที่ผ่านมา แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้…ในการโหวตครั้งนี้

“โอเค อย่ามัวรีรอ เริ่มโหวตกันได้เลย”

เผยเชียนขี้เกียจพูดอะไรให้มากความ ไม่ว่าสองผู้โชคดีจะเป็นใคร ที่เขาต้องทำก็แค่จัดงบตามฝันหนึ่งล้านหยวนกับให้หยุดงานหนึ่งเดือนเต็มแบบจ่ายเงินเดือน

เขาอยากเก็บลู่หมิงเหลียงไว้เป็นพิเศษ จึงได้แต่ภาวนาไม่ให้ทุกคนโหวตลู่หมิงเหลียง

เพราะเมื่อเทียบกับหวงซื่อปั๋วและเปาซวี่แล้ว เผยเชียนพอใจกับการทำงานของลู่หมิงเหลียงมากกว่า อีกฝ่ายทั้งเชื่อฟังและไม่คิดอะไรเองไปไกล ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนเป็นคนอื่น เผยเชียนก็ไม่มั่นใจว่าคนที่มารับช่วงต่อนั้นจะทำงานได้ตรงใจเขาเท่าลู่หมิงเหลียงหรือเปล่า

เหล่าพนักงานคลิกเมาส์กดโหวต พนักงานบางคนไม่ได้เข้าบริษัท แต่ก็ยังสามารถโหวตออนไลน์ได้

ไม่นานการโหวตก็เสร็จสิ้น

เผยเชียนใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเมื่อได้เห็นผลโหวต

ฉิบหาย ที่หนึ่งคือลู่หมิงเหลียงจริงๆ ด้วย!

นี่เป็นสถานการณ์ที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด

เผยเชียนลังเลใจหนักมาก เพราะเป็นเรื่องยากที่จะหาหัวหน้าฝ่ายวางแผนที่เชื่อฟังทุกอย่างตามที่บอก ถ้าหัวหน้าฝ่ายวางแผนคนใหม่เป็นเหมือนหวงซื่อปั๋ว และทำเงินให้เขาได้เป็นกอบเป็นกำขึ้นมาคงจบเห่แน่

แต่กฎก็ต้องเป็นกฎ ถึงจะรักลู่หมิงเหลียงแค่ไหน เผยเชียนก็ไม่สามารถแหกกฎเพื่อเก็บอีกฝ่ายไว้ได้

เผยเชียนจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง จากนั้นก็ยื่นถ้วยรางวัลให้ลู่หมิงเหลียง “ยินดีด้วย!”

ลู่หมิงเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืน

เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้รับรางวัลนี้!

ลู่หมิงเหลียงหันมองเปาซวี่ เขาคิดว่าเปาซวี่มีประสบการณ์และเหมาะกับรางวัลนี้มากกว่าตัวเอง

เผยเชียนเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรอยู่จึงส่ายหน้าเบาๆ “ผลโหวตนี้มาจากทุกคน คุณคู่ควรกับรางวัลนี้”

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง ลู่หมิงเหลียงก็รับรางวัลมาจากมือของเผยเชียน

ถ้วยรางวัลที่รับมาไม่ได้ใหญ่เลย แต่กลับรู้สึกหนักมาก!

พี่หวงก็รู้สึกแบบนี้หรือเปล่านะตอนที่ได้รับถ้วยรางวัลพนักงานดีเด่น

ลู่หมิงเหลียงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองถืออยู่ไม่ได้เป็นแค่ถ้วยรางวัล แต่ยังเป็นตัวแทนความไว้วางใจของบอสเผยที่มีต่อเขาและภาระอันหนักอึ้งที่เขาต้องแบกรับไว้!

คำพูดมากมายแล่นเข้าหัวลู่หมิงเหลียง แต่เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี

เผยเชียนเลื่อนสายตาดูชื่ออันดับสอง

เปาซวี่

ถือเป็นเรื่องเหนือการควบคุมของเขา เพราะลู่หมิงเหลียงเป็นตัวตั้งตัวตีในการพัฒนาเกมนักออกแบบเกม แถมยังรับผิดชอบพัฒนา DLC ของเกมนี้และเกมอื่นๆ ถึงเปาซวี่จะมีส่วนช่วยอยู่มาก แต่ลู่หมิงเหลียงก็เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนและเป็นคนที่พนักงานคนอื่นๆ เห็นหน้าบ่อยกว่า

ถึงเปาซวี่จะไม่ได้โผล่หน้าให้ใครเห็นมากนัก แต่เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบและปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ของเกม ดังนั้นจึงมีคนโหวตให้เขาเป็นพนักงานดีเด่นจำนวนมากจนได้ที่สองไปครอง

สถานการณ์แสนกระอักกระอ่วนใจกลับมาอีกครั้ง

เผยเชียนหันมองเปาซวี่แล้วยิ้มให้อย่างสงสาร

ฉันไม่ได้เพ่งเล็งอะไรนายเลยนะ

ทุกคนเลือกนายเอง…

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท