คุรุการแพทย์ – บทที่ 23 ฉันจะซัดนายทุกครั้งที่เห็นหน้า!

คุรุการแพทย์

บทที่ 23 ฉันจะซัดนายทุกครั้งที่เห็นหน้า!

บทที่ 23 ฉันจะซัดนายทุกครั้งที่เห็นหน้า!

ข้างในโพสต์นั้นได้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด แน่นอนว่าส่วนใหญ่พูดถึงแต่ชายลึกลับ จบท้ายด้วยคำอุทานดังต่อไปนี้

[ไม่เคยคิดเลยว่าเราจะไม่สามารถรู้ได้ว่าชายลึกลับนั่นเป็นใคร ที่นี่มีชายผู้วิเศษและน่าทึ่ง ฉันสงสัยจังว่าเขาคือใคร? เขาเหมือนกับปรมาจารย์ชี่กงเลย ทั้งเหาะขึ้นไปบนหลังคา ทั้งวิ่งบนกำแพงได้ อย่างกับพวกนักสู้ในตำนานแน่ะ ฉันหวังว่านายจะเผยตัวให้พวกเรารู้สักวันนะนายคนลึกลับ!]

ข้อความนี้ถูกโพสต์ตามมาด้วยคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายโดยสมาร์ตโฟนที่ไม่ค่อยจะชัดมากเท่าไร

ฟางชิวคลิกเปิดวิดีโอแล้วดูภาพของตัวเองในนั้น

เมื่อชายหนุ่มได้ดูแล้วก็พยักหน้ากับตัวเองเบา ๆ

“อืม… ดี… ทวงท่าเฉียบคม!”

“เฉียบ!”

“แต่ก็ไม่ชัดพอให้เห็นทวงท่าอันสมบูรณ์แบบของฉันอยู่ดี”

“โถ่… น่าเสียดาย!”

ฟางชิวดูวิดีโอด้วยสีหน้าเสียดายอย่างเห็นได้ชัด หลังจากปิดคลิปวิดีโอไปแล้ว เขาก็เลื่อนหน้าจอลงล่างเว็บบอร์ด

ในโพสต์มีคอมเมนต์อยู่เป็นจำนวนมาก

[ความจริงของเหตุการณ์ก็คือ ผู้ชายคนหนึ่ง… ไอ้สารเลวคนหนึ่งหลอกผู้หญิงที่จะฆ่าตัวตายให้หลงรัก พอเธอท้อง เขาก็น่าจะบังคับให้ทำแท้ง แต่ไอ้สารเลวนั่นมันกลับหนีไปเดตกับสาวคนอื่น แถมยังเดตกับสาวคนอื่นอีกหลายครั้งและหลายคนตอนคบกันอยู่ด้วยซ้ำ”

[เชี่ยยย!! แบบนี้ต้องเรียกว่ามีพรสวรรค์ในการสับรางเปล่าวะ?!]

[หยุดขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของคนอื่นสักที! ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องดีอะ มาพูดถึงเรื่องชายลึกลับที่กล้าหาญช่วยชีวิตเธอในวันนี้ดีกว่า ใครมีเบอร์ติดต่อของเขาบ้าง? ขอร้องล่ะบอกฉันที! ถึงฉันจะเป็นผู้หญิง อยากให้เขาเป็นอาจารย์ของฉัน!]

[ฉันด้วย! ชายลึกลับคนนั้นสุดยอดจริง ๆ! ฉันเองก็อยู่ในที่เกิดเหตุ เขาเหาะขึ้นดาดฟ้า ไต่กำแพงได้ด้วย ครั้งที่แล้วฉันก็ไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้ แต่คราวนี้… ฉันตกใจที่เขาทำได้จริง ๆ น่ะ!]

[ฉันด้วย! ฉันเองก็อยู่ในเหตุการณ์ รอบนี้ใจฉันแทบจะทะลุออกมาจากอกแน่ะ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าขนาดนี้! ไม่คิดเลยด้วยว่าเขาจะช่วยชีวิตเธอไว้ได้ พวกนายไม่เห็นสีหน้าของครูฝึกภาคสนามของพวกเราเหรอ? ฮ่า ๆ! พวกเขาอึ้งไปเลยล่ะ!]

[แย่จัง… ฉันน่าจะอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เสียดายจังเลย อ๊ากกกก!!!!]

[ขอข้อมูลติดต่อของเขาหน่อย! ภาพของเขาด้วย! แล้วก็ขอภาพที่ครูฝึกทำหน้าช็อกตาตั้งอะ!!]

[ฉันด้วย!]

[ฉันได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ทหารจำกัดขอบเขตตัวตนชายลึกลับให้เหลือเพียงร้อยคน หวังว่าเขาจะเจอนะ! ฉันอยากจะรู้จักเขา! แล้วก็อยากจะมีลูกกับเขาด้วย!]

[เฮ้ย! ไอ้คอมเมนต์บนเอ็งเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ?]

[ฉันเป็นผู้ชาย… แล้วไง? รักแท้มันไม่กำหนดเพศอะไรสักหน่อย!]

เมื่ออ่านคอมเมนต์ทั้งหมดนั้น ฟางชิวก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ดังนั้นเขาจึงเลื่อนหน้าจออย่างรวดเร็ว แล้วก็เห็นคอมเมนต์ว่า

[ขอที่อยู่ปัจจุบันของไอ้สารเลวนั่นหน่อย ฉันอยากจะไปจัดการกับมัน!]

ฟางชิวชะงักไป จากนั้นเขาก็ค่อย ๆ เลื่อนลงมาที่คอมเมนต์ล่าสุด

[เขาอยู่ที่คาเฟ่แห่งความทรงจำที่ถนนย่านธุรกิจน่ะ นี่เลย! ภาพของไอ้เฮงซวยนั่น!]

ฟางชิวเหลือบมองเวลาในโทรศัพท์ทันที คอมเมนต์ตอบกลับไม่กี่นาทีก่อน นั่นก็หมายความว่าไอ้สารเลวนั่นคงกำลังดื่มกาแฟอยู่ที่นั่นแน่ ๆ!

เมื่อมองดูภาพชายรูปหล่อนั่น ฟางชิวก็ยิ้มเย้ยหยัน

“ชือเซียง… รอก่อนเถอะ แล้วเจอกัน!”

หลังฟางชิวพบตำแหน่งร้านคาเฟ่แห่งความทรงจำจากแผนที่ของแอปไป่ตู้แล้ว เขาก็ออกไปทางประตูมหาวิทยาลัย จากนั้นก็สวมหน้ากากที่เป็นเอกลักษณ์ของชายลึกลับ ก่อนจะขึ้นรถบัสด้วยเงินในกระเป๋าอันน้อยนิดของตัวเองแล้วตรงไปยังคาเฟ่ทันที

เมื่อฟางชิวมาถึงคาเฟ่แห่งความทรงจำ เขามองเพียงปราดเดียวก็จำชือเซียงได้ทันที ไอ้สารเลวนั่นกำลังนั่งอย่างมีความสุขอยู่ใต้ร่มผ้าใบนอกหน้าต่างร้านกาแฟกับสาวคนหนึ่ง

ยิ่งเห็นแบบนั้น ฟางชิวก็ยิ่งหงุดหงิด

“แฟนสาวของแกเกือบจะตายอยู่แล้ว แต่แกยังดูใจเย็นและยังมีความสุขกับการจีบสาวคนอื่นเนี่ยนะ?”

“แกนี่มันสารเลวของแท้จริง ๆ!”

“สาวน้อยน่ารักที่แกคุยอยู่ด้วยเนี่ยสงสัยท่าจะตาบอด!”

ฟางชิวเดินตรงไปหาชือเซียงด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ เมื่อเข้าไปถึงอีกฝ่าย เขาก็ถามออกมาเสียงเรียบ “นายคือชือเซียงใช่ไหม?”

“ใช่… แล้วนายคือ?”

ชือเซียงเงยหน้าขึ้นมองหน้ากากของฟางชิวด้วยความสับสน “ทำไมหน้ากากนี้มันคุ้น ๆ จังแฮะ?”

ฟางชิวยกขาขึ้น เตะชือเซียงลอยขึ้นกลางอากาศ!

พลั่ก!!

โครม!!

ชือเซียงร้องโหยหวน โต๊ะเก้าอี้กระจัดกระจายระเนระนาด

“อ๊ะ!”

ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงข้ามชือเซียงถึงกับหน้าซีด เธอลุกขึ้นไปหลบอยู่อีกมุม

“เธออย่าขยับ!”

ฟางชิวเหลือบตามองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอย่างเย็นชา “ห้ามไปไหน ฟังฉันพูดให้จบก่อน…”

“โธ่เอ๊ย!!! แกกล้าเตะฉันงั้นเรอะ!”

ชือเซียงสับสนกับแรงเตะอันรุนแรงของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ต่อมา ชือเซียงก็กลับมาได้สติ เขาอับอายเป็นอย่างมากที่เพิ่งโดนเตะจนนอนลงไปกองกับพื้นในที่สาธารณะเช่นนี้!

ชือเซียงคำรามลั่นก่อนจะซัดหมัดไปที่หน้าของฟางชิวอย่างโกรธจัด

ฟางชิวพ่นลมหายใจ จากนั้นเขาก็เหวี่ยงขาของตัวเองไปที่หน้าหล่อ ๆ ของชือเซียงเต็ม ๆ!

ชือเซียงถูกเตะจนตัวปลิวไปบนอากาศแล้วตกลงกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ตามมาด้วยเสียงดังสนั่น เก้าอี้และโต๊ะจำนวนมากล้มทับตามมา

เหล่าคนในเหตุการณ์ร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก พร้อมกับพากันไปหลบในที่ที่ปลอดภัย สายตามองไปยังฟางชิวด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างกัน

ลูกเตะของฟางชิวนั้นทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะพวกเขาเห็นหน้าของชือเซียงบวมปูดไปหมด

“ครั้งแรกมาจากฉัน ครั้งที่สองมาจากซุนฉี!” ฟางชิวพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อชือเซียงได้ยินชื่อซุนฉี สีหน้าของเขาก็ดูกังวลระคนตกใจ

“เชี่ย!!”

“มีคนมาหาฉันเพื่อล้างแค้นให้ซุนฉี!”

“เธอรู้จักซุนฉีไหม?”

ฟางชิวว่าพลางมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขา

“ใช่… ฉันรู้จักเธอ”

ผู้หญิงคนนั้นมองมาที่ฟางชิวด้วยความหวาดกลัว

“ดีแล้ว… เธอรู้ไหม? ซุนฉีกับไอ้เวรนี่มันยังคบกันอยู่ แล้วเธอรู้ไหมว่าเพราะไอ้เวรนี่นอกใจซุนฉี ทำให้ซุนฉีตั้งใจจะกระโดดตึกฆ่าตัวตาย?”

“อะไรนะ?!”

นี่มันแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่ไอ้สารเลวนี่เดตด้วยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในมหาวิทยาลัย เธอหันไปถามชือเซียงที่กำลังนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความโกรธ “นายบอกฉันว่าเลิกกับเธอไปสามเดือนแล้วไม่ใช่เหรอ?!”

“ไอ้สารเลวเอ๊ย!!! แกหลอกฉัน!!”

หญิงสาวคว้าเก้าอี้แล้วยกขึ้นมา ก่อนจะทุ่มลงใส่ตัวชือเซียง!

ฟางชิวถึงกับมองเธอด้วยความงุนงง

“โว้ววว!! ช่างเป็นผู้หญิงที่บ้าพลัง!”

จากนั้นเธอก็ยกเก้าอี้อีกครั้งหนึ่งแล้วตะโกนด่า “รอบนี้ฉันทำให้ซุนฉี ตายซะไอ้เฮงซวย!!” จากนั้นเธอก็ทุ่มเก้าอี้ใส่ชือเซียงอีกครั้งอย่างแรง ก่อนจะสะบัดตัวจากไปอย่างไม่ไยดี

“โอ๊ยยย!!!!!”

ชือเซียงร้องดังลั่นด้วยความเจ็บปวดจากการโดนเก้าอี้ทุ่ม

ฟางชิวจ้องมองชือเซียงด้วยสายตาเย็นชาในขณะที่ค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปหาอีกฝ่าย

“อย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ!”

เมื่อเห็นฟางชิวกำลังตรงเข้ามาหา ชือเซียงก็ตกใจเป็นอย่างมาก สิ่งเดียวที่เขาต้องการทำตอนนี้คือโทรแจ้งตำรวจ

แต่ชือเซียงก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่าม เขารีบสอดส่ายสายตาไปยังฝูงชนรอบ ๆ ตัวเขาอย่างน่าสมเพชโดยหวังว่าจะมีใครสักคนโทรแจ้งตำรวจให้เขา

ในเวลานี้ พนักงานเสิร์ฟหลายคนก็พากันออกมาจากร้านกาแฟ กลางร้านมีผู้จัดการประจำร้านใส่ชุดสูทผูกเนกไทยืนอยู่ เขามองมายังฟางชิวด้วยแววตาโกรธแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ

“คุณลูกค้าครับ ได้โปรดหยุดการกระทำของคุณเถอะ พวกเราทำงานบริการค้าขายที่นี่ หากพวกคุณยังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน มันจะยิ่งทำให้พวกเราเดือดร้อน!”

แต่ย่างก้าวของฟางชิวไม่ช้าลงแต่อย่างใด เขาเดินไปถึงตัวชือเซียง จากนั้นก็ตบอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเล

ร่างของชือเซียงลอยละลิ่วไป

แก้มทั้งสองข้างของเขาบวมเป่ง!

เมื่อเห็นภาพนั้นแล้วกลุ่มคนที่อยู่รอบตัวก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดทันที ทุกคนต่างตกใจ กระนั้นก็สงสัยว่าฟางชิวตบอีกฝ่ายแรงแค่ไหนกัน ตัวของชือเซียงถึงลอยละลิ่วไปในอากาศได้?

“ผมขอโทษที ถ้าหากทำให้ร้านของพวกคุณเดือดร้อน…”

ฟางชิวหันหน้ามามองผู้จัดการร้ายแล้วเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจ จากนั้นเขาก็กล่าวกระอ้อมกระแอ้ม “เดี๋ยวผมจะไปแล้ว”

หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็หันหลังเตรียมตัวจากไป

แต่ผู้จัดการร้านร้องเรียกให้ชายหนุ่มหยุดแล้วคำรามด้วยความโกรธ “จะไปทั้งที่ทิ้งปัญหาไว้ให้งั้นเหรอ? แล้วแบบนี้ใครจะจ่ายค่าเสียหาย ทั้งเก้าอี้และโต๊ะที่พังเละไม่มีชิ้นดีแบบนี้ล่ะ?!”

“เขาจะจ่าย”

ฟางชิวชี้ไปที่ชือเซียงที่ยังคงนอนกองอยู่กับพื้นอย่างหมดสภาพ

“เขาจะจ่ายงั้นเหรอ?”

ผู้จัดการร้านยังคงตวาด “คุณกระทืบเขาเละขนาดนี้ แล้วเขาจะชดใช้ค่าเสียหายให้เรายังไง?!”

“นายจะจ่ายค่าเสียหายไหม?”

ฟางชิวก้มลงถามชือเซียงที่ยังคงนอนอยู่กับพื้นพลางหมุนข้อมือเชิงขู่กลาย ๆ

“ได้! ได้! ฉันจะจ่าย!” ชือเซียงรีบตอบอย่างผวา เขากลัวตัวเองจะโดนอีกฝ่ายกระทืบอีก

“คุณได้ยินเขาแล้วใช่ไหม?”

ฟางชิวพูดกับผู้จัดการร้านพลางยักไหล่

ผู้จัดการร้านถึงกับนิ่งงัน…

“คุณขู่เขาแบบนี้ได้ยังไง? ก็คุณเล่นทำท่าเหมือนพร้อมจะซัดเขาแบบนั้น ยังไงเขาก็ต้องยอมจ่ายอยู่แล้ว!”

“แล้วถ้าเขามีเงินไม่พอล่ะ?!” ผู้จัดการร้านยังคงไม่ปล่อยให้ฟางชิวจากไปง่าย ๆ

“เขาสัญญาว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้คุณ ถ้าหากเขามีเงินไม่พอ มันก็เป็นเรื่องของเขาถูกไหม?” ฟางชิวกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้น จากนั้นก็หันไปจ้องชือเซียงแล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “อย่าให้ฉันเห็นนายในมหาวิทยาลัยอีก ฉันจะซัดนายทุกครั้งที่เห็นหน้านาย!”

“นี่มันรังแกกันชัด ๆ!”

คำประณามเหล่านี้เด้งออกมาจากหัวผู้จัดการร้านเองและฝูงชนที่เห็นเหตุการณ์

ทุกอย่างที่ฟางชิวพูดทำให้ชือเซียงถึงกับตัวสั่นเทา เขาทั้งอับอายและโกรธแค้น แต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงอารมณ์มากไปกว่านี้

ฟางชิวจากไปด้วยความทระนงพร้อมกับทิ้งความยุ่งยาก และชือเซียงที่โดนกระทืบจนยับเยิน และผู้จัดการร้านที่ยังคงรอค่าเสียหาย รวมถึงฝูงชนที่ยังดูตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้เบื้องหลัง

การกระทำของฟางชิวในครั้งนี้มันเสี่ยงมากที่จะทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย เพราะนายทหารคนนั้นกำลังสืบสวนหาตัวชายลึกลับอย่างเขาอยู่ และจากเหตุการณ์นี้เอง การปรากฏตัวของชายลึกลับที่คาเฟ่นอกมหาวิทยาลัย มันจะกลายเป็นหลักฐานบ่งบอกว่า ผู้ต้องสงสัยหนึ่งร้อยคนนั้นไม่ใช่ชายลึกลับที่พวกเขาตามหาใช่ไหม?

แต่ฟางชิวไม่คิดแบบนั้น นั่นเพราะว่าไม่มีใครในมหาวิทยาลัยที่ล่วงรู้ตัวจริงของชายลึกลับ ดังนั้นไม่มีทางที่จะรู้ว่าเป็นตัวเขาเองนี่แหละที่ไปกระทืบชือเซียง แล้วตัวไอ้สารเลวชือเซียงเองก็คงไม่กล้าเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในคาเฟ่ให้ใครฟังแน่

ฉะนั้น… ทุก ๆ อย่างยังคงโอเค!

สำหรับไอ้สารเลวชือเซียงนั้น เขาจะจัดบทเรียนให้มันทุกครั้งที่เห็นหน้ามันแน่นอน!

“ฉันจะทำอย่างที่ขู่มันไว้แน่!”

จากนั้นฟางชิวก็มองที่เงินในกระเป๋าสตางค์ของตัวเองแล้วถอนหายใจ เพราะอยากประหยัดค่าใช้จ่าย เขาจึงตัดสินใจกลับมหาวิทยาลัยด้วยการเดินเท้า

ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังเดินทางกลับ ที่บอร์ดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยก็มีการพูดคุยถกประเด็นกันอย่างร้อนแรงใต้โพสต์หนึ่ง

โพสต์ดังกล่าวได้กลายเป็นไวรัลและถูกขึ้นพาดหัวว่า

‘ระยะการค้นหาแคบลง ชายลึกลับอยู่ท่ามกลางคนพวกนั้น!’

ทุกคนต่างอยากรู้ว่าตัวตนของชายลึกลับในตำนานนั้นโผล่มาจากไหน ดังนั้นเมื่อมีโพสต์ที่พาดหัวว่าระยะค้นหาแคบลง ก็ไม่รอช้าที่จะคลิกเข้าไปอ่านมัน

หลังจากคลิกเปิดโพสต์ดังกล่าว สิ่งแรกที่พวกเขาเห็นก็คือย่อหน้าอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

[เมื่อเช้านี้ มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยจะกระโดดอาคารเรียนฆ่าตัวตาย แต่ชายลึกลับช่วยชีวิตเธอได้ทัน อย่างที่พวกเราเห็น ความสามารถของชายลึกลับคือการเหาะขึ้นบนหลังคาและวิ่งไต่กำแพง ฉันชื่นชมเขามากนะ อยากรู้จริง ๆ ว่าเขาคือใคร? ฉันไม่ได้หวังว่าเขาจะมาเป็นอาจารย์และสอนวิชาให้ฉันหรอก ฉันแค่อยากจะได้พูดคุยกับเขาสักนิด จะได้แสดงความนับถือซูฮกในตัวเขา!]

คำอธิบายโพสต์นี้ถูกโพสต์ขึ้นโดยผู้ใช้ชื่อว่า ‘ปลาน้อยในทะเล’ ผู้ใช้ชื่อนี้ได้พิมพ์ในสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากจะพิมพ์ ซึ่งพวกเขาต่างก็อยากรู้ว่าชายลึกลับคนนั้นเป็นใครกันแน่?

การช่วยชีวิตหญิงสาวโดยชายลึกลับคนนี้มันน่าตื่นเต้นมาก

การประลองการต่อสู้เมื่อคืนก่อนน้อยคนนักที่จะได้เห็น

แต่ในวันนี้ ร้อยกว่าคนได้เห็นกับตาว่าชายลึกลับช่วยชีวิตหญิงสาวที่จะฆ่าตัวตายไว้ได้!

ด้วยสายตาของคนเกือบร้อยคนเป็นพยาน มันก็ช่วยยืนยันได้ว่าที่นี่มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่จริง ๆ เป็นชายลึกลับสวมหน้ากาก และยังอยู่ในมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงอีกด้วย!

นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึง!

[ฉันได้ยินว่าครูฝึกทหารภาคสนามเองก็สงสัยเกี่ยวกับชายลึกลับ หลังจากที่ชายลึกลับสวมหน้ากากได้ช่วยชีวิตหญิงสาวไว้ได้ ครูฝึกถึงกับเรียกเข้าแถวรวมพลกันเลย จะได้หาตัวชายลึกลับนั่น เขาคิดว่าชายลึกลับไม่น่าจะมาเข้าแถวปะปนกับนักศึกษาคนอื่น ๆ ได้ไวและทันท่วงทีแน่ ดังนั้นคนที่ยังมาไม่ถึงจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย]

หลังจากอ่านความเห็นข้างบน ทุกคนก็เห็นด้วยกับการกระทำของครูฝึก

[ชายลึกลับต้องซ่อนตัวใช่ไหมล่ะ เขาไม่น่ากลับไปยังสนามกีฬาเข้าแถวปะปนกับทุกคนหรอก]

อย่างไรก็ตาม ก็มีความคิดเห็นต่างเถียงมา

[แล้วถ้าชายลึกลับเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากล่ะ? ถ้าใช่ ระยะทางทั้งหมดก็ผิดหมดสิ ใช่ไหม?]

นั่นก็มีความเป็นไปได้

ดังนั้น พวกเขาก็เลยไปอ่านข้อความที่เหลือ

[อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่าชายลึกลับตัวจริงนั้นมาเข้าแถวไม่ทันหรือทัน แต่ครูฝึกเองฉลาดมาก ครูฝึกรู้ว่าถ้าหากชายลึกลับมาเข้าแถวทันเวลา ก็แปลว่าเขาจะต้องรีบร้อนมากแน่ ๆ เขาคงไม่น่ามีเวลามากพอจะล้างคราบฝุ่นและคราบสกปรกที่อยู่ตามเสื้อผ้าตอนกระแทกตัวเองกับกำแพงเพื่อช่วยชีวิตนักศึกษาหญิง ครูฝึกเลยสั่งให้ทุกคนที่เข้าแถวกันในสนามมองคนที่อยู่ข้างหน้าตัวเองทันทีว่ามีฝุ่นเกาะอยู่ไหม ถ้าใช่ คน ๆ นั้นจะเป็นผู้ต้องสงสัยทันที]

ตอนนั้นผู้คนก็พากันคิด…

[สมบูรณ์แบบเลย แบบนี้ชายลึกลับก็คงหนีไปไหนไม่รอดแน่]

ถ้าหากพวกเขาเป็นชายลึกลับ พวกเขาก็คงไม่มีทางที่จะไปเข้าแถวและล้างคราบสกปรกที่ติดตามตัวภายในเวลาอันสั้นแน่นอน แม้จะไปเข้าแถวได้ทันเวลาก็ตาม

แล้วชายลึกลับเองก็คงไม่คิดจะล้างฝุ่นหรือคราบสกปรกที่ติดตามตัวแน่นอน เพราะเขาไม่รู้ว่าการเรียกรวมพลกลางสนามกีฬานั้นมีไว้เพื่อตามหาตัวเขาโดยเฉพาะ

ดังนั้น มันจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าชายลึกลับจะเป็นหนึ่งในคนที่มาเข้าแถวไม่ทัน หรือไม่ก็คนที่มีคราบสกปรกตามตัว

ทุกคนคิดว่ามีเพียงไม่กี่คนที่ตรงตามเงื่อนไขนี้

แต่เมื่อพวกเขาได้อ่านพาร์ทต่อมา ทุกคนก็พากันตะลึง

[มีสี่สิบเจ็ดคนที่ไม่ได้มาเข้าแถว รวมกับคนที่มีคราบฝุ่นติดตามตัวอีกห้าสิบห้าคน ก็เกือบร้อยคนเห็นจะได้ มียืนยันว่ามีผู้ชายอีกสองคนไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนชายลึกลับปรากฏตัว นี่สรุปรวม ๆ กันแบบไม่เอาเพศมาเกี่ยว แต่ฉันเองก็ยังแอบหวังว่าชายลึกลับจะเป็นสาวสวยแทนนะ]

[ชายลึกลับอาจจะเป็นสาวสวยงั้นเหรอ?]

[อึ๋ยยย!! น่ากลัวว่ะ?!]

แต่มีผู้ต้องสงสัยเป็นร้อยคนแบบนี้ จะมีวิธีอะไรตามหาชายลึกลับตัวจริงกัน?

แล้วจากนั้น ผู้เขียนโพสต์ก็ได้เสนอคำแนะนำดังต่อไปนี้…

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท