บทที่ 16 คำเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดภาคเรียน!
บทที่ 16 คำเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดภาคเรียน!
[พอหกโมงห้าสิบนาที เฉินชงก็มาถึงเวที ยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน ท่าทางมั่นคงไม่ต่างจากภูเขา]
[หนึ่งทุ่มตรง ผู้ชมเริ่มมารวมตัวกันแล้ว ทุกคนกันบ่นพึมพำว่าเมื่อไหร่จะได้ดูการประลองเจ๋ง ๆ สักที]
[หนึ่งทุ่มสิบนาที คนจากชมรมศิลปะการต่อสู้ก็มาถึง ผู้ชมคนอื่น ๆ เริ่มพากันเยาะเย้ย ยุแยงให้ขึ้นไปลองสู้กับเฉินชงบนเวที บางคนทนคำเยาะเย้ยไม่ไหวก็เลยขึ้นไปบนเวที ท้าสู้กับเฉินชง แต่เฉินชงกลับบอกว่าชายคนนั้นไม่สามารถโค่นเขาได้ ชายคนนั้นเลยขู่ว่าถ้าหากเฉินชงยังปากหมาแบบนี้อยู่ เขาจะเล่นเฉินชงจนถึงตาย (อันนี้ฉันใส่เองเพื่ออรรถรส) จากนั้นพวกเขาก็เริ่มสู้กัน ทว่าเฉินชงสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้ด้วยกระบวนท่าเดียว ทำเอาทุกคนอึ้งกันหมด!]
[หนึ่งทุ่มยี่สิบนาที ถึงเวลานัดประลอง แต่ก็ยังไม่มีใครปรากฏตัวขึ้น ทุกคนพากันผิดหวังกันถ้วนหน้า แต่แล้วทันใดนั้นเอง ก็มีคนชี้ขึ้นไปบนหลังคาสูงแล้วก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความตกใจ คนอื่น ๆ ก็มองตามที่เขาชี้ไป เห็นชายคนหนึ่งกำลังนั่งบนคานเหล็กอย่างสบายอารมณ์ ทุกคนพากันแปลกใจมากว่าเขาไปอยู่บนนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?]
[ผู้ชายคนนั้นใส่ชุดทหารลายพราง สวมหน้ากากสีดำทับ ดูลึกลับที่สุด จากนั้นก็กระโดดลงมาจากคานเหล็กที่สูงจากพื้นเวทีประมาณแปดไม่ก็เก้าเมตร ลงสู่พื้นแบบไม่มีเสียงเลย]
[แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นก็เหมือนอย่างที่พวกนายได้เห็นกันในวิดีโอ แต่ถ้าพวกนายไม่ดูวิดีโอ ฉันจะอธิบายให้ฟังก็ได้…]
[การปรากฏตัวครั้งแรกของเขาทำให้ทุก ๆ คนพากันประหลาดใจที่เขาใส่หน้ากากแบบนั้น แต่หลังจากนั้นเขาก็ขิงว่าตัวเองเป็นคนที่หล่อมากเลยไม่อยากจะโชว์หน้าของตัวเอง แต่ที่ฉันคิด เขาจะต้องหน้าตาขี้เหร่แน่ ๆ อย่ามาถามฉันว่าทำไม ที่นี่ไม่มีคำว่า ‘ทำไม’ อะไรทั้งนั้น เพราะในสายตาของฉัน ใครที่เจ๋งกว่าฉันก็ขี้เหร่เหมือนกันหมดนั่นแหละ!]
[เหล่าบรรดาผู้ชมนอกเวทีต่างพากันโอดครวญ และยังคงพยายามหาทางให้เขาเปิดหน้าจริงของตัวเองให้ได้ เขาก็โอเคทำก็ได้ แต่พวกผู้ชมคงคิดง่ายเกินไป เขาถอดหน้ากากออกก็จริง แต่มีหน้ากากอีกอันซ้อนอยู่อีกที! แล้วไอ้หน้ากากที่ซ้อนอยู่เนี่ยเป็นรูปหน้ารอยยิ้มชั่วร้าย (ไอ้ชั่วววว!)]
[หลังจากที่กวนอวัยวะเบื้องล่างเหล่าผู้ชมมากพอแล้ว การต่อสู้ที่แท้จริงก็เริ่มขึ้น ชะแว้บ!! (เร็วมากทุ๊กคน!) แล้วทุกอย่างก็จบลง ร่างของเฉินชงถูกผลักออกไปเป็นไกลกว่ายี่สิบเมตรจนกระแทกกับกำแพง ผู้ชมทุกคนไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น??!!]
[เฉินชงท้าให้อีกฝ่ายสู้กับเขาอีกรอบ ชะแว้บบบ!!! (โคตรเร็วอีกแล้ว!) การต่อสู้ก็จบลงอีกครั้ง ตัวเฉินชงกระแทกกับกำแพงอีก ทุกคนตกใจกันตาตั้ง!]
[จากนั้น ชายลึกลับก็พูดกับเฉินชงว่า การบ่มเพาะพลังและการฝึกฝนนั้นขึ้นอยู่กับตัวเฉินชงเอง พูดจบก็มองไปรอบ ๆ แล้วเหาะขึ้นไปข้างบนโดยวิ่งขึ้นกำแพง จากนั้นก็เข้าไปในป่า หายตัวไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้พวกผู้ชมอย่างพวกเราตื่นตะลึงไม่หาย เอาชนะคู่ต่อสู้ได้ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว แถมยังจากไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้เลย เหมือนปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ไม่มีผิด เขาทำฉันกลัวจริง ๆ]
[นี่คือเหตุการณ์ทั้งหมดที่ฉันได้เห็นด้วยตาตัวเอง เอาวิดีโอนี้เป็นหลักฐานได้เลย ในฐานะผู้สังเกตการณ์และตามเผือกอย่างมืออาชีพ ฉันขอยืนยันเลยว่าเป็นเรื่องจริง]
เมื่อมีคำตอบของเหตุการณ์ทั้งหมดออกมายาวเหยียดเช่นนี้ คอมเมนต์ใต้โพสต์ก็พุ่งพรวดขึ้นมาอีกครั้ง
พยานที่เห็นเหตุการณ์นับไม่ถ้วนพากันคอมเมนต์ตอบกลับมาอย่างไม่ขาดสาย
[ฉันเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ A และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในวิดีโอนี้เป็นของจริง!]
[ฉันเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์ B และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในวิดีโอนี้เป็นของจริง!]
[ฉันพยานที่เห็นเหตุการณ์ C และขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในวิดีโอนี้เป็นของจริง!]
[ส่วนหน้ากากหน้ายิ้มแบบที่ชายลึกลับสวมสามารถหาซื้อในเถาเป่าได้ที่นี่! ของมันต้องมี! https://item.taobao.com/item.htm?spm=a230r.1.14.110.el06VK&id=522920798324&ns=1&abbucket=19#detail]
[หู้ยยยย ขอบคุณลิงก์ข้างบนมาก เอาล่ะทุกคน… ไปซื้อกัน!]
ผู้ที่ต้องการยืนยันความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของวิดีโอเริ่มพูดนอกเรื่องทันที
[ผมคือพยานที่เห็นเหตุการณ์ D ผมมั่นใจว่าเป็นคนที่ซื่อสัตย์ตั้งแต่เด็ก ผมเริ่มกินข้าวเองได้ตอนสามขวบ แล้วพอห้าขวบ ผมได้ช่วยจูงคนแก่เดินข้ามถนน พอโตขึ้น ผมก็ทำความดีมากมายนับไม่ถ้วน แถมยังเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เป็นเอกลักษณ์และมีความสามารถพิเศษ และตอนนี้ ผมยังเตรียมตัวฝึกฝนศิลปะการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดและผดุงความยุติธรรม ท่านปรมาจารย์ผู้ลึกลับ… ได้โปรดเป็นอาจารย์ของผมด้วยเถอะ!]
[ขอช่องทางติดต่อท่านปรมาจารย์ผู้ลึกลับ! ขอข้อมูลตัวตนที่แท้จริงของเขา! ได้โปรดบอกฉันที และมีรางวัลให้ด้วยนะ!]
[ความจริงแล้ว… ฉันเก็บเป็นความลับจากนายมาตลอด ฉันนี่แหละชายลึกลับคนนั้น!]
[สวัสดีเจ้าคอมเมนต์บน! ไปให้พ้นเลยไป!]
[ฉันก็มีความลับเหมือนกันนะ ฉันมาจากดาวเบจิต้าแห่งไซย่า*[1] ฉันคือซูเปอร์ไซย่าหนึ่งร้อย มาที่นี่เพื่อช่วยพวกนายชาวโลก ไอ้เจ้ามนุษย์หน้าโง่!]
[ถุย! ไอ้พวกเมนต์ก่อนหน้านั้นออกไปเลยไป๊! ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันก็มาจากยุคดึกดำบรรพ์แล้วโว้ย!]
ในบรรดาข้อโต้แย้งทั้งหมดนั้น บางคนก็ตามสืบสอดรู้สอดเห็นจนได้ข้อมูลบางอย่างของชายลึกลับที่อยู่ในวิดีโอ
[เป็นน้องใหม่ เพศชาย สูงประมาณร้อยเจ็ดสิบแปดถึงร้อยแปดสิบสามเซนติเมตร ข้อมูลอื่น ๆ นอกจากนี้ระบุไม่ได้]
โพสต์ดังกล่าวยังคงเรียกร้องให้แต่ละคนตามหาชายลึกลับคนนี้
แต่ขอบเขตการค้นหานั้นกว้างเกินไป ปีนี้มีนักศึกษาน้องใหม่มากถึง หกพันกว่าคน ในบรรดาคนเหล่านั้น คนที่ตรงเกณฑ์ลักษณะเหล่านี้มีมากกว่าแปดร้อยคน หรืออาจจะพันคน!
ให้ตามหาชายลึกลับท่ามกลางกลุ่มน้องใหม่ที่จับแยกเกณฑ์มานี้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับการงมเข็มในมหาสมุทรเลย…
แต่ยิ่งเขาดูลึกลับมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นเท่านั้น
ในชั่วพริบตา คอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ก็มีมากถึงเจ็ดร้อยคอมเมนต์
ถือเป็นการทำลายสถิติจำนวนคอมเมนต์ใต้โพสต์ของเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง จากของสถิติเดิมที่มีจำนวนสี่ร้อย ห้าร้อย และหกร้อยคอมเมนต์
หลังเหตุการณ์นี้ ดูเหมือนกระทู้โพสต์เรื่องของชายลึกลับจะถือเป็นสถิติใหม่ที่จะได้รับการบันทึกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ ชายลึกลับในวิดีโอก็ได้กลายเป็นคนดังไปแล้ว นักศึกษาเกือบทุกคนในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงล้วนรู้ว่ามียอดปรมาจารย์ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางน้องใหม่
แถมยังเป็นปรมาจารย์ที่สามารถทะยานขึ้นไปบนหลังคาและวิ่งขึ้นกำแพงได้ด้วย!
ในตอนนี้ชายลึกลับได้กลายเป็นคนดังไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังได้ปรากฏในลิสต์รายชื่อคนดังประจำมหาวิทยาลัยอีกด้วย
ในหัวข้อข่าวของน้องใหม่ เรื่องของชายลึกลับนั้นจัดอยู่อันดับต้น ๆ
อันดับ 1 ชายลึกลับ (ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้) 40,879 คะแนน
คะแนนนิยมของชายลึกลับนั้นแซงเจียงเหมี่ยวอวี๋ซึ่งเป็นดาวมหาวิทยาลัยไปแล้วหมื่นกว่าคะแนน บัดนี้เธอกลับได้อันดับสองแทนแล้ว และจากเหตุนี้ สามารถบอกได้เลยว่าชายลึกลับคนนี้ได้รับความนิยมมากเพียงใด
ดูเหมือนว่าทุก ๆ คนในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงจะหมกมุ่นในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
อย่างที่ทุก ๆ คนจะสามารถจินตนาการได้ โดยปกตินักศึกษาเหล่านี้ไม่มีอะไรทำนอกจากเรียน แต่ตอนนี้ มีบางสิ่งที่ช่วยกระตุ้นพลังงานชีวิตของพวกเขาให้สูบฉีดอีกครั้ง ดังนั้นทำไมพวกเขาถึงไม่คว้าโอกาสเอาไว้และใช้มันให้ดีที่สุดในการตามหาชายลึกลับหรือสร้างปัญหาสักหน่อยล่ะ?
คอมเมนต์ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง และมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นมากด้วย!
บอร์ดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยได้กลายเป็นพื้นที่ให้ชาวเน็ตคนอื่น ๆ มาถกเถียงกัน
จำนวนนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงนั้นมีไม่ถึงสามหมื่นคน และในขณะนี้ จำนวนคนที่ออนไลน์เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยมีมากกว่าห้าพันคนเข้าไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนจำนวนมากเข้าใช้เว็บบอร์ดในเวลาเดียวกัน
หลังจากเรียนภาค่ำเสร็จแล้ว เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็หยิบหนังสือขึ้นแล้วกลับหอพักของตัวเอง
เมื่อหญิงสาวเดินผ่านประตู ก็ได้ยินเสียงรูมเมตของเธอตะโกน “เหมี่ยวอวี๋! มาดูนี่สิ ที่มหาวิทยาลัยของเรามีชายลึกลับอยู่ด้วยล่ะ แล้วเขาว่ากันว่าอยู่ชั้นปีเดียวกับพวกเราด้วย!”
“ชายลึกลับเหรอ?”
เจียงเหมี่ยวอวี๋วางหนังสือของตัวเองลงบนโต๊ะแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “หลิน… นี่เธอบ้าไปแล้วเหรอ?”
“จริง ๆ นะ! คราวนี้เป็นเรื่องของชายลึกลับจริง ๆ รีบมาดูสิ!”
เฉิงหลิน รูมเมตของเจียงเหมี่ยวอวี๋ลุกขึ้นยืนด้วยความตื่นเต้น เธอลากเจียงเหมี่ยวอวี๋ไปที่คอมพิวเตอร์ของตัวเองแล้วกดเล่นวิดีโออย่างรวดเร็ว
“ดูสิ!”
เมื่อวิดีโอเล่น ใบหน้าที่ผ่อนคลายของเจียงเหมี่ยวอวี๋ก็เปลี่ยนเป็นตะลึงค้างด้วยความตกใจ เธอก็มองไปที่รูมเมตของเธอแล้วถามขึ้น “มันเกิดขึ้นจริง ๆ เหรอ?”
“มันเกิดขึ้นจริง ๆ!” เฉิงหลินตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ดูคอมเมนต์ข้างล่างสิ เกิดในมหาวิทยาลัยของเราตอนเย็นไง นี่! เหมี่ยวอวี๋ เธอคิดว่าชายลึกลับคนนี้ดูดีไหม?”
“นี่เธอทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ อีกแล้วนะเนี่ย!”
เจียงเหมี่ยวอวี๋จับเมาส์คอมพิวเตอร์แล้วเลื่อนลงด้านล่างของจอ แน่นอนว่าคนอื่น ๆ ก็สงสัยเช่นเดียวกับเธอ แล้วหญิงสาวก็เห็นด้วยว่าวิดีโอนี้เป็นของจริงและเป็นเรื่องจริงแน่นอน…
“จะมีใครสักคนที่เหาะขึ้นไปบนหลังคาแล้ววิ่งบนกำแพงเหมือนกับตัวละครจากซีรีส์กำลังภายในไหม?”
“แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน?”
หญิงสาวไม่อาจรู้ได้ แต่ก็ยังรู้สึกสงสัยใคร่รู้
ในขณะเดียวกัน เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็นึกถึงขวดน้ำแร่ที่เธอได้รับมาจากฟางชิวเมื่อตอนเช้า
“ดูเหมือนว่าฟางชิวจะเป็นผู้ชายที่ซ่อนความลับอะไรไว้อีกมากแน่ ๆ”
หลังจากคืนคอมพิวเตอร์ให้รูมเมตของเธอแล้ว เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็หันหลังกลับเพื่อไปเตรียมตัวแปรงฟัน และในขณะที่เธอกำลังถอดกางเกงชุดทหารลายพราง เธอก็ถึงกับหยุดชะงักเพราะสัมผัสได้ถึงสิ่งของบางอย่างในกระเป๋ากางเกง
แล้วเมื่อหญิงสาวหยิบมันออกมา มันคือจดหมายรักฉบับเดิมที่เธอออกอุบายยื่นให้ฟางชิว!
เจียงเหมี่ยวอวี๋ถึงกับชะงัก
…
ในตอนนี้ เหล่าผู้อยากเผือกที่เอาแต่กระตุ้นปลุกเร้าคนอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงกำลังอ่านหนังสือในห้องเรียน
หลังออกจากสนามกีฬา ฟางชิวก็ถอดหน้ากากออกแล้วตรงไปยังห้องเรียนเพื่ออ่านหนังสือ ความวุ่นวายชุลมุนข้างนอกไม่ใช่เรื่องของเขาแล้ว
สี่ทุ่ม ฟางชิวหิ้วกระเป๋าของเขากลับห้องพักของตัวเอง
ก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงซุนฮ่าวพูดขึ้น “ฉันจะซื้อหน้ากากแบบที่ชายลึกลับนั่น ใครจะเอาบ้าง? พวกเอ็งเอาด้วยไหม?”
“ฉันด้วย! ฉันด้วย!”
จังหวะเดียวกับที่ฟางชิวเปิดประตูเข้ามา ก็เห็นโจวเสี่ยวเทียนกำลังยกมือขึ้นและร้องตะโกนด้วยความกระตือรือร้น
เมื่อเห็นฟางชิวกลับมา โจวเสี่ยวเทียนที่ทำหน้าเศร้าก็พูดอย่างโอ้อวดว่า “เจ้าห้า นายโครตพลาดที่วันนี้ไม่ไปดูการประลองของเจ้าเฉินชง ไม่ได้เห็นเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น!”
“เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
ฟางชิววางกระเป๋าบนโต๊ะใต้ที่นอนของเขาแล้วถาม
“เป็นไงน่ะเหรอ? ฉันจะให้นายรู้เองว่าคำว่า ‘เสียใจ’ มันเป็นยังไง?!”
โจวเสี่ยวเทียนดึงฟางชิวไปที่คอมพิวเตอร์แล้วกดเล่นวิดีโอ
หลังจากดูวิดีโอจนจบ ฟางชิวก็รู้สึกตกใจที่มีคนถ่ายวิดีโอมาเผยแพร่ลงบนอินเทอร์เน็ต
ดูวิดีโอจบแล้ว ชายหนุ่มก็เลื่อนดูคอมเมนต์ด้านล่างต่อ แล้วเขาก็รู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
“เรื่องนี้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!”
เขาหันหน้าไปสบตาดวงตาเป็นประกายของโจวเสี่ยวเทียนที่มองมา จากนั้นแกล้งทำเป็นอิจฉาและทำท่าทางเสียใจสุดขีด “อะไรกันเนี่ย! พลาดซะแล้ว! พลาดจริง ๆ ที่ไม่ได้ไปดูการประลอง! โคตรเจ๋งเลย! ไม่ว่ายังไงก็น่าไปดูสด ๆ!”
“ฮ่า ๆๆๆ จงสนุกกับความรู้สึกเสียใจซะเถอะ สมน้ำหน้า!”
เมื่อเห็นสีหน้าเสียใจของฟางชิว โจวเสี่ยวเทียนก็รู้สึกพอใจขึ้นมาทันที
“เจ้าห้า นายอยากจะซื้อหน้ากากแบบเดียวกับที่ชายลึกลับนั่นใส่ไหม?” ซุนฮ่าวถาม ดวงตาของเขายังคงจดจ่ออยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์
“ฉันจะเอาหน้ากากไปทำอะไร?” ฟางชิวถามด้วยความงุนงง
“จะได้เล่นเป็นชายคนนั้นไง!”
ซุนฮ่าวพูดขึ้นด้วยสีหน้าเลื่อนลอย “นายไม่คิดว่ามันเจ๋งเหรอที่ใส่หน้ากากนี้? ถ้าทุก ๆ คนคิดว่าฉันคือชายลึกลับคนนั้น ชีวิตฉันจะดีขนาดไหน! ฮ่า ๆ! ฉันก็จะมีสาวสวยและรวยมากโบกมือให้ฉันด้วยความหลงใหล…”
ฟางชิวมองซุนฮ่าวอย่างเหนื่อยหน่ายแล้วพูดว่า “ไม่คิดว่าจะมีใครลอบทำร้ายจากข้างหลังหรือไง?”
“ทำไมฉันต้องกลัว? ฉันยังมีพวกนายอยู่นะ พวกเราก็แค่ใส่หน้ากากเหมือนกันแล้วเดินไปพร้อมกัน ดูซิว่าไอ้บ้าหน้าไหนจะกล้ามาทำร้ายพวกเรา!”
ซุนฮ่าวดูไม่กังวลอะไรเลย มากไปกว่านั้นเขายังดูมีความทะเยอทะยานชัดเจน “พบตัวชายลึกลับคนนั้นเมื่อไหร่ ฉันจะไปขอให้เขาเป็นอาจารย์!”
“เป็นอาจารย์ของนาย?” ฟางชิวถามพลางหัวเราะลั่น “นายจะทำอะไรต่อหลังจากฝึกศิลปะการต่อสู้ล่ะ? คอยช่วยเหลือสาว ๆ ทำเท่หรือไง?”
“เอ็งนี่มันมีเป้าหมายต่ำจังเลยนะ!” ซุนฮ่าวว่าฟางชิวพลางมองอย่างดูถูก จากนั้นก็พูดว่า “ฉันจะเป็นฮีโร่ เป็นผู้ผดุงความยุติธรรมทำโทษสิ่งชั่วร้าย!”
ฟางชิวไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าพี่สามจะมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็พยายามเตือนเขา “แต่ตอนนี้การต่อสู้เป็นเรื่องผิดกฎของมหาวิทยาลัย แล้วนายก็อาจเสียค่ารักษาพยาบาลได้…”
“ฉันจะสวมหน้ากาก ไม่มีใครรู้หรอกว่าฉันคือใคร ฉันจะหนีเมื่อภารกิจของฉันลุล่วง ดีล่ะ ถ้าเหาะขึ้นไปบนหลังคา วิ่งบนกำแพงได้ มาดูกันว่าใครจะสามารถจับฉันได้ทัน!”
ซุนฮ่าวยังคงจมอยู่ในจินตนาการสุดกาวของตัวเองด้วยสีหน้างี่เง่า
เป็นฮีโร่ ผดุงความยุติธรรม คอยลงโทษเหล่าร้ายและความชั่วร้ายทั้งมวล แถมยังใส่หน้ากาก?
ดวงตาของฟางชิวเป็นประกายขึ้นมาทันที
“นายจะซื้ออีกอันไหมล่ะ?” ซุนฮ่าวถามเขาอย่างคะยั้นคะยอ
“เอาสิ! ฉันด้วย!” ฟางชิวรีบตอบกลับทันที
“ดีมากเจ้าห้า! ไม่คิดเลยว่าภายใต้ท่าทางซื่อ ๆ ของนายจะซ่อนหัวใจที่เร่าร้อนไว้ด้วย!” ซุนฮ่าวพูดพร้อมยิ้มอย่างชั่วร้าย
ฟางชิวเองก็ยิ้มเช่นกัน เขาไม่โต้แย้งใด ๆ อีก
“สวมหน้ากากทำเรื่องดี ๆ เป็นไอเดียที่ดี…”
ตอนนี้เหล่านักศึกษาหลายคนพากันสวมหน้ากากแบบเดียวกัน หากเขาออกไปข้างนอกโดยที่สวมหน้ากากแล้วผดุงความยุติธรรมลงโทษคนชั่ว ก็จะไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นเขา!
นี่จะเป็นหนทางในการปกปิดตัวตนของเขาไม่ให้ใครรู้
“เจ๋งเป้ง!” ฟางชิวหัวเราะ จากนั้นก็จัดโต๊ะของตัวเองแล้วเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็กข้อมูลแส้หางม้าและเหรียญทองแดงที่เขาสั่งซื้อไปเมื่อวาน
คนขายได้ทำการส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะต้องรอสินค้าสองสามวันก่อนที่จะเริ่มการฝึกฝนการเข้าถึงระดับ ‘เชี่ยวชาญ’ ตามทฤษฎีการจัดกระดูก
ความมืดมาเยือน ทุก ๆ คนก็เริ่มพากันเข้านอน
เวลาตีสามช่วงเช้ามืด ฟางชิวก็ลุกขึ้นจากเตียง
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะทะยานกายออกจากทางบันไดไปถึงภูเขาเหยาหวัง สถานที่ที่เขาพบเฉินชงฝึกกังฟู
ฟางชิวยิ้มและจากไปอย่างเงียบเชียบ
ชายหนุ่มได้ยินเสียงตะโกนสุดท้ายของเฉินชงเมื่อวานนี้ แต่ฟางชิวก็คิดว่าตัวเองได้แสดงวิชามามากพอสมควรแล้ว ดังนั้นที่เหลือจึงขึ้นอยู่กับเฉินชงเองว่าจะสามารถเข้าใจได้มากแค่ไหน ไม่มีอะไรที่เขาจะสามารถช่วยเฉินชงได้
นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ฟางชิวเลือกที่จะไม่โผล่ไปให้อีกฝ่ายเห็น
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ไม่ใช่เฉินชงคนเดียวที่อยู่ในภูเขาเหยาหวังแห่งนี้
ฟางชิวรู้สึกได้ว่ามีคนอื่น ๆ ที่เป็นผู้ฝึกฝนกำลังภายในก็อยู่แถวนี้เช่นกัน
เขารู้ว่าคนเหล่านั้นก็มารอเขา
แต่สิ่งที่คนพวกนั้นคิดหรือต้องการ …มันไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลย
เขาพุ่งตรงไปยังใจกลางทะเลสาบแล้วเริ่มทำการฝึก
ช่วงเวลาใกล้เจ็ดโมงเช้า ฟางชิวและรูมเมตทั้งสามของเขาก็ทานมื้อเช้าเสร็จ พวกเขาพากันออกจากหอพักแล้วตรงไปยังลานฝึกทหาร
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกทหารนั่นเอง
ในระหว่างทางนั้น ทุกคนดูโล่งใจเป็นอย่างมาก
การฝึกทหารภาคสนามสุดโหดในที่สุดก็จบลงสักที
พวกเขาเริ่มจินตนาการถึงชีวิตอันแสนสวยงามในมหาวิทยาลัยแล้ว ทั้งการเรียน ห้องสมุด สาว ๆ และเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง โอ้พระเจ้า!
แต่ฟางชิวไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย สำหรับเขานั้น การฝึกทหารจัดว่าเป็นอะไรที่โคตรง่าย
ถ้ามีใครเคยฝึกซัดหมัดสองร้อยครั้งต่อวันสักเจ็ดเดือน ก็จะพบว่าการฝึกทหารนั้นถือว่าเป็นของเด็กเล็กไปเลยล่ะ
ฟางชิวเป็นคนที่สองที่มาถึงลานฝึกทหารของบริเวณห้องสาม ไม่นานชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเอง
“ฟางชิว!”
เมื่อมองตามก็พบว่าเป็นเสียงของอาจารย์หลิวเฟยเฟย เธอกำลังเดินมาหาเขา
“มีอะไรครับ?”
“มีข่าวดีมาบอก! วันเสาร์หน้า มหาวิทยาลัยของเราจะจัดพิธีเปิดภาคเรียน จากการแสดงความสามารถด้วยกันระหว่างเธอกับเจียงเหมี่ยวอวี๋เมื่อวานนี้ ทางมหาวิทยาลัยต้องการให้เธอสองคนแสดงโชว์ก่อนเริ่มพิธีน่ะ! มันเป็นโอกาสดีที่เธอจะได้แสดงความสามารถและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองเชียวนะ แถมยังได้แสดงร่วมกับดาวมหาวิทยาลัยอีก มันเจ๋งมากเลยใช่ม้า…”
อาจารย์หลิวเฟยเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม
[1] ดาวเบจิต้าแห่งไซย่า เป็นชื่อดวงดาวในอนิเมะเรื่อง ดรากอนบอล (DragonBall)