คุรุการแพทย์ – บทที่ 156 การแสดงความสามารถที่ถูกปัดทิ้ง

คุรุการแพทย์

บทที่ 156 การแสดงความสามารถที่ถูกปัดทิ้ง

บทที่ 156 การแสดงความสามารถที่ถูกปัดทิ้ง

“ในวันอาทิตย์ พวกเราจะจัดการแข่งขันรอบที่สาม ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศ” เฉินอินเซิงกล่าวอีกครั้งว่า “รอบที่สามคือการแข่งขันความรู้ประเภทเดี่ยว”

“ในการแข่งก็ต้องยกมือก่อน แล้วถึงจะตอบคำถามได้ ส่วนการแข่งขันสุดท้ายคือ การแข่งขันแบบตัวต่อตัว คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของรอบที่สามจะเป็นแชมป์ของการแข่งขันความรู้ในครั้งนี้”

“อ้อ ในช่วงบ่ายของการประลองความรู้ พวกเราจะจัดพิธีมอบรางวัลให้อย่างยิ่งใหญ่ด้วย”

เฉินอินเซิงกวาดสายตามองไปที่ทุกคนแล้วยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็มองไปยังเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งและถามว่า “พวกคุณพึงพอใจกับการจัดการแข่งขันความรู้ในมหาวิทยาลัยของพวกเราไหม”

“พอใจ” เจียงไห่เป็นผู้นำในการปรบมือและกล่าวว่า “การแข่งขันครั้งนี้ถูกจัดเตรียมเป็นอย่างดีจริง ๆ”

“อืม การแข่งขันนี้จัดได้ดีมาก แม้ว่ากฎจะคล้ายกับก่อนหน้านี้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แล้วการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้มันดีขึ้นมาก” จางกั๋วต้ง รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจียงไห่

ผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

แม้ว่าการแข่งขันความรู้นี้จะยังคงเป็นไปตามหลักปฏิบัติแบบปกติ แต่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้แบ่งการแข่งขันความรู้ที่ควรจะจบลงในหนึ่งวันออกเป็นสองวันแทน เพื่อให้นักศึกษาที่เข้าร่วมทุกคนมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ เพราะเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้คำนึงถึงความสมดุลของการแข่งขันกับการพักผ่อนของนักศึกษา

เมื่อผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม เฉินอินเซิงจึงพูดต่อว่า

“ถ้าอย่างนั้น การประชุมของวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ เดี๋ยวฉันจะพาพวกคุณไปทัวร์มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงของพวกเราว่าเป็นอย่างไร”

เหล่าผู้บริหารและนักศึกษาทุกคนพยักหน้าแล้วลุกยืนขึ้น เพราะทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นธรรมเนียม

เฉินอินเซิงพาผู้บริหารกับนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยออกไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและสัมผัสถึงบรรยากาศการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย

“นี่คืออาคารเรียนของมหาวิทยาลัยพวกเรา”

เมื่อออกจากห้องประชุมมา เฉินอินเซิงก็ชี้ไปยังอาคารเรียนที่อยู่ไม่ไกลแล้วพูดว่า “นักศึกษาจะเรียนที่นี่ บางครั้งก็จะมีอาจารย์อาวุโสมาสอน”

“อีกฝั่งเป็นหอชายของมหาวิทยาลัยพวกเรา”

“นั่นเป็นหอพักหญิง”

เฉินอินเซิงกล่าวแนะนำสถานที่ตลอดทาง ทุกครั้งที่พวกเขาเดินไปถึงอาคารไหน เฉินอินเซิงก็จะพูดแนะนำพร้อมกับรอยยิ้ม

ตั้งแต่อาคารเรียน อาคารสำนักงาน หอพัก และโรงอาหารไปจนถึงสนามกีฬา ทะเลสาบกลาง และภูเขาเหยาหวัง ทั้งหมดได้ถูกแนะนำไปหมดแล้ว

และเนื่องจากที่นี่เปิดเทอมแล้ว จึงทำให้มีนักศึกษาจำนวนมาก

ไม่ว่าคนของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งจะไปที่ใด นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็มักจะมองพวกเขาจากระยะไกล และชี้ไปที่พวกเขา

โดยเฉพาะตอนที่ได้เจอกับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย

เหล่านักศึกษาชายแทบจะคลั่งตาย แม้แต่นักศึกษาหญิงก็ยังรู้สึกชื่นชมและอิจฉา

“โคตรสวยเลยว่ะ!”

“ผู้หญิงคนนั้นมาจากมหาวิทยาลัยไหน? สวยมากเลย!”

“ไม่นึกเลยว่ามหาวิทยาลัยอื่นจะมีนักศึกษาหญิงที่สวยขนาดนี้ด้วย สวยจนแข่งกับเจียงเหมี่ยวอวี๋ได้เลยนะเนี่ย”

“สวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋เหอะ!”

“สวยทั้งคู่นั่นแหละ”

เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าที่บริสุทธิ์และงดงามหาที่เปรียบมิได้ของเธอ จะทำให้นักศึกษาเหล่านั้นสนใจขึ้นมา และยังคงมีคนแอบถ่ายรูปของเธอต่อไป

จากนั้น พวกที่แอบถ่ายรูปก็รีบกระจายข่าวให้เพื่อน ๆ ของตัวเองรู้ว่า มีสาวสวยมาหาที่มหาวิทยาลัย

ในไม่ช้า โพสต์อันสุดฮอตก็ปรากฏขึ้นบนเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย

‘สวยจนอึ้ง! เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย ดอกไม้ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย!’

เหล่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงต่างคลิกที่โพสต์เพื่อดูเนื้อหาในนั้น

[ชื่อ: เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย

มหาวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย (เป็นดอกไม้ดอกใหม่ของมหาวิทยาลัย)

คุณสมบัติ: เรียนเก่งมาก (ในการทดสอบก่อนการแข่งขันความรู้ เธอได้คะแนนสูงที่สุด)

ข้อมูลอื่น ๆ: ไม่มี]

ไม่รู้ว่าคนที่โพสต์ข้อความได้ข้อมูลมาจากที่ไหน แต่เขาก็ยังแบ่งปันข้อมูลของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยให้คนอื่นรับรู้

ใต้ข้อมูลของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเป็นอัลบั้มรูปภาพไม่ผ่านการรีทัชและไม่ใส่ฟิลเตอร์

มีภาพถ่ายใบหนึ่ง เป็นภาพเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยยืนอยู่ท่ามกลางนักศึกษา แต่เธอดูโดดเด่นกว่าทุกคน หญิงสาวสวมแค่ชุดนักศึกษา เนื่องจากอากาศร้อนเกินไป เธอจึงผูกชายเสื้อไว้ที่เอว กลายเป็นภาพที่สวยงามเหมือนนางฟ้า

รูปพวกนั้นมีภาพถ่ายใบหน้าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยในระยะใกล้อยู่ด้วย แต่ละภาพเต็มไปด้วยความคิดเห็นมากมาย

ทันทีที่โพสต์นี้ปรากฏขึ้นมา มันก็จุดระเบิดความสนใจในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยทันที

[บ้าไปแล้ว นี่มันเทพธิดาชัด ๆ!]

[สวยมาก! ใครถ่ายวะเนี่ย?]

[เธอมาที่มหาวิทยาลัยของพวกเราเหรอ? ตอนนี้เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหาเธอ!]

[เธอสวยจริง ๆ!]

[ดูหน้าของเธอทำไมกัน พวกนายดูอย่างอื่นบ้างสิ! เอวคอด สะโพกผาย ขายาวสวย… เทพธิดาที่สมบูรณ์แบบที่สุด!]

[เธอสูงมาก! เธอสูงเกิน 170 เซนติเมตรใช่ไหม? คนเตี้ยอย่างพวกเราจะอยู่ยังไงบนใบโลกนี้ล่ะเนี่ย]

[เฮ้ย เตี้ยแล้วเป็นไรอะ? ถึงฉันจะสูงแค่ 168 เซนติเมตร แต่ฉันก็ชอบเธอ ขอแค่มีความตั้งใจ ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ก็แก้ไขได้ แล้วฉันก็เชื่อว่าตราบเท่าที่ฉันตั้งใจตื๊อ เธอจะต้องชอบฉันอย่างแน่นอน ไม่มีใครจะมาแย่งเธอไปจากฉันได้หรอก! บอกฉันมาว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว ฉันอยากไปบอกเธอว่าฉันชอบเธอ!]

[ความเห็นข้างบนบ้าไปแล้ว]

[ความเห็นข้างบนบ้าไปแล้ว +1]

ในไม่ช้า หัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่อง ‘เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยสวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋หรือเปล่า’

[บอกฉันมาว่าใครสวยกว่ากันระหว่างเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกับเจียงเหมี่ยวอวี๋?]

[สวยทั้งคู่นั่นแหละ!]

[ฉันว่าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยสวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋ เพราะเธอเป็นสไตล์ที่ฉันชอบ]

[เทพธิดาเจียงเหมี่ยวอวี๋ของฉันสวยกว่าตั้งเยอะ!]

[พวกนายเป็นบ้าหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมต้องเปรียบเทียบดอกไม้ของสองมหาลัยด้วย โดนคนโพสต์ปั่นหรือไง?!]

[ฉันไม่สน ฉันทีมเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย]

[สนับสนุนเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย +1]

[สนับสนุนเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย +2]

[ฉันสนับสนุนเจียงเหมี่ยวอวี๋]

[สนับสนุนเจียงเหมี่ยวอวี๋ +2]

ในเว็บบอร์ดได้เกิดความโกลาหลขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกนักศึกษาว่างกันขนาดไหน

อีกด้านหนึ่ง เฉินอินเซิงยังคงนำทางผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย

พวกเขาเดินชมจนถึงหกโมงเย็น

เฉินอินเซิงพากลุ่มคนไปที่โรงอาหารที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับการแข่งขันความรู้ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่น

“ไม่ต้องเกรงใจกันนะ ถ้าทุกคนต้องการอะไรก็แจ้งมาได้เลยนะ พวกเราจะจัดหามาให้นะครับ” ก่อนรับประทานอาหาร เฉินอินเซิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม

หลังจากที่ทุกคนแลกเปลี่ยนคำทักทายกันแล้ว เฉินอินเซิงก็ไปตรวจดูอาหารที่เตรียมเอาไว้

แม้ว่าที่แห่งนี้จะไม่ใช่โรงอาหารจริง ๆ แต่อาหารก็ถูกสั่งมาจากชั้นสองของโรงอาหาร ก็มีรสชาติดีกว่าในโรงแรมและร้านอาหารข้างนอกมหาวิทยาลัยเสียอีก

หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานหลายคนก็รีบเข้ามาติดตั้งเครื่องฉายโพรเจ็กเตอร์ในโรงอาหารอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ไฟบนโปรเจกเตอร์สว่างวาบขึ้นมา วิดีโอก็ถูกฉายออกมาทันที ซึ่งก็เป็นวิดีโอพิธีเปิดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

เนื่องจากอาหารยังไม่มาเสิร์ฟ ทุกคนจึงดูวิดีโอระหว่างรอ เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ ทันใดนั้นพวกเขาก็ชะงักทันที

“เจียงเหมี่ยวอวี๋?”

“เป็นเจียงเหมี่ยวอวี๋จริง ๆ ด้วย!”

ในวิดีโอ เจียงเหมี่ยวอวี๋ปรากฏตัวออกมาเป็นคนแรก ทุกคนจึงจ้องไปที่โพรเจกเตอร์เขม็ง

หลังจากที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ร้องเพลงจบ ทุกคนก็รู้สึกได้ว่าเสียงของเธอไพเราะมาก จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและแอบชื่นชมในใจ

จากนั้นวิดีโอก็ฉายต่อไป ทุกคนต่างพูดคุยไปพลางหัวเราะไปพลาง

เมื่อฟางชิวปรากฏตัวในวิดีโอ ทุกคนก็หยุดพูดคุย แต่ก็ไม่ได้มองฟางชิวบ่อยนักเหมือนตอนที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ออกมา

แต่แล้ว พอฟางชิวร้องเพลงจบ ผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งก็ตกตะลึง

“เฮ้ย! หมอนั่นมันอะไรกัน”

ตอนที่ฟางชิวร้องเพลงในห้องประชุม เขาร้องได้ดีมากก็จริง แต่พอมาเห็นวิดีโอพิธีเปิดแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และผิดมากด้วย

เพราะความสามารถในการร้องเพลงของฟางชิวเกินจินตนาการของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

ทักษะการร้องเพลงของฟางชิวสามารถเทียบเคียงกับนักร้องมืออาชีพได้เลย!

เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งที่เตรียมการแสดงเอาไว้หันมามองตากันอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็สั่งให้นักศึกษาของพวกเขาทั้งหมด…

ยกเลิกการแสดง!

จะให้แสดงอะไรอีก!

ตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะข่มขวัญนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงในแง่มุมของความสามารถก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันความรู้สักหน่อย

เพราะพวกเขารู้ดีว่า ก่อนเริ่มการแข่งขันความรู้อย่างเป็นทางการ อารมณ์ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันมีความสำคัญมาก เมื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันถูกข่มขวัญ พวกเขาก็จะตื่นตระหนก แล้วความตื่นตระหนกก็จะนำไปสู่ความปั่นป่วนทางอารมณ์ และความปั่นป่วนทางอารมณ์ก็จะนำไปสู่ความผิดพลาด

แค่ความผิดพลาดเล็กน้อยก็สามารถกำหนดทิศทางของการแข่งขันความรู้ได้ การตัดกำลังของคู่แข่งแบบนี้จึงทำกันเป็นเรื่องปกติ

แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว!

ถ้าเทียบการแสดงความสามารถของพวกเขากับการแสดงของฟางชิวแล้ว การแสดงของพวกเขาก็จะน่าขายหน้าทันที

ฉะนั้นยกเลิกไปนั่นแหละดีแล้ว ดีกว่าแสดงไปแล้วมารู้สึกขายหน้าทีหลัง

พวกผู้บริหารทั้งหลายย่อมมีประสบการณ์และความชาญฉลาดในการคิดคำนวณล่วงหน้า ทว่านักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยต่างพากันหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เพื่อการแสดงความสามารถในครั้งนี้ พวกเขาต้องเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้มันกลับไร้ประโยชน์แล้ว พวกเขายังไม่ทันได้ขึ้นแสดงด้วยซ้ำ การแสดงของฟางชิวก็กลบรัศมีคนอื่นเสียมิดเลย

น่าหดหู่ใจจริง ๆ!

เมื่อวิดีโอพิธีเปิดสิ้นสุด อาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะของทุกคน

เฉินอินเซิงกลับมาที่โรงอาหารชั่วคราวแล้วนั่งโต๊ะเดียวกันกับเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่ง ระหว่างทานอาหารพวกเขาก็คุยกันอย่างเป็นมิตร

เหล่านักศึกษาก็นั่งที่โต๊ะกับเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยตนเอง เริ่มทานอาหารอย่างมีความสุข

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

เมื่อเห็นว่าทุกคนกินกันเกือบเสร็จแล้ว เฉินอินเซิงก็ยืนขึ้น กล่าวอวยพรให้กับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “พวกคุณเตรียมการแสดงความสามารถมาใช่ไหมครับ? ในเมื่อกินอิ่มกันแล้ว พวกเราก็มาชมการแสดงกันเถอะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันก็รู้สึกเกลียดขี้หน้าเฉินอินเซิงทันที

จะพูดอะไรก็ไม่พูด ทำไมต้องมาพูดจี้ปมพวกเขาด้วย!

“ใช่แล้ว อธิการบดีซ่ง ไม่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจวของคุณได้เตรียมการแสดงความสามารถมาหรอกเหรอ” เจียงไห่ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยกล่าวขึ้นมาในทันที

โอกาสอันดีในการโจมตีคู่แข่งแบบนี้ คนอย่างเจียงไห่ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว

ใครใช้ให้อธิการบดีซ่งเป็นคนเสนอเรื่องการแสดงความสามารถขึ้นมาล่ะ? สุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า ถูกมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงข่มขวัญจนขวัญหายกันหมด

นักศึกษาของเจียงไห่ก็ถูกข่มขวัญเช่นกัน เขาจึงต้องลากทุกคนลงมากับเขาด้วย!

ซ่งเหวินหัวที่ถูกเจียงไห่ทักขึ้นมาแทบอยากจะกระอักเลือดออกมาทันที เขารีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “ความจริงนักศึกษาของฉันไม่ได้เตรียมการแสดงความสามารถมา ที่บอกว่าได้เตรียมการแสดงมา ฉันก็แค่พูดสร้างบรรยากาศให้มันคึกคักขึ้นมาก็เท่านั้นเอง เอาจริง ๆ ฉันไม่ได้เตรียมมาหรอก”

“ใช่แล้ว ๆ” จางกั๋วต้ง รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวก็รีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อการแข่งขันความรู้ ไม่ใช่แสดงความสามารถสักหน่อยนี่ครับ”

“พวกเราเพิ่งจะกินอิ่มกัน การเคลื่อนไหวมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเด็ก ๆ บอบช้ำ ในฐานะที่พวกเราเป็นหมอ พวกเราก็ไม่ควรจะทำร้ายเด็กนะ!”

“ถูกต้อง พวกเราเพิ่งจะมาถึงที่นี่กันวันนี้เอง นักศึกษาของพวกเราก็ยังไม่คุ้นกับสถานที่เลย การแสดงความสามารถพิเศษนี้ก็ยกเลิกไปเถอะ”

“มะรืนนี้จะแข่งขันกันแล้ว ให้เด็ก ๆ พักผ่อนเถอะ การแสดงจะทำให้พวกเขาเหนื่อยกันเปล่า ๆ นะครับ!”

นอกจากเจียงไห่แล้ว ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างรวดเร็ว

พวกเขาต่างมุ่งมั่นที่จะปัดการแสดงความสามารถพิเศษทิ้งไป

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท