ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – บทที่ 226 เจอบอสหลี่อีกครั้ง

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

หลังจบงานเลี้ยง ทุกคนก็กลับออกจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนแล้วกล่าวลากันและกัน

แววตาของเปาซวี่เต็มไปด้วยความกังวลใจ เขารู้สึกหดหู่ที่จะต้องไปเที่ยวตะลอนคนเดียวเป็นเวลาหนึ่งเดือน

หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

วันพรุ่งนี้พวกเขาต้องกลับไปทำงานหนักกันเหมือนเดิม

เผยเชียนรู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้เห็นเหล่าหัวหน้าโปรเจ็กต์ต่างๆ ทั้งที่ไปได้สวยและไม่สวย ต่างดูฮึกเหิมขึ้นหลังจบงานเลี้ยง

ตัวอย่างเช่นหม่าอี้ฉวินที่คุมเว็บจงเตี่ยนจงเหวิน ทางเว็บยังขาดทุนอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากบอสเผยเข้าไปปลอบใจ เขาก็กลับมามีแรงใจอีกครั้ง ก็เข้าใจได้ว่าทำไมถึงดูฮึกเหิม

แต่ทำไมหวงซื่อปั๋วก็คึกขึ้นมากับคนอื่นด้วยล่ะ

เผยเชียนไม่ค่อยเข้าใจ ฉันไม่ได้คุยอะไรกับพวกนั้นด้วยซ้ำ

หรือจะเป็นเพราะพลังอาหารหรู

ไม่นานพนักงานก็ทยอยกลับออกไปกันหมด

เผยเชียนหันมองนาฬิกา ตอนนี้สองทุ่มแล้วเขาคุมเวลางานเลี้ยงได้ค่อนข้างดีทีเดียว

พนักงานในครัวส่วนตัวหมิงหยุนกำลังเก็บกวาดทำความสะอาดร้าน ดูยุ่งกันใหญ่

แต่ก็แค่ตอนนี้แหละ เพราะครัวส่วนตัวหมิงหยุนน่าจะไม่มีลูกค้าเข้าร้านไปอีกนาน

ภัตตาคารแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลลึกลับห่างไกลผู้คน คนทั่วไปน่าจะหาร้านเจอได้ยาก ถึงจะบังเอิญมาเจอเข้าก็ไม่น่าจะสู้ราคาไหว

แน่นอนว่าเผยเชียนคงเก็บข่าวเรื่องนี้ไว้ได้ไม่นานนัก เพราะเขามีพนักงานในสังกัดเยอะ พวกที่ได้ลิ้มรสอาหารดีๆ คืนนี้น่าจะกลับไปอวดให้ครอบครัวกับเพื่อนๆ ฟัง

แต่ถึงจะอวดยังไง ภัตตาคารนี้ก็ตั้งอยู่ไกลแถมยังแพงด้วย คนส่วนใหญ่ไม่น่าจะเอื้อมถึง

ถึงข่าวจะกระจายไปจนทำให้พวกไฮโซแวะมาที่ร้านก็ไม่เป็นไร ขอแค่รักษาจำนวนลูกค้าให้น้อยๆ ได้ ครัวส่วนตัวหมิงหยุนก็จะขาดทุนไปได้เรื่อยๆ

แน่นอนเผยเชียนยังไม่ลืมว่าเป้าหมายหลักของครัวส่วนตัวหมิงหยุนคือการผลาญเงินให้ได้เยอะๆ และเลี้ยงอาหารดีๆ ให้พนักงาน

ดังนั้นเผยเชียนจึงจองภัตตาคารไว้ล่วงหน้าสำหรับงานเลี้ยงครั้งต่อไป

ตามกฎปัจจุบันของระบบ เขาสามารถจัดงานเลี้ยงพนักงานได้หนึ่งครั้งทุกๆ สองเดือน

ดูเหมือนว่าจำนวนครั้งและมาตรฐานการจัดงานเลี้ยงจะขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทและสภาพการเงิน

แน่นอนว่าเขาก็ต้องมีเหตุผลที่เหมาะสมในการจัดงานเลี้ยงให้พนักงาน

สำหรับเผยเชียน ตอนนี้เขาสามารถหาเหตุผลได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นฉลองการวางขายเกม ฉลองผลงานดีเด่นของแผนกต่างๆ ตั้งแผนกใหม่ ต้อนรับพนักงาน และอื่นๆ

ดังนั้นเผยเชียนจึงจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนไว้สำหรับงานเลี้ยงฉลองในอนาคตตามโควตาหนึ่งครั้งต่อสองเดือนของระบบ

เขาเลือกวันที่ 20 ของทุกเดือนเลขคี่เป็นวันจัดงานเลี้ยง ซึ่งใกล้กับช่วงปลายเดือน จะได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการผลาญเงินให้กับเผยเชียน

นอกจากนั้นเผยเชียนยังจองห้องส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดไว้ทุกวันอาทิตย์แรกและวันอาทิตย์ที่สามของแต่ละเดือน เผื่อไว้รับรองแขกถ้าต้องเจรจาธุรกิจ

การจองเหล่านี้ถูกจัดให้มีความสำคัญที่สุด ไม่สามารถจองทับได้จนกว่าเผยเชียนจะยกเลิก

ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อกันการจองซ้อน ถ้าพวกไฮโซเกิดจองครัวส่วนตัวหมิงหยุนติดต่อกันสองสามสัปดาห์แล้วเผยเชียนที่เป็นเจ้าของภัตตาคารไม่สามารถจองร้านได้ก็คงจะแปลกน่าดู

ถึงเผยเชียนจะไม่คิดว่าครัวส่วนตัวหมิงหยุนจะเป็นที่นิยม แต่เขาก็ต้องระวังตัวและเตรียมการเผื่อไว้

นอกจากนั้นเขายังสามารถจองร้านตอนไหนก็ได้ถ้าเกิดต้องรับรองลูกค้าเพื่อเจรจาธุรกิจกะทันหัน ถ้ามีที่ว่างในร้านและมีเวลาเตรียมวัตถุดิบล่วงหน้าสองถึงสามวัน

หลินชั่นหรงเดินอยู่ข้างเผยเชียน “เป็นยังไงบ้างครับบอสเผย อาหารถูกปากไหมครับ”

เผยเชียนพยักหน้า “อร่อยมาก ผมพอใจมาก!”

เอาเข้าจริงเขาเองก็บอกไม่ได้ว่าอาหารวันนี้ดีแค่ไหน เพราะเขาไม่เคยกินอาหารแบบนี้ที่ร้านไหนมาก่อน จึงไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบ

แต่พอเห็นสีหน้าของหลินหวานกับเลขาซิน เขาก็พอจะเดาได้ว่าอาหารน่าจะยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

สิ่งที่เผยเชียนต้องการจากหลินชั่นหรงนั้นเรียบง่ายมาก ขอแค่เขาเป็นเชฟที่ดีและเสิร์ฟอาหารดีๆ ตอนพวกเขามากินเลี้ยง เผยเชียนก็พอใจแล้ว

จะดีมากถ้าเชฟหลินไม่รู้เรื่องการจัดโปรโมชัน การโฆษณาร้าน และอื่นๆ

“ตอนนี้ทุกอย่างไปได้สวย รักษาสภาพนี้ไว้

“จำไว้ว่าเป้าหมายหลักคือให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารและการบริการที่ดี เรื่องอื่นไม่ต้องเป็นห่วง

“ทำเหมือนตอนคุณทำงานที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเลย”

เผยเชียนตัดสินใจบอกใบ้ไป เพราะตอนหลินชั่นหรงเป็นผู้จัดการสาขาร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เขาทำอะไรไม่สำเร็จเลย เผยเชียนหวังให้อีกฝ่ายเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆ

หลินชั่นหรงคิดว่าเผยเชียนให้คำแนะนำตามปกติ ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง เขาจึงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น “ได้ครับบอสเผย ผมจะพยายามเต็มที่เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเราจะได้รับประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุด!”

หลังจากกินดื่มกันเต็มที่ เผยเชียนกับหม่าหยางก็เดินออกจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนแล้วมุ่งหน้าไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูที่อยู่ใกล้ๆ

บรรยากาศรอบๆ เงียบมาก อากาศไม่ได้หนาวเกินไป เหมาะกับการเดินย่อยอาหาร

ระหว่างทางทั้งสองเดินผ่านจุดบริการนี่เฟิงและบาร์ในละแวกนั้น

ตอนที่เดินผ่านหน้าทางเข้าบาร์ คู่หนุ่มสาวโผล่มาลากตัวพวกเขาเข้าไปด้านใน ทั้งสองดูคึกมาก

เผยเชียนกับหม่าหยางพยายามปฏิเสธสองคนนั้นเต็มที่แล้วหนีออกมา

พวกเขาเพิ่งออกมาจากครัวส่วนตัวหมิงหยุน ในท้องอัดแน่นไปด้วยอาหารและไวน์เลิศรส ทำไมจะต้องมากินเหล้าราคาถูกในที่แบบนี้ด้วย

เผยเชียนอยากไปนั่งเล่นที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูแล้วกลับไปนอนฝันหวานที่บ้าน เขาไม่ได้สนใจที่ที่คนเยอะเสียงดังวุ่นวายแบบนี้

แต่ระหว่างนั้นเผยเชียนก็แอบส่องด้านในร้านไปด้วย สถานการณ์ดูไม่สู้ดีเท่าไหร่ ถึงจะมีโปรโมชันเปิดร้าน แต่ก็ไม่มีลูกค้าเลยสักคน

นักร้องประจำพยายามร้องเพลงสุดพลังเพื่อสร้างบรรยากาศ แต่ก็ดูจะทำได้ไม่สำเร็จ

ไม่แปลกเลยว่าทำไมเหล่าพนักงานถึงออกมาเรียกลูกค้าอยู่หน้าร้าน

เผยเชียนรู้สึกสงสารบอสหลี่ขึ้นมา

ตั้งแต่รู้เรื่องแบรนด์ร้านอินเทอร์เน็ตที่ยอมให้บริษัทลงทุนฟู่หุยร่วมลงทุนด้วย เผยเชียนก็คิดว่าบอสหลี่น่าจะอยู่เบื้องหลังร้านรวงที่มาเปิดในละแวกนี้

เผยเชียนซาบซึ้งที่บอสหลี่ยอมทุกข์เพื่อประโยชน์ของคนอื่น แต่ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป บอสหลี่น่าจะขาดทุนหนัก

ทำไมบอสหลี่ถึงได้ติดอกติดใจฉันนักนะ

พอถึงหน้าร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เผยเชียนกับหม่าหยางก็เปิดประตูเข้าไปด้านใน

เผยเชียนชะงักไปเมื่อสังเกตเห็นใครคุ้นๆ นั่งดื่มอยู่ที่มุมหนึ่ง

นั่นบอสหลี่หรือเปล่า

บังเอิญจัง!

ผมเพิ่งนึกถึงคุณไปตอนที่เดินผ่านหน้าบาร์คุณ

หลี่สือเห็นเผยเชียนแล้วก็ชะงักไปเหมือนกัน

เผยเชียนไม่ได้มาที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหมิงหยุนวิลล่ามาพักใหญ่ หลี่สือแค่มาจิบไวน์นิดหน่อย ไม่ได้คิดว่าเผยเชียนจะมาร้านวันนี้

พอบังเอิญมาเจอกันแบบนี้ก็ดูกระอักกระอ่วนอยู่หน่อยๆ

แต่เผยเชียนดูจะไม่ได้รู้สึกอะไร ยังไงบอสหลี่ก็เป็นกัลยาณมิตรไม่กี่คนที่เขามี!

เผยเชียนนั่งลงตรงข้ามหลี่สือแล้วส่งยิ้มให้ “บอสหลี่ มาสอดแนมศัตรูถึงนี่เลยเหรอครับ”

เขาพูดเล่นๆ แต่ดูเหมือนหลี่สือจะเข้าใจผิดไป

หลี่สือคิดในใจ “บอสเผยรู้จริงๆ ด้วยว่าฉันอยู่เบื้องหลังร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อและร้านอื่นๆ ในละแวกนี้…

“แต่ก็ไม่แปลก เพราะยังไงอีกฝ่ายก็คือบอสเผย…”

จากเรื่องที่เกิดขึ้นกับร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขาหลัก หลี่สือก็เข้าใจเผยเชียนมากขึ้น จึงไม่กล้าประเมินอีกฝ่ายต่ำไปอีก

พอบอสเผยพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ หลี่สือก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก

เพราะหลี่สือเป็นคนลงทุนในร้านอินเทอร์เน็ตซิงเล่อและร้านอื่นๆ ในละแวกหมิงหยุนวิลล่า เห็นได้ชัดว่าเป้าหมายของเขาก็คือร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู

หลี่สือมั่นใจว่าเผยเชียนยังไม่มีหลักฐานได้แต่สันนิษฐานเอา แต่ทั้งสองเป็นคนฉลาด จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ปฏิเสธและแกล้งโง่

หลี่สือยิ้มตอบ “ไม่ต้องสนใจผมหรอกครับบอสเผย ผมก็ทำธุรกิจตามปกติแหละ

“อีกอย่างผมไม่ได้คิดจะโจมตีร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูของคุณด้วย ผมแค่ชื่นชมวิสัยทัศน์ของคุณและอยากหาเงินให้ตัวเอง”

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Status: Ongoing
ต้องทำธุรกิจให้ “ขาดทุน” เขาถึงจะรวย แต่ไม่รู้ดวงดีหรือดวงซวย ถึงได้แต่ “กำไร” เนี่ย!เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนโดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆแต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุนด้วยการสร้างเกมที่ไม่น่าจะฮิตบ้างล่ะ ขายเกมราคาถูกบ้างล่ะ เอาเงินไปละลายกับการเช่าตึกและซื้ออุปกรณ์ทำงานต่างๆ บ้างล่ะแต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่ขาดทุนสักที เกมที่คิดว่าไม่น่าจะขายได้ก็ดันขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทำไมการทำธุรกิจให้ขาดทุนมันถึงเป็นเรื่องยากขนาดนี้ล่ะเนี่ย?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท