บทที่ 171 ยังไม่หมดเวลา?
บทที่ 171 ยังไม่หมดเวลา?
ข่าวฟางชิวถูกวางยาแพร่ไปถึงหูผู้บริหารและเหล่านักศึกษาอีกแปดมหาวิทยาลัยทันที ในตอนแรกที่ได้ยินทุกคนพากันตกใจ แต่ไม่นานก็รู้สึกตื่นเต้นแทน
ฟางชิวเป็นตัวเต็งมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง! แต่กลับถูกวางยาเนี่ยนะ?!
หากชายหนุ่มไม่อาจเข้าร่วมการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ได้ งั้นมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ลำบากแล้วล่ะ
เพราะถ้าไม่มีฟางชิวก็จะเป็นเหมือนเสือโดนถอดเขี้ยวเล็บ ประสิทธิภาพในการแข่งขันก็จะลดลงไปครึ่งหนึ่งหรือน้อยกว่านั้น!
ดังนั้นผู้บริหารของทุกมหาวิทยาลัยจึงอธิษฐานขอให้ฟางชิวไม่สามารถมาเข้าร่วมการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ พวกเขาก็จะเฉิดฉายในการแข่งขันประเภทเดี่ยวได้!
ในเวลาเดียวกันก็แอบสงสัยว่าเทพองค์ไหนเป็นคนทำ? อยากกราบไหวสุดหัวใจที่ช่วยเหลือมหาวิทยาลัยของพวกเขาเอาไว้!
ฮ่า ๆๆ!!
แต่เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกลับรู้สึกกระวนกระวาย เธอเป็นห่วงอาการของชายหนุ่มมาก
เขาจะเป็นอะไรมากไหมนะ…
เธอต้องการไปหาฟางชิวเดี๋ยวนี้เลย แต่ผู้บริหารคงไม่อนุญาตให้เธอออกไปไหนมืด ๆ ค่ำ ๆ เช่นนี้
และเธอก็กังวลว่าจะไปรบกวนฟางชิว สิ่งที่ทำได้จึงมีแค่เดินไปมาในห้องด้วยความร้อนใจ
ใช่แล้ว เจียงเหมี่ยวอวี๋!
จู่ ๆ เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยก็ชะงักฝีเท้า แววตาเปล่งประกายขึ้นมา
ฉันโทรหาเจียงเหมี่ยวอวี๋ได้นี่นา! เธอน่าจะรู้อาการของฟางชิวบ้างแหละน่า
เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาเจียงเหมี่ยวอวี๋ทันที
“[ฮัลโหล?]” เสียงของหญิงสาวดังมาจากปลายสาย
“เหมี่ยวอวี๋ ฉันได้ยินว่าฟางชิวถูกวางยา เกิดอะไรขึ้นกันแน่? เขาเป็นไงบ้าง” เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยถามอย่างร้อนรน
“[อาการไม่ค่อยดีเลย]” เจียงเหมี่ยวอวี๋กล่าวตอบเสียงเบา “[…มีคนวางยาพิษในอาหาร ทั้งยังเป็นยาพิษที่รุนแรงมาก ถึงอาจารย์ของฟางชิวจะรักษาให้แล้ว แต่ต้องใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะหายเป็นปกติ]”
“ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง” อีกฝ่ายถามกลับ
“[เขาดูปวดมากเลย]” เจียงเหมี่ยวอวี๋หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงกังวล “[เขาดูเจ็บปวดมาก หน้าซีดเซียว เหงื่อเต็มตัวเลย]”
“…ปวดขนาดนั้นเลยเหรอ” คนฟังหลุบตากล่าวเสียงอ่อน
“[ผ่านคืนนี้ไปน่าจะดีขึ้น]” เจียงเหมี่ยวอวี๋เอ่ยเสียงหนักแน่น “[พรุ่งนี้เขาน่าจะไปร่วมการแข่งขันด้วย ถึงเวลานั้นเธอค่อยมาเยี่ยมก็ได้ แต่ตอนนี้เขาคงจะพักผ่อนไปแล้ว]”
“อื้ม” เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยพยักหน้าและวางสายไป อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกตื่นตระหนกกว่าเดิม
ฟางชิว… นายจะต้องหายดีนะ!
…
ในมหาวิทยาลัย
“ฮะ ว่าไงนะ ฟางชิวอาหารเป็นพิษงั้นเหรอ?!”
ในฐานะประธานนักศึกษา หลี่ชิงสือรู้สึกตกใจที่ได้ยินข่าวเช่นกัน
ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดที่จะใส่ยาถ่ายในอาหารของฟางชิว แต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะคิดว่าไม่มีประโยชน์เท่าไร
แล้วพอเห็นว่าเจ้านั่นพามหาวิทยาลัยไปสู่อันดับที่ดีได้ เขาก็รู้สึกดีใจที่ไม่ได้ลงมือทำอะไร
เขารู้สึกชื่นชมฟางชิวจริง ๆ กระนั้นก็ไม่คิดว่าเจ้านั่นจะถูกวางยา!
“ใครทำ?” หลี่ชิงสือขมวดคิ้วขณะปากบ่นพึมพำ
ทว่าจู่ ๆ ก็มีภาพชายคนหนึ่งแวบเข้ามาในหัวฉับพลัน สีหน้าเขาจึงเปลี่ยนไป “เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เขาอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้มหาวิทยาลัยต้องการฟางชิวมาก! น่าจะไม่ใช่เขาหรอก!”
…
ค่ำคืนนี้หลายคนข่มตานอนไม่หลับเพราะการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ อีกทั้งเพราะฟางชิวยังอาการไม่ดีขึ้น
เวลาตีห้า…
อาการเสียดท้องอย่างรุนแรงทำให้ฟางชิวต้องลืมตาตื่น ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกบรรเทาความเจ็บปวด แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาลุกขึ้นมาออกกำลังกายไม่ตรงเวลา
ยาพิษนี้ฤทธิ์แรงมากจนทำให้เขาเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่น แต่อาการก็ยังคงไม่ทุเลา เขาจึงต้องทนความเจ็บปวดต่อไป
ร่างกายของเขามีสารพิษมากเกินไป แม้ว่าแพทย์แผนจีนจะช่วยล้างพิษ แต่ก็ไม่มีวิธีใดที่จะขับสารพิษออกหมดภายในเวลาอันสั้น
ขนาดใช้พลังปราณขับสารพิษก็แล้ว มันก็ยังทำได้ยากเลย เขาจึงต้องใจเย็น ๆ ค่อยขับสารพิษออกอย่างช้า ๆ
ฟางชิวขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพยายามใช้พลังปราณล้างพิษอีกครั้ง
จูเปิ่นเจิ้ง ซุนฮ่าว และโจวเสี่ยวเทียนก็ลุกขึ้นจากเตียงเช่นกัน ปกติพวกเขาไม่ได้ตื่นเช้ามากนัก แต่เคยชินเพราะฟางชิวมักจะมาปลุกตอนตีห้าเกือบทุกวัน
แล้วพวกเขาก็ไม่สามารถนอนต่อได้อีก แม้ว่าจะตาจะปิดอยู่รอมร่อ!
จูเปิ่นเจิ้งมองไปที่ฟางชิว แววตาอ่อนแสงลงเล็กน้อย เขาตัดสินใจออกไปหาโจ๊กที่โรงอาหารให้ฟางชิว
ซุนฮ่าวกับโจวเสี่ยวเทียนก็วิ่งไปที่โรงอาหารเพื่อไปรับยาให้ชายหนุ่มเช่นกัน
…
นี่เป็นครั้งแรกในช่วงสุดสัปดาห์ที่นักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงตื่นแต่เช้าตรู่ พวกเขารีบไปจับจองที่นั่งที่ห้องประชุมใหญ่
การแข่งขันประเภทเดี่ยวกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันนี้ หากไปสายอาจจะไม่มีที่นั่งเลยก็ว่าได้
เมื่อซุนฮ่าวกับโจวเสี่ยวเทียนกำลังเดินกลับจากโรงอาหาร พวกเขาก็ผงะไปเพราะเห็นแถวยาวเหยียดหน้าห้องประชุมใหญ่
คนเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย นี่มันเพิ่งจะกี่โมงกี่ยามเอง
แต่เมื่อนึกถึงเพื่อนที่อาการไม่ค่อยดี พวกเขาก็สะบัดหน้าไล่ความคิดแล้วตรงกลับที่พัก
เวลาแปดโมงครึ่ง
ห้องประชุมก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คน
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นต่างพากันมาชมการแข่งขันรอบสุดท้าย และทุกคนต่างตื่นเต้นและคาดหวังสำหรับการแข่งขันในวันนี้
ผู้คนของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงหวังว่าจะได้เห็นผลงานที่ไม่ธรรมดาของฟางชิวต่อ แต่ไม่รู้ว่าคนที่ต้องการมาเชียร์ตอนนี้นอนซมอยู่บนเตียง
บนเวที
โต๊ะยาวทั้งเก้าโต๊ะหายไปแล้ว แต่ถูกแทนที่ด้วยเก้าอี้ 81 ตัว และแต่ละที่นั่งก็มีกระดานคำตอบวางอยู่
พอถึงเก้าโมงเช้า นักศึกษาทั้งเก้ามหาวิทยาลัยก็มาถึงอย่างตรงเวลา
นักศึกษาเจ็ดคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็มาถึงสถานที่แข่งขันเช่นกัน
เมื่อเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยมาถึง เธอก็กวาดตามองไปทั่ว แต่ไม่เห็นฟางชิวเลย เธอจึงมองไปที่เจียงเหมี่ยวอวี๋ด้วยความสงสัย
เจียงเหมี่ยวอวี๋ส่ายหัวกลับอย่างเป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าฟางชิวจะเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้
ในห้องประชุมใหญ่ ผู้บริหารทุกคนนั่งกันพร้อมหน้า เหลือเพียงที่นั่งว่างเปล่าสองที่บนเวทีเท่านั้น เพราะฟางชิวกับจูเปิ่นเจิ้งยังไม่ปรากฏตัว
เวลาผ่านไปนาน
ในกลุ่มผู้ชม นักศึกษามหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเริ่มซุบซิบกันจอแจ
“ฟางชิวอยู่ที่ไหน?”
“นี่จะเก้าโมงแล้วนะ ทำไมเขายังไม่มาอีก?”
“เกิดอุบัติเหตุอะไรหรือเปล่า”
“เจ้าบ้า อย่าพูดแบบนั้นเซ่!”
“ถ้าฟางชิวไม่มา พวกเราอาจจะแพ้…”
“อืม ก็คงงั้น พวกเราพึ่งพาเขามาตลอดนี่นา ถ้าไม่มีเขา แข่งขันเดี่ยวรอบนี้ชนะยากแล้วล่ะ!”
…
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยอื่นต่างกระซิบพูดคุยกันเช่นกัน
“ฟางชิวไม่มาเหรอ?”
“ถ้าเขาไม่มาก็ดีสิ สวรรค์เข้าข้างเราแล้ว”
“พวกเขาได้เปรียบในสองรอบแรก ถึงฟางชิวจะมา แต่ก็คงไม่ชนะหรอก”
“ยังไงซะ การที่ฟางชิวไม่มาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับทีมของพวกเรา”
“นั่นสิ ฉันหวังว่าเวลาจะผ่านไปเร็ว ๆ!”
…
มีการถกเถียงกันมากมายในหมู่ผู้ชม
ทุกคนบนเวทีที่ได้ยินข่าวเมื่อวานนี้ต่างก็รอดูว่าฟางชิวจะปรากฏตัวทันเวลาหรือไม่ บรรยากาศในห้องประชุมตอนนี้ดูแปลกพิกล เพราะเหล่าผู้ชมดูมีชีวิตชีวากันมาก แต่ผู้ที่อยู่บนเวทีกลับเงียบเหงาอย่างเห็นได้ชัด
เวลา 08.57 น.
ฟางชิวก็ยังคงไม่มา
เวลานี้ทุกคนเริ่มกังวล
ฟางชิวจะไม่มาจริง ๆ หรือ?
เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยกับเจียงเหมี่ยวอวี๋กังวลมากกว่าคนอื่น ๆ เพราะหากชายหนุ่มยังไม่ปรากฏตัว นั่นแสดงว่าอาการคงหนักมากแน่ ๆ
สถานการณ์แบบนี้ พวกเธอจะแข่งขันกันอย่างสบายใจได้อย่างไร?
“ฟางชิวจะมาไหม” เฉินอินเซิงขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามฉีไคเหวินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
ฉีไคเหวินส่ายหัวแล้วพูดด้วยความกังวล “ไม่รู้เหมือนกัน ฉันให้คนเอายาไปให้เขาเมื่อตอนเช้าแล้ว… เขาน่าจะมา”
เวลา 08.59 น.
พิธีกรสาวเดินมาถึงหน้าเวที เหล่าตัวแทนทุกคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเหลือเวลาเพียงหนึ่งนาที หากฟางชิวไม่มาตรงเวลาก็จะถือว่าเขาสละสิทธิ์
ฟางชิวยอมแพ้จริง ๆ หรือ?
เขาจะไม่มาจริงหรือ?
ขณะที่นักศึกษาร่วมทีมกำลังเศร้าหมอง ทันใดนั้นร่างสองร่างก็เดินเข้ามาทางประตูด้านข้างห้องประชุม
พวกเขาคือฟางชิวกับจูเปิ่นเจิ้ง!
“ขออภัยที่ให้รอนาน”
หลังปราศจากการช่วยเหลือจากจูเปิ่นเจิ้งแล้ว ฟางชิวที่มีใบหน้าซีดเซียวก็เอามือกุมท้องเบา ๆ เพราะต้องข่มความเจ็บปวดอย่างรุนแรง
ชายหนุ่มกล่าวกับพิธีกรเบา ๆ ก่อนจะเดินไปที่ที่นั่ง ในขณะเดียวกันจูเปิ่นเจิ้งก็เดินตามหลังมาติด ๆ
หลังเห็นการปรากฏตัวของทั้งสองคนแล้ว ทุกคนจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ต่างถอนใจออกมา
โชคดีที่พวกเขามาทันเวลาพอดี!
แต่เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่ซีดเซียวนั้น พวกเขาก็ต้องตกใจ
การปรากฏตัวของสองคนนี้น่าจะเรียกเสียงเชียร์จากผู้ชมได้ แต่ตอนนี้กลับมีแต่ความเงียบ
เกิดอะไรขึ้นกับฟางชิว?
สีหน้าเขาดูไม่ดีเลยนะ?
เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?
ฟางชิวอาหารเป็นพิษจริง ๆ ด้วย!
นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่อยู่บนเวทีต่างพึมพำกับตัวเอง
หลังจากเห็นสภาพของชายหนุ่มแล้ว บางคนก็รู้สึกสงสาร แต่บางคนกลับมีความสุข
เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยมองไปที่ฟางชิวพร้อมกับกัดริมฝีปากล่างเบา ๆ ใบหน้าเผยความกังวลออกมา
ฟางชิวสังเกตเห็นการจ้องมองของเจี่ยงเมิ่งเจี๋ยจึงเงยหน้าขึ้นแล้วคลี่ยิ้มบาง ก่อนจะส่งสัญญาณให้เธอเลิกกังวล
ในเวลานี้ พิธีกรสาวที่อยู่บนเวทีได้ประกาศผ่านไมโครโฟนว่า “อรุณสวัสดิ์ท่านผู้บริหารและนักศึกษาทุกคน”
ตอนนี้เก้าโมงแล้ว
“การแข่งขันความรู้สำหรับนักศึกษาปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนทั้งเก้าแห่ง การแข่งขันประเภทเดี่ยว… ขอเริ่ม ณ บัดนี้!”
“…กฎของรอบนี้คือต้องเขียนคำตอบลงกระดาน”
“รอบนี้คือ 81 ต่อ 40 และอัตราการคัดออกสูงกว่า 50% หากตอบคำถามผิด คุณจะถูกคัดออกทันที”
เมื่อพิธีกรประกาศกฎเสร็จก็สร้างความประหลาดใจให้กับฝูงชน เพราะนี่เป็นเพียงรอบแรกเท่านั้น แต่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันเกินครึ่งจะถูกคัดออก? และตราบใดที่มีผู้ตอบคำถามผิดหนึ่งข้อก็จะถูกคัดออกทันที
กฎนี้เข้มงวดเกินไปแล้ว!
หลังจากประหลาดใจ ทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตารอทันที เพราะสิ่งนี้มันน่าตื่นเต้นมาก!
“ฉันจะไม่พูดอะไรแล้ว เพราะการแข่งขันจะเริ่มขึ้น ณ บัดนี้!”
ทางด้านของฟางชิวที่นั่งบนเก้าอี้ เขาใช้มือข้างหนึ่งถือกระดาษคำตอบ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งกุมท้องไว้
ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที หน้าผากของชายหนุ่มก็มีเหงื่อผุดพราย เพราะอาการปวดท้องเริ่มกำเริบ!
เพื่อที่จะตอบคำถาม เขาทำได้เพียงปล่อยมือขวาที่กุมท้อง ใช้มือซ้ายพลิกกระดานคำตอบแล้วใช้มือขวาเขียนคำตอบ
เมื่อเห็นการกระทำของฟางชิว เจียงเหมี่ยวอวี๋ก็พลอยเป็นทุกข์ไปด้วย
“คำถามแรก…” พิธีกรสาวก้มอ่านคำถาม
หลังเธออ่านคำถามจบ 81 คนบนเวทีก็เขียนคำตอบอย่างรวดเร็ว
ห้าวินาทีต่อมา
“หมดเวลา กรุณาแสดงกระดานคำตอบด้วยค่ะ”
หลังสิ้นเสียง ทุกคนก็ยกกระดานคำตอบขึ้นมา แต่มีเพียงฟางชิวเท่านั้นที่ยังคงนิ่งเฉย…