คุรุการแพทย์ – บทที่ 102 มีคนพยายามปล้นขุมทรัพย์สมุนไพร!

คุรุการแพทย์

บทที่ 102 มีคนพยายามปล้นขุมทรัพย์สมุนไพร!

บทที่ 102 มีคนพยายามปล้นขุมทรัพย์สมุนไพร!

“ไอ้หนู แกนี่ไม่รู้จักพอประมาณเลยนะ ที่ต่ำที่สูงก็ยังไม่รู้จัก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาราวกับว่าเขาต้องการจะปล้นพุทราวิญญาณแดงเต็มที

“วางมันลง!” ประกายเยียบเย็นในดวงตาของฟางชิววาบปลาบ ก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะลุกขึ้นยืน ฟางชิวก็เอื้อมมือไปคว้ามือเขาไว้อย่างรวดเร็ว โดยไม่คิดที่จะออมแรงแม้แต่นิด

กร๊อบ!

ทันใดนั้นก็เสียงกระดูกหักดังขึ้นมา แต่ถึงจะมีเสียงกระดูกหักดังขึ้นมา ฟางชิวก็ไม่ได้ทำร้ายชายหนุ่มอะไรมากมาย

“โอ๊ย!” ใบหน้าของชายหนุ่มเริ่มขุ่นมัวในทันใด เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่มือ ถึงจะพยายามฝืนความเจ็บปวดแล้วสะบัดมือให้หลุดจากฟางชิว เขาก็พบว่าตนไม่สามารถต้านทานพลังอันแข็งแกร่งของฟางชิวได้

แม้ว่าจะพยายามดึงมือออกแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถดึงมือออกมาได้เลย

“ปล่อย… ปล่อย!” ชายหนุ่มร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็รีบคลายมือออกเพื่อเผยให้เห็นพุทราวิญญาณแดงที่อยู่ข้างใน

“ฮึ!” ฟางชิวแค่นเสียงอย่างเย็นชา หยิบพุทราวิญญาณแดงคืน จากนั้นก็พูดว่า “ไปซะ!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายหนุ่มก็จ้องเขม็งไปที่ฟางชิว เขาลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจแล้วหันหลังจากไป แต่ชายหนุ่มก้าวไปข้างหน้าได้แค่ก้าวเดียว เขาก็หันกลับมา และชกไปที่ฟางชิวด้วยหมัดซ้ายด้วยแรงมหาศาล

“คิดจะโจมตีฉันเหรอ?” สีหน้าของฟางชิวเย็นชาขึ้นมาทันที

ก่อนที่หมัดของชายหนุ่มจะโดนหน้าของฟางชิว ฟางชิวก็ลุกขึ้น เขาขยับเท้าขวาไปอย่างรวดเร็ว

ด้วยความไวนี้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะทันได้ตอบโต้ ฟางชิวก็เตะเข้าไปที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างแรง หมัดของชายหนุ่มส่งไปไม่ถึงแม้แต่นิด

เมื่อโดนฟางชิวเตะ ชายหนุ่มก็ตกใจเพราะเขามองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของฟางชิวเลย มันเร็วจนเกินไป

ชายหนุ่มก็ถือว่าเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้คนหนึ่ง หมัดของเขาย่อมเร็วกว่าคนทั่วไปหลายเท่า แต่ถึงกระนั้น ฟางชิวก็สามารถเตะเขาก่อนที่หมัดของเขาจะไปถึงตัวได้ ชายหนุ่มจินตนาการไม่ออกเลยว่าฟางชิวจะมีความไวมากแค่ไหน!

และที่สำคัญที่สุดคือ ความแข็งแกร่งของฟางชิวนั้นสุดยอดมาก!

แรงเตะทำชายหนุ่มลอยขึ้นไปในอากาศ ร่างของเขากระเด็นไปด้านหลัง

ปัง!

เกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณนั้น

ชายหนุ่มกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกำแพงข้างหลังอย่างแรง เป็นเหตุให้พื้นที่ตรงนั้นสั่นสะเทือน

ด้วยเสียงที่ดังออกมา ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกคนจึงหันหน้าไปดูอยู่ครู่หนึ่ง ต่างคนต่างรีบตรงเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้น?”

“ตีกันทำไม”

“ทำอะไรกันน่ะ?”

“นี่คืองานแสดงสินค้านะ ไม่ใช่ที่ประลอง”

“คุณสองคนรู้กฎของที่นี่ไหม? มาตีกันที่นี่ได้ยังไง”

ผู้คนรีบเดินไปข้างหน้าเพื่อล้อมฟางชิวกับชายหนุ่ม แล้วเริ่มตำหนิพวกเขาทั้งสองคน

ทันใดนั้น

“โอ๊ย!” ชายหนุ่มที่กระแทกเข้ากับกำแพงก็ทรุดล้มลงกับพื้น เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ขณะพยายามลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง

เขายื่นมือชี้ไปที่ฟางชิว พูดเสียงดังว่า “ทุกคน ช่วยกันตัดสินความถูกต้องเรื่องนี้หน่อย! ชายคนนี้สัญญาว่าจะขายสินค้าอันนี้ให้ฉัน แต่พอฉันเอาเงินของฉันออกมาแล้ว เขาดันกลับคำพูดและปฏิเสธที่จะขายมัน แถมยังเล่นงานฉันอย่างหนักอีก ทุกคนช่วยหาความยุติธรรมให้ฉันด้วย!”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็หันไปมองฟางชิวด้วยสายตาไม่พอใจทันที!

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่แลดูจะก้าวร้าว ทว่าแต่ละคนก็มีความชอบธรรมและพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อ่อนแอเสมอ

“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง? ตกลงกันไว้แล้ว จะมากลับคำพูดทีหลังได้ไงกัน”

“ถูกต้อง พวกเราในฐานะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ควรรักษาคำพูดของตัวเองนะ สิ่งที่คุณทำตอนนี้มันถือว่าละเมิดจรรยาบรรณของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ชัด ๆ!”

“กลับคำพูดแล้วไม่ยอมขายของให้ก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมต้องทำร้ายเขาด้วยล่ะ”

“นี่มันอุกอาจเกินไปแล้ว”

“ในฐานะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ คุณทำแบบนี้ได้ไง”

“น่ารังเกียจเกินไปแล้ว คุณทำให้ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกคนต้องอับอาย”

“คุณจะเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ได้ยังไงกัน ในเมื่อคุณยังไม่เคารพกฎเกณฑ์เลย กลับไปบ้านเลี้ยงหมูเถอะ!”

ผู้คนต่างตำหนิฟางชิวอย่างรุนแรง แม้ว่าเสียงวิจารณ์จะดังก้องอยู่ในหูของฟางชิว แต่ชายหนุ่มก็ไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาพูดเลย

ฟางชิวตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่มีความผิดแต่ไม่ยอมรับผิด

เมื่อเห็นฟางชิวเดินเข้ามา ชายหนุ่มก็มีสีหน้าคล้ำมืดลงในทันที ในขณะที่เขากังวลว่าฟางชิวจะโจมตีเขาอีกครั้งหรือไม่ เขาก็นึกขึ้นได้ว่า ‘มีผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้มากมายอยู่ที่นี่ เขาไม่คงกล้าโจมตีฉันหรอก คนขายคนนี้อาจจะขอโทษเพราะแรงกดดันของพวกเขาก็ได้’

ชายหนุ่มกลอกตา และรอดูภาพตรงหน้า

‘ถ้าคนขายไม่ขอโทษ ฉันก็จะไม่ยอมจบง่าย ๆ แน่ และถ้าเขากล้าโจมตีฉันอีก ผู้คนที่นี่ก็จะไม่มีวันปล่อยเขาไปแน่นอน!’

เมื่อคิดได้แบบนี้ เขาก็รู้สึกมีความหวังเพิ่มขึ้นมา

‘ดูสิว่าคนขายคนนี้จะทำอะไรต่อไป ถ้าเขายอมขอโทษ ฉันก็จะบังคับให้เขาขายสมบัติอันนั้นให้ฉันต่อหน้าทุกคน แต่ถ้าเขาไม่ขอโทษแล้วทำร้ายฉันอีก ฉันก็จะพูดให้ทุกคนจัดการเขาแล้วใช้โอกาสนั้นเอาสมบัติไป!’

ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังคิดในใจ สีหน้ากังวลของเขาก็ค่อย ๆ จางลงและแทนที่ด้วยท่าทางไร้ความหวาดกลัว

ทางด้านของฟางชิว เขาเดินเข้าไปจนถึงตัวชายหนุ่ม ทุกคนจึงคิดว่าเขาจะขอโทษชายหนุ่มคนนั้น แต่ในเวลาต่อมา สิ่งที่เขาทำก็ทำให้ทุกคนตะลึง

ผัวะ!

ฟางชิวเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล เขาใช้ขาขวาถีบไปที่ชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว จนทำให้เจ้าตัวล้มลงกับพื้นไป หลังจากนั้น ฟางชิวก็ยกเท้าขวาเหยียบลงบนแขนของชายหนุ่ม

กร๊อบ!

เสียงนี้ดังไปทั่วสารทิศ ฟังดูแล้วคงจะเจ็บปวดน่าดู

“อา…” ชายหนุ่มน้ำตาไหล กุมมือตัวเองด้วยความเจ็บปวด เขาคิดไม่ถึงว่าฟางชิวจะกล้าโจมตีเขา และยังกล้าทำให้เขาบาดเจ็บสาหัสอีก!

เท้าของฟางชิวทำให้กระดูกมือของชายหนุ่มหัก

“ถ้าแกยังกล้าขโมยของอีก รับรองว่าแกจะไม่เหลืออะไรแน่!” หลังจากเหยียบมือของชายหนุ่มหักแล้ว ฟางชิวก็ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา

เวลานี้ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าเด็กหนุ่มอย่างฟางชิวจะโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้!

คนขายสมบัติไม่เพียงแต่เตะคนจนกระเด็นไปไกลเท่านั้น แต่เขายังทำลายมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มด้วย!

ถ้าสิ่งที่ชายหนุ่มพูดเป็นความจริง อย่างนั้นแสดงว่าคนขายสมบัตินั้นทำเกินไปจริง ๆ!

แต่สิ่งที่ชายหนุ่มพูดมันจะเป็นความจริงไหม

ถ้าจริง แล้วทำไมคนขายสมบัติถึงบอกว่าชายหนุ่มเป็นคนขโมยของของเขาไปล่ะ

แล้วเหตุใดชายหนุ่มถึงกล้าไปปล้นของล่ะ ในเมื่อเขาก็เอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้

ทุกคนกำลังตกใจ และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปดี

แต่พวกเขาก็ต่างคิดเหมือนกันว่า คนขายสมบัติคนนี้ก็โหดเหี้ยมเกินไปจริง ๆ!

ทุกวันนี้สิ่งที่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ทำส่วนมากจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กัน ไม่มีทำร้ายผู้อื่นสักเท่าไร

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้จะไม่ลงมือหนักในครั้งแรกอย่างนี้!

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณไม่รู้หรือไงว่าการทำร้ายคนมันผิดกฎหมาย!

ฟางชิวผู้ทำลายมือข้างหนึ่งของชายหนุ่มค่อย ๆ ย่อตัวลง สายตาทุกคนยังคงจับจ้องด้วยความตกใจ

ชายหนุ่มที่นอนบนพื้นก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมาเพราะความเจ็บปวด เขาพยายามเตะเท้าไปมาแล้วคลานถอยหลังเพื่อพยายามจะหนี

“ฮึ!” ฟางชิวสูดอากาศหายใจอย่างเย็นชา เขาคว้าแขนที่หักไปแล้วของชายหนุ่มเข้าหาตัว

กร๊อบ!

จากนั้นฟางชิวก็บีบมันอย่างรวดเร็ว ทำให้กระดูกมือของชายหนุ่มกลับเข้าที่เหมือนเดิม

“อย่าขยับ ฉันจัดกระดูกให้แล้ว ถ้าขยับตอนนี้และกลายเป็นคนพิการ แล้วฉันจะไม่รักษาให้อีก!” ฟางชิวกล่าวอย่างเย็นชา

เมื่อได้ยินแล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกกลัวเกินกว่าจะเคลื่อนไหวใด ๆ

หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฟางชิวก็ลุกขึ้นยืน แล้วหันกลับไปมองเหล่าคนที่โกรธเขาแต่ทำอะไรไม่ได้ “ผมขอประกาศให้ทุกคนรู้โดยทั่วกัน ผมตั้งแผงขายของอยู่ที่มุมนี้ แล้วเขาก็ขโมยของของผม ผมเลยต้องจัดการเขา”

ฟังแล้วทุกคนก็ยิ่งงงกันเข้าไปใหญ่ สรุปแล้วเรื่องราวมันเป็นอย่างไรกันแน่?

ทันใดนั้นเอง

ตึก… ตึก…

เสียงฝีเท้าอันแผ่วเบาดังขึ้นมา จากนั้นก็มีชายอายุราว ๆ ห้าสิบปีกับคนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาในฝูงชน

เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้ ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็ก้าวถอยหลังเพื่อหลีกทางให้กับพวกเขาพลางลอบมองอย่างระมัดระวัง

ผู้นำของคนกลุ่มนี้ แต่งกายด้วยชุดผ้าไหมสีขาวแบบดั้งเดิม มีท่าทางใจดี กระนั้นก็แผ่กลิ่นอายของความไม่แยแสต่อโลกออกมา

ฟางชิวพบว่าคนผู้นี้เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ชั้นแนวหน้า

ชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นทันที เขาวิ่งไปแอบที่ด้านหลังของคนคนนั้นด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว

“ผู้อาวุโสอี้ โปรดให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย!”

ชายหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บร้องไห้ออกมาเสียงดังก่อนที่จะชี้ไปที่ฟางชิว “ชายคนนี้ขายสิ่งที่ตนเองก็ไม่รู้จักให้ผม ผมเลยถามเขาว่าต้องการอะไรในการแลกเปลี่ยน เขาก็ตอบว่าเขาต้องการแค่เงินเท่านั้น ผมจึงเสนอราคาให้เขาสามหมื่น แต่เขาทำร้ายผม ทำแขนผมหักด้วย คนประเภทนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้หรอก ผู้อาวุโสอี้ ให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย”

ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้อาวุโสอี้เหลือบมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นก็หันไปมองฟางชิว

“ของอยู่ในมือของเขาใช่ไหม?” ผู้อาวุโสอี้มองไปที่พุทราวิญญาณแดงในมือของฟางชิวแล้วเอ่ยถามขึ้นมา

“ใช่ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้า

“ขอฉันดูหน่อยได้ไหม” ผู้อาวุโสอี้ถามพลางมองไปที่ฟางชิว

“ได้ครับ” ฟางชิวมอบพุทราวิญญาณแดงให้ผู้อาวุโสอี้ดู

พอผู้อาวุโสอี้สัมผัสถึงพุทราวิญญาณแดงได้ด้วยกระแสจิต ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาได้แต่กำมันไว้ในฝ่ามือ ไม่ยอมคลายมือออก

อย่างไรซะ เขาก็ไม่ยอมปล่อยสิ่งนี้ไปแน่นอน!

“น้องชาย ได้ยินมาว่ารับแต่เงินสดเท่านั้นเหรอ?” ผู้อาวุโสอี้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นปนสั่นเทา

“ใช่ครับ!” ฟางชิวพยักหน้า

“แล้วต้องการเงินเท่าไหร่” ผู้อาวุโสอี้ถามอย่างเร่งรีบ

“คุณเสนอราคามาสิครับ” ฟางชิวมองไปที่ผู้อาวุโสอี้แล้วกล่าวออกมา

ตอนที่ทุกคนต่างหลีกทางให้ผู้อาวุโสท่านนี้เดินเข้ามา ฟางชิวก็รู้ได้ทันทีว่า ผู้อาวุโสอี้คนนี้คงจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้แน่นอน มิฉะนั้นผู้คนคงจะไม่เคารพเขามากขนาดนี้

ยิ่งกว่านั้น ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสอี้คือระดับปรมาจารย์ชั้นแนวหน้า ดังนั้นวิสัยทัศน์ของเขาจึงสูงกว่าคนทั่วไป

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสอี้กำพุทราวิญญาณแดงไว้ในฝ่ามือ ฟางชิวก็รู้ว่าผู้อาวุโสอี้ต้องรู้จักมันแน่ ๆ

แม้ว่าผู้อาวุโสอี้จะสวมเสื้อผ้าเก่า ๆ แต่มันก็ดูหรูหรามาก เขาไม่น่าจะไม่มีเงินซื้อ

บวกกับอีกฝ่ายมีความตั้งใจที่จะซื้อพุทราวิญญาณแดงอยู่แล้ว ฟางชิวก็เลยยอมต่อรองราคา

“สองแสนหยวน?” ผู้อาวุโสอี้ถามอย่างลังเล เพราะเขาอยากรู้ว่าฟางชิวรู้คุณค่าของพุทราวิญญาณแดงหรือไม่

ฟางชิวส่ายหน้าปฏิเสธ

“ผมขายโสมป่ากับเห็ดหลินจือป่าสองต้นได้ในราคาแสนหยวน แล้วผมจะขายสมบัติอันยิ่งใหญ่นี้แค่สองแสนได้อย่างไร”

“ถ้าอย่างนั้น… สามแสนหยวนล่ะ?” ผู้อาวุโสอี้เพิ่มราคาอีกแสนหยวน

ฟางชิวส่ายหน้าปฏิเสธอีกครั้ง

เห็นแบบนี้แล้ว ผู้คนรอบข้างก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

สมุนไพรต้นเล็กแบบนี้ ทำไมสามแสนหยวนก็ยังไม่ขายล่ะ?

สมบัติอะไรจะแพงขนาดนั้น!

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท