บทที่ 205 ชายลึกลับทำให้แวดวงศิลปะการต่อสู้ตกตะลึง!
บทที่ 205 ชายลึกลับทำให้แวดวงศิลปะการต่อสู้ตกตะลึง!
บนโลกออนไลน์ โพสต์ของฟางชิวดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างล้นหลาม
[คนโง่ส่งเสียงอีกแล้ว!]
[แกมันก็งั้น ๆ แหละ : ตอนนี้ไม่เพียงแต่วงการแพทย์แผนจีนที่ไม่เอาแก แม้แต่มหาวิทยาลัยของแกยังไม่เอาแกเลย นี่ยังกล้าเสนอหน้าออกมาอีกเหรอ]
[ช่างโง่อะไรเช่นนี้! หยิ่งผยองจริง ๆ ! ฉันอดใจรอดูแกโดนตบหน้าไม่ไหวแล้ว]
[เขาทิ้งท้ายไว้แบบนี้ น่าสนใจดีนี่… ฉันจะรอดูแกโดนตบหน้า ฮึ่ย!!]
[ฮ่าฮ่า เดี๋ยวนี้นักศึกษาช่างกล้าหาญกันจริง ๆ ! วะฮ่าฮ่า… แต่ทำไมฉันถึงอยากหัวเราะให้ฟันหักนะ]
[ขอร้องละ อย่าอ้างวงการแพทย์แผนจีนเวลาที่แกจะไปท้าทายกับใคร เพราะแกไม่คู่ควร!]
[บ้าไปแล้ว! ทำไมยังไม่ยอมจบอีก ถ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม?]
[ฉันรอที่จะเห็นหน้าแกบวมเป่งแทบไม่ไหวจนพูดไม่ออกแล้ว]
[เหอะ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตอนนี้แกก็ดังแล้ว]
[ฉันชอบสนับสนุนคนโง่อย่างแก!]
[โปรโมทโฆษณาอยู่เหรอ?]
[อนิจจา ทำไมคนหนุ่มสาวทุกวันนี้ถึงชอบเป็นกระแสกันนะ? อยากเป็นคนดังในเน็ตเหรอ?]
[หมอจีนตัวน้อย ฉันยังคิดว่าเธอเป็นคนดี หลังจากท้าทายเสร็จแล้ว ถ้าอยากเรียนการแพทย์แผนตะวันตกก็มาหาฉันได้ทุกเมื่อ ฉันจะช่วยเธอสมัครสอบเอง!]
[อย่าทำอย่างนั้น! คนแบบนี้ไม่สมควรเรียนการแพทย์แผนตะวันตก จะเป็นอย่างไรถ้าเขานำความอับอายมาสู่การแพทย์แผนตะวันตกอีกในอนาคต]
ภายในไม่กี่นาที เวยป๋อของฟางชิวก็ดึงดูดความคิดเห็นนับหมื่น ในหมู่พวกเขามีทั้งคนดูถูกเหยียดหยาม เยาะเย้ย และเป็นกลาง
แต่ไม่มีใครสนับสนุนเลย แม้ว่าจะมีอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ถูกคนอื่นด่าทอ ทำให้ทุกคนหวาดกลัวที่จะสนับสนุนต่อ
ในช่วงเวลานี้ การสนับสนุนชายหนุ่มจะทำให้มีปัญหากับชาวเน็ตที่ไร้เหตุผลนับพันคน แล้วการสนับสนุนฟางชิวในที่สาธารณะเวลานี้ก็คือการมองหาความตาย
ทุกคนต่างคิดว่าเขาจะต้องพ่ายแพ้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีผู้ชมบางส่วนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็น การด่าทอก็ค่อย ๆ พัฒนาเป็นการเยาะเย้ย และเห็นฟางชิวเป็นเพียงตัวตลกคนหนึ่ง…
บางคนถึงขั้นเริ่มเขียนเรื่องตลกเกี่ยวกับฟางชิว
[มันไม่ผิดที่ทุกคนจะมีสมอง แต่จะน่าเสียดายถ้าทุกคนมีสมองเหมือนฟางชิว เพราะมันหมายความว่าคุณจะเป็นคนโง่]
[แกคิดว่าแกเป็นใคร? อ้อ ฉันเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง]
เรื่องตลกดังกล่าวมีมากมายนับไม่ถ้วน
ในขณะที่ผู้คนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นล้อเลียน ฟางชิวก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแซงหน้าหลี่เหวินป๋อ ซึ่งเป็นผู้ที่กระตุ้นให้เกิดการท้าทายนี้
…
“เด็กดี เธอเป็นเหมือนฉันเลย”
ทันทีที่กลับถึงบ้าน สวีเมี่ยวหลินก็ล็อกอินเข้าเวยป๋อ หลังจากที่ได้เห็นโพสต์ล่าสุดของฟางชิวแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
นี่คือสิ่งที่สวีเมี่ยวหลินต้องการ
“การแพทย์แผนจีนเป็นวิทยาศาสตร์ปลอมงั้นเหรอ?”
“เฮอะ!”
สวีเมี่ยวหลินหรี่ตาลง สายตาของเขาเปล่งประกายความเย็นยะเยือก
ถ้าเกิดลูกศิษย์ของเขาไม่ลงมือ เขาจะไปตบหน้าไอ้พวกที่ต่อต้านการแพทย์แผนจีนอยู่ดี!
อีกด้านหนึ่ง
หลังจากที่ฟางชิวเก็บโทรศัพท์แล้ว เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าจะต้องมีสงครามอันดุเดือดอีกครั้งบนเวยป๋อ แต่เขาก็เพิกเฉยต่อไป
อย่างไรก็ตาม การนัดหมายถูกกำหนดแล้ว ตอนนี้เขาไม่ต้องสนใจอะไรแล้ว สิ่งเดียวที่ต้องโฟกัสก็คือความตั้งใจที่จะเรียนรู้การจับชีพจรตั้งครรภ์ให้ดีที่สุด
จากนั้นค่อยไปหาวิธีเอาชนะ! แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ที่สิ้นหวังก็ตาม!!!
ฟางชิวมาถึงหอพัก แต่เมื่อผลักประตูเข้าไปก็ต้องตกใจ เพราะเมื่อมองไปรอบ ๆ พบว่าภายในหอพักสะอาดสะอ้านเป็นพิเศษ
มันไม่ได้สะอาดแบบทั่ว ๆ ไป แต่สะอาดอย่างน่าประหลาดใจ เพราะฟางชิวพบว่าคอมพิวเตอร์ในหอพักหายไปหมดเลย แม้แต่สายอินเทอร์เน็ตก็ยังถูกถอดปลั๊กออก ฟางชิวเคยชินกับหอพักที่ดูแออัด แต่ตอนนี้มันโล่งมากเกินไป
ชายหนุ่มรู้สึกเหมือนยังไม่ตื่นจากฝัน เขาจึงถามรูมเมตทั้งสามคนด้วยความประหลาดใจว่า
“เกิดอะไรขึ้น?”
“คอมพิวเตอร์อยู่ที่ไหน”
“มีขโมยเหรอ?”
“ในหอพักของเราไม่มีขโมยนะ”
“เจ้าห้า” จูเปิ่นเจิ้งมองไปที่ฟางชิวอย่างจริงจัง “พวกเราทุกคนรู้เรื่องการท้าทายของนายกับหลี่เหวินป๋อแล้ว เลยตัดสินใจที่จะสร้างพื้นที่ว่างให้นาย แม้คนอื่นจะไม่เชื่อในตัวนาย แต่พวกเราเชื่อ พวกเราจะไม่ยอมปล่อยให้ใครมารบกวนนายก่อนสงครามจะเริ่มแน่นอน”
“ถูกต้อง” ซุนฮ่าวพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้าไม่ใช่เพราะไม่มีเงิน พวกเราทั้งสามคงไปนอนที่โรงแรมกันหมดแล้ว” โจวเสี่ยวเทียนก็เห็นด้วยเช่นกัน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฟางชิวก็เข้าใจและรู้สึกประทับใจ
“พวกนายทุกคนเป็นเพื่อนที่แสนดีจริง ๆ !”
“อันที่จริง พวกนายไม่ต้องลำบากขนาดนี้ก็ได้” ฟางชิวถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ถ้าพวกนายสามคนไม่มีเงินพอที่จะไปอยู่โรงแรม แต่พวกนายก็สามารถให้เงินฉันไปอยู่โรงแรมได้นี่นา เพราะแบบนั้น แม้แต่พวกนายก็รบกวนฉันไม่ได้”
รูมเมตทั้งสามพูดไม่ออก พวกเขายอมขนาดนี้แล้ว แต่ฟางชิวกลับได้คืบจะเอาศอก?
“เอาละ” ซุนฮ่าววางมือลงบนไหล่ชายหนุ่ม “ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็ส่งของขวัญให้นายแล้ว แม้ของขวัญจะไม่มีค่า แต่มิตรภาพมีค่ามาก พวกเราไม่หวังให้นายตอบแทน แต่จงจำไว้ว่านายก็เป็นสมาชิกของหอพัก 501 คนหนึ่ง และต่อให้วงการแพทย์แผนจีนหรือมหาวิทยาลัยจะไม่ยอมรับ แต่พวกเรายอมรับนาย! ในเมื่อเลือกที่จะต่อสู้แล้ว นายก็ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาหน้าของหอพัก 501 ไว้”
“อย่าลืมว่านายอายุน้อยที่สุดในหอพัก 501 ดังนั้นพวกเราจะสนับสนุนนายตลอดไป” โจวเสี่ยวเทียนพูดอย่างจริงจังซึ่งหาได้ยากมาก
“สู้ ๆ นะ” จูเปิ่นเจิ้งกล่าวสั้น ๆ ด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ต้องห่วง ต่อให้ต้องตาย ฉันก็จะลากพวกนายไปด้วยแน่นอน” ฟางชิวตอบอย่างยิ้มแย้ม แม้จะตื้นตันใจมากแค่ไหน แต่เขาไม่แม้แต่จะแสดงออกมา
หลังจากคุยจบ ชายหนุ่มก็เดินมาที่โต๊ะเพื่อศึกษาชีพจรทุกประเภทอย่างละเอียดทันที แล้วทบทวนมันไปเรื่อย ๆ
…
ในหมู่บ้านแถบชานเมืองของจีน
ชายวัยสามสิบปีคนหนึ่งไม่สวมเสื้อ กำลังถือถังน้ำสองใบด้วยมือเปล่า ขณะเดินเข้าไปที่ประตูบ้านอิฐหลังหนึ่ง
ชายร่างใหญ่คนนี้มีกล้ามเนื้อบึกบึน และที่ฝ่ามือยังมีหนังด้าน ๆ อยู่ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์!!
หลังเข้ามาในห้องแล้ว เขาก็โยนฟืนลงไปบนกองฟืน และเช็ดเหงื่อออกจากร่างกาย ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะคอมพิวเตอร์
“ไม่มีอะไรใหม่ ๆ เลยเหรอ?”
หลังจากเปิดดูเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์แล้ว เขาก็ทำหน้ามุ่ยด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นก็ลงชื่อเข้าใช้เวยป๋อ
เมื่อมองไปที่รายการค้นหายอดนิยม เขาก็ตกใจทันที
“โอ้?” ชายร่างใหญ่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นและพึมพำออกมา “ชายลึกลับ?”
ทันใดนั้นดูเหมือนว่าเขาจะนึกอะไรบางอย่างออกเลยคลิกไปที่หัวข้อการค้นหายอดฮิต หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
“น่าทึ่งมาก! ผู้ชายคนนี้ก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยหรือ?” เขารู้สึกประหลาดใจ
เขาไม่ทันได้คิดไตร่ตรองอะไรมากมาย รีบแชร์วิดีโอของชายลึกลับที่อยู่บนเวยป๋อไปยังเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์อย่างรวดเร็ว
ด้วยการกระทำนี้ เว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์ที่เคยเงียบสงบก็เริ่มมีสีสันขึ้นมา
และเมื่อมีคนเห็นวิดีโอนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับที่คนเหล่านั้นบอกต่อแบบปากต่อปาก ในเว็บบอร์ดเลยร้อนระอุมากขึ้น
[เป็นไปได้ยังไงกัน?]
[สุดยอดมาก! เขาก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยเหรอ?]
[ยังมีปรมาจารย์ระดับนี้อยู่อีกหรือ?]
[ช่างเป็นความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวมาก! นี่มันเป็นความฝันของใครหลายคนเลย]
[ต้องใช้พลังอะไรถึงจะทำแบบนั้นได้]
[ถ้าจำไม่ผิด ผู้ชายที่ท้าทายในสังเวียนครั้งก่อนน่าจะเป็นแค่ผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดา ๆ คนหนึ่ง แต่ชายลึกลับคนนี้มีความแข็งแกร่งมากกว่าเขาถึงร้อยเท่า]
[ชายลึกลับ?]
[ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้ เขาจะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับเจ็ดเป็นอย่างน้อยใช่ไหม?]
ในเวลาเพียงไม่กี่นาที วิดีโอแรกของชายลึกลับก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในเว็บบอร์ด
ในขณะนั้น การถกเถียงร้อนระอุไปทั่ว
และในเวลาเดียวกัน หลังจากที่โพสต์วิดีโอแรกไปแล้ว ชายร่างใหญ่ก็ยังคงค้นหาวิดีโอของชายลึกลับบนเวยป๋อต่อไป
ไม่นาน เขาก็พบวิดีโออีกอันหนึ่งของชายลึกลับที่กำลังบินขึ้นไปที่ชั้นเจ็ดเพื่อช่วยชีวิตผู้คนในกองเพลิง
เมื่อเห็นเช่นนั้น ชายร่างใหญ่ก็ตะลึงงัน แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ แต่ไม่เคยเห็นใครที่กระโดดจากพื้นขึ้นไปชั้นหกได้โดยตรงอย่างนี้
แม้ว่าพื้นจะสูงสามเมตรแล้วก็ตาม แต่มันยังมีความสูงถึงสิบแปดเมตรอยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากวิดีโอแล้ว ความสูงของแต่ละชั้นก็ไม่ใช่แค่สามเมตร แต่สูงถึงสี่เมตรด้วย!
ชายลึกลับเหมือนจะหยิบยืมพลังกลางอากาศ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้
ชายร่างใหญ่รู้สึกอึ้ง จากนั้นก็รีบโพสต์วิดีโอนี้ไปในเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์ทันทีโดยไม่ลังเล
ด้วยความนิยมของวิดีโอแรก เมื่อวิดีโอที่สองปรากฏขึ้น มันก็ดึงดูดผู้คนนับไม่ถ้วนเข้ามาดูทันที
[แม่งเอ๊ย นี่เป็นของปลอมรึเปล่าเนี่ย?]
[ถ้ามีคนแบบนี้อยู่จริง ๆ มันก็น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!]
[เขาแข็งแกร่งจนน่ากลัว!]
[ดูจากรูปร่างและการเคลื่อนไหวแล้ว ชายลึกลับคนนี้ต้องอายุยังน้อยอยู่แน่ ๆ]
[แต่จะมีปรมาจารย์รุ่นเยาว์ที่ทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร]
[ที่มาของวิดีโอเหล่านี้มาจากไหน]
[วิดีโอนี้เคยปรากฏในเวยป๋อแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะถูกโพสต์ที่นี่ด้วย]
[ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาคงอยู่ระดับสูงสุดอย่างแน่นอน!]
[เฮ้ ปรมาจารย์คนนั้นน่ะ คุณกล้าเปิดเผยตัวตนของคุณไหม?]
[ความเห็นด้านบนโง่หรือเปล่า? ถ้าเต็มใจเปิดเผยตัวตนจริง ๆ แล้วทำไมถึงต้องปิดบังหน้าตาตัวเองจนมิดชิดขนาดนั้นด้วยล่ะ?]
…
วิดีโอทั้งสองนี้ทำให้เกิดการสนทนาอันร้อนแรงอย่างไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์
ในเวลาเดียวกัน ผู้คนจากจังหวัดอื่นและเขตต่าง ๆ ในเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์ก็เริ่มแชร์วิดีโอของชายลึกลับไปในเว็บบอร์ดของเขตตนเอง
ที่เมืองเจียงจิงก็ไม่ต่างกัน
[ชายลึกลับเป็นคนเมืองเจียงจิงอย่างพวกเราไหม]
[มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงยอดเยี่ยมมากเลยเหรอ?]
[เมืองเจียงจิงของพวกเรามีชายที่ทรงพลังเช่นนี้จริง ๆ เหรอ?]
[เขาแข็งแกร่งมาก!]
[ฉันไม่คาดคิดว่าปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระดับนี้จะซ่อนตัวอยู่ในมหาวิทยาลัย]
[เนื่องจากชายลึกลับอยู่ในเมืองเจียงจิง มันจึงง่ายต่อการค้นหาเขา ถ้าฉันมีเวลา ฉันก็จะไปที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงเพื่อต่อสู้กับเขาอย่างแน่นอน]
[แค่คุณคนเดียวเหรอ?]
[ฮ่าฮ่า คุณไม่จำเป็นต้องไปแล้ว เพราะฉันเตรียมตัวจะไปมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงแล้วเหมือนกัน และต้องตามหาชายลึกลับคนนี้ให้เจอ แม้ว่าจะเอาชนะเขาไม่ได้ แต่ฉันน่าจะขอคำแนะนำมาได้บ้างละ]
[จัดกลุ่มไปที่มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงกันเถอะ!]
[ถ้างั้นฉันขอลงชื่อไปคนแรกนะ!]
[เลิกเพ้อฝันสักทีน่า คิดว่าจะหาตัวปรมาจารย์เช่นนี้ได้ง่าย ๆ เหรอ? เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน แม้ว่าจะหาเขาเจอ แล้วเขาจะกล้าเปิดเผยตัวตนให้พวกคุณรู้เหรอ?]
[ด้วยความแข็งแกร่งของชายลึกลับคนนี้ ไม่มีใครในเมืองเจียงจิงเอาชนะเขาได้!]
[ฉันได้ยินมาว่าปรมาจารย์ทุกคนเกลียดการที่โดนคนอื่นตรวจสอบ คนที่ตั้งใจจะไปมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิงก็ระวังตัวกันด้วยนะ]
…
ในคฤหาสน์ชานเมือง
“ชายลึกลับอยู่ในเมืองเจียงจิงของพวกเรางั้นเหรอ?”
สิ่งที่เกิดขึ้นในเว็บบอร์ดของผู้ฝึกยุทธ์ได้เผยแพร่ไปถึงผู้อาวุโสอี้อย่างรวดเร็ว
ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์แห่งเมืองเจียงจิง ผู้อาวุโสอี้ก็สั่งให้ลูกน้องค้นหาวิดีโอทั้งหมดของชายลึกลับทันที
หลังจากที่ผู้อาวุโสอี้ดูวิดีโออย่างตั้งใจ เขาก็ตกตะลึงเหมือนกับคนอื่น ๆ
“ชายลึกลับคนนี้จะใช่ชายนิรนามคนนั้นหรือไม่”