คุรุการแพทย์ – บทที่ 212 สวมหน้ากากลึกลับ

คุรุการแพทย์

บทที่ 212 สวมหน้ากากลึกลับ?

บทที่ 212 สวมหน้ากากลึกลับ?

“โอ้ สหายฟางชิวคนนี้ตอบเร็วจริง ๆ”

“ผมจะอ่านให้ทุกคนฟัง”

“ฟางชิวบอกว่า หลังจากได้ยินคำพูดเพ้อเจ้อจากปากของนาย ฉันรอแทบไม่ไหวแล้วที่จะชกให้หน้าหงาย!”

เมื่อหลี่เหวินป๋ออ่านจบ การถ่ายทอดสดพลันเต็มไปด้วยความคิดเห็นมากมายที่บดบังเต็มหน้าจอวิดีโอถ่ายทอดสด

“สหายฟางชิวคนนี้ช่างน่าสนใจจริง ๆ !”

เมื่อเห็นความคิดเห็นหลั่งไหลเข้ามา หลี่เหวินป๋อก็ยกยิ้มเฉยชา “ในเมื่อฟางชิวตอบกลับแล้ว งั้นเรามารอเขากันต่อ”

“ต้องบอกเลยว่าวันนี้ผมล้างหน้าให้สะอาดก่อนที่จะมาที่นี่ด้วยซ้ำ ฮ่าฮ่า …อยากจะดูว่าสหายฟางชิวคนนี้เขาจะตบหน้าผมได้อย่างไร!”

ในขณะเดียวกันเมื่อเหลือบตามองไปตรงมุมด้านบนของหน้าจอก็ปรากฏจำนวนผู้ชมถึงห้าแสนคนแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง

เจียงเหมี่ยวอวี๋และหยวนเป้ยรวมถึงเพื่อนอีกสามคนรวมตัวกันรอบโต๊ะเพื่อดูการถ่ายทอดสด พลางกลั้นหายใจรอการปรากฏตัวของฟางชิวไปด้วย

‘ฟางชิว นายต้องสู้นะ!’

ในขณะที่กำลังรอคอย เจียงเหมี่ยวอวี๋แอบให้กำลังใจชายหนุ่มอยู่ในใจ

เนื่องจากเหตุการณ์นี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะต้องกังวล สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือเชื่อใจและสนับสนุนฟางชิว!

ไม่ใช่แค่เจียงเหมี่ยวอวี๋

แต่จูเปิ่นเจิ้งพร้อมกับรูมเมตทั้งสามคน เฉินอิงเซิง ฉีไคเหวิน เสิ่นชุน สวีเมี่ยวหลิน เจี่ยงเมิ่งเจี๋ย และนักศึกษาทั้งหมดจากมหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนเจียงจิง รวมไปถึงอีกแปดมหาวิทยาลัยต่างก็อยู่หน้าคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ

แม้ว่าทุกคนจะรู้ผลแล้วก็ตาม… แต่เมื่อเรื่องมาถึงจุดนี้แล้วจึงเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงความโศกเศร้าและความหวังอันริบหรี่

“ไล่ออก! ต้องไล่ออก!”

ในห้องทำงาน เฉินอินเซิงกัดฟันด้วยความโกรธ ใบหน้าบูดบึ้งขณะที่จ้องมองไปยังหน้าจอ “ตอนที่เธอแพ้ เมื่อนั้นแหละฉันจะไล่ออกจากมหาวิทยาลัย ทุกคนพูดว่ามหาวิทยาลัยของเราไร้ความรับผิดชอบไม่ใช่เหรอ? ฉันจะรับผิดชอบกับเรื่องในวันนี้ แม้ว่าจะเป็นแพะรับบาป แต่จะไม่ยอมให้ตัวป่วนมาคอยสร้างปัญหาอีก!”

“เจ้าฟางชิว สู้เขา”

ระหว่างทางไปบ้านของสวีเมี่ยวหลิน ใบหน้าของฉีไคเหวินที่กำลังเปิดโทรศัพท์ดูการถ่ายทอดสดไร้ซึ่งความโกรธใด ๆ แต่กลับแสดงอาการกังวลแทน

แม้ว่าจะเชื่อในตัวน้องชาย

แต่ถึงกระนั้นก็อดกังวลไม่ได้ เพราะฟางชิวเป็นเพียงนักศึกษาปีหนึ่ง เขาเพิ่งเรียนได้ไม่กี่วันด้วยซ้ำ!

หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี

“เจ้าเด็กน้อย ถ้าจัดกระดูกไม่ได้ก็ควรคลำชีพจร”

เสิ่นชุนที่กำลังดูการถ่ายทอดสดยกยิ้ม

คนอื่นไม่เข้าใจฟางชิว แต่เขาแตกต่างออกไป…

ฟางชิวเข้าทำงานที่โรงพยาบาลด้วยมือของเขา เขาเฝ้าดูการเติบโตของเด็กคนนี้มาตลอด ในช่วงเวลาสั้น ๆ ฟางชิวทำให้เขาประหลาดใจนับครั้งไม่ถ้วน

หวังว่าครั้งนี้เจ้าเด็กนี่จะทำให้ประหลาดใจอีกครั้ง!

“น้องเล็กทำไมยังไม่มาอีกล่ะ? ใกล้จะถึงเวลาแล้ว”

“ฉันดูเวยป๋อน้องเล็กแล้ว เขาแวะไปกินเป็ดปักกิ่งก่อน จากนั้นก็ไปที่เทียนอันเหมิน อ่า~ เรียกว่าไปเที่ยวนั่นแหละ ห่วงเขาไปก็เปล่าประโยชน์”

“น่าจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม?”

“น้องเล็กต้องชนะได้แน่”

“ถ้านายไม่ชนะ ฉันคงอายที่จะให้นายบินกลับมาพร้อมกับเป็ดปักกิ่งแย่”

ในหอพัก 501 ทั้งสามอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักขณะที่พูดคุยกัน

มหาวิทยาลัยการแพทย์แผนจีนจิงโจว

‘เธอพร้อมไหม?’

เมื่อดูวิดีโอถ่ายทอดสด เจี่ยงเมิ่งเจี๋ยก็มีรอยยิ้มผุดพรายตรงมุมปาก

เธอจำได้… ในมหาวิทยาลัยมัธยม ฟางชิวจะเอ่ยแบบนี้ก่อนการสอบทุกครั้ง หลังจากพูดเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะเรียนรู้ไปด้วยกัน เอาชนะความยากลำบากด้วยกันราวกับสหายที่พร้อมจะบุกน้ำลุยไฟด้วยกัน

ไม่ว่าจะเจออะไร พวกเขาต่างเชื่อมั่นในกันและกัน

เชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าโลกจะไม่เชื่อในตัวคุณ!

เวลาผ่านไปเล็กน้อย

ขณะนี้เวลาบ่ายโมงห้าสิบแปด

หลี่เหวินป๋อซึ่งอยู่หน้ากล้องนิ่งเงียบ พร้อมจ้องมองไปยังประตูห้องประชุมตลอดเวลา

ในห้องถ่ายทอดสด ผู้ชมเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจ

[ไม่กล้ามาเหรอ?]

[เหลืออีกแค่นาทีเดียวเท่านั้น ฉันคิดว่าฟางชิวคงกลัวจนฉี่ราด]

[ไม่ใช่ว่าเพิ่งตอบเวยป๋อหรอกเหรอ ทำไมถึงไม่กล้าแม้แต่จะโผล่หน้ามาล่ะตอนนี้?]

[จบละ จบละ เลิกรอเถอะทุกคน]

[ไม่ตรงปกนี่]

[ให้ตายเถอะ รอมาครึ่งวันแล้วก็ยังไม่มาอีก?]

อารมณ์ของผู้ชมปะทุรุนแรง

แน่นอนว่ามันรุนแรงไม่น้อยทีเดียว

ในห้องประชุม ไม่รู้ว่าหลี่เหวินป๋อกำลังคิดอะไรอยู่ แต่รอยยิ้มเย็น ๆ มักจะปรากฏที่มุมปากของเขา

ในความคิดหลี่เหวินป๋อ ไม่ว่าฟางชิวจะปรากฏตัวหรือไม่ ผู้ชนะก็ยังคงเป็นเขา ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือหากฟางชิวปรากฏตัว เขาสามารถยืมมือฟางชิวดูหมิ่นแพทย์แผนจีนและท้าทายปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนที่มีอำนาจมากขึ้น

แต่หากฟางชิวไม่ปรากฏตัว เขาก็ทำเพียงบ่นสบถไปโดยไม่ต้องสนอะไรมากนัก อย่างไรเสียผู้ชมที่รอดูการถ่ายทอดสดย่อมสนับสนุนเขา

ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดล้วนแล้วแต่เป็นผลดี!

สิบวินาทีสุดท้าย

หัวใจของทุกคนเต้นแรง

“พลัก!”

จู่ ๆ ก็มีเสียงผลักประตูเข้ามา

สิ่งที่ได้เห็นในกล้องถ่ายทอดสดคือชายสวมหน้ากากปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องประชุม

ผู้ชมที่กำลังดูการถ่ายทอดสดพลันตกตะลึง ไร้ซึ่งปฏิกิริยาอื่นใด

แต่ด้านนี้ นักศึกษาแพทย์แผนจีนเจียงจิงต่างตื่นตระหนก

[นั่นไม่ใช่หน้ากากของชายลึกลับหรอกเหรอ?]

[ฟางชิว เจ้าบ้านี้ สวมหน้ากากแบบเดียวกับชายลึกลับในสงครามนี้ได้ยังไง?]

[ฉันไม่ชอบเลย นายจะแข่งก็แข่ง แต่อย่ามาทำให้ชายลึกลับเสียชื่อเสียง!]

[ฟางชิวกำลังดูหมิ่นชายลึกลับที่น่าเคารพและน่ารักของเรา!]

เห็นได้ชัดว่า …ไม่มีใครคิดด้วยซ้ำว่าฟางชิวคือชายลึกลับ ในทางกลับกัน เขากลับถูกตำหนิเพราะสวมหน้ากากแบบเดียวกับชายลึกลับ

“ขอโทษที่มาช้า เผอิญรถติดน่ะ”

หลังจากสังเกตห้องประชุมอยู่ครู่หนึ่ง ฟางชิวก็สาวเท้าก้าวเข้ามาด้านในเดินตรงไปหาหลี่เหวินป๋อ สายตาเหลือบมองไปยังจอถ่ายทอดสด “นายคือหลี่เหวินป๋อใช่ไหม งั้นนี่คือสิ่งที่กำลังถ่ายทอดสดเหรอ?”

“มีคนดูกี่คน?”

ในขณะที่พูด ฟางชิวก็เมินเฉยต่อหลี่เหวินป๋อโดยสิ้นเชิง แต่กลับสนใจไปที่การถ่ายทอดสดมากกว่า

“หื้อ เก้าแสนคนเชียวนะ!” เมื่อเห็นจำนวนคนในห้องถ่ายทอดสดออนไลน์ ชายหนุ่มก็อุทานออกมา ก่อนเอ่ยอย่างจนปัญญา “ฉันไม่คิดว่าจะมีคนว่างงานขนาดนี้นะเนี่ย”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผู้ชมในห้องถ่ายทอดสดทั้งหมดต่างตะลึงงัน

ใครจะไปคาดคิดว่าฟางชิวจะเป็นคนชอบหยอกล้อ

แน่นอนว่าคนที่รู้จักฟางชิวรู้ว่าผู้ชายคนนี้เย็นชา แต่ไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน

ทุกคนประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง โดยเฉพาะพวกจูเปิ่นเจิ้ง

“นี่ใช่น้องเล็กแน่เหรอ?”

โจวเสี่ยวเทียนมองไปยังฟางชิวในวิดีโอถ่ายทอดสดและเอ่ยคำ “ฉันว่าเขากำลังถูกปีศาจสิงแน่ ๆ เลย ใช่ไหม?”

“ฉันอยากให้ฮัวโต๋*[1] เข้าสิงเขามากกว่า” ซุนฮ่าวเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

ห้องถ่ายทอดสด

“สวัสดีครับทุกคน ผมฟางชิว ต้องขออภัยที่ทำให้พวกคุณต้องรอเสียนาน”

ชายหนุ่มรีบไปที่กล้องพร้อมเอ่ยทักทายทุกคน

ได้ยินดังนั้น หลี่เหวินป๋อพลันมีปฏิกิริยาตอบสนอง

เขารีบเดินออกไปพร้อมกับคอมพิวเตอร์ในอ้อมแขน โดยเว้นระยะห่างระหว่างกันไว้พอสมควร ก่อนจะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า “นายคือฟางชิวงั้นเหรอ? สามหน้ากากมาด้วย? กลัวว่าแพ้แล้วจะเสียหน้า ไม่กล้าพบใครเหรอ?”

เมื่อเอ่ยจบก็หัวเราะด้วยความดูถูก

“แน่นอนว่าไม่ใช่” ฟางชิวส่ายหัวทันที

ในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ของแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดก็ถือโทรศัพท์มือถือพร้อมเดินไปหาฟางชิว …เห็นได้ชัดว่านี่คือกล้องถ่ายทอดสดหลัก

“อันที่จริง เป็นเพราะว่าฉันหน้าตาดีไม่น้อย เลยกลัวว่าถ้ายืนคู่กับนายแล้วนายจะดูแย่เกินไป”

ฟางชิวหัวเราะเบา ๆ ผ่านกล้องหลัก

เมื่อเอ่ยประโยคนั้นออกมา ส่งผลให้ความคิดเห็นบนวิดีโอการถ่ายทอดสดเต็มไปด้วย ‘666’*[2] อย่างบ้าคลั่ง

มันแน่นขนัดจนมองจอไม่เห็นเลย!!

[หน็อย ช่างกล้าพูด!]

[ฉันค้นพบว่าฟางชิวไม่ได้เป็นคนแปลกแต่เป็นคนตลก]

[ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้แพทย์แผนจีนอย่างไร้ประโยชน์ ฉันคงเป็นแฟนคลับเขาแล้วจริง ๆ]

[พูดได้ดี บรรยากาศแบบนี้ค่อนข้างจะดุเดือด ดูเหมือนสงครามไม่น้อย]

[ฮ่าฮ่า เจ๋งดีนี่… นั่นเป็นคำพูดที่ตลกมาก!]

[ก็แค่กลัวที่จะถอดหน้ากาก ทำตัวเองขายหน้าเหมือนคนโง่!]

อีกด้าน

ท่ามกลางความคิดเห็นร้อนระอุ

หลี่เหวินป๋อที่เผชิญกับการโจมตีของฟางชิวได้แต่คำรามในลำคอ ก่อนเอ่ย “อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะ หมดเวลาแล้ว ในเมื่อนายมาถึงแล้วก็มาเริ่มการแข่งขันกันเถอะ!”

“ดี!” ฟางชิวพยักหน้ารับ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำทางไปนั่งที่โต๊ะน้ำชาสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่หลายคนได้ปรับกล้องในห้องประชุมอีกครั้ง พนักงานที่ใช้โทรศัพท์มือถือคอยติดตามฟางชิวทำการตั้งกล้อง โดยเล็งกล้องไปยังชายหนุ่ม

ฟางชิวนั่งลง ส่วนหลี่เหวินป๋อก็นั่งลงที่อีกด้านของโต๊ะน้ำชาเช่นกัน

มีเก้าอี้สองตัวบนโต๊ะน้ำชาหันหน้าไปทางโทรศัพท์มือถือ

“ก่อนเริ่มการแข่งขัน ขอต้อนรับทนายความจากสำนักงานทนาย คุณหลิว”

หลี่เหวินป๋อเอ่ยปากขึ้นพร้อมปรบมือ

เมื่อกล่าวจบ หญิงวัยกลางคนในชุดทำงานก็เดินเข้ามาทันที

เมื่อทุกคนเห็นต่างพากันตกตะลึง

ใครจะคาดคิดว่าหลี่เหวินป๋อจะเชิญทนายความให้มารองรับเอกสาร!

[นี่คือการตบหน้าวงการแพทย์แผนจีนใช่ไหม]

[นั่นสิ การมีทนายความหมายความว่ายังไง เพื่อรับรองว่าแพทย์แผนจีนคือวิทยาศาสตร์เทียม?]

[ทนายคนนี้กล้ารับรองหรือ?]

ทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างเมามัน

ทนายความลุกขึ้นพร้อมเอ่ย “สวัสดีค่ะทุกคน ฉันพนักงานรับรองเอกสารหลิวอี้เฟินค่ะ”

“การกำกับดูแลทั้งหมดของการแข่งขันนี้ ขอรับรองว่าการแข่งขันนี้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ สามารถเริ่มการแข่งขันได้”

หลังกล่าวจบหญิงวัยกลางคนจึงนั่งลง

หลี่เหวินป๋อหยิบผลการตรวจทั้งยี่สิบคนออกมาทันทีพร้อมเอ่ยว่า “นี่คือรายงานการตรวจของโรงพยาบาล ซึ่งระบุอาสาสมัครทั้งยี่สิบคนอย่างชัดเจนว่าตั้งครรภ์หรือไม่ ส่วนนี่คือบัตรประจำตัวของพวกเขา”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ หลี่เหวินป๋อก็ยื่นบัตรประชาชนให้หลิวอี้เฟิน

“อาสาสมัครทั้งยี่สิบคนที่ได้รับการรับรองพร้อมข้อมูลระบุตัวตนที่ถูกต้อง”

หลิวอี้เฟินพยักหน้ารับคำรับรอง

“อืม การรับรองนั้นค่อนข้างละเอียดรอบคอบ”

ฟางชิวกล่าวด้วยรอยยิ้มพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย

“มันจำเป็น”

หลี่เหวินป๋อเอ่ยตอบ “การแข่งขันของเรา เป็นจริงและถูกต้อง ผลสุดท้ายจะต้องได้รับการรับรองด้วย!”

หลี่เหวินป๋อกล่าวเสริมว่า “ต่อไป ฉันจะประกาศกฎของการแข่งขัน”

“มีผู้หญิงทั้งหมดยี่สิบคนที่อาสาเข้าร่วมในเรื่องนี้ ตามกฎการมีส่วนร่วมที่ฉันเสนอไว้ หากการทดสอบชีพจรการตั้งครรภ์มีความแม่นยำถึงแปดในสิบส่วน นายจะประสบความสำเร็จในการท้าทายพร้อมกับได้รับรางวัลหนึ่งล้านหยวน”

เมื่อเอ่ยถึงจุดนี้ หลี่เหวินป๋อก็ลุกขึ้นอย่างไม่ลังเล ก่อนเดินตรงไปหยิบกล่องแล้วเปิดมัน

ในนั้นเต็มไปด้วยธนบัตรรวมทั้งสิ้นหนึ่งล้านหยวน!

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้ชมการถ่ายทอดสดต่างพากันอุทานด้วยความตกใจ

[บ้าไปแล้ว ล้านหยวน!]

[เงินเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?]

[ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเอาทองคำมาด้วย อวดรวยจริง ๆ]

[6666666]

[เจ้าขี้อวด …เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะ]

[1] หมอเทวดา

[2] เป็นความคิดเห็นที่หมายความว่า สุดยอดมาก เยี่ยมมาก

คุรุการแพทย์

คุรุการแพทย์

Status: Ongoing
เขาตั้งใจจะมาศึกษาวิชาแพทย์แผนจีนเพื่อรักษาผู้มีพระคุณแท้ ๆ แต่ไหงชีวิตถึงได้มีเรื่องวุ่นวายเข้ามาตลอด แบบนี้ความคิดที่จะเรียนแบบเงียบ ๆ ไม่แสดงฝีมือจะเป็นจริงไหมเนี่ย?ฟางชิว ชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหมาด ๆ นักศึกษาน้องใหม่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนเจียงจิง แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเจ้าห้าแห่งห้องพักห้าศูนย์หนึ่ง แต่แท้จริงแล้วฟางชิวนั้นซุกซ่อนอีกตัวตนหนึ่งเอาไว้ภายใต้หน้ากาก… เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์มากฝีมือ! แต่เพื่อชีวิตปกติสุขในมหาวิทยาลัย และเป้าหมายสำคัญของชีวิตอย่างการรักษาผู้มีพระคุณ! ฟางชิวคนนี้จึงพยายามไม่เป็นที่สนใจ แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว ต้องใช้พลังช่วยเหลือผู้คนทุกทีไปซิน่า! แล้วไหนจะเทพธิดามหาลัยที่เข้ามาเกี่ยวพันในชีวิตอีก! แบบนี้ชีวิตปกติสุขที่เขาคาดหวังเอาไว้จะพังทลายลงหรือไม่ ฟางชิวจะจัดการเรื่องวุ่นวายและใช้พลังช่วยชีวิตผู้คนในคราบนักศึกษาไร้วรยุทธ์ได้อย่างไร มาร่วมปลดล็อคสกิลพระเอกเทพไปด้วยกันกับคุรุการแพทย์!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท