คุรุการแพทย์ – บทที่ 201 ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ!

บทที่ 201 ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ!

บทที่ 201 ก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ!

บนอินเทอร์เน็ต

หลังจากที่ชาวเน็ตด่าทอเป็นเวลานาน พวกเขาก็พบว่าฟางชิวไม่ได้โต้แย้งอะไรเลยแม้แต่น้อย และเมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ทุกคนก็เลยยิ่งโกรธมากกว่าเดิม

[พี่น้อง ตามฉันไปที่เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงกันเถอะ!]

[ได้ แต่อย่าลืมไปที่โพสต์บาร์*[1] ด้วย]

[ย้ายที่กัน!]

[ไปเร็ว ไประเบิดในเว็บบอร์ดกันเถอะ!]

ผ่านไปสักพัก

ชาวเน็ตที่บ้าคลั่งในเวยป๋อก็ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเริ่มค้นหาที่อยู่เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง และอีกส่วนหนึ่งคลิกเข้าไปในโพสต์บาร์ของมหาวิทยาลัยเพื่อทำการระเบิดอย่างบ้าคลั่ง

ไม่นานก็มีการเปิดเผยที่อยู่เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

ทันใดนั้น เว็บบอร์ดที่รองรับเฉพาะนักศึกษาของมหาวิทยาลัย ก็มีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้คนนับพันหลั่งไหลเข้ามาทีละคน

หลังจากนั้นไม่กี่นาที เว็บบอร์ดทั้งหมดก็เต็มไปด้วยข้อความ

[ฟางชิวอยู่ที่ไหน? ใครคือฟางชิว]

[ไอ้ฟางชิวไสหัวไปเดี๋ยวนี้!]

[มีคนที่ชื่อฟางชิวอยู่ในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงไหม? ถ้ามีก็โปรดฆ่าเขาซะ เผื่อว่าเขาเป็นตัวอัปยศนำความอับอายมาสู่วงการแพทย์แผนจีน]

[ผู้บริหารมหาวิทยาลัยของพวกคุณโง่เหมือนหมูหรือเปล่า? แค่คนโง่คนหนึ่ง พวกเขาก็ยังจัดการไม่ได้!]

[ไอ้**ฟางชิวอยู่ที่ไหน]

[ฆ่าฟางชิวซะ!]

[ฆ่ามัน! เอาให้มันพิการเลย!]

โพสต์ทั้งหมดมีประโยคเดียว โดยไม่มีเนื้อหาสำคัญอะไรเลย และชื่อโพสต์ล้วนแต่เป็นการสาปแช่งฟางชิวทั้งสิ้น

เดิมทีเว็บบอร์ดนั้นมีความกลมกลืนสามัคคีกัน แต่ด้วยการไหลบ่าเข้ามาของคนเหล่านี้ มันจึงกลายเป็นความโกลาหลในทันที

มีการโพสต์คำหยาบคายทุกประเภท หยาบคายแค่ไหนพวกเขาก็ยังด่า บางคนด่ามหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ

ในมหาวิทยาลัย

นักศึกษาที่กำลังดูเว็บบอร์ดต่างตกตะลึง เมื่อเห็นการระเบิดทางอินเทอร์เน็ตที่น่าสะพรึงกลัวนี้

[เกิดอะไรขึ้น?]

[คนเหล่านี้มาจากไหน?]

[พวกคุณมาทำอะไรในเว็บบอร์ดมหาวิทยาลัยของเรา]

[ฟางชิวทำอะไรให้พวกคุณไม่พอใจเหรอ?]

นักศึกษาตกใจมาก

สิบอันดับแรกของเว็บบอร์ดเต็มไปด้วยโพสต์ของชาวเน็ตที่บ้าคลั่ง และพวกเขาไม่ยอมหยุด นักศึกษาที่ต้องการหาสื่อการเรียนรู้กับกระทู้ก็ต้องใช้เวลาหาอยู่นานเลยทีเดียว

ภายใต้การตอบโต้ของคำถามนักศึกษา ในที่สุดชาวเน็ตก็ได้อธิบายเหตุผลออกมา

นักศึกษาพากันตกใจมากเมื่อรู้ความจริง เพราะไม่มีใครคาดคิดว่าฟางชิวจะกล้ายอมรับคำท้า

นักศึกษาทุกคนให้ความสนใจกับการท้าทายของชีพจรตั้งครรภ์ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นข้อมูลประจำตัวของบัญชีสำรอง แล้วพอเห็นคำตอบของคนนอก พวกเขาก็ตกตะลึง

[เป็นไปได้ยังไง?]

[ฟางชิวยอมรับคำท้าได้ยังไง]

[บัญชีสำรองลึกลับนั้นเป็นของฟางชิวจริงเหรอ?]

[บ้าไปแล้ว นี่มัน… เป็นการกระทำที่โง่มาก!]

[เฮ้อ ฟางชิวสร้างเรื่องใหญ่แล้วคราวนี้ เขาเพิ่งจะชนะการแข่งขันความรู้ของนักศึกษาใหม่ไป แต่ทำไมเขาถึงมีความมั่นใจที่จะยอมรับคำท้าของผู้อื่น]

[จบแล้ว เว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยจะไม่กลับมาเป็นปกติในสองสามวันนี้]

[ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งข้อง!]

นักศึกษาทุกคนเริ่มแสดงความคิดเห็นด้วยความโกรธ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักศึกษาเหล่านี้ก็มีความคิดเช่นเดียวกับชาวเน็ตที่สนับสนุนการแพทย์แผนจีนและผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนจีน พวกเขารู้สึกว่าฟางชิวหยิ่งจองหองเกินไปจริง ๆ

ฟางชิวกำลังจะทำร้ายการแพทย์แผนจีน

ที่สำคัญกว่านั้น เพราะฟางชิวเป็นต้นเหตุทำให้เว็บบอร์ดถูกก่อกวน และกระบวนการเรียนรู้ของพวกเขาก็ถูกขัดจังหวะ ดังนั้นจึงไม่พอใจฟางชิวมากขึ้นไปอีก

ในขณะเดียวกัน หลังจากเห็นสถานการณ์กะทันหันนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเว็บบอร์ดก็พยายามอย่างเร่งด่วนในการปิดเว็บ ทำให้ไม่มีใครสามารถเรียกดูเว็บบอร์ดได้อีก

ในที่สุดความวุ่นวายนี้ก็จบลงท่ามกลางสายตาของนักศึกษา อย่างไรก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายอย่างที่คิด

แม้ว่าเว็บบอร์ดจะถูกปิด แต่ชาวเน็ตที่หลั่งไหลเข้ามาก็ได้อ่านโพสต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับฟางชิวแล้ว และบางคนได้จับภาพหน้าจอ ดาวน์โหลดวิดีโอและบันทึกโพสต์ทั้งหมดที่เกี่ยวกับฟางชิว ก่อนจะเผยแพร่สิ่งเหล่านี้ทางออนไลน์ต่อไป

ในเว็บบอร์ดเงียบสงบลง

แต่เวยป๋อที่เพิ่งสงบลงไม่กี่นาทีก็ระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง

ผู้คนที่พบข้อมูลของฟางชิวในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยก็เริ่มโพสต์สิ่งนั้นลงบนเวยป๋อ และแท็กหาผู้คนจำนวนมากในเวลาเดียวกัน

วิดีโอทุกประเภทเริ่มแพร่กระจายทางออนไลน์ในทันที และวิดีโอแรกที่ได้รับการเปิดเผยก็คือ วิดีโอการร้องเพลงของฟางชิวในพิธีเปิดภาคเรียน

เมื่อเห็นแบบนั้นแล้ว ผู้คนนับไม่ถ้วนก็ยังคงด่าทอฟางชิวบนเวยป๋อ แต่ในขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากก็เริ่มเป็นกลางมากขึ้น

[ร้องเพลงบ้าอะไร? สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคนเราคือสมอง ฟางชิวช่วยมีสมองหน่อยได้ไหม]

[แกร้องเพลงได้? อย่าคิดว่าฉันจะมองข้ามการกระทำโง่ ๆ ของแก เพราะแกร้องเพลงได้นะเฟ้ย]

[ผู้ชายคนนี้มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงและเขาก็ดูหล่อมาก แต่ทำไมถึงไม่มีสมองกันนะ?]

[พูดตามตรง ฟางชิวเป็นนักร้องที่ดี แต่ยังเป็นคนที่สมองได้รับความเสียหายอยู่ดี!]

[ถ้าร้องเพลงเก่งขนาดนี้ แล้วทำไมถึงเลือกเรียนแพทย์แผนจีนล่ะ? ไปเรียนดนตรีสิ! อย่ามาทำร้ายการแพทย์แผนจีนของพวกเราเลย!]

…

วิดีโอที่สองคือวิดีโอตอบคำถามของฟางชิว ในรอบที่สองของการแข่งขันความรู้

ฟางชิวตอบคำถามทั้งหมด 27 ข้อและได้คะแนนทั้งหมด 27 คะแนน

เมื่อดูวิดีโอนี้ หลายคนก็เริ่มลังเล

[นอกจากจะร้องเพลงดีแล้ว เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์]

[หลังจากดูคำถามทั้งหมดแล้ว ฉันพบว่ายกเว้นคำถามสุดท้าย คำถามอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นคำถามพื้นฐาน สิ่งเดียวที่ควรค่าแก่การยกย่องก็คือความเร็วของฟางชิว]

[นี่คือการแข่งขันความรู้เหรอ? หรือว่าฉันจะมองผิดไป!]

[ฉันนึกว่าผู้ชนะในการแข่งขันความรู้จะยิ่งใหญ่มาก แต่กลับกลายเป็นคำถามของความรู้พื้นฐานเท่านั้น]

[ก็ยังโง่อยู่ดี!]

[มันไม่สำคัญว่าฟางชิวเพิ่งจะได้แชมป์มา แต่เขากล้าดียังไงถึงได้หยิ่งยโสขนาดนี้? สุดท้ายแล้ว เขาก็เป็นคนที่สมองได้รับความเสียหายไม่ใช่เหรอ?]

เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่วิดีโอนี้ปรากฏขึ้น จำนวนคนที่ด่าฟางชิวก็ลดลง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฟางชิวก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อย่างน้อยเขายังมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน และอาจถือได้ว่าเป็นสุดยอดของแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่เลยก็ว่าได้

วิดีโอทั้งสองนี้ช่วยให้บุคคลที่โพสต์มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นจำนวนมาก

เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว คนอื่น ๆ ที่รวบรวมข้อมูลจากเว็บบอร์ดต่างก็พากันโพสต์ในสิ่งที่พวกเขาเจอ

‘วิดีโอตอบคำถามรอบสุดท้ายของฟางชิว!’

บัญชีหนึ่งได้โพสต์วิดีโอรอบที่สามของการแข่งขันความรู้ ซึ่งดึงดูดผู้คนนับหมื่นเข้ามาดูอย่างรวดเร็ว

ภายในวิดีโอได้บันทึกการแข่งขันความรู้รอบที่สามทั้งหมดเอาไว้อย่างชัดเจน และบันทึกกระทั่งพิธีกรประกาศว่าฟางชิวได้เป็นแชมป์

ตอนที่ฟางชิวกำลังจะแพ้ ทุกคนก็แสดงความดูถูกเหยียดหยามออกมา แล้วความกลัวในใจของพวกเขาก็ขยายตัวขึ้นอีกครั้ง

ก่อนที่ฟางชิวจะคว้าชัยชนะจากความพ่ายแพ้และก้าวหน้าอย่างราบรื่น ผู้คนจำนวนมากก็แอบเหงื่อตกเพราะฟางชิว

ในรอบต่อมา ฟางชิวทำผลงานได้สมบูรณ์แบบมาก และนั่นก็ทำให้บางคนต้องเปลี่ยนมุมมองไปอีกครั้ง

หลังจากที่ดูวิดีโอแล้ว พวกเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี

[อันดับหนึ่งของการแข่งขันความรู้นี้ก็สมควรแล้วที่จะได้อันดับหนึ่ง และมันก็ไม่ใช่การแข่งขันที่ไร้สมอง]

[เด็กคนนี้ น่าสนใจดีนะ]

[แม้ว่าฟางชิวจะมีอาการอาหารเป็นพิษ แต่เขายังเข้าใจพื้นฐานของการแพทย์แผนจีนเป็นอย่างดี]

[โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายของการแข่งขัน ตอนที่ฟางชิวถูกผู้ชายคนนั้นท้าทาย ทักษะกระดูกของฟางชิวนั้นแข็งแกร่งจริง ๆ]

[ฉันไม่เคยเห็นใครที่สร้างพลังได้อย่างแม่นยำขนาดนี้มาก่อนเลย]

[ฟางชิวเก่งในเรื่องกระดูก แต่มันเกี่ยวอะไรกับการจับชีพจร? แล้วความรู้พื้นฐานของการแพทย์แผนจีนมันเกี่ยวข้องกับการเต้นของชีพจรยังไง? คนที่รู้วิธีการจัดกระดูกจะรู้วิธีการจับชีพจรหรือไม่]

[ในความคิดของฉัน ผู้ชายคนนี้หลงตัวเองมากเกินไปหลังจากที่เขาชนะการแข่งขันความรู้]

[ถ้าไม่ใช่เพราะการยอมรับคำท้าในครั้งนี้ ในอีกสิบปีข้างหน้า ฟางชิวอาจจะเป็นหมอที่มีชื่อเสียงก็ได้]

…

เมื่อวิดีโอหลายรายการถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ในที่สุดคนส่วนใหญ่ก็เปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับฟางชิวไป

เดิมทีทุกคนคิดว่าฟางชิวเป็นน้องใหม่ธรรมดา ๆ ที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการแพทย์แผนจีน

แต่หลังจากที่ดูวิดีโอเหล่านี้แล้ว พวกเขาสามารถบอกได้ว่าฟางชิวไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิด อย่างน้อยเขาก็เข้าใจพื้นฐานของการแพทย์แผนจีน

แม้ว่าการก่นด่าสารพัดจะลดลงไปมาก แต่ทุกคนก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับการท้าทายเรื่องชีพจรอยู่ดี พวกเขากลัวว่าฟางชิวจะนำความอับอายมาสู่วงการแพทย์แผนจีน

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ก็มีการเปิดเผยครั้งใหญ่ในอินเทอร์เน็ต

‘วีรบุรุษ? มีชายลึกลับปรากฏตัวในมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงที่ฟางชิวกำลังศึกษาอยู่!’

ทันใดนั้น วิดีโอนี้ก็กลายเป็นไวรัลบนเวยป๋อทันที

อาจเพราะต้องการเรียกความสนใจจากผู้คน คนโพสต์จึงจงใจใส่คำว่าฟางชิวลงไปด้วย

ทันทีที่พวกเขาเห็นคำว่า ‘ฟางชิว’ พวกเขาก็คลิกดูทันที และหลังจากดูแล้วก็ต้องตกตะลึง

ในตอนต้นของวิดีโอ ชายลึกลับกำลังต่อสู้กับเฉินชง แน่นอนว่าวิดีโอการต่อสู้นั้นมันยังสะดุดตาไม่พอ

แต่ในตอนท้ายของวิดีโอ หลังจากที่ชายลึกลับเอาชนะเฉินชง ด้วยทักษะการเคลื่อนไหวที่เขาใช้บินข้ามชายคาและวิ่งบนกำแพง มันก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในโลกออนไลน์ทันที เป็นเหตุให้เกิดความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง

[โอ้สวรรค์! เป็นเรื่องจริงเหรอ? มันเป็นวิดีโอตัดต่อหรือเปล่า?]

[ตรวจสอบแล้ว วิดีโอนี้เป็นของจริง]

[ชายลึกลับเป็นซูเปอร์แมนรึเปล่าวะเนี่ย]

[น่าทึ่งมาก! นี่จะใช่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในตำนานไหม?]

…

ในขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจ วิดีโอและข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับชายลึกลับก็ถูกเผยแพร่ทางออนไลน์อย่างรวดเร็ว

ชายลึกลับโดดตึกช่วยสาว!

ชายลึกลับดับไฟ!

ชายลึกลับให้บทเรียนกับพวกอันธพาล!

โพสต์เหล่านี้ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

บางส่วนโพสต์ด้วยวิดีโอสั้น ๆ แล้วส่วนที่เหลือก็โพสต์ด้วยรูปภาพและข้อความ

แล้วข้อความเกือบทั้งหมดนี้ ก็เป็นภาพที่บันทึกผ่านหน้าจอที่นำมาจากเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง อีกทั้งยังมีคนไปรวบรวมข้อความจากพยานด้วย

ผู้ใช้เวยป๋อตกตะลึงทันที

[นี่มันเรื่องจริงเหรอ?]

[มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อยู่ในโลกนี้จริงเหรอ?]

[ช่างเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลัง และน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!]

[ชายลึกลับเท่มากเลยอ่า เขาบินขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อช่วยผู้คนและสามารถต่อสู้กับพวกอันธพาลได้]

[ทั้งหมดนี้เป็นของปลอมใช่ไหม?]

[ในโลกนี้ แม้แต่วิดีโอก็ไม่สามารถถือว่าเป็นหลักฐานได้ นับประสาอะไรกับรูปภาพและข้อความ นี่มันเป็นของปลอมแน่นอน หากมีคนเก่งกาจเช่นนี้อยู่จริง ๆ ประเทศจีนคงครองโลกไปนานแล้ว]

[ถูกต้อง แม้ว่าบางคนจะฝึกศิลปะการต่อสู้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดนี้ จริงไหม?]

[อย่าคาดเดาเลย มันเป็นเรื่องโกหกอยู่แล้ว!]

[มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิงแห่งนี้แปลกมาก ทำไมมันถึงมีคนทุกประเภทเลย? คนแรกคือฟางชิวที่พิการทางสมองและตอนนี้ก็มีชายลึกลับโผล่ขึ้นมาอีก พวกคุณคิดว่านี่ยังเป็นปัญหาไม่พออีกเหรอ?!]

[มีผู้เชี่ยวชาญท่านใดพอจะช่วยวิเคราะห์ได้บ้างว่าวิดีโอนี้เป็นจริงหรือว่าของปลอม]

[วิดีโอและรูปภาพทั้งหมดเป็นการตัดต่อขึ้นมาใช่ไหม]

ท่ามกลางความคิดเห็นมากมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์บางคนก็เริ่มตรวจสอบความถูกต้องของวิดีโอ ปรากฏว่าวิดีโอและรูปภาพทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของจริงโดยไม่มีเอฟเฟกต์ใด ๆ !

[1]โพสต์บาร์ คือ แพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นโดย Baidu ช่วยให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้ โดยไม่ต้องเปิดเผยชื่อบนอินเทอร์เน็ต