บทที่ 156 การแสดงความสามารถที่ถูกปัดทิ้ง
บทที่ 156 การแสดงความสามารถที่ถูกปัดทิ้ง
“ในวันอาทิตย์ พวกเราจะจัดการแข่งขันรอบที่สาม ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศ” เฉินอินเซิงกล่าวอีกครั้งว่า “รอบที่สามคือการแข่งขันความรู้ประเภทเดี่ยว”
“ในการแข่งก็ต้องยกมือก่อน แล้วถึงจะตอบคำถามได้ ส่วนการแข่งขันสุดท้ายคือ การแข่งขันแบบตัวต่อตัว คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของรอบที่สามจะเป็นแชมป์ของการแข่งขันความรู้ในครั้งนี้”
“อ้อ ในช่วงบ่ายของการประลองความรู้ พวกเราจะจัดพิธีมอบรางวัลให้อย่างยิ่งใหญ่ด้วย”
เฉินอินเซิงกวาดสายตามองไปที่ทุกคนแล้วยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็มองไปยังเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งและถามว่า “พวกคุณพึงพอใจกับการจัดการแข่งขันความรู้ในมหาวิทยาลัยของพวกเราไหม”
“พอใจ” เจียงไห่เป็นผู้นำในการปรบมือและกล่าวว่า “การแข่งขันครั้งนี้ถูกจัดเตรียมเป็นอย่างดีจริง ๆ”
“อืม การแข่งขันนี้จัดได้ดีมาก แม้ว่ากฎจะคล้ายกับก่อนหน้านี้ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แล้วการเปลี่ยนแปลงนี้ก็ทำให้มันดีขึ้นมาก” จางกั๋วต้ง รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเจียงไห่
ผู้บริหารคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
แม้ว่าการแข่งขันความรู้นี้จะยังคงเป็นไปตามหลักปฏิบัติแบบปกติ แต่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้แบ่งการแข่งขันความรู้ที่ควรจะจบลงในหนึ่งวันออกเป็นสองวันแทน เพื่อให้นักศึกษาที่เข้าร่วมทุกคนมีเวลาพักผ่อนเพียงพอ เพราะเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงได้คำนึงถึงความสมดุลของการแข่งขันกับการพักผ่อนของนักศึกษา
เมื่อผู้บริหารของมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ ไม่ได้พูดอะไรออกมาเพิ่มเติม เฉินอินเซิงจึงพูดต่อว่า
“ถ้าอย่างนั้น การประชุมของวันนี้ก็จบเพียงเท่านี้ เดี๋ยวฉันจะพาพวกคุณไปทัวร์มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงของพวกเราว่าเป็นอย่างไร”
เหล่าผู้บริหารและนักศึกษาทุกคนพยักหน้าแล้วลุกยืนขึ้น เพราะทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นธรรมเนียม
เฉินอินเซิงพาผู้บริหารกับนักศึกษาของแต่ละมหาวิทยาลัยออกไปทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมและสัมผัสถึงบรรยากาศการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย
“นี่คืออาคารเรียนของมหาวิทยาลัยพวกเรา”
เมื่อออกจากห้องประชุมมา เฉินอินเซิงก็ชี้ไปยังอาคารเรียนที่อยู่ไม่ไกลแล้วพูดว่า “นักศึกษาจะเรียนที่นี่ บางครั้งก็จะมีอาจารย์อาวุโสมาสอน”
“อีกฝั่งเป็นหอชายของมหาวิทยาลัยพวกเรา”
“นั่นเป็นหอพักหญิง”
…
เฉินอินเซิงกล่าวแนะนำสถานที่ตลอดทาง ทุกครั้งที่พวกเขาเดินไปถึงอาคารไหน เฉินอินเซิงก็จะพูดแนะนำพร้อมกับรอยยิ้ม
ตั้งแต่อาคารเรียน อาคารสำนักงาน หอพัก และโรงอาหารไปจนถึงสนามกีฬา ทะเลสาบกลาง และภูเขาเหยาหวัง ทั้งหมดได้ถูกแนะนำไปหมดแล้ว
และเนื่องจากที่นี่เปิดเทอมแล้ว จึงทำให้มีนักศึกษาจำนวนมาก
ไม่ว่าคนของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งจะไปที่ใด นักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็มักจะมองพวกเขาจากระยะไกล และชี้ไปที่พวกเขา
โดยเฉพาะตอนที่ได้เจอกับเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย
เหล่านักศึกษาชายแทบจะคลั่งตาย แม้แต่นักศึกษาหญิงก็ยังรู้สึกชื่นชมและอิจฉา
“โคตรสวยเลยว่ะ!”
“ผู้หญิงคนนั้นมาจากมหาวิทยาลัยไหน? สวยมากเลย!”
“ไม่นึกเลยว่ามหาวิทยาลัยอื่นจะมีนักศึกษาหญิงที่สวยขนาดนี้ด้วย สวยจนแข่งกับเจียงเหมี่ยวอวี๋ได้เลยนะเนี่ย”
“สวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋เหอะ!”
“สวยทั้งคู่นั่นแหละ”
…
เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยไม่รู้ตัวเลยว่าใบหน้าที่บริสุทธิ์และงดงามหาที่เปรียบมิได้ของเธอ จะทำให้นักศึกษาเหล่านั้นสนใจขึ้นมา และยังคงมีคนแอบถ่ายรูปของเธอต่อไป
จากนั้น พวกที่แอบถ่ายรูปก็รีบกระจายข่าวให้เพื่อน ๆ ของตัวเองรู้ว่า มีสาวสวยมาหาที่มหาวิทยาลัย
ในไม่ช้า โพสต์อันสุดฮอตก็ปรากฏขึ้นบนเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัย
‘สวยจนอึ้ง! เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย ดอกไม้ของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย!’
เหล่านักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงต่างคลิกที่โพสต์เพื่อดูเนื้อหาในนั้น
[ชื่อ: เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย
มหาวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ย (เป็นดอกไม้ดอกใหม่ของมหาวิทยาลัย)
คุณสมบัติ: เรียนเก่งมาก (ในการทดสอบก่อนการแข่งขันความรู้ เธอได้คะแนนสูงที่สุด)
ข้อมูลอื่น ๆ: ไม่มี]
ไม่รู้ว่าคนที่โพสต์ข้อความได้ข้อมูลมาจากที่ไหน แต่เขาก็ยังแบ่งปันข้อมูลของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยให้คนอื่นรับรู้
ใต้ข้อมูลของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยเป็นอัลบั้มรูปภาพไม่ผ่านการรีทัชและไม่ใส่ฟิลเตอร์
มีภาพถ่ายใบหนึ่ง เป็นภาพเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยยืนอยู่ท่ามกลางนักศึกษา แต่เธอดูโดดเด่นกว่าทุกคน หญิงสาวสวมแค่ชุดนักศึกษา เนื่องจากอากาศร้อนเกินไป เธอจึงผูกชายเสื้อไว้ที่เอว กลายเป็นภาพที่สวยงามเหมือนนางฟ้า
รูปพวกนั้นมีภาพถ่ายใบหน้าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยในระยะใกล้อยู่ด้วย แต่ละภาพเต็มไปด้วยความคิดเห็นมากมาย
ทันทีที่โพสต์นี้ปรากฏขึ้นมา มันก็จุดระเบิดความสนใจในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยทันที
[บ้าไปแล้ว นี่มันเทพธิดาชัด ๆ!]
[สวยมาก! ใครถ่ายวะเนี่ย?]
[เธอมาที่มหาวิทยาลัยของพวกเราเหรอ? ตอนนี้เธออยู่ไหน? ฉันจะไปหาเธอ!]
[เธอสวยจริง ๆ!]
[ดูหน้าของเธอทำไมกัน พวกนายดูอย่างอื่นบ้างสิ! เอวคอด สะโพกผาย ขายาวสวย… เทพธิดาที่สมบูรณ์แบบที่สุด!]
[เธอสูงมาก! เธอสูงเกิน 170 เซนติเมตรใช่ไหม? คนเตี้ยอย่างพวกเราจะอยู่ยังไงบนใบโลกนี้ล่ะเนี่ย]
[เฮ้ย เตี้ยแล้วเป็นไรอะ? ถึงฉันจะสูงแค่ 168 เซนติเมตร แต่ฉันก็ชอบเธอ ขอแค่มีความตั้งใจ ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ก็แก้ไขได้ แล้วฉันก็เชื่อว่าตราบเท่าที่ฉันตั้งใจตื๊อ เธอจะต้องชอบฉันอย่างแน่นอน ไม่มีใครจะมาแย่งเธอไปจากฉันได้หรอก! บอกฉันมาว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหนแล้ว ฉันอยากไปบอกเธอว่าฉันชอบเธอ!]
[ความเห็นข้างบนบ้าไปแล้ว]
[ความเห็นข้างบนบ้าไปแล้ว +1]
ในไม่ช้า หัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนไปเป็นเรื่อง ‘เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยสวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋หรือเปล่า’
[บอกฉันมาว่าใครสวยกว่ากันระหว่างเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกับเจียงเหมี่ยวอวี๋?]
[สวยทั้งคู่นั่นแหละ!]
[ฉันว่าเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยสวยกว่าเจียงเหมี่ยวอวี๋ เพราะเธอเป็นสไตล์ที่ฉันชอบ]
[เทพธิดาเจียงเหมี่ยวอวี๋ของฉันสวยกว่าตั้งเยอะ!]
[พวกนายเป็นบ้าหรือเปล่าเนี่ย? ทำไมต้องเปรียบเทียบดอกไม้ของสองมหาลัยด้วย โดนคนโพสต์ปั่นหรือไง?!]
[ฉันไม่สน ฉันทีมเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย]
[สนับสนุนเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย +1]
[สนับสนุนเจี่ยงเมิ่งเจี๋ย +2]
[ฉันสนับสนุนเจียงเหมี่ยวอวี๋]
[สนับสนุนเจียงเหมี่ยวอวี๋ +2]
ในเว็บบอร์ดได้เกิดความโกลาหลขึ้น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกนักศึกษาว่างกันขนาดไหน
อีกด้านหนึ่ง เฉินอินเซิงยังคงนำทางผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งเยี่ยมชมมหาวิทยาลัย
พวกเขาเดินชมจนถึงหกโมงเย็น
เฉินอินเซิงพากลุ่มคนไปที่โรงอาหารที่เตรียมไว้เป็นพิเศษสำหรับการแข่งขันความรู้ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยอื่น
“ไม่ต้องเกรงใจกันนะ ถ้าทุกคนต้องการอะไรก็แจ้งมาได้เลยนะ พวกเราจะจัดหามาให้นะครับ” ก่อนรับประทานอาหาร เฉินอินเซิงก็กล่าวด้วยรอยยิ้ม
หลังจากที่ทุกคนแลกเปลี่ยนคำทักทายกันแล้ว เฉินอินเซิงก็ไปตรวจดูอาหารที่เตรียมเอาไว้
แม้ว่าที่แห่งนี้จะไม่ใช่โรงอาหารจริง ๆ แต่อาหารก็ถูกสั่งมาจากชั้นสองของโรงอาหาร ก็มีรสชาติดีกว่าในโรงแรมและร้านอาหารข้างนอกมหาวิทยาลัยเสียอีก
หลังจากนั้นไม่นาน พนักงานหลายคนก็รีบเข้ามาติดตั้งเครื่องฉายโพรเจ็กเตอร์ในโรงอาหารอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ไฟบนโปรเจกเตอร์สว่างวาบขึ้นมา วิดีโอก็ถูกฉายออกมาทันที ซึ่งก็เป็นวิดีโอพิธีเปิดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง
เนื่องจากอาหารยังไม่มาเสิร์ฟ ทุกคนจึงดูวิดีโอระหว่างรอ เพราะตอนนี้พวกเขาไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ ทันใดนั้นพวกเขาก็ชะงักทันที
“เจียงเหมี่ยวอวี๋?”
“เป็นเจียงเหมี่ยวอวี๋จริง ๆ ด้วย!”
ในวิดีโอ เจียงเหมี่ยวอวี๋ปรากฏตัวออกมาเป็นคนแรก ทุกคนจึงจ้องไปที่โพรเจกเตอร์เขม็ง
หลังจากที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ร้องเพลงจบ ทุกคนก็รู้สึกได้ว่าเสียงของเธอไพเราะมาก จึงพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและแอบชื่นชมในใจ
จากนั้นวิดีโอก็ฉายต่อไป ทุกคนต่างพูดคุยไปพลางหัวเราะไปพลาง
เมื่อฟางชิวปรากฏตัวในวิดีโอ ทุกคนก็หยุดพูดคุย แต่ก็ไม่ได้มองฟางชิวบ่อยนักเหมือนตอนที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ออกมา
แต่แล้ว พอฟางชิวร้องเพลงจบ ผู้บริหารและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งก็ตกตะลึง
“เฮ้ย! หมอนั่นมันอะไรกัน”
ตอนที่ฟางชิวร้องเพลงในห้องประชุม เขาร้องได้ดีมากก็จริง แต่พอมาเห็นวิดีโอพิธีเปิดแล้ว พวกเขาก็รู้ว่าตนคิดผิด และผิดมากด้วย
เพราะความสามารถในการร้องเพลงของฟางชิวเกินจินตนาการของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง
ทักษะการร้องเพลงของฟางชิวสามารถเทียบเคียงกับนักร้องมืออาชีพได้เลย!
เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งที่เตรียมการแสดงเอาไว้หันมามองตากันอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็สั่งให้นักศึกษาของพวกเขาทั้งหมด…
ยกเลิกการแสดง!
จะให้แสดงอะไรอีก!
ตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะข่มขวัญนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงในแง่มุมของความสามารถก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันความรู้สักหน่อย
เพราะพวกเขารู้ดีว่า ก่อนเริ่มการแข่งขันความรู้อย่างเป็นทางการ อารมณ์ของผู้เข้าร่วมการแข่งขันมีความสำคัญมาก เมื่อผู้เข้าร่วมการแข่งขันถูกข่มขวัญ พวกเขาก็จะตื่นตระหนก แล้วความตื่นตระหนกก็จะนำไปสู่ความปั่นป่วนทางอารมณ์ และความปั่นป่วนทางอารมณ์ก็จะนำไปสู่ความผิดพลาด
แค่ความผิดพลาดเล็กน้อยก็สามารถกำหนดทิศทางของการแข่งขันความรู้ได้ การตัดกำลังของคู่แข่งแบบนี้จึงทำกันเป็นเรื่องปกติ
แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว!
ถ้าเทียบการแสดงความสามารถของพวกเขากับการแสดงของฟางชิวแล้ว การแสดงของพวกเขาก็จะน่าขายหน้าทันที
ฉะนั้นยกเลิกไปนั่นแหละดีแล้ว ดีกว่าแสดงไปแล้วมารู้สึกขายหน้าทีหลัง
พวกผู้บริหารทั้งหลายย่อมมีประสบการณ์และความชาญฉลาดในการคิดคำนวณล่วงหน้า ทว่านักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยต่างพากันหดหู่ใจเป็นอย่างมาก เพื่อการแสดงความสามารถในครั้งนี้ พวกเขาต้องเตรียมตัวมาเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้มันกลับไร้ประโยชน์แล้ว พวกเขายังไม่ทันได้ขึ้นแสดงด้วยซ้ำ การแสดงของฟางชิวก็กลบรัศมีคนอื่นเสียมิดเลย
น่าหดหู่ใจจริง ๆ!
เมื่อวิดีโอพิธีเปิดสิ้นสุด อาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะของทุกคน
เฉินอินเซิงกลับมาที่โรงอาหารชั่วคราวแล้วนั่งโต๊ะเดียวกันกับเหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่ง ระหว่างทานอาหารพวกเขาก็คุยกันอย่างเป็นมิตร
เหล่านักศึกษาก็นั่งที่โต๊ะกับเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยตนเอง เริ่มทานอาหารอย่างมีความสุข
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
เมื่อเห็นว่าทุกคนกินกันเกือบเสร็จแล้ว เฉินอินเซิงก็ยืนขึ้น กล่าวอวยพรให้กับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่ง จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “พวกคุณเตรียมการแสดงความสามารถมาใช่ไหมครับ? ในเมื่อกินอิ่มกันแล้ว พวกเราก็มาชมการแสดงกันเถอะ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เหล่าผู้บริหารของมหาวิทยาลัยทั้งแปดแห่งที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกันก็รู้สึกเกลียดขี้หน้าเฉินอินเซิงทันที
จะพูดอะไรก็ไม่พูด ทำไมต้องมาพูดจี้ปมพวกเขาด้วย!
“ใช่แล้ว อธิการบดีซ่ง ไม่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจงโจวของคุณได้เตรียมการแสดงความสามารถมาหรอกเหรอ” เจียงไห่ รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงเป่ยกล่าวขึ้นมาในทันที
โอกาสอันดีในการโจมตีคู่แข่งแบบนี้ คนอย่างเจียงไห่ไม่มีทางพลาดอยู่แล้ว
ใครใช้ให้อธิการบดีซ่งเป็นคนเสนอเรื่องการแสดงความสามารถขึ้นมาล่ะ? สุดท้ายเป็นอย่างไรเล่า ถูกมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงข่มขวัญจนขวัญหายกันหมด
นักศึกษาของเจียงไห่ก็ถูกข่มขวัญเช่นกัน เขาจึงต้องลากทุกคนลงมากับเขาด้วย!
ซ่งเหวินหัวที่ถูกเจียงไห่ทักขึ้นมาแทบอยากจะกระอักเลือดออกมาทันที เขารีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “ความจริงนักศึกษาของฉันไม่ได้เตรียมการแสดงความสามารถมา ที่บอกว่าได้เตรียมการแสดงมา ฉันก็แค่พูดสร้างบรรยากาศให้มันคึกคักขึ้นมาก็เท่านั้นเอง เอาจริง ๆ ฉันไม่ได้เตรียมมาหรอก”
“ใช่แล้ว ๆ” จางกั๋วต้ง รองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนฮุ่ยโจวก็รีบกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “พวกเรามาที่นี่เพื่อการแข่งขันความรู้ ไม่ใช่แสดงความสามารถสักหน่อยนี่ครับ”
“พวกเราเพิ่งจะกินอิ่มกัน การเคลื่อนไหวมาก ๆ จะทำให้ร่างกายเด็ก ๆ บอบช้ำ ในฐานะที่พวกเราเป็นหมอ พวกเราก็ไม่ควรจะทำร้ายเด็กนะ!”
“ถูกต้อง พวกเราเพิ่งจะมาถึงที่นี่กันวันนี้เอง นักศึกษาของพวกเราก็ยังไม่คุ้นกับสถานที่เลย การแสดงความสามารถพิเศษนี้ก็ยกเลิกไปเถอะ”
“มะรืนนี้จะแข่งขันกันแล้ว ให้เด็ก ๆ พักผ่อนเถอะ การแสดงจะทำให้พวกเขาเหนื่อยกันเปล่า ๆ นะครับ!”
…
นอกจากเจียงไห่แล้ว ผู้บริหารของมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ก็ได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างรวดเร็ว
พวกเขาต่างมุ่งมั่นที่จะปัดการแสดงความสามารถพิเศษทิ้งไป